ตอนที่แล้วChapter 3: พี่ชายของฉันดีเกินไปแล้ว! (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 5: พี่ชายของฉันดีเกินไปแล้ว! (ฟรี)

Chapter 4: พี่ชายของฉันดีเกินไปแล้ว! (ฟรี)


เธอจะคุยเรื่องนี้กับโฮวหยวนทีหลัง

โฮวหยวนเป็นคนใจกว้าง ตราบใดที่เธอยกเหตุผลที่เหมาะสม เธอรู้สึกว่าโฮวหยวนย่อมเห็นด้วยกับคำขอของเธอโดยไร้ปัญหา

หลังจากทบทวนแผนของตัวเอง โฮวอู่ก็ผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ความกังวลต่ออนาคตของเธอเบาบางลง

โฮวหยวนและโฮวอูเสิ่นเดินไปต้อนรับแขก ในขณะที่โฮวอู่ยิ้มอย่างสดชื่นให้หยูซินซิน

“อาอู่ พี่ชายเธอหล่อมากกกกก!”

โฮวอูเสิ่นเป็นคนหล่อ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนในรอบสี่ปี ผลที่ได้คือสร้างความประทับใจต่อทุกคนที่พบเห็น

ใบหน้าคมคายสมกับเป็นชายชาตรี

ผมของเขายาวเล็กน้อยและตัดผมรองทรง

โฮวอูเสิ่นในทรงผมรองทรงนั้นดูดีมาก มันเข้ากับใบหน้าของเขา ยิ่งเสริมให้เขาหล่อเหลามากยิ่งขึ้น

จะว่าไปแล้วเขาก็หล่อทุกมุมนั่นแหละ

ตอนนี้พิสูจน์แล้วว่าโฮวอูเสิ่นหล่อกว่าเมื่อสี่ปีที่แล้ว

หยูซินซินตื่นเต้นหลังจากที่ได้เจอเขา มองไปยังผู้ชายที่อายุพอๆกันกับเขาในงานแล้วไม่มีใครหล่อเท่าเขาสักคนเดียว

โฮวอู่ไม่ได้ตอบในทันที หยูซินซินจึงพูดต่อว่า “ถ้าพี่ชายเธอไม่ดูเย็นชาแบบนี้ ฉันละอยากเป็นพี่สะใภ้เธอจริงๆ”

พี่สะใภ้?

ในขณะที่โฮวอู่และหยูซินซินกำลังคุยกันอยู่ เพลงวอลซ์ก็เริ่มบรรเลง

หลังจากดินเนอร์ปาร์ตี้ ก็มีการเต้นรำเล็กๆน้อยๆ

ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนงานเลี้ยงอาหารค่ำก็ไม่เคยเป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำที่เรียบง่าย นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้คนในการสร้างมิตรภาพและความสัมพันธ์

เป้าหมายของการเต้นรำคือการสานสัมพันธ์ระหว่างคนรวยเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น

จู่ๆโฮวอู่ก็คิดอะไรบางอย่างออกเมื่อเธอได้ยินเสียงเพลง เธอขอตัวผละออกมา และเดินไปหาโฮวอูเสิ่นที่กำลังถือแก้วไวน์

เขาเพิ่งคุยกับแขกในงานเสร็จ และตอนนี้เขายืนอยู่คนเดียวและรอคอยว่าเมื่อไหร่งานเลี้ยงจะเลิก

โฮวอู่สวมรองเท้าส้นสูงห้าเซน โชคดีที่ชาติก่อนเธอเป็นนักแสดง ทักษะพื้นฐานของนักแสดงหญิงคือการสวมรองเท้าส้นสูงและสามารถเดินได้ทุกพื้นผิว

ถึงแม้เธอจะสวมรองเท้าส้นสูง เธอก็สามารถเดินได้อย่างรวดเร็ว

มือของโฮวอูเสิ่นขาวและเรียวยาว เต็มไปด้วยพลังอำนาจขณะที่ถือแก้วไวน์ในมือ

เล็บสั้นเป็นระเบียบและมันวาว

เมื่อเห็นโฮวอู่เดินตรงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว เขาละสายตาจากแก้วไวน์ในมือ มองเธอด้วยท่วงท่าสบายๆ

โฮวอู่ยิ้มสดใส ไขว้มือไว้ด้านหลัง และเงยหน้าขึ้น

เธอทำท่าทางแบบนี้แล้วยิ่งดูไร้เดียงสา

“พี่ชาย อาอู่ขอเต้นรำกับพี่ชายได้ไหมคะ?”

โฮวอู่ยังคงยิ้มสดใส แต่หัวใจของเธอกำลังเต้นตึกตัก

เธอกลัวว่าเขาจะปฏิเสธเธอ

โฮวอูเสิ่นเลิกคิ้ว เขาประหลาดใจกับคำขอของเธอ เขามองเธอเต็มตา

เด็กสาวตรงหน้าเขาดูบอบบางและมีเสน่ห์ เธอสวยมาก

อย่างไรก็ตามเธอดูไม่เหมือนคนในครอบครัวโฮว

ผู้ชายสองคนในครอบครัวโฮวมีใบหน้าคมคาย แต่เธอกลับดูนุ่มนวล

เขาและพ่อของเขา โฮวหยวนมีดวงตาเหมือนดอกท้อ แต่เธอมีดวงตากลมโตเหมือนแอพริคอต

แต่ในความทรงจำของเขา แม่ของพวกเขาก็มีดวงตาเหมือนแอพริคอต

แม่ของเขาเสียชีวิตไปสิบปีแล้ว และความทรงจำของเขาเกี่ยวกับแม่ก็เริ่มคลุมเครือ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังจำได้อย่างชัดเจนว่าดวงตาของแม่อ่อนโยนแค่ไหน

เมื่อมองไปที่ดวงตารูปแอปริคอทคู่สวยที่ดูคล้ายกับดวงตาของแม่ โฮวอู่เสิ่นไม่สามารถปฏิเสธได้

เขาสามารถปฏิเสธผู้หญิงทุกคนด้วยสีหน้าเฉยเมย แต่เขาไม่สามารถเย็นชาใส่น้องสาวคนเดียวที่มีดวงตาเหมือนกับแม่

โฮวอูเสิ่นพยักหน้าเบาๆ

เขาวางแก้วไวน์ที่ถืออยู่ในมือ จากนั้นยกมือขวาขึ้นเพื่อยืดข้อมือซ้ายให้ตรง

เขาเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติและดูงดงาม

เขาเป็นผู้ชายที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ตั้งแต่หัวจรดเท้า ถึงแม้จะอายุเพียงยี่สิบห้า แต่กลับมีรัศมีแห่งอำนาจเปล่งประกายจากตัวเขา

ไม่ว่าสาวเล็กสาวใหญ่ แต่งงานแล้วหรือยังไม่แต่งงาน สายตาของพวกเธอจับจ้องอยู่ที่เขาคนเดียว

โฮวอูเสิ่นไม่ได้ตระหนักเลยว่ามีผู้หญิงมากมายมองมาที่เขา อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้ให้ค่าหรือให้ความสนใจใครเลย

หลังจากยื่นมือออกไปให้โฮวอู่จับอย่างสุภาพบุรุษ เขาพูดกับเธอว่า “มาเถอะ”

มือของโฮวอู่ถูกเขากุมเอาไว้

ขณะนั้นเพลงแรกได้จบไปแล้วและเพลงที่สองกำลังเริ่ม

เพลงวอลทซ์ที่ไพเราะเริ่มบรรเลงอย่างช้าๆ โฮวอู่จับมือของโฮวอู่เสิ่น ขณะที่พวกเขาเคลื่อนตัวไปบนฟลอร์เต้นรำอย่างสง่างาม

แขกคนอื่นที่กำลังจะก้าวเท้าไปบนฟลอร์หยุดชะงัก พวกเขาถอยกลับ เพราะเห็นว่าตัวเอกของงานยืนอยู่บนฟลอร์ ไม่มีใครอยากแย่งซีน

ทั้งฟลอร์จึงมีแต่โฮวอู่และโฮวอูเสิ่น

โฮวอู่รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่เคยเป็นนักแสดง

มีละครเรื่องหนึ่งที่เธอต้องเต้นรำ เธอลงทุนจ้างครูสอนเต้นรำมาสอนเธอโดยเฉพาะ เธอตั้งใจฝึกและจำเทคนิคจากครูสอนเต้นให้ได้มากที่สุด

โฮวอู่จึงมั่นใจว่าจะไม่ทำให้ตัวเองขายหน้าต่อหน้าเขาและแขกในงาน

ถ้าเป็นโฮวอู่ตัวจริง เธอก็คงไม่ประหม่าเช่นกัน เพราะทักษะพื้นฐานเหล่านี้เป็นสิ่งที่เธอต้องเรียนตอนเป็นเด็กอยู่แล้ว

เพลงเริ่มบรรเลง โฮวอูเสิ่นวางมือบนเอวของโฮวอู่

การเต้นรำการสัมผัสกันจึงเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การวางมือทาบที่เอวจึงเป็นอะไรที่ธรรมดาที่สุด

ชุดที่โฮวอู่เลือกใส่คืนนี้ค่อนข้างบาง เธอรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นๆของเขาได้ที่เอวของเธอ

เธอกลั้นลมหายใจเพื่อระงับความตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเต้นรำกับพี่ชาย เธอต้องทำให้ดีที่สุด เธอต้องทำให้เขาประทับใจในตัวเธอให้ได้

ดนตรีมาถึงจุดสำคัญ โฮวอู่เคลื่อนไหวไปตามการเคลื่อนไหวของโฮวอูเสิ่น หมุนตัวและกระโดด

เธอเสียใจที่คืนนี้เธอสวมกระโปรงสั้นแค่เข่า

ถ้าเป็นกระโปรงยาวเวลาหมุนตัวจะพริ้วและสวยงามกว่ากระโปรงสั้น

มันจะดูเหมือนดอกไม้ที่กำลังผลิบานหรือดอกไม้ไฟกำลังเบ่งบาน ฉากหมุนตัวของเธอจะน่าทึ่งกว่าตอนนี้อย่างแน่นอน

โฮวอู่ค่อยๆดื่มด่ำไปกับการเต้นรำนี้

เธอมีคู่เต้นรำที่มีทักษะการเต้นที่ยอดเยี่ยมดังนั้นเธอจึงสามารถเต้นได้ตามที่เธอพอใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทะลุเข้ามาอยู่ในนิยายและรู้สึกว่าการเต้นเป็นเรื่องง่ายมาก

เธอลืมทุกปัญหา

เธอลืมเรื่องโฮวอี้ฉิง

เธอลืมอดีตและการเดินทางของเธอ

เธอดื่มด่ำไปกับการเต้นรำช่วงสั้นๆนี้

สมองของเธอว่างเปล่า เธอรู้สึกตัวเบาและมีความสุข

แต่ช่วงเวลาดีๆมักผ่านไปเร็วเสมอ เสียงเพลงค่อยๆช้าลงและหยุดลงในที่สุด

หลังจากการเต้นรำจบลงมีความเงียบอยู่สองสามวินาทีก่อนที่ผู้ชมจะปรบมือดังๆ

คนหนุ่มสาวไม่กี่คนที่ผิวปากให้พวกเขา

บรรยากาศในงานเลี้ยงอาหารค่ำร้อนขึ้นจากตอนแรก

โฮวอู่ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้โฮวอูเสิ่นที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ริมฝีปากบางและเสียงอันอ่อนหวานนุ่มนวลเอื้อนเอ่ยวาจาที่ตราตรึงเข้าไปในใจของเขา แม้ว่าเสียงรอบข้างจะอึกทึก โฮวอูเสิ่นกลับได้ยินคำพูดของเธอชัดเจน

เธอพูดว่า “พี่ชาย...ในอนาคตได้โปรดชี้แนะน้องคนนี้ด้วย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด