ตอนที่แล้วตอนที่ 261 ข้าจะปกป้อง…ปกป้อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 263 พระอาจารย์

ตอนที่ 262 ราชบุตรเขย


“เฮ้อ” เหนือภพพ่นลมหายใจ ให้กับเฮงเฮง

วิญญาณร้ายในตัวเฮงเฮง แม้แต่เขาก็ยังไม่รู้วิธีที่จะเอาชนะ หากเขาไม่รู้ว่าพวกมันพ่ายแพ้ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์หายากอย่างเบี้ยแก้ เกรงว่าแคว้นอมตะคงต้องล่มเพราะเฮงเฮงผู้เดียว

แต่ลึก ๆ ในใจเหนือภพก็รู้สึกขอบคุณเฮงเฮง เป็นเพราะได้เฮงเฮงช่วยถ่วงเวลาให้ น้องสาวของเขาจึงได้หนีพ้น

แต่น่าเสียดายที่พี่พลกับอรุณไม่ได้โชคดีแบบเฮงเฮง ๆ ที่มีวิญญาณร้ายสิงสู่ แม้มันจะเป็นสิ่งอัปมงคล อันตราย แต่ในยามคับขันกลับช่วยรักษาชีวิตไว้ได้หลายชีวิต

เหล่าทหารทั้งหมด รวมถึงแม่ทัพธรรศได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พวกเขาจ้องมองอย่างไม่เข้าใจ เรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่ นี่เหนือภพมาช่วยพวกเขาเอาไว้จากอสุรกายนี่รึเปล่า แล้วที่เหนือภพพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร เตชินท์มีส่วนทำให้ค่ายกลพรางตาพังทลายงั้นหรือ

แล้วตอนนี้เตชินท์ เขาหนีไปแล้วหรือ…

เหนือภพแบกร่างของเฮงเฮงขึ้นหลัง จากนั้นก็ตามไปสมทบกับฌายินและเหนือฟ้า ในตอนนี้คนจากตระกูลครุฑมาถึงแล้ว พวกเขากำลังจะพาร่างเหนือฟ้ากับฌายินไปรักษาในเมืองอมตะ เพราะหากจะพากลับตระกูลที่อยู่ไกลออกไปมาก ก็เกรงว่าจะช่วยเหลือเหนือฟ้าไม่ทัน

“ข้าจะพาน้องข้ากลับไปเอง”

เหนือภพมองฌายินตาขวาง อาจารย์ใหญ่ช่วยเหลือน้องสาวของเขาเอาไว้ก็จริง แต่ต้นเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะอาจารย์ใหญ่ไม่สามารถดูแลปกป้องเหนือฟ้าได้ไม่ใช่หรือ

“เหนือภพ  ตอนนี้เจ้าก็เป็นตัวอันตราย ที่จะชักนำเรื่องร้ายมาสู่เหนือฟ้า เชื่อข้า ข้าและตระกูลของข้าช่วยเหลือนางได้ดีกว่าเจ้าตัวคนเดียวแน่”

ฌายินเดินมาประจันหน้ากับเหนือภพอย่างไม่กลัวเกรง แม้เธอจะรู้ว่าเหนือภพมีระดับเหนือกว่า แต่เธอก็มีพวกพ้องมากมาย ในตอนนี้คนระดับสูงของตระกูลครุฑกว่าสิบคน จ้องเหนือภพเป็นตาเดียว หากเหนือภพลงมือกับฌายิน พวกเขาก็จะลงมือทันที

เหนือภพมองร่างไร้สติของเหนือฟ้าสลับกับมองฌายิน แววตาของเขาทวีความโหดเหี้ยมขึ้นทุกที

“ดีกว่างั้นเหรอ ข้าไม่คิดยังงั้นนะ”

เหนือภพกำลังจะลงมือแย่งชิงน้องสาว ทั้ง ๆ ที่บนหลังของเขายังมีร่างของเฮงเฮงอยู่ ส่วนฌายินและพรรคพวกก็พร้อมจะร่ายอาคมในทันที

ทันใดนั้นเองก็มีองครักษ์เสื้อทองสองคนมุ่งหน้ามาทางนี้

“หยุดก่อน ! ทุกท่าน !”

เมื่อองครักษ์เสื้อทองปรากฏตัว ทุกคนย่อมต้องให้การเคารพ ยกเว้นเพียงเหนือภพ ที่ยังคงยืนนิ่ง ใบหน้ายากคาดเดาอารมณ์

“ข้ามีเรื่องด่วนจะมาแจ้ง องค์เจ้าแคว้นมีพระประสงค์ให้เหนือภพไปเข้าเฝ้า ด่วนที่สุด”

“ทำไม”

เหนือภพอย่างไม่อ้อมค้อม สร้างความแปลกใจให้คนตระกูลครุฑเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มคนนี้กล้าดีอย่างไรจึงท้าทายอำนาจขององค์เจ้าแคว้นเพียงนั้น

“ข้าไม่บังอาจคาดเดาพระประสงค์ แต่ที่ข้าบอกได้คือตอนนี้องค์ชายเตชินท์กำลังไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทที่พระตำหนัก”

เหนือภพหรี่ตามองอย่างไม่พอใจ สิ่งน้องสาวของเขา พี่พล อรุณ และพรรคพวกของเขาได้รับ ไม่สมควรมองข้าม ในใจของเขาบังเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมาวูบหนึ่ง จากที่เคยคิดว่าจะพาเหนือฟ้าหนีไปอย่างเงียบ ๆ แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว

ชายหนุ่มหันมามองสบตาฌายิน แล้วก็โยนร่างของเฮงเฮงให้เธอ

“ฝากเหนือฟ้ากับเฮงเฮงด้วย แล้วข้าจะมาเอาคืน”

พูดจบเหนือภพก็พุ่งตัวมุ่งหน้าไปที่พระตำหนัก โดยไม่รอองครักษ์เสื้อทอง แต่พอเขานึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เขาไม่รู้ว่าองค์เจ้าแคว้นทรงประทับอยู่ที่ตำหนักไหน เขาก็ลดความเร็วลง จากนั้นก็ตามติดองครักษ์ไปอย่างว่าง่าย

ณ พระตำหนักนิรมิต

องค์เจ้าแคว้นทรงยืนอยู่กลางห้องกว้าง รายล้อมด้วยองครักษ์เสื้อทองเกือบยี่สิบคน

ห้องนี้ถูกตกแต่งด้วยไม้สีน้ำตาลอ่อน แกะสลักลงรักสีดำเป็นลวดลายที่อ่อนช้อย พื้นไม้ปูทับด้วยพรมหนานุ่มที่นำเข้ามาจากต่างแคว้น ยากจะหาผืนที่สองมาเปรียบเทียบ

ด้านซ้ายของห้องคือที่ประทับนั่ง และมีโต๊ะทรงพระอักษร ด้านขวาของห้องมีโต๊ะเกมกระดานเอาไว้ให้พระองค์ผ่อนคลายพระทัย ส่วนด้านในสุดมีพระราชบรรจถรณ์ เอาไว้สำหรับประทับเอนพระวรกาย โดยมีผ้าม่านบางเบาปิดซ้อนอยู่หลายชั้น

“เจ้ายังมีหน้ามาพบข้าอีกหรือ”

องค์เจ้าแคว้นตรัสเสียงเย็นชากับเตชินท์ ที่กำลังคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าพระพักตร์

“ฝ่าบาท เกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”

“ปากแข็ง ! จับมันเอาไว้”

เมื่อจบรับสั่ง เหล่าองครักษ์ก็ล้อมจับเตชินท์ โดยใส่ตรวนไว้ที่แขนและขา เยี่ยงนักโทษหลวง

เตชินท์ตกตะลึงพรึงเพริด ไม่คิดว่าเรื่องราวจะกลับตาลปัตรเป็นเช่นนี้ เมื่อไม่นานมานี้เขายังขอเข้ามาอาสาจับคนชั่วอยู่เลย แล้วไฉนตอนนี้องค์เจ้าแคว้นจึงคิดว่าเขากลายเป็นคนชั่วเสียเอง

เรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับเจ้าชั่วเหนือภพเป็นแน่

“หม่อมฉันถูกใส่ร้าย หม่อมฉันเพียงต้องการจับตัวคนที่คิดร้ายต่อแผ่นดิน ไม่ว่าจะอันตรายแค่ไหน แต่หม่อมฉันก็พร้อมยอมทำนะพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายพรรค์นั้นจริง ๆ”

องค์เจ้าแคว้นเหลือบพระเนตรมองสารรูปของเตชินท์ แล้วก็ทรงลังเลพระทัยวูบหนึ่ง หากเตชินท์ผิดจริง ทำไมเขาถึงกล้าเข้ามาที่นี่อีก แถมยังหอบร่างมาในสภาพบอบช้ำอย่างหนัก

“พิสูจน์ให้เราเห็นสิ ว่าเจ้าไม่ได้มีไอมาร”

เตชินท์อึกอักลังเล

“หม่อมฉัน หม่อมฉัน...”

“ก็บอกไปสิ ว่าเจ้าแอบฝึกปราณมารมานานแล้ว เพื่อจะขึ้นเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”

จู่ ๆ เหนือภพที่เพิ่งมาถึง ก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่สนใจใคร ทำให้องค์เจ้าแคว้นทรงขมวดคิ้ว ในพระทัยก่อเกิดความไม่พอใจในความสามหาวของเหนือภพ ขนาดมาถึงพระตำหนักแล้วยังไม่คุกเข่าทำความเคารพ แถมยังพูดจาลอยหน้าลอยตา ราวกับไม่เห็นแก่พระพักตร์ของพระองค์

“เหนือภพ ! เจ้ามาก็ดีแล้ว รู้หรือไม่ว่าเจ้าทำอะไรองค์รัชทายาท”

องค์เจ้าแคว้นตรัสเสียงก้องกังวาน เหนือภพเลิกคิ้วอย่างสนใจ ด้วยไม่คิดว่าองค์รัชทายาทจะกินโอสถฝืนชะตาเร็วเช่นนี้

“แล้วเป็นไง ชอบมั๊ยล่ะท่าน”

เหนือภพลอยหน้าลอยตาตอบ พลางเดินไปยืนจังก้าอยู่หน้าเตชินท์ที่กำลังคุกเข่าอยู่

ส่วนองค์เจ้าแคว้น แม้จะไม่พอพระทัยในกริยาของเหนือภพ แต่พระองค์ก็ไม่อาจทำอะไรได้ เพราะองค์รัชทายาทมีอาการดีขึ้นจริง ๆ

จู่ ๆ ม่านบังตาด้านหลังก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นร่างขององค์รัชทายาท องค์รัชทายาทมีสีหน้าดีขึ้นมาก แววตาแช่มชื่นแจ่มใส อารมณ์ดียิ่งกว่าการได้ขึ้นครองบัลลังก์เสียอีก

หมอหลวงยังรับรองเองเลยว่า องค์รัชทายาทหายดีแล้ว

“ขอบใจมากเหนือภพ”

องค์รัชทายาทยิ้มให้เหนือภพอย่างบริสุทธิ์ใจ ส่วนเหนือภพก็ยิ้มตอบอย่างเฉยชา

เตชินท์เบิกตากว้าง เขาไม่เข้าใจเรื่องราว รู้เพียงว่าตอนนี้เหนือภพได้ทำคุณูปการใหญ่หลวง และเป็นเขาที่ต้องรับเคราะห์

“ฝ่าบาท ขอทรงโปรดพิจารณา เหนือภพเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์มากมาย แถมยังก่อความเดือดร้อนให้บ้านเมือง เขาและพรรคพวกมาป่วนทำลายค่ายทหารของแม่ทัพธรรศจนเสียหาย เช่นนี้จะปล่อยไปไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ”

เตชินท์ยังคงดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย เขาเชื่อมั่นว่าด้วยตำแหน่งว่าที่ราชบุตรเขย องค์เจ้าแคว้นคงจะเมตตา และเชื่อเขาบ้าง

องค์เจ้าแคว้นทรงปิดพระโอษฐ์เงียบ พระองค์ก็อยากรอดูเหมือนกันว่าความสัมพันธ์ระหว่างเตชินท์และเหนือภพเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะในพระทัยนั้นไม่ทรงเชื่อใครทั้งนั้น ทว่าพระองค์ต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่ง ที่มีประโยชน์ต่อพระองค์มากที่สุด และจะต้องไม่ให้ขุนนางคนอื่นคัดค้านได้

เหนือภพมองเตชินท์ด้วยหางตา จากนั้นเขาก็ยื่นฝ่ามือเรืองแสงสีไวน์แดงออกไปเบื้องหน้า ก่อนจะเพ่งจิตเปลี่ยนฝ่ามือของตัวเองให้เหมือนกับแม่เหล็กแผ่นหนึ่ง

ไอมารที่แทรกซึมอยู่ในร่างของเตชินท์ต่างพากันสั่นไหว จากนั้นทั่วร่างของเตชินท์ก็มีควันสีดำพวยพุ่งออกมา ก่อนที่ควันดำเหล่านั้นจะพากันหลั่งไหลพุ่ง ไปทางเหนือภพ ไม่ต่างจากเศษเหล็กที่พุ่งเข้าหาแม่เหล็ก เพียงพริบตาไอมารจำนวนมากก็หลั่งไหลเข้ามารวมกันที่เบื้องหน้าเหนือภพ

องค์เจ้าแคว้นผงะถอยหลัง องครักษ์เสือทองตกใจรีบกางม่านอาคมป้องกันองค์เจ้าแคว้น

บัดนี้ความจริงเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว เตชินท์ฝึกปราณมารจริง ๆ

เหนือภพแสร้งทำสีหน้าบิดเบี้ยว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงทรมาน

“โอ๊ย รุนแรงเกินไป ข้าจะไม่ไหวแล้ว”

จากนั้นเหนือภพก็ผลักไอมารให้กลับไปสู่เตชินท์ เตชินท์เบิกตามองเหนือภพด้วยความอัดอั้นตันใจระคนแปลกใจ แม้จะเป็นศัตรูคู่แค้น แต่เตชินท์ก็คิดว่าเขารู้จักนิสัยของเหนือภพพอสมควร ไม่คิดไม่ฝันว่าเหนือภพจะกลายเป็นคนเช่นนี้ นี่มันเหนือภพตัวจริงหรือเปล่า

เตชินท์ที่ถูกไอมารกระแทกกลับ ก็ถึงกับกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง ทว่ากลับไม่มีใครเหลียวแลเขาอีกต่อไป

องค์เจ้าแคว้นทรงมีพระพักตร์ผิดหวัง องค์รัชทายาทมีสีหน้าสมเพชเวทนา ส่วนพวกองครักษ์ก็พากันรังเกียจเขา เพราะเหนือภพคนเดียว

เตชินท์จ้องเหนือภพเขม็ง ส่วนเหนือภพก็สบตาเตชินท์อย่างเลือดเย็น ก่อนจะใช้วาจาบีบหัวใจของเตชินท์ซ้ำอีกครั้ง

“เมื่อความจริงชัดแจ้งแบบนี้ และองค์รัชทายาทก็หายดีแล้ว หวังว่าพระองค์จะเห็นในความจริงใจของข้า หากเป็นเช่นนั้นข้าขออนุญาตแต่งงานกับองค์หญิงบุษย์น้ำทอง ในวันพรุ่งนี้เลย”

‘ความเจ็บนี้สำหรับน้องสาวข้า’

“ได้ ข้าอนุญาต แต่เจ้าต้องแต่งเข้าราชวงศ์อมตะของเรา ไม่ใช่ให้องค์หญิงแต่งเข้าตระกูลเจ้า”

“แน่นอน” เหนือภพตอบรับอย่างพอใจ

เตชินท์เบิกตากว้าง หลายสิ่งหลายอย่างถาโถมมาที่เขาเร็วเกินไป บุษย์น้ำทองของเขาจะถูกแย่งไปหรือ ได้อย่างไรกัน

เหนือภพเหลือบมองเตชินท์แวบหนึ่ง

“แต่ว่า…เราจะปล่อยคนชั่วอย่างองค์ชายนอกรีตคนนี้ได้อย่างไร ข้าอยากขอความเป็นธรรม ให้ประหารเขาหลังวันแต่งงานของข้า”

‘ความเจ็บนี้สำหรับเพื่อน ๆ ของข้า พี่พล อรุณจะไม่ตายเปล่า’

“ได้ ข้าอนุญาต”

องค์เจ้าแคว้นทรงแย้มพระโอษฐ์อย่างสมใจ การที่มียอดฝีมือยอมแต่งเข้าราชวงศ์ของพระองค์ย่อมเป็นเรื่องดี เรื่องนี้จะขจัดความกังวลลึก ๆ ในพระทัยได้ หลานรักของเขาจะไม่ต้องไปแต่งเข้าราชวงศ์ของเมืองอนันต์ อันอาจจะก่อให้เกิดเสี้ยนหนามในอนาคต

และตัวป่วนอย่างเหนือภพ เมื่อกลายเป็นราชบุตรเขยแล้วก็จะได้เพลา ๆ การก่อเรื่องวุ่นวายลงบ้าง พระองค์จะมอบหมายงานราชกิจให้เหนือภพยุ่ง จนลืมก่อเรื่องวุ่นวายไปเลย เรื่องนี้ถือว่าจัดการได้ลงตัวแล้ว

เตชินท์เจ็บปวดใจ จนสติแทบจะแตกสลายเป็นอณู เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว เขาจะทำอย่างไรได้ หากจะคาดหวังให้บุษย์น้ำทองช่วยออกหน้าให้เขานั้น ภาวนาให้เขามีปีกงอกออกมายังจะมีโอกาสมากกว่า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด