ตอนที่แล้วตอนที่ 1 เริ่มระบบนิ้วทองในปีที่ 19 (รีไรท์)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 ได้รับลิขสิทธิ์และทดลองเล่นเกม (รีไรท์)

ตอนที่ 2 ลงทะเบียนลิขสิทธิ์เกม (รีไรท์)


วันจันทร์ถัดมาเฉินม่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเพื่อทำความสะอาดร่างกาย ใส่เสื้อผ้าสะพายกระเป๋า หยิบแซนวิชและออกไปข้างนอก วันนี้เขายังมีเรียนอยู่

ตอนนี้เขาเป็นนักศึกษาปี 2 ในภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ยังไงก็ต้องเข้าเรียน ไม่เช่นนั้นคุณนายลีน่า เดวอนเชอร์ แม่บังเกิดเกล้ากายหยาบนี้ได้ฆ่าเขาแน่ เขาจำได้ว่าแม่ของเขาต้องทำงานถึงสองจ๊อบเพื่อเลี้ยงดูเขาในช่วงมัธยมต้นยันมหาลัยจนไม่มีแม้แต่เวลาไปหาแฟนให้ตัวเธอเอง

แม้ว่าตัวของเฉินม่อจะไม่ได้เป็นลูกชายของลีน่ามาก่อน แต่เขาก็สืบทอดความทรงจำและอารมณ์ความรู้สึกของวิลเลียม เดวอนเชอร์มาทั้งหมด ทั้งสองคนได้หลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ ความรู้สึกของเขาที่มีต่อแม่คนปัจจุบันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย อีกทั้งเขายังชื่นชมและขอบคุณลีน่าจากใจจริง

ตอนนี้เขาเป็นทั้งวิลเลียม เดวอนเชอร์และเฉินม่อ อีกทั้งเขาไม่อยากเห็นลีน่าเศร้า นอกจากนี้ที่เขามาอยู่ในมหาลัยก็เพื่อเสริมเพิ่มพูนความรู้ล้วนๆ ยิ่งตอนนี้มีเขามีวิทยาการและเทคโนโลยีมากมายในใจที่เขายังไม่เข้าใจ เขายังสามารถปรึกษาคณาจารย์ไม่ก็ไปที่ห้องสมุดเพื่อค้นหาวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่มหาลัยได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดไม่ตกว่าจะทำไงต่อ…

นี่เป็นปี 2000 แม้ว่าเขาจะรู้ว่าพวกบริษัทหรือเทคโนโลยีใดที่สามารถทำเงินได้จากชาติก่อน แต่เขาก็ไม่มีทั้งเงินทุนหรือเทคโนโลยีพอที่จะทำมัน แถมปัจจุบันเขาก็ยังเป็นคนยากจน เกิดจู่ๆ เขาก็สร้างเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมได้ก็ไม่ต้องสืบเลย ฝ่ายตรงข้ามจะหาวิธีคุกคามบดขยี้และดึงเอาเทคโนโลยีไปไว้ในมือของพวกนั้นอย่างแน่นอน แถมยังไม่รู้อีกว่ารัฐบาลจะจับเขาไปชำแหละเพื่อศึกษาสมองเขาหรือเปล่าด้วย

สำหรับเวทมนตร์ตอนนี้เขาคงไม่กล้าใช้มันต่อหน้าคนอื่นแน่ ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขายังไม่พอที่จะสามารถปกป้องตัวเองได้จริงๆ อำนาจของปืนยังคุกคามเขาได้สบาย นอกจากนี้เขายังอยากเป็นคนรวยที่มีเกียรติและเอ็นจอยกับชีวิต เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตติดอยู่กับรัฐบาลกลายเป็นพวกต่อต้านสังคม จะเป็นการดีกว่าที่จะเก็บโปรไฟล์แย่ที่มีโอกาสพัฒนาไปในทางที่เลวร้าย

เขาไม่ได้เรียนรู้เวทมนตร์เพื่อที่จะครองโลกทั้งใบ เขาไม่สามารถปกครองได้ เขายังต้องคิดถึงวิธีที่จะปรับปรุงคุณภาพชีวิตของตัวเองกับลีน่าแม่ของเขาด้วย

เดือนมกราคมทุกปีจะเป็นภาคการศึกษาที่ 2 ของมหาวิทยาลัยลอนดอน วิลเลียมเองก็รีบวิ่งไปที่ห้องเรียนภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์พร้อมกระเป๋าสะพาย ใช้เวลาไม่นานนักก็เห็นศาสตราจารย์รอย สตีเฟน ที่ห้อง ในมือถือถ้วยกาแฟ แขนของเขาก็มีหนังสือสองสามเล่มเดินเข้ามา

ช่วงปี 2000 ยังไม่มีการประมวลผลแบบคลาวด์ ในวิทยาการคอมพิวเตอร์ไม่มีที่ประมวลข้อมูลขนาดใหญ่ ปัญญาประดิษฐ์ยังอยู่ในช่วงวัยแบเบาะเท่านั้น ศาสตราจารย์รอย สตีเฟนส์ บรรยายไป กับเฉินม่อที่มีชีวิตอยู่มาจนถึงปี 2019 แล้ว ความรู้พวกนี้ทั้งหมดทั้งมวลนั้นมันยังเป็นแค่เรื่องพื้นๆ  ถึงในตอนนี้วิลเลียมจะอยู่เพียงปีสอง แต่วิลเลียมก็ยอมรับความทรงจำชาติก่อนของเขามาอย่างสมบูรณ์ แถมสมองของเขาตอนนี้ดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก

หลังจากเรียนคลาสนั้นจบ วิลเลียมก็ไม่มีปัญหาในการฟังเลย ด้วยความรู้จากระบบจักรวาลมาร์เวล พอศาสตราจารย์บรรยายจบ วิลเลียมก็ยังรู้สึกว่ายังไม่สุด

ตอนนี้วิลเลียมยังคิดไม่ออกว่าจะเปลี่ยนคุณภาพชีวิตในปัจจุบันได้อย่างไร มันไม่ควรยากเกินไปหรือก้าวหน้าเกินไป เกมน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อตัวตนเขา คงไม่มีใครจะอุ้มเขาไปเพราะแค่เกมๆ หนึ่ง

หลังจากเรียนมาทั้งวัน วิลเลียมก็มานั่งอยู่บนม้านั่งริมสนามหญ้าในมหาลัย ตลอดทั้งบ่ายก็นั่งจ้องมองไปที่พื้นหญ้าข้างหน้า ด้วยท่าทีเหม่อลอยพลางคิดไปว่าเขาต้องทำอะไรเพื่อหาเงิน

ขณะที่กำลังคิดวิลเลียมได้ยินเสียงผู้หญิงสองคนเดินผ่านมาข้างหลังเขา

คนหนึ่งบอกว่าหนังซอมบี้ที่ดูมาเมื่อวานนี้มันน่ากลัวมากจนเธอไม่กล้าที่จะกลับหอไปนอนคนเดียวในห้อง อีกคนก็บอกว่าเธอหลอนไปทั้งคืนจนไม่มีแรงไปเรียนแล้ว

วิลเลียมหันหน้าไปมองสองสาวงามผู้ร้อนแรง ทำเอาตาของเขาเป็นประกาย นี่ยังเดือนมกราคมพวกเธอก็ยังจะกล้าใส่กระโปรงสั้น ผู้หญิงอังกฤษนี่ช่างกล้าหาญแถมไม่กลัวความหนาวเย็นดีจริง แต่พวกเธอก็ดูดีจริงๆ นั่นแหละ ไม่แปลกที่พวกเธอสวมกระโปรงสั้น

เมื่อสาวงามเดินจากไป วิลเลียมก็หันศีรษะกลับมา พลางมองไปที่หญ้าแห้ง ทันใดนั้นก็บังเกิดบางสิ่งผุดเข้ามาในใจ แม่มเอ๊ย ฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย? ลองทบทวนดูอีกครั้ง มองไปที่หญ้าเบื้องหน้า ต้นไม้ใหญ่จากระยะไกล ซอมบี้เพิ่งได้ยินกับหู

จู่ๆ เฉินม่อเหมือนมีแสงวาบเจาะกระโหลกเข้ามา ช่ายเลยเกม Plant Vs Zombie ฉันทำมันได้

แม้ว่าเกม Plants vs. Zombies จะโตขึ้นจากบนสมาร์ทโฟน แต่เกมบนสมาร์ทโฟนในปี 2008 ก็ไม่น่ามีปัญหาเลยหากวางไว้บนเครื่องคอมฯ ส่วนตัวในปี 2000 อย่างมากก็แค่พิกเซลต่ำกว่าเกณฑ์นิดหน่อย ขนาด CS Counter-Strike ยังทำได้ล่ะ ถึงจะเล่นผ่าน LAN ก็เหอะ แค่เกมเล็กๆ ก็น่าไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

ช่วงปลายยุค 90 เป็นช่วงเวลาที่เกมแบบสแตนด์อโลนมาแรงที่สุด ชาวยุโรปและอเมริกานิยมเล่นเกมแบบสแตนด์อโลน ซึ่งแตกต่างจากเกมในประเทศจีนที่ต้องเป็นเกมออนไลน์ถึงจะได้รับความนิยมมากที่สุด

เกมแบบสแตนด์อโลนมีตลาดที่ใหญ่มากในยุโรปและสหรัฐอเมริกา Plants vs. Zombies เองก็ได้พิสูจน์ความนิยมของเกมนี้นานถึง 8 ปี

วิลเลียมสามารถพัฒนาเกม Plants vs. Zombies เวอร์ชันสแตนด์อโลนได้ด้วยตัวเอง แม้ว่ามันจะยากสักหน่อยในการพัฒนาเกมนี้ด้วยเทคโนโลยีระดับปัจจุบัน แต่เขาเป็นใครกันเล่า เขาเป็นบุรุษผู้มีระบบนิ้วทองนะเฟ้ย หากมีปัญหาอะไร เขาสามารถเรียนรู้ได้โดยตรงจากระบบ แล้วยังสามารถถามเหล่าอาจารย์หรือไปที่ห้องสมุดเพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้

วิลเลียมแหกปากโห่ร้องอย่างมีความสุข คนรอบข้างถึงกับหลบลี้หนีหน้าวิลเลียมที่ดูไม่ต่างจากคนบ้า

วิลเลียมหรือจะสน รีบคว้ากระเป๋าบนเก้าอี้แล้ววิ่งไปที่หอพักตัวเองทันที

หลังจากเข้ามาในห้องวิลเลียมก็เปิดคอมพิวเตอร์ดังแกร็กและเขียนแผนในคอมพิวเตอร์ เฉินม่อตรวจสอบแผนที่เขาเพิ่งเขียนเสร็จ แล้วเขียนโปรแกรมหลังจากนั้น การเคลื่อนไหวลื่นไหลไร้การสะดุดเพราะเขาใช้ความรู้จากระบบเป็นครั้งคราว

หลังจากยุ่งมาได้กว่าสิบวัน ในแต่ละวันวิลเลียมก็ยังคงไปๆ กลับๆ ห้องสมุด ห้องเรียนและหอพักมองหาอาจารย์บ่อยกว่าในช่วงปีแรกๆ ความรู้ส่วนตัวของเขาก็เริ่มพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละวัน การเขียนเกมเพียงลำพัง ทำให้วิลเลียมทำความเข้าใจความรู้แนวนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

ในที่สุดเกมก็ค่อยๆ ถือกำเนิดขึ้นจากมือของวิลเลียม

วิลเลียมมองดูไฟล์ในคอมพิวเตอร์อย่างภาคภูมิใจและมีความสุขยิ่ง แต่ปัญหาก็คือวิลเลียมจะโปรโมต Plants vs. Zombies ยังไงดี? เขาไม่มีทั้งเงินและช่องทางเลย พอคิดเรื่องนี้นานเข้าวิลเลียมรู้สึกตัวว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาตอนนี้คือการจดลิขสิทธิ์ก่อน

ก่อนอื่นไปจดลิขสิทธิ์เพื่อลงทะเบียนเรื่องราวของพืชกับซอมบี้และลิขสิทธิ์เกม จากนั้นเราก็สามารถมั่นใจได้แล้ว ทีนี้พอจะโปรโมตก็ไม่ต้องกลัวที่จะถูกแฮ็กหลังโปรโมตแล้ว อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องเงินทุนที่ดีเกินไป พวกนายทุนหน้าเลือดจะไม่ใช้เหตุผลกับเราหรอก

วิลเลียมเจอตู้โทรศัพท์ที่มีสมุดหน้าเหลืองของมหาลัย สืบค้นจนเจอเบอร์สำนักงานจดลิขสิทธิ์แล้วก็กดโทรไป

"ฮัลโหลๆ สวัสดีครับ สำนักงานลิขสิทธิ์หรือเปล่าครับ?" วิลเลียมถามหลังจากที่มีการรับสาย

"ใช่ค่ะ ที่นี่คือสำนักงานลิขสิทธิ์ ขอทราบชื่อด้วยค่ะ มีอะไรให้รับใช้คะ" มีเสียงผู้หญิงในโทรศัพท์

"ผมชื่อวิลเลียม เดวอนเชอร์ครับ ผมมีเกมที่ต้องการจดลิขสิทธิ์ ขอจดทะเบียนลิขสิทธิ์เกมและลิขสิทธิ์เนื้อเรื่อง ได้ไหมครับ?" วิลเลียมตอบ

"ได้ค่ะ คุณวิลเลียมเรียกฉันว่าเคธี่ได้เลยนะคะ เกมที่คุณสร้างขึ้นเองเป็นต้นฉบับหรือดัดแปลงคะ?" เคธี่กล่าวพลางถามต่อ

"มันเป็นต้นฉบับของผมเองครับ" เฉินม่อตอบ

"ถ้าเป็นต้นฉบับของคุณก็ไม่มีปัญหาค่ะ คุณสามารถลงทะเบียนลิขสิทธิ์ของเนื้อเรื่องกับทางเราก่อนได้ จากนั้นจึงค่อยจดทะเบียนลิขสิทธิ์เกม ทางที่ดีที่สุดคือจดทะเบียนต้นฉบับของเนื้อเรื่องของเกมคุณก่อนค่ะ การออกแบบเกมและนำมารวมกันค่ะ สิ่งนี้จะช่วยให้การตรวจสอบลิขสิทธิ์ของคุณง่ายขึ้นค่ะ"

"ขอบคุณครับ ผมเข้าใจแล้วครับ คุณเคธี่ครับสำนักงานลิขสิทธิ์อยู่ที่ไหนครับ?"

"ลอนดอน ถนนแคทเธอรีน 11 เปิดรับทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ คุณสามารถศึกษาเกี่ยวกับเอกสารสำคัญได้จากในเว็บไซต์ทางการของเราก่อนได้ค่ะ คุณยังสามารถนัดหมายผ่านทางโทรศัพท์ตอนนี้ได้เลยนะ คุณจะได้นัดในวันมะรืนเพื่อจดลิขสิทธิ์ได้โดยเร็วที่สุดค่ะ” เคธี่เตือน

"โอเคขอบคุณครับคุณเคธี่ ผมขอนัดตอนนี้เลยครับ" วิลเลียมย่อมดีใจที่ได้ยินว่าเคธี่บอกว่าสามารถนัดหมายได้เลย

"ได้ค่ะ ชื่อนามสกุลของคุณคืออะไรนะคะ?" เคธี่ถามต่อไป

"ชื่อเต็มของผมคือวิลเลียม เดวอนเชอร์ครับ"

"โอเคค่ะ ดิฉันตั้งตรวจสอบแล้ว คุณสามารถยื่นขอจดลิขสิทธิ์ได้ตั้งแต่ 8 โมงเช้าของวันมะรืนนี้นะคะ เราจะได้รับเคสของคุณเลย หลังจากที่คุณแจ้งชื่อ"

"ขอบคุณครับ คุณเคธี่ ผมขอให้เป็นยามบ่ายที่ดีนะครับ"

"ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ วางนะคะ"

"ครับ" วิลเลียมวางสายโทรศัพท์แล้วกลับไปที่ห้อง วิลเลียมเปิดคอมพิวเตอร์และเข้าไปดูขั้นตอนการจดลิขสิทธ์ ข้อควรระวังบนเว็บไซต์ทางการไป

ในวันที่สามวิลเลียมได้จัดเอกสารสำคัญจำเป็นทั้งหมด ตามด้วยข้อกำหนดการจดทะเบียนที่ปริ๊นไว้บนอินเทอร์เน็ตเมื่อวานนี้ ขึ้นรถบัสไปยังถนน 11 แคทเธอรีน อเวนิว เพราะบ่ายวันนี้ไม่มีเรียน

========================

เพจแปล ถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด