ตอนที่แล้วChapter 106:ตื่นตัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 108:กลุ่มผู้ประท้วง

Chapter 107:เข้ารับตำแหน่ง


ในวันโอนหุ้น ชู หยุนเชียง และ จี เซินเจิ้น ต่างก็มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงและผู้จัดการร้านค้าและหัวหน้าแผนกร้านค้าหลักทั้งหมดก็มาเข้าร่วมในวันนี้

“ในตอนแรกฉันคิดว่า บริษัท หลัวฝาง จะดำเนินงานภายใต้ ฉางชาน พาวิลเลี่ยน ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะได้เจ้านายใหม่เร็วขนาดนี้”

“ใช่ ฉันได้ยินมาว่าเจ้านายคนใหม่ของเราเป็นเด็กในวัย 20 กว่าปี เท่านั้นเอง”

"มันจบแล้ว หลัวฝาง มันจบลงแล้ว หากปราศจากการปกป้องจาก ฉางชาน พาวิลเลี่ยน แล้ว หลัวฝาง ของเราก็คงจะถูก taste buds กลืนกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกแน่ๆ"

ผู้จัดการพากันคุยซุบซิบกัน ปัจจุบัน บริษัท หลัวฝาง นั้นไม่มีทุนสำหรับการต่อสู้กับ 'Taste Buds' อย่างแน่นอน ตอนนี้พวกเขาไม่ได้มีกำลังที่เท่าเทียมกัน และตอนนี้เมื่อพวกเขาสูญเสียการปกป้องจาก ฉางชาน พาวิลเลี่ยน ธุรกิจของพวกเขาก็คงจะพังทลายลงในไม่ช้าอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ยังคงสงสัยเกี่ยวกับประธานคนใหม่คนนี้มาก เขาได้รับหุ้นทั้งหมดของ หลัวฝาง ไปได้อย่างไร แม้ว่าบริษัท หลัวฝาง ในตอนนี้จะเป็นเหมือนอูฐที่กำลังจะตาย แต่การซื้อมันทั้งหมด ก็ยังคงต้องใช้เงินมากถึงห้าถึงหกร้อยล้านหยวน สำหรับเด็กที่มีเงินมากตอนอายุยังน้อยเช่นนี้ เขาจะต้องเป็นพวก ทายาทรุ่นที่2 ที่ร่ำรวยแน่ๆ

ซุน เจียนอัน ยังคงนิ่งเงียบ เขาจ้องมองไปที่ประตูหน้าของ บริษัท โดยตาไม่กะพริบ เขาได้ยินมาว่าประธานคนใหม่ของพวกเขาชื่อว่าเสี่ยวหลัว ชื่อของของเจ้านายคนใหม่ของเขา นี้มันเป็นเรื่องบังเอิญ หรือ เป็นบุคคลเดียวกันกับน้องชายที่ช่วยเขามาก่อนหรือไม่? ในเวลานี้ ซุน เจียนอัน เขากระตือรือร้นมากกว่าใคร เขาอยากจะรู้จริงๆว่าเจ้านายคนใหม่ของเขาเป็นใครกันแน่

หลังจากนั้นไม่นาน รถโคโรร่า สีขาวก็ค่อยๆ ขับรถผ่านประตูด้านหน้าเข้ามา

เมื่อประตูเปิดออก เสี่ยวหลัว ที่สวมชุดทักซิโด้สีดำ ก็เป็นคนแรกที่ลงมาจากรถ ในตรงกันข้าม จาง ซูซาน เขาค่อนข้างเป็นกันเองเขาใส่ชุดที่ค่อนข้างที่จะธรรมดาๆมา อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นการเปิดตัวของเสี่ยวหลัว เขาจึงไม่ต้องการที่จะบดบังรัศมีเพื่อนของเขา

เสี่ยวหลัว มีดวงตาที่ยิ้มแย้ม จมูกของเขาโด่งได้รูป และที่ตรงมุมปากของเขาก็ยกขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเห็นรูปร่างลักษณะของ เสี่ยวหลัว ปรากฏออกมา พนักงานของ หลัวฝาง ทุกคนที่มาต้อนรับเขาก็รู้สึกตกตะลึง ต่อจากนั้นมันก็มีเสียงอุทานและเสียงกระซิบที่ไม่สามารถควบคุมได้ ดังขึ้นมาท่ามกลางฝูงชน เสียงของพนักงานมันดังเสียงหึ่งๆเหมือนกับเสียงของฝูงผึ้ง

“นั่นคือ คุณเสี่ยวใช่ไหม เขาหล่อมาก!”

“ใบหน้าของเขาทำมาจากอะไรกัน? เขาหล่อกว่าดาราในทีวีซะอีก”

“บรรยากาศที่ตัวเขาปล่อยออกมามันก็ไม่ธรรมดา เขาจะต้องมาจากตระกูลของผู้สูงศักดิ์แน่ๆ”

แก้มของสาวๆ ขึ้นสีเมื่อพวกเธอจ้องมองไปที่ใบหน้าที่หล่อเหลาของเสี่ยวหลัว

“ให้ตายเถอะ! ฉันก็ยอมรับนะว่ารูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาของแก มันเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากที่แกสวมชุดสูท แต่นี่มันเกินจริงไปหรือเปล่า ดูคนพวกนั้นสิ พวกเธอทุกคนมองมาที่แกราวกับว่าพวกเธอเป็นพวกหมาป่าที่กำลังจ้องเหยื่ออย่างไรอย่างนั้น แกต้องระวังตัวเอาไว้นะ อย่าสูญเสียความบริสุทธิ์ของแกไปเป็นอันขาด!”

จาง ซูซาน รู้สึกอิจฉา ในแง่ของรูปลักษณ์ของเขา เขาคิดว่ารูปลักษณ์ของเขากับเสี่ยวหลัวนั้นมันก็พอๆกัน  แต่วันนี้ในขณะที่เขายืนอยู่ข้างๆเสี่ยวหลัว ทุกคนกลับเอาแต่จ้องเขา จาง ซูซาน รู้สึกว่าความมั่นใจของเขากำลังจะพังทลายลง

“อย่าพูดเลย แกไม่พูดมันก็ไม่มีใครคิดว่าแกเป็นใบ้หรอก” เสี่ยวหลัว จ้องมองไปที่เขา จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหา ชู หยุนเชียง และทั้งสองก็จับมือกันไปตามมารยาท

"คุณหลัว การดำเนินงานทั้งหมดต่อจากนี้ไปของ หลัวฝาง จะเป็นของคุณ ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไรก็มาพูดคุยกับฉันได้เลยโดยตรง” ชู หยุนเชียง พูด เขาให้ความสำคัญกับเสี่ยวหลัวเป็นอย่างมาก

“แน่นอน” เสี่ยวหลัว ตอบอย่างสุภาพ

ในขณะนั้นเอง ก็ชายวัยกลางคนที่ดูสง่างาม เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม เขายื่นมือไปที่เสี่ยวหลัว พร้อมกับพูดว่า“สวัสดีคุณเสี่ยว ฉันชื่อ สวี่ กว่างซ่ง ในขณะที่ คุณฝาง ออกไป ฉันก็เป็นผู้ที่ควบคุมดูแลทุกอย่างที่บริษัท หลัวฝาง ”

“สวัสดีครับ คุณสวี่!”

เสี่ยวหลัว จับมือกับ สวี่ กว่างซ่ง ด้วยรอยยิ้มที่สุภาพ ก่อนมาที่ บริษัท หลัวฝาง เสี่ยวหลัว ได้ตรวจดูรายชื่อของผู้บริหารระดับสูง มาทั้งหมดแล้ว เขารู้ว่าชายที่อ้วนท้วมและสวมแว่นตากรอบสีทองคนนี้ เป็นรองผู้จัดการของ บริษัท

"คุณเสี่ยว ให้ฉันแนะนำคุณกับคนอื่นๆเอง "

สวี่ กว่างซ่ง เขาไม่พลาดโอกาสในการแสดงความสามารถต่อหน้าเสี่ยวหลัว เขาชี้ไปที่ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ อายุของเธอน่าจะราวๆ 20 กว่าปี "ชื่อของเธอคือ หลี่ จื่อเมิ่ง และเธอก็เป็นก็หัวหน้าฝ่ายการตลาดของเรา เธอมีเครือข่ายที่กว้างขวางมาก"

“สวัสดีค่ะ คุณเสี่ยว”

หลี่ จื่อเมิ่ง ยื่นมือของเธอออกไปจับมือของเสี่ยวหลัวด้วยรอยยิ้ม

เสี่ยวหลัวพยักหน้าและพูดว่า“สวัสดีครับ”

จากนั้น สวี่ กว่างซ่ง ก็แนะนำบุคคลต่อไป:“นี่คือหัวหน้าแผนกทรัพยากรมนุษย์ หลิน เฉาตง ตามชื่อของเขาเลย ชื่อของเขามันบ่งบอกถึงอารมณ์ที่หุนหันพลันแล่นจริงๆ”

“สวัสดีครับ คุณเสี่ยว”

น้ำเสียงของ หลิน เฉาตง ดูทื่อเล็กน้อยและเขาก็ดูเหมือนว่าเขาไม่อยากที่จะจับมือกับเสี่ยวหลัว

เสี่ยวหลัว เขายังคงสงบอยู่ เขาตอบกลับอย่างสุภาพไปว่า“สวัสดีครับ”

จากนั้น สวี่ กว่างซ่ง ก็ไปหาคนต่อไป“นี่คือ…”

“ฉันพูดเอง!” ผู้หญิงอายุประมาณ 20 ปี พูดโพล่งขึ้นมา

เธอมีดวงตาที่กลมโต ปากของเรียวเล็ก และแก้มละเอียดอ่อน มันมอบความน่ารักและมีชีวิตชีวาให้กับร่างกายของเธอ “ฉันเป็นหัวหน้าแผนกวิจัยและพัฒนา ฉันชื่อ ลั่วฉี สวัสดีค่ะหน้าหน้าโหญ่” ทันทีที่เธอพูดแนะนำตัวเสร็จ เธอก็ทักทายเสี่ยวหลัวในทันที

เสี่ยวหลัวตอบกลับในทันทีว่า“แค่เรียกฉันว่า คุณเสี่ยว ก็พอ”

"รับทราบค่ะ หัวหน้าใหญ่!" ลั่วฉี ตอบพร้อมกับยิ้มแย้มแจ่มใส

เสี่ยวหลัวไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องให้ดี แต่อย่างไรก็ตาม ลั่วฉี ผู้ที่ซึ่งมีความกระตือรือร้นในการนำเสนอตัวเอง เธอก็ได้สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งอยู่ในใจของเขาแล้ว

“อะแฮ่ม จริงจังหน่อย” สวี่ กว่างซ่ง ไอแล้วยิ้ม พร้อมกับแนะนำชายร่างใหญ่ให้กับเสี่ยวหลัวต่อ "คุณเสี่ยว คนนี้คือหัวหน้าของโรงงานแปรรูปขนมปังของเรา จาง ตงไห่ เขาเป็นคนซื่อสัตย์และมีความทุ่มเท ต่อบริษัท ของเราเป็นอย่างมาก”

“สวัสดีครับ คุณเสี่ยว ฉันได้ยินชื่อของคุณมานานแล้ว ในที่สุดเมื่อฉันได้พบกับคุณในวันนี้ ฉันก็คิดไม่ผิดจริงๆ คุณเป็นคนที่พิเศษและมีความสามารถอย่างแท้จริง!”

จาง ตงไห่ จับมือของเสี่ยวหลัว ด้วยมือทั้งสองข้างของเขาอย่างแน่น ที่บนใบหน้าของเขามันแสดงถึงความตื่นเต้นและความกระตือรือร้นอยู่

เสี่ยวหลัว ยกคิ้วขึ้น เขาคิดว่าการประจบสอพลอมันมีอยู่ทุกที่ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดอะไรมาก  แต่เขาก็ไม่ได้โด่งดังถึงขนาดที่ว่า ผู้ชายคนนี้จะมีโอกาสได้ยินชื่อของเขา คำพูดเหล่านี้มันเป็นคำพูดที่เกินจริงมาก

อย่างไรก็ตามเสี่ยวหลัว ก็ยังคงยิ้มแล้วตอบว่า“สวัสดีครับ”

ด้วยการแนะนำของ สวี่ กว่างซ่ง มันทำให้ เสี่ยวหลัว ได้ทำความรู้จักกับเจ้าหน้าและหัวหน้าแผนกต่างๆของ หลัวฝาง ทีละคน หลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็ไปที่ห้องประชุมของ หลัวฝาง เพื่อเริ่มโอนหุ้นอย่างเป็นทางการ

"พระเจ้า! มันเป็นเขาจริงๆ!"

ในใจของ ซุน เจียนอัน ตอนนี้นั้นมันว่างเปล่าไปแล้ว เขาตกใจมากจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว ใครจะไปคิดว่าผู้ชายที่ช่วยชีวิตของเขาและหลานสาวในวันนั้น ตอนนี้เขาจะกลายมาเป็นประธานคนใหม่ของ บริษัท  นี่มันน่าทึ่งเกินไปแล้ว มันไม่น่าเชื่อเลย ซุน เจียนอัน คิดว่าตอนนี้เขากำลังฝันอยู่

“การโอนหุ้นเสร็จสมบูรณ์ ตอนนี้พวกเรา ขอให้คุณเสี่ยว กล่าวอะไรกับพวกเราสักหน่อย”ปฏิคมกล่าวพร้อมรอยยิ้มกว้างขณะที่ยื่นไมโครโฟนไปให้กับเสี่ยวหลัว

เสี่ยวหลัวหยิบไมโครโฟนมาแล้วลุกขึ้นยืน พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า“ผมไม่มีคำพูดะไรที่จะพูดกับพวกคุณมากนัก พวกคุณทำงานกันได้อย่างเต็มที่!  และอย่าละทิ้งความคิดที่สร้างสรรค์ของพวกคุณ ผมจะสนับสนุนความคิดของพวกคุณเอง พวกเรามาพยายามไปด้วยกันเถอะ!”

เมื่อพูดเสร็จเสี่ยวหลัวก็นั่งลง

เสี่ยวหลัว นั้นแตกต่างจากประธานคนอื่นโดยสิ้นเชิง ใครๆก็คงจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงเพื่อพูดในสถานการณ์เช่นนี้ แต่เสี่ยวหลัวเขากับพูดแถลงการณ์เพียงสั้นๆเท่านั้น ความกะทัดรัดนี้ มันทำให้ผู้คนที่เตรียมตัวที่จะฟังนานๆ รู้สึกตกใจอยู่นิดหน่อย

คำพูดของเขาจบลง ก่อนที่ปฏิคมจะทันได้เสิร์ฟน้ำจนเสร็จซะอีก แม้ว่าเธอจะรู้สึกประหลาดใจ แต่เธอก็เดินไปข้างหน้าเพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อกลางด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอและพูดว่า“คำพูดของ คุณเสี่ยว มีค่าดั่งเช่นทองคำ อย่างไรก็ตามเพียงคำพูดไม่กี่คำของเขามันก็มีค่ามาก พวกเราทุกคนต้องไตร่ตรองและเรียนรู้จากสิ่งที่เขาพูด”

ทันใดนั้น มันก็มีคนวิ่งเข้ามาในห้องประชุมด้วยความตื่นตระหนก เขาเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของ สวี่ กว่างซ่ง หลังจากนั้น สวี่ กว่างซ่ง ก็เดินไปหา เสี่ยวหลัว แล้วพูดกับเขาว่า“คุณเสี่ยวพนักงานในโรงงานทั้งหมดของเรา ตอนนี้พวกเขากำลังหยุดงานเพื่อประท้วงกันอยู่!”

(ปล.ปฏิคม คือ ผู้ต้อนรับ ผู้รับแขก ผู้ดูแลต้อนรับ)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด