ตอนที่แล้วบทที่ 82 สัตว์อสูรสายเลือดโบราณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 84 ถางเสี่ยวหลิน

บทที่ 83 คำใบ้ของป้ายไม้


บทที่ 83 คำใบ้ของป้ายไม้

“ถ้ำนี่มีความลับซุกซ้อนสิ่งใดไว้กัน?”

กุนไท่เหินทะยานร่างผ่านลำธารไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มตัดสินใจเหาะแทนการเดินเพื่อความเร็วในการเดินทาง เขาจะต้องไปจักรวรรดิกังภายในเดือนนี้เท่านั้นจึงมิอาจล่าช้าได้อีกต่อไป

ขณะที่พุ่งทะยานผ่านฟ้าออกไปนั้นกลิ่นอายพิเศษก็ถูกปลดปล่อยออกมา สัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ใกล้ๆต่างทิ้งตัวปิดเปลือกตาหลับลงอย่างง่ายดาย นั่นเพราะพวกมันไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันมีแค่ปรมาจารย์ยุทธ์เท่านั้นถึงทำให้เขาลำบากได้!

เบื้องหน้าของกุนไท่ปรากฏทางที่แตกออกไปอีกสิบทางพร้อมกับมีป้ายไม้แผ่นใหญ่ปักเอาไว้บนพื้น ข้อความบนป้ายเขียนเอาไว้ว่า ‘เส้นทางทั้งสิบ มี 7 ทางรอด 3 ทางสิ้น’

กุนไท่ครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ของเส้นทางที่ถูกต้อง หรือมันจะหมายถึงว่า มีเส้นทาง 7 ทางที่เราต้องเหลือจาก 10 แล้วเราจะรอด? หากดวงไม่ดีไปเลือกอีก 3 ทางเราจะตาย?

แต่แล้วชายหนุ่มก็คิดขึ้นมาได้ว่า “ไม่ใช่! 7 ทางรอด 3 ทางสิ้น! หากเรารวมมันเป็นเส้นทางเดียวคือเส้นทางที่สิบ เกิดและตายเป็นเรื่องธรรมดา! การเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งถือเป็นการฝืนลิขิตฟ้า คนเลือกที่จะตายจะต้องถือว่าฆ่าตัวตายแล้วเป็นบาป ส่วนผู้ที่เลือกรอดถือว่าไม่ให้เกียรติฟ้า อาจถูกสวรรค์ลงโทษได้! เพราะฉะนั้นการเอา 7 และ 3 มารวมกันเป็น 10 ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เส้นทางที่ 10 หรือก็คือเส้นทางขวาสุด! คำใบ้ของป้ายน่าจะเขียนขึ้นโดยผู้ที่ยิ่งใหญ่เป็นแน่ ถึงได้เขียนคำได้ลึกซึ้งถึงเพียงนี้!”

กุนไท่ไม่รอช้ารีบไปเส้นทางที่สิบทันที เมื่อผ่านเส้นทางนั้นไปแล้วเส้นทางที่เหลือนั้นกลับระเบิดขึ้น มันทำให้เขาทอดถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อตนเลือกเส้นทางถูกต้องแล้ว

การเลือกในครั้งนี้กุนไท่ก็ไม่ได้มั่นใจมากนัก เพราะคำบอกกล่าวในป้ายไม้มันค่อนข้างคลุมเครือ การจะตีความมันได้นั้นนับว่ามิใช่เรื่องง่าย

เส้นทางที่เข้ามาทั้งซ้ายและขวาล้วนเต็มไปด้วยรูปปั้นนักรบโบราณสีขาวทั้งสิ้น ดูจากอายุของพวกมันคาดว่าน่าจะยังใหม่อยู่ มันอาจจะถูกพึ่งร้างขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้

กุนไท่สัมผัสได้ว่ารูปปั้นเหล่านี้เป็นรูปปั้นที่สร้างขึ้นจากปรมาจารย์นักแกะสลัก! ที่รูปปั้นสิ่งของขึ้นมาแล้วใช้ค่ายกลติดตั้งรวมถึงอักขระที่เขียนลงไปให้มันทำงานได้ มันเรียกได้ว่าเป็นสายย่อยของปรมาจารย์ค่ายกล แต่มันมีความลึกลับเป็นอย่างมาก และต้องใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ค่อนข้างสูง!

ในยามนี้กุนไท่เริ่มคาดเดาตัวตนของผู้สร้างถ้ำนี้ไว้แล้ว อาจจะเป็นปรมาจารย์แกะสลักที่กำลังค้นคว้าและฝึกฝนภายในถ้ำนี้!

ทันใดนั้นรูปปั้นเริ่มขยับตามกลไกของพวกมันที่ถูกกำหนดไว้ รูปปั้นนักรบยืนขึ้นมันมีความสูงสองเมตร ถือดาบไว้ข้างขวาส่วนข้างซ้ายถือโล่ไว้ ดวงตาของมันเปล่งแสงสีฟ้าวูบหนึ่งก่อนจะฟันดาบในมือของมันผ่าลงมาที่กุนไท่อย่างโหดเหี้ยม

ดาบนั้นผ่าร่างของกุนไท่ออกไปสองซีก แต่แล้วร่างกายของชายหนุ่มก็หลอมรวมกันดั่งเดิม ร่างที่หลอมกับกลิ่นอายของกุนไท่นั้นทำลายได้ยากมาก อีกฝ่ายต้องมีพลังที่มากกว่ากุนไท่พอสมควร

ปัง!

หมัดของกุนไท่พุ่งเข้าใส่ส่วนหัวของรูปปั้นจนระเบิดออกมา พร้อมกับใช้พลังมายาทำให้ร่างกายหายไป แล้วปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่งที่ข้างหลังพวกมัน แรงหมัดอีกหมัดหนึ่งทำให้อากาศโดยรอบบังเกิดเสียงลมที่น่าหวาดหวั่น ทำให้รูปปั้นนักรบแหลกไปหลายตัวด้วยพลังหมัดเพียงหมัดเดียวเท่านั้น!

ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าคนระดับเดียวกันนั้น ทำให้รูปปั่นที่มีพลังแค่ผู้เยี่ยมยุทธ์ขั้นกลางนั้นไม่สามารถต้านทานได้!

ตูม!

พลังปราณของกุนไท่ระเบิดออกมา ลูกเตะของชายหนุ่มนั้นแหวกอากาศออกไป ทำให้พื้นดินระเบิดออกมา ฝุ่นคละคลุ้งกระจายตัวในอากาศ เศษซากหินกระจายอยู่ทั่วพื้น รูปปั่นหินทั้งยี่สิบเอ็ดตนนั้นต่างพังทลายหมด! เหตุที่กุนไท่ต้องใช้ร่างกายต่อสู้นั้นเป็นเพราะรูปปั่นพวกนี้ไม่มีชีวิต พลังมายาไม่มีผลกับพวกมันเป็นเหตุให้ต้องใช้ร่างกายเข้าปะทะกับพวกมันเท่านั้น!

ข้างหน้ามีบันไดทอดยาวลงไปจรดสายตาแล้วถูกแทนที่ด้วยความมืด ด้วยความเร็วของกุนไท่เพียงพริบตาเดียวก็ได้มาถึงประตูเหล็กบานใหญ่ที่ปิดกั้นข้างหน้าเอาไว้ กุนไท่เข้าไปในประตูบานนั้นได้อย่างง่ายดายไม่ต่างจากภูติผี

ภายในนั้นมันดูลึกลับ มีรูปปั้นที่มีลักษณะแปลกประหลาดมากมาย รวมถึงเศษซากของรูปปั่นอย่าง ส่วนแขน ขา และหัว มันเป็นพวกรูปปั้นที่ล้มเหลวแล้วใช้การไม่ได้!

“นั่นใคร!?”

ปรากฏร่างของหญิงวัยกลางคน นางม้วนผมสีดำของนางด้วยปิ่นปักผมอย่างสวยงาม แม้นางจะอายุมากแล้วแต่ยังคงความเยาว์เหมือนหญิงสาวอายุสามสิบปี อาภรณ์สีดำที่นางสวมใส่ดูเรียบง่ายทั่วไปไม่มีสิ่งใดพิเศษ แต่พลังปราณที่แผ่ออกมานั้นคือขอบเขตปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นสูงสุด!

“ผู้เยาว์นาม กุนไท่!” กุนไท่แสดงความเคารพออกมาพลางโค้งคำนับ

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่? ที่นี่คือที่สำหรับเอาไว้ทำการค้นคว้าของข้า!” นางกล่าวถามด้วยความระมัดระวังด้วยสีหน้าเคร่งขรึม กุนไท่ก็ได้เริ่มเล่าเรื่องให้อีกฝ่ายฟังทั้งหมดโดยไม่คิดปิดบัง

“เป็นเช่นนี้นี่เอง เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง! ขออภัยเจ้าด้วยหนุ่มน้อยที่ทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดขึ้น! และก็ข้ามีชื่อว่า ถางเสี่ยวหลิน!” ถางเสี่ยวหลินกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ผู้อาวุโสถาง! เหตุใดท่านถึงได้มาในที่ห่างไกลเช่นนี้ได้ ท่านมาจากที่ใดกันแน่?”

กุนไท่ถามขึ้นด้วยสงสัย ด้วยระดับบ่มเพาะของอีกฝ่ายนั้น รวมถึงการที่นางเป็นถึงปรมาจารย์แกะสลัก  เหตุใดนางถึงได้มาอยู่ที่แห่งนี้ และไม่ได้ไปอยู่กับพวกขุมกำลังใหญ่พวกนั้น!

“ข้าถูกขับไล่ออกมา และถูกตามล่าอีกด้วย!” นางตอบกลับไปโดยไม่ปิดบัง เพราะนางรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าของนางนั้น ไม่ใช่คนเลวร้ายและความเป็นมิตรที่อีกฝ่ายเผยออกมามันช่าง

บริสุทธิ์จริงใจยิ่งนัก!

“แล้วขุมกำลังไหนเป็นผู้ที่ไล่ล่าท่านกัน!?”

กุนไท่คิดว่าคำพูดของนางนั้นสมเหตุสมผล เพราะไม่มีใครที่มีความสามารถของขนาดนี้จะมาอยู่ในที่แห่งนี้อย่างไม่มีเหตุผล รวมถึงตอนที่นางบอกกล่าวออกมานั้น แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและเคียดแค้น ใบหน้าที่โกธรเคืองนั้นก็ได้วาบผ่านบนใบหน้าของนางครู่หนึ่งอย่างมิได้ตั้งใจ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด