ตอนที่ 182 ไม่เป็นไร อย่าโกรธไปเลย 2
ก่อนที่เฉียวเมียนเมียนจะปรับสายตามาที่เซินโย่ว
ชายในชุดสีม่วงก็ลุกขึ้นพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง ชายคนนั้นดูประหลาดใจ
“พี่รอง นี่คือพี่สะใภ้เหรอ!”
หยางเชาชิงมีความคิดมากมายที่พุ่งเข้ามาในหัวของเขา
คำอุทานเดียวที่สามารถอธิบายอารมณ์ของเขาได้ในตอนนี้คือ “ฉิบหายแล้ว”
เขารู้ดีว่าพี่สะใภ้คนนี้ยังเป็นนักศึกษาสาว
แต่...
หยางเชาชิงมองไปที่ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเฉียวเมียนเมียน แล้วอดไม่ได้ที่จะคิดว่า “ฉิบหายแล้วไง” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เธอเด็กเกินไป
เธออายุมากพอหรือยัง?
เธอดูเหมือนนักเรียนอายุ 16 หรือ 17 ปี
พี่รอง...คงไม่น่ากลัวถึงขนาดที่จะคบกับหญิงสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะใช่ไหม?
นั่นจะมากเกินไปแล้ว
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็ก แต่เขาก็ไม่ยอมรับพฤติกรรมไม่ดีเช่นนี้ได้!
ดวงตาของเหมาเยซื่อลึกขึ้นและแขนของเขาก็โอบรอบเอวของเฉียวเมียนเมียน เมื่อเขาเห็นหยางเชาชิงกำลังมองอย่างตรวจสอบเธอ
ชายคนนั้นมองไปที่หยางเชาชิง ด้วยสายตาเตือน
“มองพอรึยัง? นายยังไม่ได้ทักทายพี่สะใภ้เลยนะ มารยาทของนายอยู่ที่ไหน?”
หยางเชาชิงพูดไม่ออก
นี่หมายความว่าเขาไม่มีมารยาทได้อย่างไร!
ทำไมแววตาของพี่รองถึงดูน่ากลัวขนาดนี้?
ราวกับว่า...เขาปฏิบัติกับพวกเราราวกับเป็นศัตรู
เมื่อเขามองไปที่การแสดงออกที่แสดงความเป็นเจ้าของของพี่รอง หยางเชาชิงก็เปลี่ยนสายตาออกไปจากผู้หญิงของเขาอย่างรวดเร็ว
“อืม สวัสดีครับพี่สะใภ้” หยางเชาชิงยื่นมือและยิ้ม
“ผมชื่อหยางเชาชิงครับ เป็นเพื่อนสนิทกับพี่รอง พวกเราเคยอาศัยอยู่ละแวกเดียวกัน”
ปู่ของเหมาเยซื่อกับหยางเชาชิงเป็นทหาร ดังนั้นทั้งคู่จึงอาศัยอยู่ในเขตทหาร ตอนที่พวกเขายังเด็ก
“สะ- สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเฉียวเมียนเมียน”
หยางเชาชิงดูเป็นมิตรและเข้าถึงได้ง่าย ความประทับใจของเฉียวเมียนเมียนที่มีต่อเขาก็ไม่ได้แย่จนเกินไป
เธอยื่นมือออกไปด้วย
แต่ก่อนที่หยางเชาชิงจะคว้ามือของเธอเพื่อจับ
มือเรียวยาวก็เข้ามาขัดขวาง
หยางเชาชิงพูดไม่ออก
คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น!
เป็นเพียงการจับมือกันเท่านั้น
คุณยอมไม่ได้ด้วยซ้ำ?
พี่รองมีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมากเกินไป
เขาทำให้ฉันดูเหมือนคนที่ทำผิด กำลังจะเอาเปรียบเธอ!
เหมาเยซื่อเพิกเฉยต่อการแสดงออกที่ไม่ถูกต้องของตนเอง และจับมือเฉียวเมียนเมียนไว้
“หยางที่สามเป็นคนที่สามในบรรดาพวกเราไม่กี่คน คุณจะเรียกเขาว่า หยางที่สามแบบผมก็ได้”
เขาแนะนำอีกสองคนในห้อง “นั่นคือน้องชายคนที่สี่ กงเซลี เขาเป็นคนที่สี่ในกลุ่มของเรา คุณจะเรียกเขาว่าน้องสี่ก็ได้”
กงเซลีมองขึ้นด้วยความตกใจและไม่พอใจ
เด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะคนนั้นกำลังจะเรียกเขาว่า น้องสี่!
เขาไม่สามารถยอมรับได้
เขาขมวดคิ้วและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เซินโย่วก็สะกิดเขาอย่างสุขุม
กงเซลีเม้มริมฝีปากและมองออกไป
“สวัสดีจ้ะเมียนเมียน ฉันชื่อเซินโย่ว”
ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ กงเซลี ยืนขึ้นและแนะนำตัวเองก่อน “ยินดีที่ได้พบเธอ”