ตอนที่แล้วบทที่ 32 ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยกำปั้น !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34 การออกดอกของต้นผีดูดเลือด

บทที่ 33 โศกนาฏกรรมที่เลวร้ายของหลินเป่ย


บทที่ 33 โศกนาฏกรรมที่เลวร้ายของหลินเป่ย

สำหรับอาการบาดเจ็บของไป่เซียง เป่ยเฟิงไม่ได้กังวัลอีกต่อไป

"ฉันคือคนบ้าที่ไม่มีวันตาย .."

เป่ยเฟิงถอดเสื้อผ้าของเขาออกและมองไปที่รอยฟกช้ำสีม่วงและเขียวที่ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา เขาอยากจะร้องไห้จริง ๆ

"เจ้านาย คุณโอเคไหม ?" ไป่เซียงรู้สึกกลัวมาก เขาจึงถามด้วยคำขอโทษ

แม้ว่าเขาจะไม่โดนมีดฟันเลยซักครั้ง แต่สัญชาตญาณของไป่เซียงนั่นเข้าใจอย่างแท้จริงว่าที่เป่ยเฟิงบาดเจ็บหนักเป็นเพราะมาช่วยตัวเอง

"นายคิดว่าไง ? ถ้านายยังไม่มาช่วยฉันอีก ฉันคิดว่าอีกไม่นานฉันคงจะตายแล้วละ .."

เป่ยเฟิงพูดด้วยความโกรธ ก่อนหน้านี้ในระหว่างต่อสู้เขาก็ไม่รู้สึกแย่เท่าไหร่ แต่ตอนนี้เมื่อดรีนาลีนในร่างของเขาหมดลง ทำให้คลื่นความเจ็บปวดถาโถมเข้ามาเต็ม ๆ

"โอ้"

ไป่เซียงรีบเอาแขนใหญ่ ๆ ของเขา พยุงเป่ยเฟิงเข้าไปในห้อง ร่างใหญ่ของเขาปรับความสูงให้พอเหมาะกับเป่ยเฟิง เขาเดินอย่างช้า ๆ ให้มีน้ำหนักเบาที่สุด มันช่างดูเป็นคู่แปลกประหลาดอย่างมากหากมองไปที่ลานหน้าบ้านตอนนี้

หลังจากนอนหลับในคืนนั้น เป่ยเฟิงก็ตื่นขึ้นมาในเวลาปกติก่อนพระอาทิตย์ขึ้น

'นอกจากความสามารถทางร่างกายของฉันจะดีกว่าคนปกติเกินครึ่งหนึ่งแล้ว แม้แต่ความสามารถในการฟื้นตัวก็สุดยอด แค่คืนเดียว อาการบาดเจ็บทั้งหมดก็เกือบหายเป็นปกติแล้ว !' เป่ยเฟิงมองไปที่รอยฟกช้ำที่เคยมีตามร่างด้วยความพึงพอใจ

เขาลุกขึ้นบิดขึ้เกียจแล้วเดินขึ้นเขาปกติ

หลังจากฝึกฝนเทคนิคการหายใจด้วยแสงแล้ว เป่ยเฟิงได้ดูดซับแสงสีทองขนาดใหญ่ในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น

จำนวนเซลล์ที่ตายแล้วถูกขับออกมาจากร่างกายของเขา รอยฟกช้ำก็ค่อย ๆ จางลง ราวกับอาการบาดเจ็บภายในค่อย ๆ ถูกรักษา

คลื่นอากาศร้อนกระจายออกจากร่างของเป่ยเฟิง ในขณะที่เขาดูดซึมแสงพลังภายในธาตุหยางอย่างมีชีวิตชีวา สิ่งสกปรกรวมทั้งเซลล์ที่ตายแล้วจำนวนมากถูกขับออกมาจากร่างกายเขาในรูปแบบของเหงื่อสีเทาเข้ม มันค่อย ๆ หลุดออกมาจากร่างกายเขาช้า ๆ

'สุดยอด !'

เป่ยเฟิงเปิดตาแล้วสูดหายใจเข้า

เขารู้สึกได้ถึงความสบาย มันดูราวกับว่าตอนนี้เขาคือเหยี่ยว แม้ว่าร่างของเขาจะถูกปกคลุมด้วยชั้นสีเทา ๆ แต่เป่ยเฟิงมั่นใจว่ารอยฟกช้ำทั้งหมดบนร่างเขาหายไปแล้ว

อารมณ์ของเป่ยเฟิงเบิกบานอย่างมาก เขาหันกลับไปและเริ่มวิ่งลงไปตามภูเขา เหมือนกวางน้อยขึ้เล่น

ภูมิประเทศที่มีหินขนาดใหญ่หรือเศษหิน ไม่สามารถขัดขวางเป่ยเฟิงได้ในขณะที่เขาวิ่งด้วยความเร็วคงที่

เป่ยเฟิงมาถึงเชิงเขาและเดินเข้าไปในบ้านเก่า ๆ ของเขา

ไป่เซียงยังคงไม่ตื่น และตอนนี้เจ้าลูกหมาตัวเล็กทั้งสองก็เปิดตาข้างเดียว มองไปที่เป่ยเฟิงสั้น ๆ ก่อนที่พวกมันจะปิดตาแล้วนอนอยู่ที่เดิมอีกครั้ง

เป่ยเฟิงดึงถังน้ำจากบ่อน้ำขึ้นมาแล้วทำความสะอากร่างกายพร้อมทั้งถอดเสื้อผ้าเหม็น ๆ ของเขาออกไปกองไว้บนพื้น

หลังจากที่เอาถังน้ำไว้เหนือหัวแล้วสาดลงมา เป่ยเฟิงก็เริ่มขัดร่างกายของเขาอย่างคึกคัก มันเป็นเพียงเวลากว่าครึ่งชั่วโมง และเขาขัดไปถึงสามครั้งจนในที่สุดเขาก็หยุดแล้วเช็ดตัวให้แห้ง

เป่ยเฟิงใส่ชุดกีฬาชุดใหม่ของเขา เขาหยิบคันเบ็ดสีม่วงขึ้นมาแล้วเดินไปยังบ่อน้ำโบราณ

'มันเป็นเวลาไม่กี่วันที่ฉันไม่ได้มาใช้ระบบตกปลานี้ ฉันสงสัยว่าความพยายามที่ไม่ได้ใช้จะถูกสะสมไว้และสามารถใช้ในอนาคตได้หรือเปล่า ...'

แม้ว่าเป่ยเฟิงจะคาดหวังไว้ แต่น่าเสียดาย

มันน่าเสียดายตามที่เขาคิดไว้ เป่ยเฟิงตรวจสอบสถานะของระบบ แล้วเห็นว่าเขามีโอกาศในการตกปลาหนึ่งครั้งเท่านั้นในวันนี้

****

ในขณะเดียวกัน บอร์ดนักชิม WeChat ก็เริ่มสูญเสียจิตใจของพวกเขา ในขณะที่พวกเขาสแปมช่องแชทเพื่อขอให้เป่ยเฟิงเปิดร้าน

"พวกคุณคิดว่าเถ้าแก่ไม่ไร้เหตุผลเกินไปหน่อยหรอ ? ทำไมเขาถึงหยุดจองโต๊ะมาสองวันแล้ว ?" ผู้ใช้ที่ชื่อ "เรียกฉันว่าไอ้ตะกละ" บ่น

"เถ้าแก่ไม่ได้บอกหรอว่าเขากำลังหาวัตถุดิบอยู่ บางทีเขาอาจกำลังหาอะไรมาเพิ่มเติมก็ได้ ..." อีกคนเรียกว่า "แพนด้าไม่กินไผ่" ตอบ

"ลืมมันไปซะ ฉันคิดว่าฉันคงไม่อาจได้ลิ้มรสอาหารของเถ้าแก่ได้อีกแล้ว ฉันจะบอกกับพี่น้องของฉัน ว่าฉันจะไม่รออีกต่อไปแล้ว ถ้าหากเจ้าของร้านเปิดจองโต๊ะขอให้พวกเขาถ่ายรูปอาหารมาให้ฉันด้วย ฉันจะเผามันแล้วไปสนุกกับมันในนรก !" แต่ผู้ใช้ชื่อ 'ภรรยาม่ายที่น่าสงสาร' กล่าวอย่างประชดประชัน

เป่ยเฟิงผู้นั่งอยู่ข้าง ๆ บ่อน้ำเงียบ ๆ ไม่ได้สนใจความวุ่นวายในห้องสนทนาเลย เขายังคงนั่งตกปลาอย่างสบายใจอยู่

ถ้าใครเห็นเป่ยเฟิงนั่งเงียบ ๆ อย่างนี้ คงจะอุทานแปลก ๆ ว่า ถ้าไม่เรียกเขาว่าบ้า แล้วจะเรียกว่าอะไร คนสิ้นหวัง ? คนบ้าอะไรที่มันจะไปตกปลาจากบ่อน้ำเก่า ๆ บ้าไปแล้วใช่ไหม ?

*******

ที่ไหนสักที่ในโลกแปลกประหลาด บนยอดเขาสูงชันมีชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยเลือดยืนอยู่ห่างจากขอบหน้าผา เขาจ้องมองไปที่ผู้ไล่ตามเขามาด้วยสายตามุ่งมั่น

"นายน้อย หยุดต่อต้านแล้วกลับไปกับเราเถอะ"

กลุ่มชายชุดดำล้อมเป็นครึ่งวงกลมปิดทางเข้า หลินเป่ย ในขณะที่ผู้นำของกลุ่มก้าวไปข้างหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

"แกมันไอ้ทรยศ! พวกเราเลี้ยงดูแกมาตั้งหลายปี แต่แกกลับติดตามผู้อาวุโสลำดับสามที่อยู่ฝ่ายกบฏ ! " หลินเป่ยร้องตะโกนด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

"นายน้อย มันเพราะโชคชะตาที่กำหนดไว้ พวกเราแค่ทำในสิ่งที่จะรักษาชีวิตของหัวหน้าเผ่าเท่านั้น ไม่อย่างนั่นเขาคงตายไปแล้ว !" ผู้นำยังคงมีเสียงเย็นชาและไม่รู้สึกใด ๆ

'ในตอนนี้ ฉันคงต้องเสี่ยงดวงอย่างเดียว' หัวใจของหลินเป่ยเย็นชา ในขณะที่เขาหยิบแหวนบนนิ้วขึ้นมาด้วยท่าทางหงุดหงิด

"น้อยนาย ยอมแพ้แล้วกลับมากับเราเถอะ"

"ไม่มีที่ให้คุณหนีอีกแล้ว ไหนจะหน้าผาที่สูงเป็นพัน ๆ จางด้านหลังคุณอีก มันไม่มีประโยชน์เว้นแต่ว่าคุณจะเป็นเจ้ายุทธภพ นอกนั่นคุณก็ไม่มีทางให้หนีอีกแล้ว !"

"ฮะ ... ฮ่าฮ่าฮ่า ... ฮ่าาาฮ่าาฮ่าา !"

เผชิญหน้ากับสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้ แต่หลินเป่ยกลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเหมือนคนบ้า !

"ฮึ้ม คุณกำลังจะตาย แต่คุณกลับหัวเราะ ? หากคุณยังปฏิเสธพวกเราคงต้องส่งคุณไปตามทางของคุณแล้ว !"

รอยยิ้มอันน่ากลัวของหลินเป่ยปรากฏออกมา มันทำให้หัวหน้ากลุ่มรู้สึกแปลก ๆ นิ้วมื้อที่เหมือนเล็บอินทรีที่ทำมาจากเหล็กดำปรากฏบนมือของเขา

"แกคงเคยได้ยินเกี่ยวกับ ไข่มุกสะเทือนฟ้า สินะ ?"

เงามุกสีดำที่มีเส้นสามเส้นเรียงกันเป็นรูปสายฟ้าปรากฏบนมือของหลินเป่ยในขณะที่เขากวาดแหวน บนนิ้วของเขา

"ไข่มุกสะเทือนฟ้า ?"

กลุ่มคนที่สวมชุดดำเริ่มก้าวถอยหลังไปด้วยความตื่นตระหนัก มีความกลัวปรากฏขึ้นในสายตาพวกเขา

"คุณไม่กล้าเปิดใช้มันหรอก เพราะถ้าคุณยังเปิดใช้มัน คุณก็ไม่รอดเหมือนกัน !"

"ตั้งแต่ที่ฉันใกล้ตาย แล้วทำไมฉันจะไม่อยากลากพวกแกไปด้วยกันละ ใช่ไหม ?"

เหงื่อเท่าลูกกวาดปรากฏบนคิ้วของชายที่เป็นหัวหน้า ในขณะที่เขาจ้องมองหลินเป่ย เขาพูดถูก ความตายกำลังรอเขาอยู่ถ้าหากหลินเป่ยถูกจับ แต่ถ้าเขาใช้ไข่มุกสะเทือนฟ้า เขาก็จะตายด้วยเช่นกัน แต่อย่างน้อยนายน้องคนนี้ก็ยังจะลากทุกคนไปตายด้วยกับเขา !

ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังหยังเชิงกัน ได้มีสายเบ็ดบาง ๆ ปรากฏขึ้น มันปรากฏเหนือหัวพวกเขา มันเหมือนมีตา เพราะมันกำลังเล็งหาเหยื่อดี ๆ ของมันอยู่ และในตอนนั้นมันก็ได้จ้องมองไปที่ ไข่มุกสะเทือนฟ้า !

'มันคืออะไร ?'

หลินเป่ยตกใจอย่างมากในตอนนี้ อยู่ดี ๆ ก็มีเส้นไหมบางๆ มันวนรอบไข่มุกสะเทือนฟ้า แล้วจากนั่นมันก็ดึงไข่มุกออกไป ก่อนที่เขาจะตอบสนองทัน ไข่มุกก็หลุดออกจากมือของหลินเป่ยไปแล้ว !

"ไม่ !"

หลินเป่ยมองไปที่เส้นด้ายเส้นสุดท้ายของเขา ที่หายเข้าไปในเมฆ เขาร้องไห้ออกมาด้วยความสิ้นหวัง

"ฮ่าฮ่าฮ่า ! อย่าโทษกันเลย! แม้แต่สวรรค์ก็อยากให้คุณตาย !" กลุ่มคนชุดดำหัวเราะเยาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน

"ถ้าหากฉันรอดไปได้ วันนั้นจะมาถึง วันที่ฉันจะล้างแค้นพวกแก ! ฉันจะทำให้พวกแกแน่ใจว่าพวกแกทุกคนต้องตายอย่างเจ็บปวดที่สุด และต้องตายอย่างช้า ๆ ! มันจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน !"

หลินเป่ยพูดอย่างแน่วแน่ เขาเปล่งเสียงออกไปด้วยความเกลียดชังในหัวใจ เขาหันหลังไปแล้วกระโดดลงไปในหน้าผาทันที !

****

"ดิ๊ง ! สมบัติระดับ 2 ไข่มุกสะเทือนฟ้า ! (วัสดุใช้แล้วหมดไป เมื่อใช้งานแล้วจะเกิดความเสียหายโดยรอบระยะหนึ่งร้อยจาง วิธีใช้งานนั่นง่ายมาก แต่สามารถใช้งานได้ครั้งเดียว ของชิ้นนี้สามารถใช้ป้องกันตัวผู้ใช้ได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือนอกบ้าน นอกจากนี้สามารถใช้ฆ่าหรือปล้นได้อย่างยอดเยี่ยม !) ประสบการณ์ที่ได้รับ +800 !"

'ของอันตราย ?'

เป่ยเฟิงเกือบทำไข่มุกสะเทือนฟ้าหล่นด้วยความตกใจ สิ่งนี้มันมีพลังมากกว่าระเบิดหลายเท่า ! รัศมีหนึ่งร้อยจาง ถ้าหากวัดเป็นเส้นผ่านศูนย์กลาง มันมากกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบเมตร !

เป่ยเฟิงมองไข่มุกสีดำเล็ก ๆ ขนาดเท่าลูกวอลนัทด้วยความแปลกประหลาด หากเขาบังเอิญพยายามเอาสิ่งนี้ออกจากตะขอ เขาจะต้องตายแน่ ๆ

ในตอนนี้ เป่ยเฟิงกังวลว่ามันคงจะไม่ระเบิดใช่ไหม ถ้าเขาจะเอามันออกจากตะขอแล้ววางมันลงในกล่อง

ถ้าสิ่งนี้ถูกนำมาใช้อย่างถูกต้อง มันอาจเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการฆ่า หากศัตรูโดนไข่มุกสะเทือนฟ้าระเบิดต่อหน้าละก็ พวกเขาคงจะสรุปได้อย่างเดียว ....

สำหรับการยกระดับขึ้นไปเป็นชาวประมงระดับ 2 ยังอีกยาวไกล ตอนนี้เขามีคะแนนแค่ 2,600 เท่านั้น มันไม่ใช่แม้แต่หนึ่งในสามของทั้งหมดที่เขาต้องสะสม !

***

"เจ้านาย เด็กกลุ่มนั่นล้มเหลว เจ้าเด็กเลวนั้นใจแข็งมาก เขาไม่ยอมขายไม่ว่าจะยังไงก็ตาม"

ในออฟฟิศ มีชายร่างผอมกำลังก้มหน้า ต่อหน้าโต๊ะทำงานของเหว่ยฮุ้ย แล้วรายงาน

"เฮ้อ จะโทษฉันไม่ได้ อย่าหาว่าชายแก่คนนี้ไร้ความปราณีละกัน ไปบอก Ol’ Black’s ให้ทำหน้าที่นี่ ถ้าหากมันถึงตายก็ทำให้มันเหมือนเป็นอุบัติเหตุซะ ไม่ว่ายังไงก็อย่าเข้าไปในบ้านหลังนั่น !"

เหว่ยฮุ้ยกล่าวด้วยเสียงเย็นชา เขารอมานานเกินทนแล้ว ตอนนี้ความอดทนของเขาได้หมดลง ถึงอย่างนั่นเขาต้องทำให้บ้านหลังนั้นเป็นของตระกูลเขาให้ได้ !

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด