ตอนที่แล้วตอนที่ 69 ไม่คาดคิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 71 โดนวางยา

ตอนที่ 70 ต้นไม้มารดา


ตอนที่ 70 ต้นไม้มารดา

ก่อนหน้านั้นหลังจากที่ราชินีนิมฟ์ได้รับการเสียสละของต้นไม้และผืนป่ารอบ ๆ ร่างกายของเธอก็ได้รับการฟื้นฟูหลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง

นิมฟ์ทุกตนที่เห็นว่าราชินีของตนไม่เป็นอะไรแล้ว พวกเธอก็ดีใจกันจนน้ำตาไหลออกมา สำหรับพกเธอแล้วนั้นราชินีถือว่าเป็นทุกอย่างของชีวิต เพราะเผ่าพันธุ์จะอยู่รอดได้ก็ต้องอาศัยราชินี

“องค์ราชินี” นิมฟ์แต่ละตนพูดออกมาพร้อมกับที่ก้มหน้าลงไปเพื่อเป็นการแสดงความเคารพที่ราชินีกลับมาอย่างปลอดภัย

“เล่าเรื่องมาว่ามนุษย์ผู้นั้นเป็นใคร”

หลังจาที่ราชินีนิมฟ์ถามออกไป นิมฟ์พี่สาวเพียงหนึ่งเดี่ยวที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องของไนเรลมากที่สุดเธอก็ใช่การการสื่อสารเฉพาะของเผ่าพันธุ์ส่งต่อความจรงจำในหัวของเธอให้ทุกตนได้รับรู้ถึงเรื่องราวและความเป็นมาของไนเรล

“เขาต้องการน้ำค้างแห่งชีวิต...” ราชินีนิมฟ์รู้สึกไม่ไว้วางใจไนเรลพอสมควรเพราะไนเรลนั้นรู้ความลับของเผ่าเธอในหลาย ๆ อย่าง ไม่มีใครจะไว้ใจคนที่รู้ตื้นลึกหนาบางของตนโดยที่ตัวเรานั้นไม่รู้ที่มาที่ไปของเขาแน่นอน แต่เมื่อมีบุญคุณก็ต้องทดแทน

ราชินีนิมฟ์ได้พาทุกคนไปที่จุดนัดพบที่นิมฟ์สาวตกลงไว้กับไนเรล และเมื่อไปถึงนิมฟ์น้องสาวและนิมฟ์เด็กน้อยที่บาดเจ็บก็รู้สึกปลาดใจจนน้ำตาไหลออกมาที่ราชินีและพวกพ้องนิมฟ์ของตนนั้นสามารถหนีออกมาได้

ตลอดเวลาที่ทั้งสองถูกทิ้งให้หลบซ่อนตัวอยู่นั้นพวกเธอก็ได้แต่จินตนาการไปว่าไนเรลและนิมฟ์พี่สาวจะพลาดท่าโดนจับได้ เมื่อนั้นก็จะไม่มีใครกลับมาและพวกเธอสองตนก็จะเป็นสองผู้เหลือรอดของนิมฟ์เผ่านี้

แต่ตอนนี้ความกังวลนั้นของเธอหายไปแล้วเมื่อนิมฟ์ทุกตนหนีนรอดกลับมาได้

ราชินีนิมฟ์ที่เห็นว่านิมเด็กสาวนั้นบาดเจ็บหนักเธอก็รีบเข้าไปโอบกอดด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน หลังจากนั้นทั้งเผ่านิมฟ์ก็ออกมาหลบซ่อนตัวห่างจากจุดนัดพบกับไนเรล เนื่องจากเธอต้องระวังตัวด้วยกลัวเหตุการณ์ไม่กี่อย่าง เช่นไนเรลอาจจะแพ้โดนจับและเผยที่อยู่ของพวกเธอ หรือไม่ไนเรลอาจจะมีแผนให้พาพวกของตนมาจับนิมฟ์ทั้งเผ่าไป

ซึ่งไม่ว่าสิ่งไหนเธอก็ไม่ยอมมันเกิดขึ้นอีกครั้ง

หลังจากที่เสียงของการต่อสู้ที่ดังอยู่ห่างไกลเงียบสงบลงไม่นานไนเรลก็มาที่จุดพักแต่พอเขาเห็นว่าไม่มีใครอยู่ก็พูดออกมาว่าพวกตนนิมฟ์นั้นเป็นพวกไม่รักษาสัจจะหรือไม่ และก็สลบไปในมุมมองของราชินีนิมฟ์ที่รับรู้ผ่านต้นไม้

เมื่อรอสักพักก็ไม่มีวีแววว่าไนเรลจะมีพวกเธอจึงให้นิมฟ์บางส่วนเข้าไปพาตัวไนเรลมาและมุ่งหน้าเดินผ่านป่าลึกไป โดยอาศัยต้นไม้บอกทางว่าตรงไหนมีสัตว์ร้าย ตรงไหนมียักษ์เถื่อนที่ออกไล่ล่าพวกตน

ไม่รู้ว่าเดินทางมาตลอดทั้งคืนนั้นเป็นระยะทางเท่าไหร่แล้วจนพวกเธอเหล่านิมฟ์สาวที่น่าสงสารก้เจอเข้ากับปากทางเข้าถ้ำที่ตรงไปสู้หุบเขาที่สวยงาม ด้านในมีพื้นที่ให้เผ่านิมฟ์ของเธออยู่อาศัยกันได้อย่างปลอดภัยหลบซ่อนตัวได้จากอันตรายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์กลายพันธุ์ที่ดุร้าย มนุษย์ที่แสนโลภมาก และยักษ์เถื่อนที่คิดจะค้นหาความลับในธรรมชาติของพวกเธอ

ซึ่งนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดหลังจากที่ไนเรลได้สลบไปและเขาก็ตื่นขึ้นมาให้หลังจากนั้น

ไนเรลที่เดินตามนิมฟ์พี่สาวไปนั้น เขาก็สังเกตทุกอย่างรอบข้าง นิมฟ์เหล่านี้ไม่ได้สร้างที่อยู่อาศัยโดยการตัดต้นไม้หรือทำลายพืชพันธุ์เลยแม้แต่น้อย พวกเธอใช้ความสามารถในการควบคุมพืชจัดการสานกิ่งก้านต้นไม้ให้เป็นบ้าน ซึ่งก็มีหลาย ๆ ตนช่วยกันอยู่

ในขณะที่มีนิมฟ์บางส่วนที่จัดการเก็บน้ำค้างและพืชที่กินได้โดยที่พวกเธอเพียงแค่สัมผัสกับต้นไม้เหล่านั้นเพื่อขอผลไม้เท่านั้น

ถ้าผลไหนที่พร้อมจะมอบให้กับเผ่านิมฟ์ ผลไม้เหล่านั้นก็จะร่วงหล่นลงเอง ในขณะที่นิมฟ์บางตนก็ปลูกพืชและเมล็ดพันธุ์ที่แปลกประหลาดจนแม้แต่ตัวเขาก็ไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด

ภาพที่ไนเรลเห็นอยู่นี้ เขาอาจจะเป็นมนุษย์คนแรกก็ได้ที่ได้มองดูชีวิตประจำวันของเหล่านิมฟ์แบบใกล้ชิดขนาดนี้

“ช่างเป็นภาพเจริญหูเจริญตาจริง ๆ” ไนเรลพูดออกมาจากใจจริง เพราะที่นี่ต่างเต็มไปด้วยนิมฟ์สาวสวย บางตนนั้นก็น่ารัก บางตนนั้นก็ดูบริสุทธิ์อ่อนโยน บางคนก็ดูดีสวยเหมือนกับนางแบบและดารา

แต่ที่ทุกตนนั้นมีเหมือนกันคือเสน่ในการดึงดูดชายทุกคน

ดินแดนแห่งนี้คงเป็นสวรรค์ในอุดมคติของชายหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน ที่จะได้มาใช้ชีวิตที่ห้อมล้อมไปด้วยหญิงสาวเหล่านี้

หลังจากที่เขาชมภาพที่สวยงามอยู่สักพักก็เดินมาถึงใจกลางของหุบเขาแห่งนี้ มันมีมันมีแอ่งน้ำที่เป็นเหมือนกับทะเลสาปขนาดเล็กที่ตรงกลางนั้นมีเกาะอยู่

“ประเทศไทกีล่ามีที่ ๆ สวยขนาดนี้ด้วยหรือ” แม้แต่ตัวไนเรลที่ผ่านอะไรมามากมายก็ยังคิดว่าที่นี่นั้นสวยเป็นอย่างมาก มันเหมือนอยู่คนละโลกที่ไร้ซึ่งการฆ่าฟันและซอมบี้ ซึ่งดูเหมือนกับว่าหุบเขาแห่งนี้นั้นคงจะเกิดขึ้นมาหลังจากโลกที่เปลี่ยนไป

“ท่านราชินี ชายที่ช่วยพวกเราไว้ได้ฟื้นแล้ว ข้าได้พาตัวเขามาตามที่ท่านบอกไว้”

หลังจากทีเสียงของนิมฟ์พี่สาวพูดออกมาจบไปสักพัก ก็มมีเสียงที่แม้แต่ไนเรลยังหลงไหลดังออกมา

“ขอบใจมาก เจ้าไปเถอะ” นิมฟ์พี่สาวได้รับอนุญาติเธอก็แยกจากออกไปในทันทีทิ้งไนเรลไว้ตรงนั้นแต่เขาก็ไม่ได้ประหมาอะไร เพราะตอนนี้ในสายตาของไนเรลกำลังมองไปที่ตรงกลางของเกาะด้วยความสามรถ [ตรวจจับความร้อน C] ของเขาจึงมองเห็นความร้อนจากตัวของราชินีนิมฟ์ได้

“พลังชีวิตที่มากมาย” ที่เขาต้องพูดแบบนั้นเพราะที่อยู่ด้านหลังของราชินีนิมฟ์นั้นกลับมีกลุ่มก้อนความร้อนที่ดูเหมือนจะเป็นแค่จุดเล็ก ๆ แต่มันกับอัดแน่นรวมตัวกันอยู่ จนเป็นสีน้ำเงินซึ่งดูเหมือนว่ามันก็เชื่อมต่อกับตัวราชินีอยู่

“เจ้าสังเกตพอแล้วหรือไม่ ถ้าพอแล้วก็เชิญมาที่นี่ก่อน” เสียงของราชีนีนิมฟ์ที่เป็นเหมือนกับการปลุกเขาจากความสนใจในแสงนั้น เมื่อเขามองไปที่ด้านหน้าก็เห็นว่ามันมีทางเดินที่มาจากรากของต้นไม้ใต้น้ำสานต่อกันเป็นสะพานตรงไปยังใจกลางของเกาะ

ในระหว่างที่เดินไปบนสะพานรากไม้ เขาก็สังเกตุน้ำที่ล้อมรอบอยู่นั้นใสมากจนเหมือนกับมันไม่มีอยู่จริง เหนือผิวน้ำมีหมอกไม่หนาไม่บางรอยตัวอย่างเงียบสงบยิ่งทำให้ที่นี้เป็นเหมือนกับสรวงสวรรค์ไม่มีผิด

เดินเพียงไม่กี่สิบก้าวก็มาถึงบนเกาะกลาง แต่มันก็ทำให้เขานั้นอึ้งกับภาพที่เห็น เพราะมีหญิงสาวนางหนึ่งยืนอยู่ เธอนั้นไม่อาจใช้คำว่าสวยมาบรรยายได้ ใบหน้าที่ดูสูงส่ง รูปร่างที่แค่มองก็ทำให้ใจสั่น กลิ่นหอมที่เหมือนกับดอกไม้ดึงดูดผู้ชาย เป็นเหมือนดั่งราชินี่ที่สยบทุกสิ่ง มันคือการรวมตัวกันของความสมบูรณแบบที่ธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรค์มา

“เจ้าคงจะไม่ได้คิดไม่ดีไม่ร้ายกับเราอยู่ใช่หรือไม่” เสียงของราชินีที่หวานหยดย้อยดังออกมา

“ใช่...ไม่ใช่ เกิดอะไรขึ้นกับฉัน เธอทำอะไร?” ไนเรลที่เสียกสติตัวเองมาได้รีบเบนสายตาหลบไปในทันที

“ขออภัยด้วย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่มันคือ ธรรมชาติของเผ่านิมฟ์ โดยเฉพาะราชินีอย่างเราที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อดึงดูดสิ่งมีชีวิตอื่น”

ไนเรลได้ยินดังนั้นก็นึกถึงเรื่องบางสิ่งที่เป็นข่าวลือว่านิมฟ์สาวจะคัดสรรค์เพศชายของเผ่าอื่น ๆ เพื่อผสมพันธุ์สืบสายเลือดก็คงจะเป็นจริงดังนั้น

เขาจึงระวังตัวเต็มที่เพราะราชินีนิมฟ์นั้น มีความสามรถ [ล่อลวง S] อยู่ ซึ่งถ้าไม่ระวังตัวเขาอาจจะตกเป็นพ่อพันธุ์อยู่ที่นี่ไปจนตายก็ได้

แต่เขาก็แปลกใจที่ราชินีนิมฟ์นั้นมีความสามารถนี้อยู่แต่ทำไมถึงยังโดนยักษ์เถื่อนเหล่านั้นบุกจับตัวไปได้ หลังจากคิดดูยักพวกนั้นคงจะมีสิ่งที่ให้ต้านความสามรถจิตใจได้ เช่นสิ่งหนึ่งที่เขารู้จักก็คือ อัญมณีซอน ที่พวกยักเถื่อนนั้นเรียกหากันมานาน ที่มีความสามารถปกป้องคนที่สวมใส่มัน

แต่เมื่อคิดถึงมันนั้นก็หมายความว่า ยักษ์เถื่อนของเลฟอนก็หน้าจะมีติดตัวไว้อยู่ถึงจัดการกับนิมฟ์ราชินีได้ น่าเสียดายรู้อย่างนี้เขาน่าจะจัดการชิงร่างของเลฟอนมา แต่เขาก็ไม่ได้ดายเพราะในอนาคตเขายังคงมีโอกาสได้รับมันมาอีกมา

บางครั้งการที่คนเรารู้ถึงข้อมูลในอนาคต แต่ก็ใช้ว่าจะใช้มันทุกอย่างได้เสมอไป เพราะเราไม่ใช้พระเจ้า บางครั้งเพียงแค่จ้องมองอนาคต ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

ไนเรลพยายามคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ถ้าจะพูดตรง ๆ ก็คงจะเป็นเขาที่ลืมมันก็แค่นั้น

“แค๊ก ๆ” ไนเรลก็แกล้งไอกลบเกลือนความคิดของตนเองและหันมาสนทนากับราชินีนิมฟ์ต่อ

“เธอ เรียกฉันมาเพระอะไร? ใช่เรื่องของน้ำค้างแห่งชีวิตหรือไม่ตามข้อตกลงกับนิมฟ์สาวนั้นใช่หรือไม่”

“มันทั้งใช่และไม่ใช่”

“ทั้งใช่และไม่ใช่...” ไนเรลถามออกมาอย่างแปลกใจ ตกลงมันยังไงกันแน่

“เรื่องของน้ำค้างแห่งชีวิตนั้นเราราชินีนิมฟ์สามารถมอบให้กับเจ้าได้แต่มันยังไม่ใช่ในเวลานี้ ถ้าจะพูดให้ถูกต้องก็คือ ตอนนี้ยังไม่มีน้ำค้างแห่งชีวิต จะต้องรอให้ต้นไม้มารดาท่านกลับคืนสภาพดังเดิมซะก่อน” ราชินีนิมอธิบายพร้อมกับชี้ไปที่แสงความร้อนที่ไนเรลสั่งเกตุเห็นในตอนแรก

“นี่มัน...” เขามองไปที่ต้นอ่อนของต้นไม้ที่ดูเหมือนจะเติบโตอย่างช้า ๆ

“นั้นคือมารดาของพวกเรา ท่านที่กำเนิดมาใช่ช่วงที่พลังงานแห่งการเปลี่ยนแปลงจำนวนมหาศาลนั้นกระจายตัวออกมาเมื่อร้อยห้าสิบราตีก่อน พืชอย่างท่านมารดานั้นได้รับผลกระทบมากกว่าสิ่งมีชีวิตมากมายนัก จนท่านวิวัฒนาการและให้กำเนิดอสูรอย่างพวกเรา”

ไนเรลฟังเธอและก็คิดตาม ‘พลังงานเปลี่ยนแปลงที่เธอหมายถึงก็คงจะเป็นพลังงานวิวัฒนาการที่ออกมาจากกล่องแพนโดร่าในช่วงแรกที่เร่งการวิวัฒนาการทุกสิ่ง ถ้าต้องรอให้ต้นไม้แห่งมารดานั้นโตขึ้นมาเท่ากับการวิวัฒนาการนั้นคงจะใช้เวลาอีกนาน ถ้าเป็นแบบนั้นมันคงไม่ดีแน่นอน แต่จะให้ทิ้งน้ำค้างแห่งชีวิตไปแบบนี้มันก็คงไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงต้องใช้...’

“เธอสามารถให้ฉันลองใช้ความสามารถในการเร่งการเจริญเติบโตดูหรือไม่” จากนั้นเขาก็อธิบายในถึงความสามารถที่เขาทำได้ให้เธอฟังแบบคราว ๆ จนแม้แต่ตัวของราชินีนิมฟ์นั้นก็ยังคงอ้าปากค้างอยู่

อะไรนะมนุษย์เพศชายคนนี้มีความสามารถในการเร่งการเจริญเติบโตของพืชที่แม้แต่เผ่าพันธุ์ของเธอที่กำเนิดมาโดยตรงก็ยังไม่มี นี่มัน...

ไนเรลที่พูดอธิบายถึงความสามารถของตนเองอยู่นั้นไม่ได้รู้เลยว่าความสามารถของเขานั้นสำคัญกับเผ่าพันธุ์นิมฟ์มากแค่ไหน ตอนนี้เขาโดนราชินีนิมฟ์หมายหัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

..................................

Witterry : ชี้แจงที่พระเอกใช้ เธอ นาย ฉัน แก เนื่องจากมาจาโลกปัจจุบัน ส่วนอสูร ยักษ์เถื่อนอยากให้เป็นแบบโรราณหน่อย ๆ เลยใช้ เจ้า ข้า ตามสถานการณ์ไป มีความคิดเห็นอย่างไรก็สามารถค้อมเม้นมาคุยกันได้นะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด