ตอนที่แล้วบทที่ 41 ไม่มีชื่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 43 เผชิญหน้ากับปีศาจระดับสูง

บทที่ 42 ถูกอัญเชิญจากปีศาจ


บทที่ 42 ถูกอัญเชิญจากปีศาจ

เสืออ้วนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อวันเวลาผ่านไปและมีความดุร้ายเพิ่มมากขึ้นจากการล่าในแต่ละครั้ง

อย่างไรก็ตามความอยากรู้อยากเห็นของเสืออ้วนที่ได้มาจากคุณลักษณะอยากรู้อยากเห็น ในตอนที่รอยออกแบบมานั้นทำให้รอยทำอะไรไม่ถูก เพราะหลังจากที่เสืออ้วนสามารถออกล่าด้วยตัวคนเดียวได้เสืออ้วนก็ไม่ชอบฆ่าเหยื่อของมันแต่เลือกที่จะแกล้งพวกมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าแทน

เสืออ้วนจะปล่อยให้เหยื่อวิ่งหนีและชอบที่จะเป็นฝ่ายไล่จับจากด้านหลัง เมื่อเสืออ้วนล้มคู่ต่อสู้ได้แล้วมันจะปล่อยเหยื่อไปอีกครั้งก่อนจะเริ่มเกมไล่จับอีกครั้ง และเมื่อเจ้าเสืออ้วนพบเจอปีศาจหน้าตาแปลกๆและหากมันสนใจแล้วก็จะใช้กรงเล็บที่แหลมคมจับให้เหยื่ออยู่นิ่งๆแล้วใช้ดวงตาทั้งหกของทั้งสามหัวเพื่อสังเกตเหยื่อเสืออ้วนจะฆ่าเหยื่อเมื่อมันเบื่อแล้วเท่านั้น

และเมื่อรอยนำเสืออ้วนออกไปสำรวจด้วยกันมันก็จะวิ่งไปรอบๆและจะกลับมาพร้อมกับของแปลกๆที่ห้อยอยู่ในปากของมันเป็นครั้งคราว ส่วนใหญ่เป็นซากศพปีศาจแม้ว่าจะมีหินรูปร่างแปลกๆหรือเปลือกไข่อยู่บ้าง มันจะเสนอสิ่งที่มันนำกลับมาให้รอยผู้เป็นเจ้านายแล้วมองไปที่รอยและรอรับคำชมด้วยความคาดหวัง

เมื่อใดก็ตามที่เกิดเหตุการณ์นี้รอยก็มักจะหัวเราะแห้งๆทุกครั้ง เจ้าเสืออ้วนมีนิสัยเหมือนสุนัขบ้านไม่มีผิด โชคดีที่รอยยังไม่ได้ปักหลักและเริ่มสร้างบ้านไม่อย่างนั้นเสืออ้วนคงจะฉีกบ้านของเขาลงเหมือนกับหมาฮัสกี้..

ในช่วงที่ผ่านมารอยได้ให้วิญญาณแก่เสืออ้วนเพื่อส่งเสริมการเติบโตของมัน และเก็บส่วนที่เหลือไว้เพื่อทำยาเพิ่มพลังเวทย์ หลังจากที่เขาเพิ่มคำอธิบายแล้วน้ำยาเหล่านี้ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นอย่างมากและวิธีการเพิ่มพลังงานเวทย์มนตร์ของรอยแบบนี้ดีกว่าการกินวิญญาณโดยตรง

ในสองเดือนพลังเวทย์ของรอยเพิ่มขึ้นมาเกือบถึงหนึ่งร้อยหน่วย

เสืออ้วนเกือบจะโตเตมวัยและการเก็บเกี่ยวทั้งหมดที่รอยได้รับจากโลกของแวนเฮลซิ่งก็ถูกใช้ไปจนหมดแล้ว ดังนั้นรอยจึงตั้งใจที่จะออกสำรวจโลกอื่นอีกครั้ง

หลังจากกลับมาจากโลกของแวนเฮลซิ่งรอยก็เข้าใจบางอย่างประตูนรกอาจเชื่อมต่อกับโลกคู่ขนาน แต่อย่างไรก็ตามตัวละครหลักของโลกเหล่านี้ไม่ใช่โลกของตัวละครหลักที่แท้จริงเนื่องจากพวกเขาถูกฆ่าได้ง่ายดายเกินไป

ดังนั้นรอยจึงคาดเดาว่าผู้คนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักเหล่านี้เป็นเพียงตัวละครพิเศษที่ดำเนินชีวิตไปตามเหตุการณ์ปกติของโลกเหล่านี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีตัวตนอีกต่อไปแต่โลกนั้นๆก็ยังคงมีอยู่และยังคงดำเนินและพัฒนาต่อไป

แต่หากมีแค่เพียงโลกของแวนเฮลซิ่งเพียงที่เดียวก็คงไม่สามารถแสดงให้รอยมั่นใจได้อย่างชัดเจน  รอยคิดว่าถ้าเขาถูกเรียกตัวอีกครั้งเขาคงจะคุ้นเคยกับโลกเหล่านั้นไม่มากก็น้อย

ไม่ว่าจะเป็นปีศาจหรือเทวดาทั้งคู่ต่างก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์จินตนาการขึ้นทั้งสิ้น ในการวิเคราะห์ของรอยเนื่องจากตัวตนของพวกเขามีอยู่จริงมันคงหมายความว่าจินตนาการของมนุษย์ได้กลายเป็นเรื่องจริง!

โลกแฟนตาซีดั้งเดิมของแวนเฮลซิ่งกลายเป็นโลกคู่ขนานที่แท้จริงดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากโลกอื่นๆที่มนุษย์จินตนาการถึงจะปรากฏขึ้นมาได้เช่นกัน

รอยไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแต่เขารู้สึกว่าเรื่องราวมันน่าจะเกี่ยวข้องกับมนุษย์หรือไม่?

รอยเชื่อมโยงกับวิธีที่ระบบของเขาเปลี่ยนแปลงและทำให้เกิดสิ่งที่เขาวาดขึ้นปรากฏออกมาได้ มันทำให้รอยสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆว่าข้อมูลทั้งหมดอาจเป็นความจริงหรือไม่

ตลอดมาจินตนาการของมนุษย์นั้นมากมายมหาศาล พวกเขาสร้างเรื่องราวขึ้นมาจากความเพ้อฝันเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับและบันทึกพวกมันไว้ในหน้ากระดาษหรือสิ่งอื่นๆ ข้อมูลนี้ให้กำเนิดการดำรงอยู่ของเทวดาและปีศาจในขณะเดียวกันก็เกิดโลกแฟนตาซีมากมาย ในทางกลับกันเทวดาและปีศาจก็ปรากฏตัวในโลกมนุษย์อย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้ความรู้ความเข้าใจของมนุษย์ลึกซึ้งชัดเจนและชัดเจนขึ้นมา

จากนั้นมนุษย์เทวดาและปีศาจได้ก่อให้เกิดการหลอมรวมซึ่งกันและกันจนกลายเป็นวัฏจักร วิญญาณกลายเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงทั้งสามเผ่าพันธ์ุดังนั้นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณจึงดูเหมือนจะเป็นตัวแปรที่สำคัญมาก

รอยได้เกิดความคิดเหล่านี้ขึ้นมาแต่เขาไม่รู้ว่าความคิดของเขานั้นถูกหรือไม่ เนื่องจากเขาพยายามหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้ ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้นแต่มนุษย์ยังมองหาคำอธิบายเชิงตรรกะเพื่ออธิบายสิ่งที่ไม่รู้จักมาตั้งแต่สมัยโบราณ

บางทีเขาอาจจะพบคำตอบหลังจากได้สัมผัสกับโลกมนุษย์รวมถึงโลกของเทวดาและปีศาจด้วยตนให้มากกว่านี้เสียก่อน

และหลังจากนั้นไม่กี่วันรอยก็ได้พบกับแท่นบูชาแห่งใหม่พร้อมกันกับเสืออ้วน

นี่เป็นแท่นบูชาลำดับที่สี่ที่เขาพบซึ่งมันตั้งอยู่ระหว่างหุบเขาสองแห่งที่อยู่ติดกัน

“เสืออ้วนกระโดดขึ้นขึ้นมานี่” รอยก้าวขึ้นไปบนแท่นบูชาและโบกมือให้เสืออ้วนเข้ามา รอยขึ้นไปนั่งใกล้ขอบของวงเวทย์ขณะที่เสืออ้วนตามมานั่งข้างๆ

รอยรอคอยอย่างเงียบๆเพื่อให้วงแหวนเวทมนตร์ทำงานขึ้นเมื่อใครบางคนทำพิธีอัญเชิญปีศาจ

รอยไม่แน่ใจว่าเขาจะพาเสืออ้วนไปด้วยได้หรือไม่ ในขณะที่เจ้าเสืออ้วนเป็นมอนเตอร์นรกซึ่งมันไม่ได้เป็นเผ่าพันธุ์ของปีศาจดังนั้นรอยจึงไม่แน่ใจว่าประตูนรกจะยอมรับเสืออ้วนให้ผ่านประตูได้หรือไม่

แม้ว่ามันจะยอมรับเสืออ้วนให้ผ่านทางได้จริงๆ แต่รอยก็ไม่รู้ว่าสัยลักษณ์ออโรโบรอสจะปกป้องวิญญาณของเสืออ้วนหรือไม่

ดังนั้นหากไม่สามารถเรียกเสืออ้วนได้จริงๆรอยก็ทำได้เพียงปฏิเสธการอัญเชิญและเดินทางกลับมา จากนั้นเขาจะรอให้เสืออ้วนเติบโตเต็มวัยก่อนจนรอยจะมั่นใจและหลังจากนั้นเขาค่อยเดินทางไปยังโลกอื่น นอกจากนี้เขายังสามารถปล่อยให้เสืออ้วนเฝ้าแท่นบูชาและขับไล่ปีศาจที่อยู่ใกล้ๆออกไปในกรณีที่เขาได้รับบาดเจ็บเมื่อเขากลับมา

คราวนี้เป็นเพียงแค่การทดลองดังนั้นรอยจึงไม่จำเป็นต้องพิจารณาอะไรเกี่ยวกับเครื่องสังเวย

อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง โลกที่ปีศาจสามารถเดินทางไปได้มักจะมีการดำรงอยู่ของเหล่าเทวทูตหากโชคไม่ดีพวกเขาอาจจำเป็นต้องเผชิญหน้ากัน ยิ่งไปกว่านั้นรอยยังได้ใช้ประโยชน์จากกาเบรียลและนำชิ้นส่วนวิญญาณของเขาไปหนึ่งชิ้น ดังนั้นรอยจึงจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังในกรณีที่เขาอาจพบกับร่างจุติของกาเบรียลที่แข็งแกร่งกว่า

รอยรู้ตัวดีว่าร่างจุติของกาเบรียลที่อ่อนแอเช่นแวนเฮลซิ่งนั้นค่อนข้างหายาก ยิ่งกว่านั้นชิ้นส่วนวิญญาณของทูตสวรรค์จะถูกเรียกคืนทันทีโดยแสงแห่งสวรรค์หลังจากที่ร่างจุติตายลง หากกาเบรียลสัมผัสได้ถึงปัญหาใดๆกับชิ้นส่วนวิญญาณของเขาอีกครั้งเขาก็จะต้องลงมาเพื่อปกป้องมันทันที ภายใต้การคุ้มครองมากขนาดนี้มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์จริงๆที่รอยสามารถขโมยชิ้นส่วนวิญญาณติดมือมาได้

แม้ว่าวิญญาณของทูตสวรรค์เคยถูกปีศาจแย่งชิงสำเร็จมาก่อน แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับปีศาจที่จะได้รับชิ้นส่วนวิญญาณที่อยู่ในระดับเดียวกันกับกาเบรียล

คงพูดได้แค่ว่ารอยนั้นโชคดีแต่เขาถูกสวรรค์ขึ้นบัญชีดำแน่นอน และเมื่อรอยถูกจับตัวได้เขาคงจะถูกสลักเงินตอกร่างกายเขาดข้ากับไม้กางเขนให้สาสมกับความผิดที่เขาทำดังนั้นรอยจึงจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างที่สุด

รอยไม่รอนานเกินไปก่อนที่รูปแบบเวทมนตร์บนแท่นบูชาจะสว่างขึ้น รอยหนีบเสืออ้วนไว้ใต้รักแร้และเดินเข้าไปยืนอยู่ในรูปแบบเวทมนตร์

ออร่าที่แผ่ออกมาจากประตูนรกนั้นมีกลิ่นเลือดที่ให้ความรู้สึกร้อนแรง มันดูเหมือนจะผสมกับบางอย่างซึ่งแตกต่างจากกลิ่นเลือดทั่วไป

รอยเพียงต้องการทดสอบในครั้งนี้ดังนั้นเขาจึงไม่คิดมากเกินไปกับความแปลกประหลาดนั้นและตอบสนองต่อการอัญเชิญทันที

สิ่งที่รอยไม่ทันสังเกตก็คือเสืออ้วนในอ้อมแขนของเขาสูดดมกลิ่นแปลกๆนี้อย่างตื่นเต้น

หมอกจากประตูนรกปกคลุมตัวรอยพร้อมกันกับเสืออ้วนในอ้อมแขนของเขาก็หายไปพร้อมกัน

ดูเหมือนว่าเขาจะพาเสืออ้วนผ่านประตูนรกไปกับเขาได้จริงๆ

เสืออ้วนประหม่าเล็กน้อยนี่เป็นการเผชิญหน้าครั้งแรกของมันกับประตูนรก เสืออ้วนมองไปที่เจ้านายและตัวเองที่กลายเป็นความว่างเปล่าและอดไม่ได้ที่จะเห่าออกมา

แสงจากที่สว่างเปลี่ยนเป็นสลัวสลับกัน หลังจากประสบสิ่งเดียวกันกับที่เขาเคยผ่านมาก่อนหน้านี้รอยก็พบว่าตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาด

เขายืนอยู่ในวงแหวนอักขะเวทย์มนตร์ แต่รอบข้างกลับร้อนระอุทำให้รอยเข้าใจผิดคิดว่าเขายังอยู่ในหุบเหว เสืออ้วนยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขาในขณะเดียวกันรอยก็รู้สึกได้ว่าพลังที่น่าอึดอัดของโลกนี้ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับโลกของแวนเฮลซิ่ง

ในขณะที่รอยรู้สึกถึงความแตกต่างของสภาพแวดล้อมเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหูของเขา

“โอ้ดูเหมือนจะมีปีศาจที่ไม่ใช่เฮลฮาวด์ถูกถูกอัญเชิญออกมาด้วย! นี่มันแปลกมากมากปีศาจนี่ชอบเลือดผสมปัสสาวะของกริฟฟอนด้วยหรือ?”

รอยหันมามองเจ้าของเสียง รอยตกตะลึงเจ้าของเสียงนั้นคือปีศาจ!

ปีศาจตนนี้คลายกับมนุษย์ที่มีผิวสีแดงเข้ม เขามีแส้หนังอยู่ในมือและสวมหมวกเหล็กสีดำสนิทที่ปิดเต็มใบหน้า เขาปีศาจสีดำยาวยื่นโผล่ออกมาจากหมวกเหล็ก ปีศาจตนนี้ตัวใหญ่และดูเหมือนเขาจะไม่มีปีกปีศาจ แต่ร่างกายของเขาแผ่กลิ่นอายของกำมะถันที่ลุกไหม้อย่างเข้มข้นเขาต้องเป็นปีศาจแน่นอน

และรอยรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่แข็งแกร่งจากการถูกกำราบปราบปรามโดยปีศาจตรงหน้าที่ทำให้รอยรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ

บางทีอาจเป็นเพราะว่ารอยจ้องมองอย่างไม่วางตา จู่ๆปีศาจตนนั้นก็เริ่มหงุดหงิดและใช้แส้ฟาดใส่พร้อมตะโกนออกมา

“เจ้ามัวแต่มองอะไร? รีบไสหัวออกมาจากวงเวทย์เดียวนี้!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด