ตอนที่แล้วบทที่ 5 เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 7 เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน (3)

บทที่ 6 เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน (2)


ชั้นเรียนช่วงบ่ายเริ่มขึ้นแล้ว เดวิดก้าวไปยังที่ว่างโดยมาถึงก่อนเวลา แอนโธนีซึ่งเพิ่งกลับมาจากห้องพักพยาบาลกล่าวว่า

“ฉันได้ยินมาว่าแจ็คจะไม่เป็นไร พวกเขาบอกว่าเขาจะได้สติอีกทีในตอนเย็น”

“อาการของเขาเป็นยังไงบ้าง?”

“ศาสตราจารย์ยังไม่รู้แน่ชัด เท่าที่เขารู้มันอาจเป็นเพียงความเหนื่อยล้าของมานา”

“อืม…”

เดวิดไม่แน่ใจ ไม่นานนักเรียนคนอื่นๆ ก็เริ่มรวมตัวกัน

ใกล้จะถึงเวลาแล้วที่การเรียนจะเริ่มขึ้นเมื่อศาสตราจารย์เจนปรากฏตัว เธอเป็นหนึ่งในอาจารย์หญิงไม่กี่คนที่สถาบันที่ยังไม่ได้แต่งงานแม้ว่าเธอจะอายุสี่สิบกว่าแล้วก็ตาม นักเรียนที่เข้าชั้นเรียนของเธออย่างน้อยหนึ่งครั้งจะตระหนักถึงเหตุผลได้เป็นอย่างดี เธอมีบุคลิกที่น่ากลัวคล้ายกับศาสตราจารย์เควินและไม่ค่อยกระตือรือร้นระหว่างสอน ประเด็นสุดท้ายนั้นสำคัญอย่างมากสำหรับเดวิด

ถ้าดิโอเป็นศาสตราจารย์ที่รับผิดชอบชั้นเรียนในวันนี้มันก็คงมีโอกาสสูงที่เขาจะไม่บรรลุเป้าหมาย เขาปฏิบัติต่อนักเรียนทุกคนอย่างยุติธรรม บางทีแม้กระทั่งในวิธีที่เขาปฏิบัติต่อ 'เพเรียน' อัจฉริยะที่หาตัวจับยากก็คงไม่แตกต่างจากเฟรย์ผู้ตกอับ

แต่เจนนั้นแตกต่างออกไป เดวิดเข้าใจบุคลิกของเธอดีและมั่นใจที่จะใช้มันให้เป็นประโยชน์

‘แต่ทำไมเขาถึงยังไม่มาสักที’

เขาไม่ได้หนีไปใช่ไหม เดวิดเริ่มคิดอย่างนั้น แต่ไม่นานเขาก็ต้องส่ายหัว บางทีเฟรย์ในสมัยก่อนอาจจะทำ แต่ไม่ใช่ตอนนี้

เฟรย์ไปถึงสนามฝึกภาคปฏิบัติได้ทันเวลา เดวิดคาดหวังถึงช่วงเวลาที่จะฆ่าเขา เมื่อเขาเห็นอิซาเบลมาเดินมาพร้อมกับเขา ใบหน้าของเดวินก็แข็งกระด้าง

‘อิซาเบลทรีซไนน์ ? เธอทำอะไรกับเฟรย์? ’

ดูเหมือนพวกเขาจะหมกมุ่นอยู่กับการสนทนา สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าคือการแสดงออกของอิซาเบล เธอซึ่งไม่ค่อยแสดงอารมณ์มาก่อนตอนนี้กลับมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นกว่าเดิม เธอแสดงท่าทางขณะพูดคุยและความชื่นชมของเธอที่มีต่อเฟรย์ถูกแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนบนใบหน้าของเธอ เธอกำลังหัวเราะคิกคัก

“…”

อิซาเบลคนเดียวกัน? คนที่ไม่แคร์ที่จะมองเดวิดแม้แต่แวบเดียวแม้ว่าเขาจะพยายามจีบเธอก็ตาม

ศาสตราจารย์เจนหันไปหาเฟรย์และคิด

‘เฟรย์เบลค เกิดอะไรขึ้นจนถึงขนาดที่ทำให้ศาสตราจารย์ดิโอบอกว่าเขามาดูแลชั้นเรียนนี้ไม่ได้’

เธองงงวย แต่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก เจนมองไปรอบๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ฉันเห็นพวกคุณมารวมตัวกันครบแล้ว จากนั้นฉันจะขอเชคชื่อ เอียนดูไรต์”

เมื่อเธอสังเกตเห็นว่าไม่มีผู้ใดขาดเรียนเธอก็พยักหน้าต่อ

“ชั้นเรียนของวันนี้จะเป็นการฝึกภาคปฏิบัติ คุณจะแข่งขันกันแบบตัวต่อตัว อย่างไรก็ตามการแข่งขันอาจถูกระงับเมื่อใดก็ได้ตามวิจารณญาณส่วนตัวของฉัน อนุญาตให้ใช้ได้เพียงคาถาระดับ 1 ดาวเท่านั้นเพื่อความเป็นธรรม มีคำถามเพิ่มเติมไหม?”

เดวิดยกมือขึ้น

"ว่ามา"

“แล้วคุณตัดสินใจเลือกคู่ที่จะแข่งขันยังไง”

“ศาสตราจารย์ผู้รับผิดชอบจะเป็นผู้ตัดสินใจ ไม่ต้องกังวลฉันจะจับคู่เฉพาะคนที่อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน”

ด้วยการแสดงออกที่ปราศจากเจตนาร้ายเดวิดจึงพูดสิ่งที่อยู่ในใจของเขา

“ผมอยากจะจับคู่กับเฟรย์”

“เฟรย์?”

เจนรู้สึกงุนงง

“คุณอยู่ในระดับ 3 ดาวไม่ใช่เหรอเดวิด คุณไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเขา”

“ผมไม่คิดว่ามันจะสำคัญเพราะผมจะใช้ได้เพียงคาถา 1 ดาวได้เท่านั้นนิ”

เจนรู้ว่าเขาพูดผิด

ตัวอย่างเช่นเธอมั่นใจว่าแม้ว่านักเรียนทุกคนที่นี่จะโจมตีเธอพร้อมกันเธอก็จะสามารถเอาชนะพวกเขาได้ด้วยเวทมนตร์ระดับ 1 ดาว ในลักษณะเดียวกับที่อัศวินชั้นหนึ่งจะเอาชนะทหารที่ยังไม่มีประสบการณ์ได้ง่ายๆ

เดวิดซึ่งกำลังจะไปถึงระดับสามดาวในไม่ช้าและเฟรย์ซึ่งบ่อยครั้งแสดงอาการหมดแรงหลังจากร่ายเวทย์มนตร์เพียงไม่กี่อย่าง ...

ผลที่ได้จะชัดเจน อย่างไรก็ตามเจนไม่ได้สนใจไปกับมัน

"ถ้าหากเป็นตระกูลสโตนฮาซาร์ด ผลลัพธ์ก็ไม่น่าจะออกมาเลวร้ายจนเกินไป"

เจนพยักหน้าและนึกถึงครอบครัวของเดวิด

“ฉันจะอนุญาต”

คำพูดของเจนทำให้นักเรียนเกิดความโกลาหล พวกเขาส่วนใหญ่ได้เห็นเดวิดขู่เฟรย์เมื่อวานนี้ บางคนถึงกับปฏิเสธการตัดสินใจที่ไร้ความรับผิดชอบของเจนอย่างเงียบๆ

“ผมก็มีบางอย่างที่อยากจะถาม”

เฟรย์ยกมือขึ้น เดวิดหัวเราะและคาดเดาความตั้งใจของเขา

'มันสายเกินไปที่จะยกเลิกการประลองแล้ว ไม่ว่านายจะพูดอะไรก็ตาม'

มีเพียงอาจารย์ส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่จำเป็นต้องกลัวตระกูลสโตนฮาซาร์ด นั้นคืออเดเลียและดิโอ

"ว่ามา"

“เท่าที่ผมรู้อุบัติเหตุจำนวนมากอาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างเรียนภาคปฏิบัติ หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คนที่ลงมือจะถูกลงโทษหรือไม่?”

เจนจดจ่อไปที่เฟรย์และพยักหน้าอยู่ในใจ

‘คุณคิดว่าตัวเองจะเป็นคนที่ต้องบาดเจ็บอยู่แล้วใช่ไหม’

เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะเดวิดด้วยตัวเขาเองเขาจึงถามว่าเดวิดจะถูกลงโทษตามกฎของโรงเรียนหรือไม่ ความตั้งใจของเฟรย์นั้นชัดเจน แต่เธอไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของเขาได้

เจนส่ายหัวอย่างแน่วแน่

การต่อสู้เกิดขึ้นบ่อยครั้งโดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่ศึกษาเวทมนตร์ เขาจะต้องยอมรับผลของการสูญเสียโดยไม่โต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้

มันเป็นการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ที่จัดขึ้นเพื่อเกียรติยศของนักเวทย์ แม้แต่ชื่อของตระกูลหรือพ่อแม่ก็ไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้

“บทเรียนภาคปฏิบัตินี้จัดทำขึ้นตลอดในประวัติศาสตร์ของสถาบัน เฟรย์สมมติว่าคุณเสียแขนในการดวล หลังจากการดวลจบลงคุณจะแค้นคู่ต่อสู้และยืมมือคนอื่นเพื่อแก้แค้นหรือไม่?”

“ไม่”

"ตกลง นั่นคือทั้งหมดที่ฉันต้องรู้”

เจนยืนยันว่าเขาจะไม่ทำตามที่เธอสงสัย เขาไม่สามารถลงโทษคู่ต่อสู้ของเขาสำหรับอาการบาดเจ็บจากการแพ้การแข่งขัน มันจะแตกต่างกันถ้าเขาเสียชีวิต แต่เดวิดไม่ต้องการไปไกลถึงขนาดนั้น

‘ฉันจะช่วยรักษาคุณถ้าเกิดอะไรขึ้น’

ถ้าเขาพิการตระกูลสโตนฮาซาร์ดจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการลงโทษได้ไม่ว่าพวกเขาจะมีอำนาจมากแค่ไหนก็ตาม

รอยยิ้มของเดวิดเพิ่มขึ้น

“อย่างที่ฉันเคยพูดไปแล้วฉันจะหยุดการแข่งขันด้วยตัวเองหากชีวิตของพวกคุณตกอยู่ในอันตราย มีคำถามเพิ่มเติมไหม”

"ไม่มีครับ"

“งั้นเริ่มการแข่งขันนัดแรก ไปที่สนามฝึกภาคปฏิบัติได้แล้ว”

เฟรย์และเดวิดไปที่สนามฝึกซ้อมในบริเวณใกล้เคียงและเผชิญหน้ากัน ทั้งคู่ถูกล้อมไปด้วยนักเรียนและศาสตราจารย์เจน

“ขอชมแกเลยที่ไม่วิ่งหนีเหมือนหมา”

เดวิดหัวเราะดังๆ

“แกต้องการจะให้ฉันบอกแกไหมว่าฉันกำลังวางแผนจะทำอะไรกับแก? ก่อนอื่นฉันจะขยี้หลอดเสียงของแกเพื่อที่แกจะไม่สามารถพูดได้ แน่นอนฉันจะไม่หยุดแค่นั้น ฉันจะหักแขนขาของแกทั้งหมดด้วย ฉันอยากเห็นแกคลาน ดังนั้นฉันจะเล่นงานไปที่ขาของแกไปก่อน”

เดวิดไม่ได้วางแผนที่จะไปไกลขนาดนั้น แต่เขาขู่เพราะพยายามดึงรูปลักษณ์ทของเฟรย์ดั้งเดิมกลับมา

อย่างไรก็ตามเฟรย์ถามโดยไม่เลิกคิ้ว

“นายสามารถทำแบบนั้นได้ด้วยเวทมนตร์ระดับ 1 ดาวหรือ?”

“นั่นไม่สำคัญ ฉันจะใช้เวทมนตร์วิชันเมจิก”

ใบหน้าที่ไม่แสดงออกของเฟรย์ได้ตอบเดวิดที่กำลังหงุดหงิด อย่างไรก็ตามในที่สุดการแสดงออกของเฟรย์ก็เปลี่ยนไปเพราะคำว่า "วิชันเมจิก"

“วิชันเมจิก มีเพียงเชื้อสายโดยตรงของตระกูลโดยตรงเท่านั้นที่สามารถสืบทอดได้ นายจะมันใช้มันที่นี่หรือ”

"ใช่ หึ ทำไมแกกลัวหรือ?”

“…”

เดวิดคิดว่าใบหน้าของเฟรย์คงจะเต็มไปด้วยความกลัว วิชันเมจิกแห่งมีค่ามากพอที่จะเรียกว่าสมบัติประจำตระกูล

วิชันเมจิกของนักเวทย์ส่วนใหญ่มีการปิดกั้นอย่างแน่นหนาเพราะถือเป็นเวทย์มนต์ลับของตระกูล แต่เดวิดไม่ใส่ใจ

‘วิชันเมจิกจะไม่สร้างความแตกต่าง’

ด้วยเงื่อนไขที่เหมาะสมเพราะแม้แต่พ่อมดระดับ 1 ดาวก็สามารถใช้วิชันเมจิกได้ มันเป็นหนึ่งในช่องโหว่ของกฏในภาคเรียนปฏิบัติ

แม้ว่าศาสตราจารย์ผู้เข้มงวดอย่างดิโอจะไม่อนุญาต แต่เห็นได้ชัดว่าเจนไม่ได้ตำหนิ

"เริ่ม!"

เสียงของเจนดังก้องไปทั่วสนาม เดวิดใช้  สโนตเรช ซึ่งเป็นวิชันเมจิกของตระกูลสโตนฮาซาร์ดทันที เทคนิคนี้ใช้ในการดึงหินจากพื้นโลกและระดมยิงเป้าหมายในทันที

เดวิดสามารถปรับขนาดของหินได้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะดึงก้อนหินขนาดเท่ากำปั้น แต่นั้นก็เพียงพอที่จะบดขยี้หลอดเสียงของเฟรย์ได้ เดวิดหัวเราะเยาะอยู่ข้างใน แผ่นดินสั่นสะเทือนและหินหลายก้อนก็ลอยขึ้น เมื่อมองไปที่มันเฟรย์ก็พึมพำ

“เมจิกมิสไซล์”

“ฮ่าฮ่าฮ่า!”

เดวิดไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะของเขาได้ มันเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ ท้ายที่สุดไม่มีใครเคยเห็นเฟรย์ใช้เวทย์อย่างอื่นเลยนอกจากเมจิกมิสไซล์ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเดาได้ว่าเขาจะใช้เมจิกมิสไซล์ยังไงต่อหน้าสโตนเรช

‘แกน่าจะยอมจำนนเมื่อมีโอกาสนะ เฟรย์เบลค!’

ตูม!!

“กึก…!”

เดวิดดิ้นไปมาบนพื้นโดยไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น

‘อึก…’

เขารู้สึกเจ็บคออย่างมากและพยายามกรีดร้อง แต่ก็ทำไม่ได้ หลอดเสียงของเขาถูกทำลาย?

“ไม่น่าเชื่อเลย นายต้องห่วยแค่ไหนกันถึงขนาดที่ต้องใช้วิชันเมจิแบบนี้ ตระกูลสโตนฮาซาร์ดต้องมีความพิเศษอย่างแน่นอน”

ถ้าเขามีจิตใจที่ปรกติเขาก็คงระบายความโกรธออกไปแล้ว แต่ในขณะนี้เดวิดน้ำตาไหลจากความเจ็บปวด นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเจ็บปวดตั้งแต่เติบโตมาภายใต้รัศมีของตระกูลสโตนฮาซาร์ด หลังจากนั้นเดวิดก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเมจิกมิสไซล์ของเฟรย์ มันทะลุสโตนเรชและกระแทกเข้าที่คอของเขา!

“นายพูดว่าอะไรอีกนะ? นายกำลังจะหักขาของฉันหลังจากทำลายคอของฉัน?”

เมจิกมิสไซล์อีกลูกก่อตัวขึ้นต่อหน้าเฟรย์

เดวิดจ้องไปที่ฉากนั้น ร่างกายของเขาก็เริ่มอ่อนปวกเปียก

‘ห - หยุด! ฉันยอมแพ้! ฉันยอมแพ้! '

เขาร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่มีเสียงใดๆ ออกมาเลย มีเพียงเสียงนกหวีดที่ไร้พลังเท่านั้นที่เปล่งออกมาและมันยังเบาเกินกว่าจะไปถึงเฟรย์ได้

แตก

‘อ้ากก …’

ตาของเดวิดกลอกไปที่ด้านหลังของศีรษะ เขาเกือบจะหมดสติ อันที่จริงเขาอยากให้เป็นเช่นนั่น แต่ความเจ็บปวดที่น่าทึ่งนี้ทำให้จิตใจของเขาสั่นคลอนเหมือนอยู่บนเส้นลวดเส้นเล็กๆ

"ฉัน - ฉันเข้าใจแล้ว"

เขาจำสิ่งที่เฟรย์ถามเจนก่อนการแข่งขันได้ เขาไม่ได้เป็นห่วงตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเฟรย์อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเขาทำให้เดวิดเป็นอัมพาตครึ่งซีก

“มันเจ็บปวดขนาดนั้นเลยเหรอ? หลอดเสียงของนายพังและขาหักหรือเปล่า?”

เฟรย์ไม่แยแสอย่างน่ากลัว เดวิดกลัวรูปลักษณ์บนใบหน้าของเขา แต่น้ำเสียงของเขาก็ยิ่งทำให้เขากลัวมากขึ้นส่งผลให้กระดูกสันหลังของเขาสั่นเบาๆ

“นายเป็นขยะที่ไม่สมควรถูกเรียกว่านักเวทย์ ฉันจะให้ความช่วยเหลือเล็กน้อยในการละทิ้งความฝันที่น่าสังเวชของนายซะ”

‘แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว…!’

ถ้าเป็นเช่นนั้นเดวิดจะถูกครอบครัวเขาทอดทิ้ง อดีตเฟรย์ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผู้ที่ล้มเหลวในการใช้เวทมนตร์ในตระกูลนักเวทย์จะได้รับการปฏิบัติอย่างไร

วิชันเมจิน่าจะตกไปอยู่ในมือของพี่น้องของเขาและเขาจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัวไปตลอดชีวิต

เมจิกมิสไซล์

ไม่น่าเชื่อเลยว่าเวทมนตร์ระดับ 1 ดาวจะน่ากลัวได้ขนาดนี้ เดวิดมองไปที่เมจิกมิสไซล์และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด