ตอนที่แล้วบทที่ 44 ปีศาจชั้นยอด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 46 เหล่ามังกร

บทที่ 45 การสร้างเมืองปีศาจ


บทที่ 45 การสร้างเมืองปีศาจ

หลังจากเสร็จสิ้นการเทปรอทลงในแม่แบบของวงจรเวทมนตร์ไม่นานนักเซรอนก็ปรากฏตัวขึ้นที่ปากปล่องภูเขาไฟ

เขายืนอยู่บริเวณขอบนอกของวงเวทย์ขณะที่มือของเขาเริ่มเปล่งประกายแสงจางๆออกมา ปากของเขาพึมพัมถอยคำออกมาเบาๆจากนั้นไม่นานก็เกิดการก่อตัวของพลังเวทขึ้นมา

ทันใดนั้นเซรอนก็กระทืบเท้าที่คล้ายกับกีบเท้าของวัวลงบนพื้นอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดคลื่นกระแทกจากนั้นภูเขาไฟทั้งลูกก็เริ่มสั่นสะเทือน

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันไม่ต่างไปจากการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ผืนดินสั่นสะเทือนจนปีศาจจำนวนมากล้มลงไปนอนกับพื้น

สัญลักษณ์เวทมนตร์ที่เซรอนให้พวกลูกสมุนปีศาจเขียนนั้นเป็นรูปแบบของการขยายพลัง เขาได้ใช้เอฟเฟกต์ของการขยายนี้เพื่อช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของการร่ายเวทย์แผ่นดินไหว ซึ่งส่งผลให้ผลกระทบของมันกระจายลึกลงไปในแผ่นเปลือกโลก

"ถอยออกมาก่อน!" เซรอนสั่ง

ที่จริงแล้วไม่ต้องรอให้เซรอนออกคำสั่งเพราะเหล่าปีศาจที่รวมตัวกันอยู่บนภูเขาส่วนใหญ่นั้นต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปกันก่อนแล้ว ถึงแม้ว่าเหลาปีศาจจะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟและหินหนืดที่ร้อนระอุ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าปีศาจจะไม่กลัวการระเบิดของภูเขาไฟ ในทางตรงกันข้ามเหล่าปีศาจนั้นกลับกลัวการปะทุของภูเขาไฟมากที่สุดเพราะพวกเขารู้ซึ่งถึงพลังทำลายล้างของการระเบิดของภูเขาไฟ

ในที่นี้มีปีศาจประมาณสองร้อยตัวที่เซรอนได้อัญเชิญมาและพวกมันใช้เวลาไม่นานในการหนีเอาชีวิตรอด กระนั้นภูเขาไฟซึ่งได้รับผลกระทบจากคลื่นอาฟเตอร์ซ็อกก็ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นมาอีกครั้งและก่อนที่ปากปล่องภูเขาไฟจะส่งเสียงคำรามอึกทึกที่น่าหวาดหวันตามมา

ควันดำหนาที่มีเถ้าภูเขาไฟลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าออกมาจากปล่องภูเขาไฟ แรงมหาศาลของการระเบิดได้ส่งลูกไฟขนาดน้อยใหญ่จำนวนมากบินลอยออกไปทุกทิศทางราวกับนางฟ้าโปรยกลีบดอกไม้ ภาพเช่นนี้นั้นช่างงดงามแต่ก็น่าหวาดกลัว เพราะด้วยการปะทุขึ้นลาวาร้อนแรงที่ไหลทะลักออกมาจากปล่องภูเขาไฟได้ไหลลงมาตามซอกเขา ก่อนจะกวาดเอาต้นไม้ทั้งหมดออกไปตลอดทางรวมถึงสัตว์ป่ามากมายที่ไม่สามารถหนีได้ทันต่างพากันตกตายไปเกือบทั้งหมด

การปะทุของภูเขาไฟใช้เวลาราวสองชั่วโมงก่อนจะเริ่มยุติลง ภายในรัศมีห้ากิโลเมตรโดยรอบนั้นได้กลายเป็นผืนดินสีดำที่ไหม้เกรียม ลาวาบางส่วนเมื่อเริ่มเย็นลงแล้วมันก็กลายเป็นพื้นสีดำแต่ก็ยังคงมีบางจุดที่ยังคงเปล่งแสงสีแดงเข้มและควันไฟที่ร้อนระอุ

เซรอนมองผลงานชิ้นเอกของเขาด้วยความภาคภูมิใจระหว่างที่เปิดปากหัวเราะอย่างเต็มที่ เขาพอใจมากกับผืนดินสีดำสนิทที่คุกรุ่นไปด้วยกลิ่นไหม้และกำมะถัน เซรอนคาดว่าในที่สุดเขาก็สามารถเริ่มสร้างเมืองของตนได้เสียที

ใช่แล้วจุดประสงค์ของการระเบิดภูเขาไฟนั้นก็คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของปีศาจ แม้ว่าทิวทัศน์อันเขียวขจีหรือบึงที่เต็มไปด้วยหนองน้ำนั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับเหล่าปีศาจ แต่ว่าปีศาจส่วนมากก็ยังคงชื่นชอบสภาพแวดล้อมที่คล้ายกับขุมนรกที่เต็มไปด้วยไอร้อนและอากาศที่แผร่กลิ่นกำมะถันของภูเขาไฟ

ภายใต้การข่มเหงของเซรอนเหล่าสมุนปีศาจกว่าสองร้อยตัวซึ่งรวมถึงรอยก็ได้เริ่มทำงาน พวกเขาขนย้ายก้อนหินขนาดใหญ่และพยายามปรับระดับพื้นที่ให้มากที่สุดในขณะที่ลาวายังคงอ่อนนุ่มเพื่อเริ่มต้นสร้างรากฐาน และหลังจากที่วางรากฐานเรียบร้อนแล้วพวกเขาก็เริ่มต้นสร้างสิ่งปลูกสร้างของเมือง

ทว่ารอยไม่ได้มีส่วนร่วมในการใช้แรงงานในครั้งนี้ รอยและเจ้าเสืออ้วนจำเป็นต้องคอยควบคุมปีศาจระดับต่ำเหล่านี้เพื่อให้พวกมันทำงานตามพิมพ์เขียวของเมืองที่อยู่ในมือของเขา งานของรอยนั้นมีเพียงแค่ใช้แส้ที่ได้มาจากเซรอนทุบตีปีศาจบางตัวเพื่อไล่ให้มันไปทำงานเท่านั้น

แม้ว่าปีศาจเหล่านี้จะใช้วัตถุดิบง่ายๆในการก่อสร้างดังนั้นรอยจึงดูแลพวกมันได้ไม่ยากเท่าไหร่ แต่ตัวเขานั้นก็ไม่สามารถละสายตาไปจากงานของพวกมันได้เลย มิฉะนั้นเขาอาจจะได้กำแพงเมืองที่เหมือนกับกองเส้นบะหมี่ที่เละๆมาแทน

เป็นเรื่องปกติที่ปีศาจจะขาดแคลนอุปกรณ์ก่อสร้าง ซึ่งคงต้องบอกว่าเมืองที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้นคือบางสิ่งที่สร้างขึ้นจากหินและเศษไม้แน่นอนว่าโครงสร้างดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะพังทลายได้ทุกเมื่อ แต่พวกปีศาจก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้อยู่แล้ว พวกเขาส่งปีศาจบางตนเพื่อไปรวบรวมลาวาและรอให้มันเย็นลงก่อนที่จะเทลงบนโครงสร้างเพื่อเติมช่องว่างและเสริมความแข็งแกร่งให้กับกำแพงงานก่อสร้างของพวกเขานั้นเรียบง่ายจนน่าเหลือเชื่อ

ในขณะที่เมืองค่อยๆเป็นรูปเป็นร่าง ปีศาจเซรอนก็ได้นำพิมพ์เขียวชิ้นใหม่ออกมาและสั่งให้ปีศาจเริ่มสร้างที่พักอาศัยของพวกมันเป็นลำดับถัดไป

ซึ่งถ้าจะพูดตรงๆมันก็คือรังของปีศาจ ปีศาจทุกประเภทล้วนแล้วแต่มีรูปแบบรังที่เหมาะสมกับพวกเขา และหลังจากที่สร้างรังเสร็จแล้วปีศาจบางส่วนก็ได้แยกตัวออกไปและย้ายเข้าไปอยู่ในที่พักของพวกมัน จากนั้นเซรอนก็วาดวงแหวนอัญเชิญขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางรังเหล่านี้และมุ่งเน้นไปที่การอัญเชิญปีศาจประเภทเดียวกันออกมาเพิ่มอีก

ตัวอย่างเช่นในรังปีศาจที่เป็นที่อยู่อาศัยของเฮลฮาวด์เซรอนก็จะเรียกเฮลฮาวด์ออกมา และทุกครั้งที่เขาเรียกปีศาจชุดใหม่ได้เซรอนก็จะเซ็นสัญญากับมอนเตอร์จากขุมนรกเหล่านี้ก่อนจะปล่อยให้พวกมันเข้าไปพักอยู่ในรังปีศาจ

ในช่วงเวลานี้รอยแอบสังเกตการกระทำของเซรอนอย่างละเอียด เขาเห็นว่าปีศาจที่เซรอนเลือกอัญเชิญมานั้นมีแค่ไม่กี่สายพันธุ์ อาจเป็นเพราะว่าเซรอนต้องการปีศาจแค่ไม่กี่ประเภทสำหรับจัดตั้งกองทัพของเขาดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการเรียกปีศาจที่ซับซ้อนจนเกินไป และทุกครั้งที่เซรอนได้เรียกปีศาจออกมาเขาก็จะได้สิ่งที่ต้องการมาได้อย่างแม่นยำ

รอยสังเกตจนเขาเริ่มที่จะเข้าใจกลอุบายของมัน เซรอนดูเหมือนจะเข้าใจดีว่าปีศาจแต่ละตัวนั้นมีความชอบแบบไหน ตัวอย่างเช่นเมื่อเขาต้องการเรียกปีศาจแรกเกิดเขาก็เพิ่มเปลือกไข่ของนกที่ถูกบดเป็นผงรวมเข้ากับหนอนสดๆเพื่อเป็นเครื่องสังเวย

ในทุกครั้งที่เขาใช้เครื่องบูชาประเภทนี้เซรอสจะสามารถเรียกปีศาจตัวน้อยจำนวนมากออกมาได้ ปีศาจตัวเล็กเหล่านี้เป็นพวกที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นานและเพิ่งเข้าสู่หุบเหวอเวจีชั้นบน บางทีกลิ่นของเปลือกไข่ที่ผสมรวมกับเลือดได้ทำให้พวกเขานึกถึงเวลาที่พวกมันเพิ่งฟักออกมาดังนั้นเครื่องสังเวยประเภทนี้จึงดึงดูดพวกเขาให้วิ่งมาสู่โลกใบนี้

แต่หลังจากปีศาจน้อยพวกนี้ถูกอัญเชิญมาแล้วชะตากรรมของพวกเขาก็ถูกปิดผนึก ปีศาจน้อยแรกเกิดเหล่านี้มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้มากแค่ไหน? เซรอนเรียกพวกเขามาเพื่อเพิ่มจำนวนคนงานก่อสร้างและเป็นกำลังพลระดับต่ำสำหรับการต่อสู้ที่จะมาถึง

นอกจากการเรียกปีศาจตัวน้อยเหล่านี้แล้วก็ยังมีวิธีการอัญเชิญเฮลฮาวด์ การเพิ่มปัสสาวะของกริฟฟอนลงไปผสมกับเลือดสดๆ เซรอนจับกริฟฟอนป่ามาเลี้ยงไว้และเขาผสมปัสสาวะกริฟฟินลงในเลือดการล่อลวงเพื่อเฮลฮาวด์นั้นน่าสนใจอย่างยิ่ง!

สถานการณ์เช่นนี้ทำให้รอยนึกถึงช่วงชีวิตในอดีตของเขาเมื่อตอนที่ได้เรียนรู้วิธีตกปลา เขาจำเป็นต้องใช้เหยื่อที่แตกต่างกันสำหรับการตกปลาประเภทต่างๆ..

ในตอนก่อนหน้าที่รอยจะได้ตอบสนองต่อการอัญเชิญที่ประตูนรกเขาได้กลิ่นเหม็นจากปัสสาวะของกริฟฟอนผสมกับเลือด เขาสงสัยว่าทำไมกลิ่นเลือดมันแปลกๆ แต่เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเซรอนจะใช้วิธีนี้เพื่อล่อมอนเตอร์ที่เขาต้องการ ถ้ารอยทราบวิธีการนี้เขาก็คงไม่เลือกที่จะก้าวผ่านประตูนรกเป็นแน่…

พิธีกรรมการอัญเชิญปีศาจเป็นเช่นนั้นเนื่องจากคุณไม่สามารถมองเห็นได้ว่าในอีกด้านหนึ่งของประตูนรกเป็นเช่นไร มันจึงไม่มีทางหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้และเมื่อคุณตกลงสู่กับดักแล้วคุณก็สามารถพึ่งพาได้เพียงแค่ความแข็งแกร่งของตัวคุณเองเพื่อหาทางหลุดพ้นออกจากปัญหา

มีเพียงปีศาจเท่านั้นที่จะเข้าใจปีศาจด้วยกันได้ดีที่สุด รอยไม่ทราบว่าปีศาจระดับสูงอย่างเซรอนมีชีวิตอยู่มานานแค่ไหน แต่เซรอนนั้นมีความเข้าใจเกี่ยวกับเวทมนต์และการอัญเชิญปีศาจเป็นอย่างดี หุบเหวนั้นกว้างใหญ่มากจนไม่มีใครรู้ว่ามีปีศาจอาศัยอยู่มากเพียงใด แม้จะมีสายเลือดที่ซับซ้อนในหมู่ปีศาจระดับต่ำ แต่ก็มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันอยู่หลายประเภท แต่มันก็ไม่ยากที่จะพบว่าพวกมันมีลักษณะเดียวกันอยู่เปฌรจำนวนมากในหมู่พวกเขา

และโดยไม่มีข้อยกเว้นเซรอนได้กดขี่ปีศาจทั้งหมดที่เขาได้เรียกมาเพื่อเตรียมการรับมือกับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น เซรอนจะไม่ปล่อยให้ปีศาจที่ถูกอัญเชิญเหล่านี้กลับไปได้ง่ายๆ ในสถานที่แห่งนี้เซรอนคือปีศาจที่ทรงพลังและได้ตั้งตนเป็นเจ้าแห่งปีศาจปีศาจที่ถูกเขาอัญเชิญมาก็นับว่าเป็นคนของเขา ทางด้านปีศาจระดับต่ำนั้นพวกเขาไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย

แน่นอนว่าอาจมีปีศาจอย่างรอยที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือหลังจากถูกเรียกตัวและพยายามต่อต้าน ทว่าอย่างไรก็ตามหลังจากถูกบีบบังคับโดยอำนาจที่เหนือกว่าปีศาจที่ทำตัวแข็งข้อก็จำต้องยอมเซ็นสัญญาและทำงานภายใต้เซรอนอย่างเชื่อฟัง

รอยเห็นสิ่งนี้และเมินเฉยต่อพวกเขาเพราะรอยรู้ว่าการกระทำของเซรอนนั้นเป็นพฤติกรรมปกติของเหล่าปีศาจ

ไม่เคยมีความอบอุ่นใดๆระหว่างปีศาจด้วยกันเอง นอกเหนือจากการฆ่ากับการใช้งานแล้วมีเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่ความคิดของพวกเขาจะคล้ายกัน แม้ว่าปีศาจระดับสูงจะใช้ค่าเกี่ยวกับสายเลือดของปีศาจระดับสูงแต่สิ่งนี้ก็มีไว้สำหรับผู้ที่อยู่ในอันดับเดียวกันเท่านั้น

เป็นเรื่องปกติที่คนระดับสูงจะปฏิบัติต่อคนระดับต่ำเสมือนทาสและกดขี่พวกเขา เซรอนที่เรียกปีศาจออกมาต่อสู้เพื่อเขาโดยแทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆเลย แต่สิ่งที่เขาจะได้กลับมาคือวิญญาณจำนวนมาก ด้วยอัตราผลตอบแทนที่สูงเช่นนี้นับประสาอะไรกับปีศาจแม้แต่นายทุนชาวมนุษย์เมื่อพบโอกาศเช่นนี้ก็จำเป็นต้องรีบเร่งลงมือ

เมื่อเวลาผ่านไปเมืองปีศาจแห่งนี้ก็ค่อยๆเติบโตขึ้นในขณะเดียวกันปีศาจระดับสูงสองตัวได้ปรากฏตัวขึ้นเพื่อพบกับเซรอน

ปีศาจระดับสูงทั้งสองนั่งอยู่บนหลังของม้าแห่งฝันร้ายและนำกองทัพปีศาจขนาดเล็กติดตามมาด้วย เหล่าม้าศึกแห่งฝันร้ายเหล่านี้มีนิสัยเจ้าอารมณ์และร่างกายของพวกมันก็ปกคลุมไปด้วยผิวหนังมันวาวสีดำที่แข็งกระด้าง พวกมันมีเขาปีศาจงอกอยู่บนหัวและกีบเท้าทั้งสี่ก็ลุกไหม้ด้วยเปลวไฟที่จะทิ้งร่องรอยเผาไหม้ไว้ไม่ว่าพวกมันจะก้าวไปที่ไหน

ม้าศึกแห่งฝันร้ายเหล่านี้คือเผ่าพันธ์ุปีศาจไม่ใช่มอนเตอร์ทั่วไป เนื่องจากพวกมันมีความฉลาดอยู่บ้างพวกมันจึงถูกจัดว่าเป็นปีศาจระดับกลาง และปีศาจระดับสูงส่วนใหญ่ก็ชอบที่จะเลือกม้าศึกแห่งฝันร้ายเหล่านี้เพื่อใช้เป็นสัตว์พาหนะ

ปีศาจระดับสูงทั้งสองสวมเสื้อคลุมและซ่อนรูปลักษณ์ของพวกเขา หลังจากเข้าไปในเมืองปีศาจแล้วพวกเขาก็เริ่มสนทนากับเซรอนภายในห้องโถงด้านใน ทางรอยที่ถูกจัดว่าเป็นปีศาจชั้นยอดโดยเซรอนและยังถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยของเขาเนื่องจากรอยมีสติปัญญาที่สูงกว่าปีศาจธรรมดาทั่วไป ดังนั้นรอยซึ่งรออยู่นอกห้องโถงจึงได้ยินบทสนทนาของพวกเขาอย่างได้ง่ายดาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด