ตอนที่แล้วบทที่ 17 งานเลี้ยง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่19 คนที่แกร่งที่สุดในกลุ่มพวกเรา

บทที่ 18 ระดับสูง


บทที่ 18 - ระดับสูง

ใช้เวลาไม่นานในการเสิร์ฟอาหารไปที่โต๊ะของพวกเขา แม้ว่าอาหารจะถูกปิดด้วยฝาโลหะ ปิดกั้นกลิ่นของอาหารทั้งหมดไม่ได้ บางส่วนรั่วไหลออกไปข้างนอกกลิ่นหอมของมันกระตุ้นความอยากอาหารอย่างทั่วถึง

ท้องของยุ่นเซี่ยร้องอย่างหนักเพราะความลำบากใจ เธอไม่สามารถอดกลั้นความหิวได้อีกต่อไปหลังจากที่เธอได้มองอาหารที่อยู่ต่อหน้าเธอ

ผู้คนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะมองเธออย่างสนุกสนานยกเว้นหยื่อตงเหม่ย ใบหน้าของเธอดูแข็งกร้าวเช่นเคย แต่มีรอยยิ้มเล็กน้อยที่แทบสังเกตไม่เห็นบนริมฝีปากของเธอ

ยุ่นหลิงหัวเราะเบาๆ ที่ลูกสาวของเขา ดูเหมือนว่ายุ่นเซี่ยไม่สามารถรอได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้มือของเขาจึงเอื้อมไปที่ฝาเพื่อให้พวกเขาเริ่มกินได้ทันที

เมื่อยุ่นหลิงเปิดฝาเขาค่อนข้างประหลาดใจเมื่อเห็นอาหารตรงหน้าเขา

“นี่คือ ... หนึ่งในอาหารชั้นสูง7อย่าง ไก่สีรุ้ง”

มกุฎราชกุมารก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน

“ข้าคิดว่ากลิ่นนั้นค่อนข้างคุ้นเคย แต่ข้าจำไม่ได้ไม่ว่าข้าจะนึกแค่ไหนก็ตาม ปรากฎว่าเป็นไก่สีรุ้ง ก่อนหน้านี้ข้าเคยกินแค่ครั้งเดียวและนั่นคือตอนที่ข้ายังเป็นเด็ก”

“นี่เป็นอาหารที่หากินได้ยากมาก ต้องคนที่มีโชคเท่านั้นถึงจะได้กินมันแม้แต่จักรพรรดิก็ไม่สามารถกินไก่สีรุ้งได้ตามที่เขาต้องการ” ยู่ฉานไม่เคยกินไก่สีรุ้งมาก่อน แต่เขาก็ยังรู้ที่มาของอาหารจานนี้มันเป็นอาหารที่หากินได้ยากและมีชื่อเสียง

เช่นเดียวกับชื่อของมันไก่สีรุ้งเป็นไก่ที่มีสีบนตัวเจ็ดสี ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ให้เรียกไก่ชนิดนี้ว่าไก่สีรุ้งเพราะมันมีสีที่คล้ายกับรุ้งทั้งเจ็ดสี ไก่สีรุ้งนั้นเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ไก่ที่หายากที่สุด เป็นที่รู้กันว่าอร่อยมากไม่ว่าจะปรุงด้วยวิธีใดหรือไม่ว่าผู้ปรุงจะห่วยแตกแค่ไหนก็ตาม

แม้ว่าไก่สีรุ้งจะถูกปรุงสุกแล้วและไม่มีขน แต่ยุ่นหลิงและคนอื่นๆ ก็ยังรับรู้ได้ เป็นเพราะมันยังคงเปล่งประกายสีรุ้งทั้งเจ็ดออกมาอย่างแผ่วเบา ซึ่งนั่นเป็นลักษณะเฉพาะของมัน

“ข้าได้ยินมาว่าผู้ปกครองแผ่นดินสูงสุดทรงเลี้ยงไก่สีรุ้งไว้ในวัง พ่อของข้าบอกว่าผู้ปกครองแผ่นดินสูงสุดไม่เต็มใจที่จะกินพวกมันและเลี้ยงดูพวกมันเพื่อกินไข่แทน” ยู่ฉาน กล่าว แม้ว่าไก่สีรุ้งสามารถวางไข่ได้หลายฟอง แต่ก็มีโอกาสเพียงหนึ่งในล้านเท่านั้นที่ไก่หลากสีอีกตัวจะโผล่ออกมา ไข่ส่วนใหญ่ไม่ออกลูกเป็นตัวและเหมาะสำหรับรับประทานเท่านั้น

“ไก่สีรุ้งเหรอ? องค์ชายที่สี่ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากเพราะเรื่องแค่นี้งั้นหรือ” ยุ่นหลิงกล่าวอย่างขบขัน เขาเหลือบไปเห็นโต๊ะอื่นๆ และเห็นว่าอาหารที่เสิร์ฟก็คุณภาพเยี่ยมเช่นกัน แม้ว่ามันจะเทียบกับไก่สีรุ้งไม่ได้ แต่ก็ยังคงเป็นอาหารชั้นสูงและมีราคาแพง

ยุ่นหลิงพูดถูก อง์ชายที่สี่เกือบจะถังแตกเพราะเหตุนี้ เขาใช้เงินไปมากเพื่อแสดงความมั่งคั่งและอำนาจของเขา องค์ชายที่สี่ต้องการสร้างความเป็นมิตรและดึงดูดอัจฉริยะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ผ่านงานเลี้ยงนี้

ยังมีอาหารที่ยังไม่ได้เปิดอยู่บนโต๊ะของพวกเขา มกุฎราชกุมารยกอีกฝาหนึ่งออกจากถาด

“อันนี้ดูเหมือน ... ข้าคิดว่ามันคือปลาแซลมอนหิมะ ปลาแซลมอนชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในธารแข็งในทะเลขั้วโลก ไม่แพง แต่ก็ไม่ถูกด้วย”

“อันนี้เป็นเนื้ออสูรหมูเกรด A เนื้ออสรูหมู มีราคาค่อนข้างถูกใครๆ ก็ซื้อได้ แต่เนื้อเกรด A นั้นค่อนข้างหามาทานได้ยากมาก” ยู่ฉานกล่าวเมื่อเห็นเนื้ออสูรหมูในถาดสุดท้าย

หยื่อตงเหม่ยและองครักษ์ของมกุฎราชกุมารจ้องมองพวกเขาอย่างนิ่งเงียบขณะที่พวกเขาทุกคนคิดว่า ‘ทั้งสามคนเป็นอะไรกัน? ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารงั้นรึ? ’

“ยังไงก็ตามพวกเราขอกินก่อนล่ะนะ” ยุ่นหลิงพูดขณะที่เขาคว้าส้อมและมีด เขาหั่นเนื้อไก่ส่วนหนึ่งแล้ววางไว้บนจานของยุ่นเซี่ย “เซี่ยเซี่ยเจ้าควรกินนี่นะ ไก่สีรุ้งไม่เพียงแค่อร่อยเท่านั้น แต่ยังดีต่อพื้นฐานร่างกายของเจ้าด้วย สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์เมื่อเจ้าเริ่มฝึกตนในอนาคต”

“อื้ม” ยุ่นเซี่ยพยักหน้าให้พ่อของเธอ

“กินปลาแซลมอนหิมะพวกนี้ด้วย รสชาติของมันอาจด้อยกว่าไก่หลากสี แต่ก็ยังคงเป็นอาหารอันโอชะชั้นสูง เจ้าเป็นลูกสาวของตระกูลยุ่นดังนั้นเจ้สต้องรู้วิธีชื่นชมอาหารที่ดีจากอาหารที่ไม่ดี สำหรับเนื้ออสูรหมูนั้นค่อนข้างหนักเกินไปสำหรับเจ้า เจ้าจึงไม่ควรกินมัน เนื่องจากนี่มันกลางคืนแล้วเจ้าจะได้นอนเร็วๆ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะไม่กินมันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะเจ้ากำลังจะกินไก่สีรุ้งและปลาแซลมอนหิมะอยู่แล้ว”

“ยุ่นเซี่ยเข้าใจท่านพ่อ” ยุ่นเซี่ยพูดตามยุ่นหลิงพูดทุกคำ

ยุ่นหลิงยิ้มให้เธอด้วยความขอบคุณ จากนั้นเขาสังเกตเห็นยู่ฉาน และมกุฎราชกุมารมองเขาอย่างแปลกประหลาด

"อะไรรึ?" ยุ่นหลิงถามขมวดคิ้ว

“ไม่มีอะไรหรอก” มกุฎราชกุมารตอบและเริ่มรับประทานอาหารโดยไม่สนใจยุ่นหลิง

ในทางกลับกัน ยู่ฉานหัวเราะเบา ๆ

“ไม่มีอะไรหรอกยุ่นหลิง มันดูแปลกน่ะที่เจ้าทำตัวเป็นพ่อฮ่าๆ”

“เจ้าไม่ใช่คนแรกที่บอกกับข้าแบบนั้น” ยุ่นหลิงพูดโดยนึกถึงยุ่นหยี่ที่พูดแบบเดียวกันก่อนหน้านี้ “และข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่น่าจะใช่คนสุดท้ายด้วย”

จู่ๆยู่ฉานก็หัวเราะออกมา “มันไม่ใช่ความรู้สึก แต่มันเป็นความจริง จะมีอีกหลายคนที่จะต้องประหลาดใจเมื่อเห็นเจ้าทำตัวแบบนี้ในอนาคต”

ยุ่นหลิงปล่อยคำเย้ยหยัน เขาไม่สนใจ ยู่ฉานในขณะที่เขาเริ่มรับประทานอาหารหลังจากเสิร์ฟอาหารในจานของเขาเอง

อ่านก่อนใครได้ที่ FB 812 Novel

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด