ตอนที่แล้วบทที่ 28 หลี่ซานผู้น่าสงสาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 30 ฆ่า !

บทที่ 29 โจร !


บทที่ 29 โจร !

ถือถังเลือดหมูที่ดูแล้วน่าจะหนัก เป่ยเฟิงเดินเข้าบ้านด้วยฝีเท้าหนักแน่น ไป่เซียงเพิ่งตื่นนอนและนั่งอยู่หน้าประตูหน้า ความโศกเศร้าอยู่บนหน้าเขาในขณะที่มองไปที่ท้องฟ้า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจความคิดของเขา

"ไป่เซียง นายรู้วิธีทำอาหารไหม ?" เป่ยเฟิงตะโกนทักทายและถาม

"ผมรู้ ! แต่ มันไม่อร่อย ...." ไป่เซียงตอบด้วยความลำบากใจ

"ไม่ต้องกังวล แค่ไปทำมันแล้วเราจะได้มาเริ่มกินอาหารเช้ากัน"

เป่ยเฟิงไม่เชื่อว่าเขาจะทำอะไรที่มันน่ากลัวจากอาหารขึ้นมาได้ ด้วยวัตถุดิบชั้นสูงขนาดนี้ ถึงแม้เขาจะทำแค่ต้มเนื้อสัตว์ในน้ำเปล่า มันก็ยังคงให้รสชาติที่ดีพอสมควร

"เอ่อ" ไป่เซียงพยักหน้าและเดินเข้าไปในครัว ในไม่ช้าก็ได้ยินเสียงดังกึกก้องของเขาในการทำอาหารในห้องครัว

เป่ยเฟิงนำเลือดหมูไปใต้ต้นไทรและวางไว้ใกล้ ๆ ต้นผีดูดเลือด ขณะที่เขาเอาฝาออก กลิ่นฉุนของเลือดก็ลอยออกมาจากอ่างทันที

ต้นผีดูดเลือดตอนแรกมันไม่มีท่าทีสนใจ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมันได้กลิ่นอาหารมันก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ด้วยการแกว่งตัวของมัน รากหลายสิบรากถูกยิงออกจากพื้นและจุ่มลงในอ่าง

"จี จี้ !"

คลื่นลูกแล้วลูกเล่า ซึ้งสังเกตุได้จากรากที่มันโผล่ขึ้นมา ลอยเข้าไปในร่างหลักของต้นผีดูดเลือด

ในช่วงเวลาสั้น ๆ ต้นผีดูดเลือดดูเหมือนจะมีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อถึงช่วงเวลาที่เลือดหมูถูกดูดซึมเข้าไปเต็มที่ ต้นผีดูดเลือดตอนแรกที่มีความหนาพอ ๆ กับกำปั้นของเด็กทารก ตอนนี้มันได้กลายเป็นหนาเท่าข้อมือผู้ใหญ่แล้ว !

หลังจากนั่นก็เริ่มมีกิ่งไม้โผล่ขึ้นมากลางลำต้น มันยืดออกไปสี่ทั่วทั้งสี่ทิศ

"มันไม่ใช่ว่ามันจะโตเร็วเกินไปงั้นหรอ ? เดียวนะ ถ้าในเมื่อมันมีกิ่งโผล่มาแล้ว แล้วนานแค่ไหนกว่ามันจะออกดอก ?" เป่ยเฟิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เมื่อไม่เห็นว่ามีอะไรบ่งบอกถึงดอกตูมที่จะโผล่มาจากต้นผีดูดเลือดเลย

"สวัสดี ? ใครกัน ?" ขณะที่ต้นผีดูดเลือดกำลังกินอาหาร โทรศัพท์ของเป่ยเฟิงก็ดังขึ้น

"ฉันเอง"

แค่สองคำง่าย ๆ เป่ยเฟิงสามารถบอกได้ทันทีว่าใครคือคนที่โทรมา แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไงดี

หลังจากเงียบไปสักพัก เป่ยเฟิงก็ได้เปิดปากขึ้นมาและถาม "โอ้ มีธุระอะไรหรือเปล่า ?"

"ฉันกำลังจะแต่งงานภายในสองวันนี้ ที่เฉิงตู ฉันหวังว่าคุณจะมาที่นี่เพื่อมาร่วมงานแต่งของฉันนะ ..." โจวเซียหว่าน เงียบไปชั่วขณะด้วยความลังเลใที่จะพูดต่อ

"เอ่อ ฉันจะไปในวันนั้น มีอะไรอีกไหม ?" เป่ยเฟิงหายใจเข้าลึก ๆ และตอบอย่างใจเย็น

"คุณ ... ไม่ ฉันจะส่งที่อยู่ไปให้อีกที " โจวเซียหว่าน ดูเหมือนว่าเธอมีอะไรจะพูด แต่ก็พูดไม่ได้

"อืม"

เป่ยเฟิงจบลงด้วยความโศกเศร้าน้อยใจ

โจวเซียนหว่าน เป็นแฟนของเป่ยเฟิงก่อนที่เขาจะเกิดอุบัติเหตุ ถ้าทุกอย่างดำเนินไปได้ราบรื่น บางทีเขาอาจมีลูกชายวิ่งวนไปรอบ ๆ และเรียกเขาว่าพ่อในตอนนี้

ในเวลานั้นเมื่อพวกเขารู้ถึงการบาดเจ็บของเป่ยเฟิง พ่อแม่ของโจวเซียหว่านก็ได้ถอนการหมั้นออกในทันที หลังจากฟังคำแนะนำดี ๆ จากเพื่อน ๆ ของเธอ เธอตัดสินใจที่จะทิ้งเป่ยเฟิงไปในที่สุด

ตอนนี้เป่ยเฟิงรู้สึกขุ่นเคืองในหัวใจของเขา แม้ว่าเขาจะไม่มีความรู้สึกเกลียดชังเธอ แต่ก็ยังเป็นความจริงที่ว่าเขาไม่ได้รู้สึกดีกับเธอเช่นกัน

แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากสำหรับคนแปลกหน้า แต่ก็ไม่ได้เป็นความรู้สึกที่ดีสำหรับเป่ยเฟิงเลย

'เฉิงตู โรงแรมราชวงศ์แห่งอาทิตย์ ? ดูเหมือนว่าเธอจะเจอคนที่ดีมากๆ เลยสินะ ...' เป่ยเฟิงจ้องมองเงียบ ๆ ในข้อความโทรศัพท์ของเขาและคิดอย่างโศกเศร้า

โรงแรมราชวงศ์แห่งอาทิตย์ เป็นร้านอาหารระดับ 5 ดาว สำหรับการจัดงานแต่งงานที่ร้านอาหารนี้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ครอบครัวของโจวเซียหว่านจะทำได้ ดังนั้นจึงน่าจะเป็นครอบครัวของเจ้าบ่าวมากกว่า

เป่ยเฟิงวางโทรศัพท์ลงแล้วถอนหายใจเบา ๆ เขาเรียกไป่เซียงมาเพื่อจะบอกให้ไป่เซียงอยู่ห่าง ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้กับต้นผีดูดเลือด เป่ยเฟิงยังสั่งให้ไป่เซียงไปร้านขายเนื้อทุกเช้าแล้วนำอ่างเลือดหมูไปวางทิ้งไว้ใกล้ ๆ ใต้ต้นไทร

หลังจากนั่นเขาก็หยิบคันเบ็ดสีม่วง เขาคิดจะลองเสี่ยงโชคในการตกปลาประจำวันดู แม้ว่าจะนั่งอดทนอยู่ข้าง ๆ บ่อน้ำโบราณเป็นเวลานาน เป่ยเฟิงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้และเก็บคันเบ็ดไว้หลังจากที่ไม่สามารถตกอะไรได้เลย วันนี้เขาไม่มีแขกที่จองโต๊ะไว้และมีเพียงไป่เซียงเท่านั้นที่อยู่ในบ้าน เป่ยเฟิงจึงตัดสินใจออกเดินทางไปเมืองเฉิงตูก่อน หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเขาก็ก้าวเท้าออกจากบ้านทันที

การเดินทางจากเมืองชิงหลิงถึงเมืองเฉิงตูนั้น ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เป่ยเฟิงมาถึงสถานีรถเมย์เล็ก ๆ เขาสะพายกระเป๋าเป้เล็ก ๆ ไว้ที่หลัง

ชิงหลิงนั้นล้อมรอบไปด้วยเทือกเขามากมาย ทำให้เส้นทางรถเมย์นั้นบิดเบี้ยวและเลี้ยวไปเรื่อย ๆ ตามท้องถนนแคบ ๆ นี้คือถนนที่มักถูกใช้โดยรถประจำทางเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เส้นหลัก

เป่ยเฟิงเอนตัวลงกับหน้าต่างขณะที่มองทิวทิศน์อันกว้างใหญ่ของเมืองชิงหลิงข้างหน้าเขา

****

หลินเจียเป็นนักศึกษาของมหาลัยในเมืองเฉิงตู ตอนนี้เธอกำลังเดินทางกลับบ้านเกิดเมื่อเธอเลิกเรียนแล้ว เธอล้มเหลวที่จะซื้อตั๋วรถไฟและมันไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วนอกจากต้องขึ้นรถเมย์

อากาศที่ร้อนและชื้น การตกแต่งภายในรถบัสที่เต็มไปด้วยกลิ่นแปลก ๆ สำหรับเครื่องปรับอากาศในรถเมย์เก่า ๆ นี้ มันทำงานไม่ได้เนื่องจากมันพังมานานแล้ว !

ถึงอย่างนั้น หลินเจียก็รู้สึกเย็นสบายอย่างมากสำหรับอากาศในช่วงบ่ายนี้ ! เพราะมันมีคลื่นของอากาศที่สดชื่น และความเย็นที่ปล่อยออกมาเรื่อย ๆ เล็ดลอดออกมาจากจุดหนึ่ง และมันก็อยู่รอบ ๆ ตัวเธอ สิ่งที่แปลกก็คือถ้าเธอลุกออกจากที่นั่ง เธอจะพบกับคลื่นลมร้อนและแห้งแล้ง !

'มันช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ ที่ได้นั่งข้าง ๆ คนนี้ ...'

ดวงตาของหลินเจียเป็นเหมือนดวงดาวในท้องฟ้ายามราตรีมันดูส่องประกายสดใส เธอมองไปที่คนนั่งข้าง ๆ เธอไม่จำเป็นต้องมีเครื่องปรับอากาศเลยถึงแม้จะอยู่ในฤดูร้อนแบบนี้ !

"อ๊า !"

หลินเจียกำลังหาข้ออ้างในการเข้าหาเป่ยเฟิง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนอันน่าสยดสยองออกมาจากที่นั่งคนขับ

"ฮะ !" เป่ยเฟิงหันออกมาจากหน้าต่างมองไปที่แหล่งที่มาของความวุ่นวาย

"นี้คือการปล้น ! อย่าขยับ ! ทุกคนทำตัวดี ๆ อย่าพยายามทำอะไรโง่ ๆ !"

มีชายสองสามคนขึ้นมาบนรถบัส และกำลังยืนอยู่ด้านหน้า เขาถือมีดตะโกนใส่ผู้โดยสาร

"ฟัง ! รถบัสคันนี้จะต้องออกไปเส้นข้างทางเดียวนี้ ! รถคันนี้เป็นของบริษัท ไม่ใช่ชีวิตของแก คงไม่มีใครอยากเจ็บตัวสินะ !" ชายโหดที่กำลังถือมีดชี้มาที่คนขับรถเพื่อทำตามที่เขาสั่ง

"ได้ ได้! ผมจะทำตามที่คุณสั่ง ! อย่าทำร้ายผม !"

คนขับรถวัยกลางคนร้องไห้ตกใจ เขาวางแผนไว้ว่าจะหาโอกาศที่จะเรียกตำรวจ แต่อย่างไรก็ตามเหมือนมีบางอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้ยินคำพูดของโจร

"เขาพูดถูกแล้ว รถเมย์คันนี้ไม่ใช่ของฉัน ! ไม่มีเหตุผลที่จะเสี่ยงชีวิตเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับของ ๆ คนอื่น !"

ทันทีที่ความคิดนี้หยั่งรากลึกลงในใจของผู้ขับขี่รถบัส เขาละทิ้งความคิดต่อต้านทั้งหมดในขณะที่เขาทำตามคะแนะนำของโจร เขาขับรถออกจากถนนสายหลักและเข้าสู่ถนนด้านข้าง ๆ

"พวกแกคงไม่อยากลองทำอะไรสนุก ๆ ใช่ไหม ! ยกมือขึ้น หากฉันเห็นใครคิดจะเรียกตำรวจฉันจะฆ่ามันทันที ! ไม่ต้องกังวัล แค่ให้ความร่วมมือ เราจะไม่ทำร้ายแน่นอน เราเพียงแค่แสวงหาความมั่งคั่ง มันไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในการสละชีวิตของพวกแก เพราะอย่างงั้น อย่าต่อต้านซะจะดีกว่า"

โจรอีกคนหนึ่งตะโกนขู่ผู้โดยสาร ถ้ามีใครเคลื่อนไหวแปลก ๆ เล็กน้อย เขาจะวิ่งเข้าไปต่อย เตะ ทันที

เป่ยเฟิงรู้สึกหนักใจอย่างมาก ในขณะที่รถเมย์ค่อย ๆ แล่นออกไปเรื่อย ๆ จนถึงทางแยก

"หยุดรถ ! เลี้ยวไปข้าง ๆ เดียวนี้ !"

"เอี๊ยดด !"

คนขับรถประจำทางรีบเหยียบเบรคตามคำสั่งของชายที่ดูโหดร้าย

"เดินเรียงแถวลงจากรถ ทีละคน ! เร็ว ๆ ! อย่าให้ฉันเห็นใครเล่นตุกติก !"

ชายสูงและเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผลักคนออกไปอย่างรุนแรง ให้ลงจากรถ

ชายหนึ่งคนหนึ่งเหลืองมองไปรอบ ๆ ขณะที่ลงจากรถ ลูกปัดกลมเล็ก ๆ กลิ้งลงมาที่คอของเขา ทันใดนั้นโดยไม่ลังเล เขารีบหันไปแล้ววิ่งไปทิศทางตรงกันข้าม !

'ฮึม ! พวกมันโง่จริง ๆ ! กล้าออกมาปล้นทั้ง ๆ ที่มีความสามารถแค่นี้ ? พวกมันมัดตัวประกันเป็นหรือเปล่า ? ไม่เห็นจะเป็นมืออาชีพ หึ ฉันจะโทรหาตำรวจทีหลังหลังจากที่ฉันหนีไปได้ เราจะได้ดูกันว่าไอ้พวกโจรไร้สมองนี้จะหนีออกจากกฏหมายได้ยังไง !' หวูเซียหนิง คิดอย่างเหยียดหยามในขณะวิ่งออกไป

"ปัง !"

"อ๊ากก !"

เสียงกระสุนปืนดังขึ้นในอากาศ คลื่นเสียงกรีดร้องและร้องไห้ดังออกมาจากฝูงชน ขณะที่เฝ้ามองชายหนุ่มที่กำลังหลบหนีออกไปค่อย ๆ ล่วงลงกับพื้น

'พวกมัน ... มีปืนจริง !'

ความเสียใจผ่านเข้ามาในใจของหวูเซียหนิง เขาจมอยู่กับกองเลือดตัวเองในขณะจับหน้าอก ถึงจะเป็นช่วงหน้าร้อน แต่หวูเซียหนิงก็สั่นอย่างรุนแรง โลกของเขาค่อย ๆ แปลกขึ้น หนาวขึ้น การมองเห็นของเขาค่อย ๆ มืดลงไป เลือดไหลออกมาจากอกเรื่อย ๆ จนในที่สุด เขาก็ตายลง

"ปิดปากพวกแกซะ ! นี้เป็นผลจากการไม่ให้ความร่วมมือกับเรา นี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่จะทำให้เห็นว่าใครไม่ร่วมมือกับเรา !" คนที่ดูโหดร้ายลดปืนลง และหันกลับมาตะโกนใส่ผู้โดยสารที่ร้องไห้ด้วยความหงุดหงิด

'นี้มันเริ่มแย่จริง ๆ ...' เฉินหยา เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรดี ในกรณีนี้ที่อีกฝ่ายมีทั้งปืนและตัวประกัน แม้แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะขยับตัวทำอะไร

เฉินหยาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำลังพิเศษจากเมืองเฉิงตู เขาได้ลางาน กำลังเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อไปเยี่ยมพ่อแม่ สำหรับการเดินทางแบบนี้ เขาไม่ได้รับอนุญาตให้นำอาวุธปืนติดตัวไปตามลำพัง ใครจะคิดว่าเขาจะจบลงที่สถานการณ์แบบนี้

"ตั้งใจฟัง เมื่อฉันแบกกระเป๋าไปที่ใคร คน ๆ นั้นต้องเอาเงิดสดและของมีค่าทั้งหมดใส่กระเป๋า รวมทั้งโอนเงินในบัตรของพวกแกไปที่บัญชีของฉัน อย่าพยายามต้อต้าน ไม่อย่างงั้น ... พวกแกคงเห็นผู้ชายคนนั้นแล้วใช่ไหม ?" หลิวหยุนลูบปืนด้วยความโอหัง สั่งด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม

"คนพวกนี้ไมใช่โจรปกติ ! พวกมันเป็นคนที่ดูที่ผ่านอะไรมาหลาย ๆ อย่าง และพวกมันไม่ลังเลที่จะฆ่าคน !"

เป่ยเฟิงมองไปที่กลุ่มโจรที่ยังคงธุรกิจของพวกมันราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับศพที่นอนอยู่บนถนนนั้น คนที่มีจิตใจผิดปกติแบบนี้ไม่อาจถือว่าเป็นโจรธรรมดา ๆ ได้ !

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด