ตอนที่แล้วสุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 19
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปสุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 21

สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 20


ตอนที่ 20 การเปลี่ยนเป้าหมาย และการฝึกร่วมกัน

เซลิน่ารู้สึกตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดว่าในขณะนี้เธอนั้นพูดมากกว่าปกติ สำหรับลุคเขาเพียงแค่พยักหน้าตามที่เธอพูดเรื่อยๆ

อันที่จริงที่ลุคสนใจจริงๆ แล้วก็คือข้อมูลภารกิจที่เขาเพิ่งได้รับจากระบบเมื่อกี้นี้ต่างหาก

ภารกิจ: จับกุมผู้ค้ายาเสพติด, ยึดโคเคนเสร็จสิ้น

การเสร็จสิ้นภารกิจมีรางวัลมูลค่ารวม 200 ค่าประสบการณ์และ 200 เครดิต

เนื่องจากการมีส่วนร่วมของโฮสต์ในภารกิจคือ 80 เปอร์เซ็นต์จึงได้รับรางวัล 160 ประสบการณ์และคะแนนเครดิต 160 คะแนนให้กับโฮสต์

(B_R: ตอนแรกเคยใช้ว่าเจ้าของร่าง แต่ต่อนี้ไปใช้โฮสต์เลยน่าจะเหมาะกว่านะครับ)

เนื่องจากมีประสบการณ์ครบ 500 คะแนนโฮสต์จึงเลเวลเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 3

คะแนนสเตตัสเพิ่มเติม: 3

ก่อนหน้านี้ค่าประสบการณ์ของลุคอยู่ที่ 473 ซึ่งไม่ห่างจาก 500 สำหรับการอัพเลเวลถัดไป

แต่เนื่องด้วยการจับกุมพ่อค้ายาที่เขาได้รับอย่างกะทันหัน ทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมาก และยังช่วยให้เขาได้รับค่าประสบการณ์ครบตามเงื่อนไขของการเพิ่มเลเวล และนอกจากนั้นเขายังมีค่าประสบการณ์เหลืออีกมากกกว่า 100 คะแนนหลังจากเพิ่มเลเวล

ลุคมีความสุขอย่างมากเลยที่เดียวเกี่ยวกับเรื่องนี้

แต่ทว่าในระหว่างการจับกุมในคดีก่อนหน้านี้ เขายังค้นพบว่ามีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับแนวคิดของเขาที่ผ่านมา

โดยทั่วไปแล้วเมืองเล็กๆ อย่างเมืองเชคเคอร์ฟอรค์ด แทบจะไม่มีเรื่องวุ่นวายใดๆ เกินขึ้นบ่อยนักเนื่องจากประชากรที่นี่มีไม่มากนักและ ทุกคนในเมืองแทบจะรู้จักกัน ถึงแม้ว่าจะมีคนนอกบ้างแต่ก็ไม่กี่คนในเมือง

ในตอนแรกเขาคิดว่าการจะทำภารกิจให้สำเร็จเขาต้องการเพียงแค่ร่างกายที่แข็งแกร่งเท่านั้น เนื่องด้วยว่ากองกำลังตำรวจเล็กๆ อย่างเมืองเชคเคอร์ฟอรค์ด ไม่จำเป็นต้องใช้ปืนมากนัก พวกเขาอาศัยเพียงแค่ความสามารถทางกายภาพเท่านั้นในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่พวกเขาพบเจอเป็นประจำ

ซึ่งในช่วงระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมาลุคเองก็ไม่เคยจะได้ชักปืนออกจากซองหนังของเขาเลย และนั่นเป็นข้อพิสูจน์อย่างชัดเจนว่ากองกำลังตำรวจของที่นี่ไม่ค่อยจะมีโอกาสได้ใช้ปืนเท่าไร

และด้วยเหตุนั้นลุคจึงเน้นไปที่การอัพค่าสถานะความแข็งแกร่งเป็นหลัก

แต่เมื่อเขาจับกุมผู้ค้ายาเสพติดสองคนก่อนหน้านี้สำเร็จ เขาก็เริ่มตระหนักได้ว่าในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจในสหรัฐอเมริกาไม่วันใดก็วันหนึ่ง เขาจะต้องเผชิญหน้ากับคนที่มีอาวุธปืนอยู่ดี

และถึงแม้ว่าเขาจะมีค่าความแข็งแกร่ง 20 หรือ 30 แต้มเขาก็ไม่สามารถหยุดกระสุนได้อยู่ดี

ช่วงเวลาที่เขากำลังเผชิญหน้ากับคนร้ายที่ถือปืน ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถจะต่อสู้กับคนร้ายจากระยะไกลได้ และถ้าเขายังดันทุรังที่จะทำแบบนั้นเขาอาจจะตายเร็วขึ้นกว่าเดิม

ในความเป็นจริงแล้วในช่วงแรกๆ ของการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาควรมุ่งเน้นไปที่ การเรียนรู้วิธีใช้ปืนอย่างถูกต้องมากกว่า

และในการใช้ปืนความแข็งแกร่งไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความชำนาญ และความคล่องแคล่วในการยิงมากกว่า

ซึ่งถ้าเกิดว่าความคล่องแคล่วของลุคมีมากกว่าของคนทั่วไปสองเท่าตัวลุคจะสามารถหยิบปืนออกมา ยิงใส่คนร้าย และใส่กลับเข้าไปในซองหนัง และขึ้นตอนทั้งจะเสร็จสิ้นก่อนที่ศัตรูของเขาจะยกปืนขึ้นมาด้วยซ้ำ

และสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วในสถานการณ์ฉุกเฉิน ความเร็วในการตอบสนองมีความสำคัญมากกว่าพละกำลังซะอีก

หรือแม้กระทั่งระหว่างการทะเลาะวิวาทธรรมดาความคล่องแคล่วที่มากกว่าก็เป็นข้อได้เปรียบอย่างมากเช่นกัน

ดูเหมือนว่าความเข้าใจของลุคที่จะเน้นความแข็งแกร่งเป็นหลักเหมือนในตอนที่เขาเล่นเกมในชาติที่แล้วจะไม่สามารถใช้ได้ที่นี่ เพราะว่านี่คือชีวิตจริงไม่ใช่เกม

ระหว่างที่ลุคครุ่นคิดเกี่ยวกับค่าสถานะทั้งหมดที่ผ่านมา เขาจึงตัดสินใจว่าคราวนี้เขาต้องจัดสรรค่าสถานะให้กับความคล่องแคล่วบางส่วน

และวันต่อมาก็เป็นวันหยุดของลุคอีกครั้ง

ลุคได้เตรียมอาหารจำนวนมากเหมือนอย่างเช่นเคย นอกจากนี้เขายังตุนวิตามินและอาหารเสริมจำพวกแคลเซียมไว้ด้วย

หลังจากที่ลุคทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วเขาก็กลับขึ้นไปที่ห้องของเขาเพื่อเริ่มการอัพค่าสเตตัส

และสิ่งที่ตามมาหลังจากอัพค่าสเตตัส ก็คือทั้งวันนั้นของลุคเต็มด้วยความทุกข์ทรมาน

ซึ่งจะแตกต่างไปจากตอนที่เขาเพิ่มค่าสเตตัสไปที่ความแข็งแกร่ง

หลังจากใช้ค่าสเตตัส 3 คะแนนเพิ่มให้กับความคล่องแคล่ว ร่างกายของลุครู้สึกเหมือนถูกจั๊กจี้ ซึ่งความรู้สึกเริ่มมาจากที่เซลล์ในร่างกายของเขากระตุก

และความรู้สึกนี้ไม่ได้รู้สึกเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายของเขาเท่านั้น แต่เขายังรู้สึกได้ถึงความรู้สึกเดียวกันตั้งแต่ส่วนลึกภายในร่างกายของเขาตลอดจนทั่วร่างกาย

และการใช้พลังงานของเขาในครั้งนี้ก็น้อยลงมากเช่นกันเมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว ซึ่งน้อยลงประมาณครึ่งหนึ่ง ที่ร่างกายเขาต้องการเมื่อเขาเพิ่มค่าความแข็งแกร่ง

ลุคทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อนึกถึงความรู้สึกเหล่านั้น หากการเพิ่มค่าความคล่องแคล่วอีกสองสามครั้ง เขาอาจจะแทบเป็นบ้าเนื่องจากความรู้สึกเหล่านั้นได้

หลังจากนั้นเขาก็จำได้ว่ายังมีค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจที่เขาไม่เคยได้เพิ่มค่าสถานะนั้น ซึ่งค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจน่าจะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสมองของเขาแน่ๆ แล้วถ้าเขาเพิ่มค่านั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น?

น่าเสียดายที่ตอนนี้ลุคทำอะไรไม่ได้สำหรับค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจ สิ่งที่ทำได้คือรอให้เขาเพิ่มเลเวลถัดไป

แม้ว่าการจับกุมพ่อค้ายาเสพติดครั้งนี้จะเป็นคดีใหญ่ แต่สำหรับกรมตำรวจแล้วพวกเขาไม่ได้รับชื่อเสียงมากเท่าไหร่นัก

ในทางตรงกันข้ามลุคดูเหมือนจะจับพ่อค้าที่มีเงินสดจำนวนมากมากกว่าพ่อค้ายา

ซึ่งเงินสดที่ถูกยึดจะกลายเป็นของกรมตำรวจ และพวกเขาจะได้รับรางวัลเป็นโบนัสส่วนบุคคลแต่ละเคสไป

ในสหรัฐอเมริกากองกำลังตำรวจนั้นมีอำนาจในการยึดเงินของอาชญากรที่พวกเขาจับกุมได้ โดยปกติแล้วตำรวจจะยึดเงินของพวกอาชญากรไว้ชั่วคราว หากสงสัยว่าเงินที่พวกเขาได้รับเป็นเงินมาจากการทำผิดกฏหมาย

หากผู้ต้องสงสัยต้องการเงินคืนพวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องยื่นขอพิสูจน์ความบริสุทธิของเงินที่ได้รับมาโดยยื่นเรื่องร้องเรียนต่ออัยการเขต ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอัยการเขตก็มีความสัมพันธ์กับตำรวจไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่แล้วดังนั้นโอกาสที่ผู้ต้องสงสัยจะได้เงินคืนจึงไม่ได้มีสูงนัก

โดยทั่วไปมีผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมแล้วยื่นเรื่องเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของที่มาของเงินประมาน 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่และมีเพียงไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สามารถรับเงินคืนได้สำเร็จ

อาจกล่าวได้ว่าหลังจากเข้ากรมตำรวจเงินก็แทบจะไม่มีโอกาสที่จะออกจากมือของพวกเขา

ส่วนยาเสพติดที่ผิดกฎหมายไม่มีอะไรที่ตำรวจสามารถทำได้ พวกเขาควรจะไปเร่ขายยาหรืออะไร? หรือมอบยาให้เจ้าหน้าที่ในกรมเพื่อเป็นโบนัส? (B_R: คนแต่งน่าจะออกแนวประชดประชันมากกว่า)

และแล้วก็ถึงวันทำงาน และวันนี้หลังจากเลิกงานลุคก็พูดกับเซลิน่าว่า“เฮ้ ถ้าคุณว่างเมื่อไร คุณช่วยฝึกยิงปืนให้ผมได้ไหม”

เซลิน่าหยุดเดินและมองไปที่ลุคด้วยสีหน้าขบขัน “ทำไมรีบร้อนจังหละ?”

ลุคยักไหล่ “หลังจากจับกุมผู้ค้ายาทั้งสองแล้วผมก็รู้ว่าควรชักปืนออกมาทันที ซึ่งแบบนั้นมันจะปลอดภัยมากกว่าสำหรับเราทั้งคู่ แต่ผมยังใช้ปืนได้ไม่ดีเลยซึ่งนั้นเป็นสาเหตุที่ผมไม่ชักปืนออกมาทันทีและใช้กระป๋องโค้กเป็นอาวุธแทน”

เซลิน่าหัวเราะคิกคักและพยักหน้า “จริงๆแล้ว มันก็เหมือนกับการขับรถ คนขับรถครั้งแรกๆ จะรู้สึกประหม่าเมื่อเห็นรถจำนวนมากบนท้องถนน แต่ฉันว่าทำไมถึงมาให้ฉันสอนหล่ะ ในเมื่อโรเบิร์ตเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการยิงปืนไม่ใช่หรือ ทำไมนายไม่เรียนรู้จากเขา”

ลุค:“…ถ้าผมบอกว่าผมไม่กล้าไปขอเขาล่ะ?”

เซลิน่ามีสีหน้าสงสัย “ทำไมถึงไม่กล้าหละ?”

ลุค:“เพราะว่าเอาจริงๆ แล้วผมไม่เคยวางแผนที่จะเป็นตำรวจเลย ดังนั้นทุกครั้งที่เขาต้องการที่จะสอนให้ผมในอดีต ผมก็เลยปฏิเสธเขาตลอด”

เอาตรงๆ ก็คือเมื่อก่อนลุคเคยดูถูกโรเบิร์ตว่าเป็นแค่ตำรวจ

และเนื่องด้วยทั้งสองคุ้นเคยกับการทะเลาะกันอยู่แล้ว เนื่องเหตุนั้นถ้าลุคจำไม่ผิดเขาถึงขั้นเคยพูดไว้ว่า "ผมยอมกลืนลูกปืน 100 นัดดีกว่า แทนที่จะมาให้คุณสอนยิงปืน" หรืออะไรอื่นๆ ทำนองนี้

เซลิน่าคำรามด้วยเสียงหัวเราะแล้วตบไหล่ลุค “นายนี้กล้ามากๆ เลยนะที่ไปเถียงกับโรเบิร์ตหน่ะ”

ลุคไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดเซลิน่านักก่อนจะพูดว่า “ก็ผมและเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน และแน่นอนว่าสมาชิกในครอบครัวให้อภัยกันเสมอแหล่ะ”

เซลิน่าพยักหน้าหลังจากคิดเรื่องนี้ “ก็จริง ก็ได้ฉันฝึกให้นายได้ แต่ฉันจะได้อะไรตอบแทนหล่ะ?”

ลุค:“ผมเราเป็นคู่หูกันไม่ใช่เหรอ”

เซลิน่ายิ้ม “แต่การฝึกนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนี่”

ลุคพูดว่า“แล้วคุณต้องการอะไร? อาหารกลางวันหนึ่งเดือน? หรือน้ำอัดลม? หรือแม้แต่ของหวาน?”

เซลิน่าตอบว่า“ไม่ฉันต้องการให้นายช่วยการสอนเทคนิคการต่อสู้พื้นฐาน”

ลุคนิ่งเงียบไปก่อนพูดว่า “คุณจะฝึกการต่อสู้แบบไหนหล่ะ?”

เซลิน่าตอบว่า“ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน จำพวก MMA”

ลุคส่ายหัวทันที “ผมรู้จักแค่ยิวยิตสูเท่านั้นแหล่ะ ส่วนพวก MMA ผมไม่ค่อยถนัดนักหรอก”

เซลิน่ากล่าวว่า“นั่นแหล่ะคือเหตุผลที่ฉันต้องการให้นายมาช่วยฝึกกับฉัน นายค่อนข้างเก่งใน ยิวยึตสู ใช่ไหมหล่ะ?”

ลุคพยักหน้าหลังจากลังเลเล็กน้อย “ก็ไม่ได้ดีอะไรมากมายนักหรอก แต่น่าจะพอได้อยู่”

เซลิน่ากล่าวว่า“เยี่ยมเลย ถือซะว่าเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน อันที่จริงฉันอยากเรียนยิวยึตสูมาตลอดแหล่ะ ฉันเคยอ่านว่ามันเหมาะกับผู้หญิงมากและเหมาะอย่างยิ่งในการใช้สู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า”

ลุคตอบว่า“…โอเค” ให้ตายสิใครมันมาบอกว่ายิวยึตสูเหมาะกับแค่ผู้หญิงว่ะ? เขาเป็นผู้ชายยังเรียนได้เลย

เมื่อทั้งสองตกลงและยอมรับข้อเสนอของกันและกันแล้วดังนั้นเซลิน่าขับรถตรงไปยังสนามยิงปืน

ถ้าจะให้พูดจริงๆ ก็คือที่ๆ พวกเขาไปคือร้านขายปืนที่มีสนามยิงปืนอยู่ข้างๆ ซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่ห่างจากเมืองพอสมควรเพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนจากเพื่อนบ้าน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด