ตอนที่แล้วตอนที่ 79 ฟอร์ด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 81 ความตายมันง่ายไป

ตอนที่ 80 แม่มด


ตอนที่ 80 แม่มด

ไนเรลมองไปทางฟอร์ดและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราวกับว่าเข้าใจถึงบางสิ่ง

“งั้นก็แสดงว่าโนแลนเป็นคนแจ้งข่าวกับพวกนายจริง ๆ ด้วยสินะ”

“ใช่แล้วจะทำไม โนแลนมันโง่ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะพูดถูกที่ว่ามีมนุษย์ชั้นสูงระดับสีน้ำตาลเข้าพวกด้วย” ฟอร์ดพูดออกมาและส่งสัญญาณให้ของตนกระจายล้อมไนเรลไว้

“ผิดแล้ว โนแลนนะพูดผิดทุกอย่าง” ไนเรลส่ายหัวพร้อมกับค่อย ๆ ดึงหน้ากากออก “เพราะที่จริงแล้วฉันนะเป็นระดับสีเขียวเหนือกว่าสีน้ำตาลไปหนึ่งขั้น”

ฟอร์ดมองไปที่คริสตัลวิวัฒนาการที่อยู่บนหน้าผากของไนเรลด้วยความตกใจ มัน...เป็นไปได้อย่างไร? นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในใจของเขาเท่านั้น ฟอร์ดที่อยู่ในระดับสีน้ำตาลเขาก็พอที่จะสัมผัสได้ถึงพลังของขึ้นที่เหนือขึ้นไปอีกหนึ่งว่ามันร้ายกาจแค่ไหน เพราะลำพังแค่ระดับสีน้ำตาลแบบเขากสามารถจัดการกับระดับสีเท่าได้นับสิบ งั้นก็หมายความว่าระดับสีเขียวก็ต้องจัดการระดับสีน้ำตาลอย่างพวกเขาได้นับสิบเช่นกัน

‘ถอย ต้องใช้ระเบิดเท่านั้น’ ฟอร์ดได้แต่คิด แต่ไนเรลนั้นได้เริ่มโจมตีแล้ว เขาใช้ความสามารถ [คำบัญชาเผ่าพันธุ์ E] ของตนกับมนุษย์ชั้นสูงคนหนึ่งในทันที

“ฆ่าตัวตายซะ”

มนุษย์ชั้นสูงสีเทาที่มีความสามารถในการกลายร่างอย่างไม่ทันจะได้เปลี่ยนร่างก็ใช้ปืนยิงตัวเองตายทันที

มนุษย์ชั้นสูงคนอื่น ๆ ที่เห็นแบบนั้นก็หน้าซีดไปตาม ๆ กัน ไนเรงเองก็จัดการเก็บคนต่อ ๆ ไปทันที

“ฆ่าตัวตายซะ”

“ไม่ ๆ ร่างกายมันไม่ยอมฟังคำสั่ง ช่วยด้วย...” ปัง!

มนุษย์ชั้นสูงหลายคนรีบถอยหนีออกมาในทันที พวกเขาพยายามที่จะอุดหูของตัวเองไว้เพื่อที่จะไม่ฟังเสียงของไนเรล

ฟอร์ดเองก็รู้แล้วว่าความสามารถที่ไนเรลใช้นั้นมาจากเสียงที่สั่งให้พวกเขาทำตาม ดังนั้นเขาจึงให้ความสามารถ [สายลม A] ของตนสร้างเป็นกำแพงอากาศปิดกั้นเสียงของไนเรลและพามนุษย์ชั้นสูงคนอื่น ๆ มาหลบด้านใน

“แล้วอย่างไรถึงจะเป็นระดับสีเขียว แต่ความสามารถมาจากการสั่งคนผ่านเสียง ถ้าควบคุมพวกเราไม่ได้มันก็ไม่น่ากลัวเลยสักนิด”

“คลัซ แม็กและ นิกใช้การโจมตีระยะไกล ฆ่ามันซะ ส่วนคนอื่น ๆ ค่อยจับตาดูมันไว้เมื่อมีโอกาสก็ค่อยโจมตี” ฟอร์ดเริ่มรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการจัดการกับไนเรล ถึงแม้ระดับพลังไนเรลจะมีมากกว่าแต่ก็ใช่จะไม่หมดถ้าพวกเขาผลัดกันโจมตีพลังของไนเรลจะต้องหมดอย่างแน่นอน หรือไม่เขาอาจจะตายก่อนด้วยซ้ำ

เพราะว่าโดยปกติแล้วร่างกายของคนที่มีความสามารถแบบนี้นั้นจะไม่แข็งแรงมากนัก แต่แล้วฟอร์ดก็เดาบิดอีกครั้ง

“โอ้ น่าสนใจคิดว่ามีกำแพงอากาศแล้วจะป้องกันการโจมตีจากความสามารถ [คำบัญชาเผ่าพันธุ์ E] ได้มันก็ถูกอยู่หรอก แต่ถ้าการโจมตีแบบนี้ละ...” ไนเรลกล่าวจบก็มีของบางอย่างที่อยู่ในเงาค่อย ๆ ลอยออกมามันก็คือ ขวานยักษ์ที่เขายึดมาจากลูกน้ององครักษ์ของเลฟอน

เพียงแค่ขนาดที่ใหญ่และยาวมันก็สูงท่วมหัวของไนเรลแล้ว ฟอร์ดที่เห็นก็ได้แต่กลืนน้ำลาย แต่สิ่งที่เห็นต่อมาคือ ทำให้ฟอร์ดถึงกับเรียกไนเรลว่าเป็นปีศาจเลย นั้นก็เพราะไนเรลที่จับไปที่ขวานด้ามนั้นยกขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อจากนั้นเขาก็เหวี่ยงปะทะเข้ากับกำแพงลมโดยรอบ

บูม!

การเหวี่ยงขวานของไนเรลไม่ต่างจากการวงสวิงของเบสบาลเลย

กำแพงลมถึงกับแต่สลาย มนุษย์ชั้นสูงที่อยู่ภายในกระอักเลือดออกมาอย่างบาดเจ็บสาหัส ตามตัวเกิดรอยแต่กตามผิวหนัง เลือดที่ไหลออกมาราวกับท่อน้ำแตก จนแทบขยับตัวไม่ได้ ส่วนฟอร์ดนั้นที่รับพลังปะทะเข้าไปเต็ม ๆ เขาก็ถึงกะชักสำลักเอาอวัยวะภายในออกมาแน่นิ่งตายไปทันที

ไนเรลมองไปที่ภาพตรงหน้าแล้วก็คิดว่าคงจะใช่แรงจากความสามารถ [พละกำลัง 50 เท่า] มากไปหน่อย เขาจัดการทุบซ้ำไปที่หัวของแต่ละคนในทันทีหลังจากนั้นก็จัดการเก็บกวาดร่างของมนุษย์ชั้นสูงทั้งหมดเพื่อไม่ใช้พวกมันกลายล่างเป็นซอมบี้กลายพันธุ์

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้รับความสามารถอะไรใหม่มา ๆ แต่ไนเรลก็ไม่ได้จนใสจากนั้นเขาก็จัดการฆ่าทุกอย่างที่ขวางหน้าไม่ว่าจะเป็นคนของจีนาสหรือซอมบี้ เพื่อจัดการฝั่งพวกจีนาสไปสู่ความตาย

ไนเรลได้ปลดปล่อยเงาให้ออกมาช่วยฆ่าด้วยเช่นกัน

เมื่อเข้ามาภายในสถานที่ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นโรงนอนเขาก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย กับกลิ่นความคาว เพราะมันเต็มไปด้วยหญิงสาวที่นอนแก้ผ้าหมดสภาพอยู่ภายในห้อง บางคนนั้นยังมีคราบขาว ๆ อยู่บนตัวในแววตาของพวกเธอหลาย ๆ คนมันว่างเปล่าเหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว ขณะที่บางคนนั้นก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เขาใช้ความสามารถตรวจจับความร้อนไปรอบ ๆ แล้วก็เจอเข้ากับชายขี้เมาจีนาสคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเมาไม่ได้สติไม่รู้ว่าข้างนอกนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย

ในขณะที่มันกำลังเสพสุมอยู่บนร่างของหญิงสาวในขณะที่เธอก็ร้องไห้ออกมาทั้งน้ำตา

ไนเรลที่เห็นแบบนั้นก็ถีบประตูเข้าไปซึ่งนั้นก็สร้างความไม่พอใจให้กับชายคนนั้นอย่างมาก มันหันมาด่าไนเรลขณะที่เอวก็ยังไม่หยุดขยับ “เฮ้ย ไอ้น้อง....เอ็งเป็นบ้าอะไรวะ รอตามคิวสิ”

ไนเรลไม่รอช้าแตะเข้าไปที่ศีรษะของชายคนนั้นจนมันกระเด็นหัวกระแทกกับกำแพงนอนหายใจรวยรินพะงาบ ๆ อยู่ด้านข้าง

หญิงสาวที่ถูกข่มขืนอยู่เมื่อรู้ว่ามีคนมาช่วยเธอก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่ได้สนใจว่าเธอกำลังแก้ผ้าอยู่ต่อหน้าไนเรล

แต่แน่นอนเมื่อมองไปที่ชายที่ข่มขื่นเธอซึ่งกำลังจะตาย เธอก็เหมือนจะทนไม่ไหว คว้าที่เขี่ยบุหรี่ทุบไปที่ศีรษะของชายคนนั้นอย่างไม่ปราณี เธอคอมไปที่ร่างของชายคนนั้นคล้ายกับที่มันทำกับเธอเมื่อสักครู่จากนั้นก็ทุบไปไม่หยุดเลือดที่เปรอะเปื้อนไปทั้งร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธอมันเป็นเหมือนกับน้ำเย็นที่ลาดดับความบ้าคลั่งของเธอ

“ฮือ ๆ กระอึก...กระซิก” มือของเธอที่สั่นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลและมือที่ถือที่เขี่ยบุหรี่ที่มีเศษเนื้อและเส้นผมติดอยู่ ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน

ตัวของไนเรลที่เห็นเธอก็รู้สึกถึงภาพที่ซ้อนทับกับตัวเอง

ไนเรลจับไปที่มือของเธอเขาเอาที่เขี่ยบุหรี่โยนมันทั้งไปด้านข้างจากนั้นก็ใช้ผ้าที่อยู่แถวนั้นคุมร่างของเธอไว้และกล่าว “ถ้าเธออย่างตายก็ปืนนี่ซะ แต่ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ก็ตามฉันมา”

ไนเรลหยิบไปที่ปืนสั้นที่อยู่กับซองปืนที่กางเกงที่ชายคนนั้นถอดไว้ส่งมันให้กับเธอ

หญิงจากมองไปที่ปืนที่อยู่ในมือน้ำตาเธอค่อย ๆ ไหลออกมา มือที่สั่นเทาค่อย ๆ ยกปืนขึ้นมาจ่อไปที่ศีรษะของตัวเองอย่างช้า ๆ เธอหลับตาลงพร้อมกับที่เหนี่ยวไกปืน ในใจเธอได้แต่คิดว่าในที่สุดก็ได้หลุดพ้นจากเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว

แป็ก!

แต่น่าแปลกเพราะมันกับเป็นปืนที่ไม่มีกระสุน เธอมองไปที่ไนเรลด้วยสายตาที่งุนงงว่าเขาต้องการอะไรถึงให้ปืนที่ไม่มีกระสุนกับเธอ

ไนเรลโยนแม็คกระซีนที่เขาถอดออกมาให้กับเธอและกล่าวอออกมา “ชีวิตก่อนหน้าของเธอตายไปแล้วเมื่อตอนที่เธอลั่นไกครั้งแรก ดังนั้นตอนนี้นี่คือชีวิตที่สองเลือกเอาว่าจะลั่นไกฆ่าตัวเองอีกครั้งหรือไม่”

หลังจากนั้นเขาก็เดินออกมา ไนเรลก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวที่หยิบแม็คกระซีนขึ้นมา พร้อมกับเสียงของปืนที่ยิงออกมาอีกหลายนัด แต่เธอไม่ได้ยิงตัวเอง แต่เลือกที่จะยิงร่างของชายที่นอนตายอยู่จนกระสุนหมดจากนั้นก็เดินออกมาจากในห้องพร้อมกับผ้าที่คุมร่างกายอยู่

ไม่มได้มีแค่เธอเท่านั้นที่ไนเรลให้โอกาสแต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะตาย มีแค่ไม่กี่คนที่ยอมเดินตามไนเรลออกมา ซึ่งเขาก็ยอมรับการตัดสินใจของพวกเธอ

บางครั้งเขาก็ไม่มีสิทธิไปตัดสินบังคับใครให้อยู่ต่อ แต่เขาทำได้เพียงยืนโอกาสให้เท่านั้น เพราะการที่บังคับ คนเหล่านี้มันก็เป็นเหมือนกับการที่ให้เขาอยู่อย่างตายทั้งเป็น

หญิงสาว 9 คนเดินตามไนเรลมาโดยมีสาวคนแรกที่เขาช่วยไว้หลังจากถามก็ทราบชื่อว่าเธอชื่อ ชารอน ซึ่งไนเรลได้ยินชื่อก็ยิ้มออกมาทันที เพราะเขารู้สึกคุ้นหน้าของเธอตั้งแต่แรกแล้วด้วย

ชารอน หรือแม่มด เป็นฉายาของหญิงสาวผู้วิจัยตัวยามากมาย ไนเรลพอจะจำประวัติคร่าวๆ ของเธอได้ตามที่มีการพูดถึงกันซึ่งมาจากปากของเธอเองในชีวิตที่แล้วนั้นก็คือ เธอถูกขังและรุมข่มขื่นอยู่ในค่ายของจีนาส แต่ภายหลังได้หนีออกมาได้พร้อมกับชายอีกคน ซึ่งเขาก็ได้เธอช่วยชีวิตไว้ และชายคนนั้นก็คือ ตาเดียว ฟังไม่ผิด ชายคนนั้นเรียกตัวเองว่าตาเดียวไม่รู้ว่ามันคือฉายาหรือชื่อจริงกันแน่ แต่ไนเรลคิดว่าน่าจะเป็นฉายามากกว่า แต่ก็ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของตาเดียว

ตาเดียวคือ เหตุที่คิดว่าเป็นฉายานั้นตามประวัติ เขาฆ่าคนของจีนาสไปจำนวนมากจึงถูกมาทรมาณให้ตายดีกว่าอยู่ โดยควักลูกตาออกไปข้าง และตัดลิ้น แช่อยู่ในบ่อ แต่เขายังไม่ตายเพราะเป็นมนุษย์ชั้นสูง สีเทา

“ถ้าแม่มดอยู่ที่นี่ ตาเดียวก็ต้องอยู่ที่นี่เช่นกัน” เขาพอประติดปะต่อเรื่องได้ว่าทั้งสองหน้าจะหนีจากที่นี่ด้วยกัน ถ้าเขาหาตัวตาเดียวเจอละก็เขาจะต้องให้ชายคนนั้นมาเป็นพวกให้ได้

เพราะตาเดียวคือมนุษย์ชั้นสูงที่ภายหลังได้เลือนไปเป็นมนุษย์ชั้นสูงที่ทรงพลังมาก ๆ จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ เลย แม้แต่ตัวเขาในชีวิตที่แล้วก็ยังไม่สามารถเทียบได้

มีหลายคนบอกว่ายีนของเขาไม่น่าจะอดทนต่อพลังได้ขนาดนั้น แน่เป็นเพราะเขาผ่านการทรมานมามากทำให้สามารถอดทนและก้าวผ่านระดับเหล่านั้นไปได้อย่างเหลือเชื่อ

ไนเรลเชื่อว่าสถานที่ขังตาเดียวนั้นมีไม่กี่ที่ในค่ายแห่งนี้ ถ้าลองมองหายังไงก็ต้องเจอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด