ตอนที่แล้วตอนที่ 8 ทักษะดังคำสาป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10 ส่วนกลาง

ตอนที่ 9 ลูกชาย


เมื่อกินแกงกะหรี่จานยักษ์เสร็จ จางเสี่ยวออกหัวเราะอย่างร่าเริง จากนั้นก็ขอเบอร์โทรของร้าน เเล้วกลับบ้านอย่างมีความสุข

ดูเหมือนว่าเมืองที่จางเสี่ยวอาศัยอยู่นั้นมีชื่อเรียกว่าเมือง B  เป็นเมืองที่ทันสมัยไฮเทคและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เมื่อเทียบกับเมืองหลวงอันเป็นที่ตั้งของกองทัพแล้ว นี้ถือว่าด้อยกว่าเพียงแค่นิดเดียว

จางเสี่ยวกำลังจะเดินทางกลับบ้าน แต่ด้วยความไม่รีบร้อน เธอก็เลยตัดสินใจขึ้นรถประจำทางไปยังบ้านของร่างเดิมของจางเสี่ยว บ้านหลังนั้นก็อยู่ใกล้ๆกับศาลารอรถประจำทางพอดี จากนั้นค่อยเดินไปก็ได้

จางเสี่ยวขึ้นไปบนรถประจำทาง ของสาย B1 จากนั้นก็ไปนั่งในที่นั่งที่อยู่ไกลที่สุด

หลังจากนั่งไปได้สักพัก คนบนรถก็หันมามองตามด้วยความแปลกใจ ทำไมผู้คนนั้นถึงมีรูปร่างเหมือน ‘ลูกโป่ง’ เเบบนั้น

มันไม่เหมือนคนอ้วนเเละผิดจากคนป่วยโรคอ้วนโดยสิ้นเชิง เพราะทั้งเส้นผม ดวงตา เเละเเม้กระทั่งขนคิ้ว ทุกอย่างดูหนากว่าที่ควรจะเป็น

ทันใดนั้นบทสนทนาบนรถโดยสารก็เริ่มเกิดขึ้น

“ดูผู้หญิงคนนั้นสิ ทำไมเธอถึงเป็นเเบบนั้น เเพ้อาหารทะเลหรือเปล่า? ดูตาเธอสิ ใกล้จะถลนออกมาจากเบ้าตาเเล้ว”

“ดูผิดหรือเปล่า? เมื่อกี๊ฉันรู้สึกว่า…เธอจะพองน้อยลง”

“อะไรนะ! นั่นคนนะไม่ใช่ลูกโป่งที่จะได้พองเเล้วเเฟ่บ”

“คนสมัยนี้ทำไมถึงได้เป็นโรคประหลาดไปได้นะ? เเปลกจริงๆ”

“ลูก! อย่าไปเข้าใกล้ เอาหน้ากากขึ้นมา บางทีเธออาจจะติดโรคระบาดที่ไหนสักที่มา ทำไมหมอเมืองนี้ไม่เข้มงวดเลยนะ”

จางเสี่ยวไม่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอเพียงแค่มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วชื่นชมบรรยากาศของเมือง B เธอเลยไม่รู้ว่าร่างกายที่บวมของเธอค่อยๆ เเฟ่บลง…เเล้วพละกำลังก็ค่อยๆกลับมา รวมถึงสมองก็เริ่มที่จะคิดได้มากขึ้น

ตึกระฟ้าหลายแห่ง สนามเด็กเล่นที่แลจะสดใส ผู้คนแต่งตัวดีเดินกันไปมา จางเสี่ยวก็นึกถึงโลกเดิมของเธอที่เคยอาศัยก่อนยุควันสิ้นโลก

บรรยากาศแทบจะไม่แตกต่างกัน ผู้คนนั้นยังเหมือนเดิม พวกเขาล้วนแต่งตัวดี และมีอนาคตที่สดใสอยู่เสมอ

เธอเองก็เคยเป็นแบบนั้น

จางเสี่ยวนั่งใจลอยโดยที่ไม่สนใจคำก่นด่าของผู้คน จนในที่สุดรถก็มาจอดที่ชานชลาเบื้องหน้าหมู่บ้านที่จางเสี่ยวอยู่

จางเสี่ยวรีบจ่ายเงินและรีบลงจากรถ

เธอเดินไปที่ทางเข้าหมู่บ้าน แล้วจากนั้นก็เดินไปตามถนน โดยอาศัยแผนที่ที่เจ้าของเดิมทิ้งเอาไว้ในหัวสมอง

บ้านของเธอรู้สึกว่าจะอยู่หลังที่ 13 บล็อค A

จางเสี่ยวเดินไปเรื่อยๆ ตามทางที่เธอเดินอยู่นั้นมีผู้คนมากมายเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด จึงมีเด็กๆและมีพ่อแม่ของเด็กๆ กำลังทำกิจกรรมของครอบครัว พวกเขาล้วนใช้พื้นที่ว่างบนถนนในการเล่นเตะบอลหรือไม่ก็วิ่งเล่นไล่จับ

จางเสี่ยวไม่สนใจคำพูดของผู้คนที่กำลังล้อเลียนเธออย่างสนุก เธอเดินหน้าต่อไป เธอรู้ว่าทำไมผู้คนถึงได้คนด่าเธอ แต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะพูดอะไรไปในตอนนี้ เพราะยิ่งเธอพูดมันก็เหมือนกับเธอยอมรับกับคำกล่าวหา อีกอย่างหนึ่งเธอยังไม่รู้ความจริงของเรื่องนี้

เธอไม่รู้อะไรทั้งนั้น

เพราะการรับความทรงจำที่ผิดพลาดทำให้เธอขาดข้อมูลไปบางส่วน และบางส่วนที่ว่านั้นบังเอิญว่ามันคือของสำคัญทั้งนั้นเลย

หลังจากเดินนานกว่า 10 นาที จางเสี่ยวก็มาถึงหน้าบ้านของตัวเอง

บ้านของจางเสี่ยวนั้นมีอยู่ 2 ชั้น เป็นบ้านหลังไม่โตเท่าไหร่ แต่ก็มีสวนหน้าบ้าน สวนหลังบ้าน สระน้ำเล็กๆและสวนดอกไม้อยู่ครบถ้วน

จางเสี่ยวปลดกุญแจที่ประตูรั้วออก จากก็เดินเข้าไปในบ้าน แต่ก่อนที่จางเสี่ยวจะเดินเข้าบ้านไปนั้นเอง เธอก็เหลือบไปเห็นกระดาษใบนึงแปะไว้อยู่ที่หน้ารั้ว

เธอหยิบมันเธอมาอ่าน ในจดหมายนั้นเขียนว่า หมายศาล

จางเสี่ยวนึกครู่หนึ่งว่าอะไรคือหมายศาล ความทรงจำของร่างเดิมหมายศาลนั้นคือจดหมายที่ออกโดยหน่วยงานราชการที่ขึ้นตรงต่อกองทัพ

และจะออกก็ต่อเมื่อมีเรื่อง ไม่มีทางออกพร่ำเพรื่อเด็ดขาด

แสดงว่าเป็นเรื่องสำคัญจางเสี่ยวค่อยๆอ่านอย่างใจเย็น

‘เรียนคุณจางเสี่ยว ผู้เป็นมารดาของเด็กชาย จูย่ง ได้ทอดทิ้งบุตรผู้เป็นสายเลือดโดยตรง พฤติกรรมถือว่ามีความผิด ดังนั้นแล้วจะมีการปรับเงินจำนวน 1 ล้านหยวน เพื่อการหาผู้ปกครองคนใหม่’

‘แต่ถ้าหากคุณไม่อยากเสีย วันนี้ให้รีบติดต่อกลับมาที่สถานีตำรวจและไปขึ้นศาลเพื่อแจ้งขอนำเรื่องเอาลูกกลับไปเลี้ยง กรุณาติดต่อมาให้เร็วที่สุดไม่เช่นนั้นทางเราจะปรับเงินของคุณทันทีและจะส่งลูกของคุณไปอยู่กับผู้ปกครองคนใหม่และตัดสิทธิ์การเลี้ยงดูรวมถึงสิทธิ์การเป็นบุพการีนับตั้งแต่บัดนี้’

จางเสี่ยวลืมไปเสียสนิท เธอคิดแต่เรื่องเงิน เธอไม่คิดเลยว่า คำว่าลูกที่ปรากฎเมื่อตอนช่วงต้นของชีวิตใหม่จะย้อนกลับมาทำร้ายเธอได้รวดเร็วแบบนี้

พูดถึงลูกชายคนนี้! ใช่เเล้ว ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมได้ระบุไว้ว่า…เธอไม่เเน่ใจว่าเด็กเป็นลูกของผู้ชายคนไหน? เเต่เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นคนเเซ่จู เเต่เพราะตอนนั้นจางเสี่ยวได้คบหากับชายที่อ่อนโยนคนหนึ่งเเซ่หาน….ดังนั้นจึงได้ทิ้งลูกไป

เเต่เธอก็ส่งเงินไปบ้างนะ!

ถึงจะขาดส่งมาราวหนึ่ง สอง สาม! ใช่เเค่สามปีเอง!

เขาถึงได้ทิ้งเด็กเพราะเธอไม่ส่งเงินให้…เเบบนี้ล่ะสิ!?

เเต่ทำไมเขาถึง….

จางเสี่ยวไม่อยากนึกอีก เธอปล่อยวางเรื่องผู้ชายไป เเล้วคิดถึงเรื่องเฉพาะไปก่อน อย่างเเรก….ถ้าไม่รับมาก็ปรับเงินเหรอ เธอไม่มีปัญญาหรอก 1 ล้านหยวนเหรอ ในซองนี้มีแค่กี่หมื่นหยวนเอง

จางเสี่ยวหยิบกระดาษมาอ่านอย่างละเอียดเพื่อดูว่าเธอต้องทำอะไรบ้าง เเล้วจะเลี่ยงค่าปรับได้อย่างไร

จากนั้นเมื่อคิดได้เธอก็หยิบกระดาษเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด