ตอนที่แล้วระบบใช้จ่ายตอนที่217
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบใช้จ่ายตอนที่219

ระบบใช้จ่ายตอนที่218


บทที่ 218: การประชุมตระกูล (ทายาทรุ่นใหม่!)

อย่างไรก็ตามโชคดีที่หลินหยูหยินอยู่ข้าง ๆ เขา เมื่อเห็นว่าเขาตื่นแล้ว เธอยื่นนิ้วของเธอไปจิ้มเขาอีกครั้ง คราวนี้หงต้าหลี่ไม่สามารถหลับลงได้อีกต่อไป “ใครมาจิ้มฉัน ไม่รู้รึไงว่าฉันอยากนอน…” หลังจากที่เขาเห็นชัด ๆ ว่าเป็นหลินหยูหยินอยู่ต่อหน้าต่อตาของเขา เขาก็ตกใจอยู่ครู่หนึ่ง "หยูหยิน เธอมาทำอะไรที่นี้?" หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เริ่มบ่นอีกครั้ง “หรือว่าฉันนอนละเมอ นอนไม่ถูกท่ารึเปล่า เธอรอก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะฝันใหม่ …”

หลินหยูหยินจิ้มเขาอีกครั้งอย่างไร้ความรู้สึก

“อัยยา เธอจะไม่ปล่อยให้ฉันนอนจริงๆเหรอ!” หงต้าหลี่เงยหน้าขึ้นมาทันทีและในที่สุดก็ตื่นขึ้น "อัยยา?! หยูหยินเป็นเธอจริง ๆ เหรอ? ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?!"

"หืม" หลินหยูหยินให้คำตอบและตอบว่า “การตั้งค่าระบบดำน้ำได้รับการทดสอบอย่างสมบูรณ์แล้ว ฉันเห็นว่านายน่าจะไปเป็นเพื่อนฉันได้ ฉันเลยขอให้นายมาช่วยดูหน่อย หากไม่มีอะไร เราก็สามารถไปช่วยเต่าตัวยักษ์ได้แล้ว”

"อัยยา?!" หลังจากฟังสิ่งที่หลินหยูหยินพูด ดวงตาของหงต้าหลี่ก็สว่างขึ้นทันที “เธอหมายความว่ายังไงนะ การตั้งค่าเสร็จสมบูรณ์แล้วและเราสามารถไปช่วยเต่ายักษ์ตัวนั้นได้แล้วจริงดิ?!”

นั่นเป็นข่าวดีจริง ๆ ดีกว่าการมานั่งประชุมตระกูลที่น่าเบื่อนี้!

“นั่น…” ตอนนี้หงตูก็ได้มีโอกาสซักถาม “ต้าหลี่ เต่ายักษ์ที่หลานพูดนั่น คืออะไร?”

ทุกคนในตอนนี้ก็อยากรู้เหมือนกัน

โชคของหงต้าหลี่นั้นยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นสิ่งที่เขาชอบก็ไม่เลว แต่เต่ายักษ์ชนิดใดที่ทำให้หลินหยูหยินต้องคิดค้นอุปกรณ์เพื่อช่วยชีวิตมัน? คำถามนั้นทำให้ทุกคนงงงวยจริงๆ!

ในตอนนี้เขาดึงหลินหยูหยินออกไปแล้ว ในขณะที่เขาวิ่งไปที่รถเพื่อดูการตั้งค่า สำหรับหงต้าหลี่มันไม่สำคัญว่ารถจะเข้ามาอย่างไรในตอนแรก ตอนนี้ เพื่ออธิบายว่าปัญหาของเต่ายักษ์ตัวนั้นเป็นอย่างไร ต้องอธิบายอย่างไม่ไร้ประโยชน์ ...

“ผมขอพูดแทนแล้วกัน” มู่ฮุยโจวหยิบไดรฟ์ USB ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วส่งให้หงตู “เมื่อผู้อาวุโสเห็นสิ่งนี้จะเข้าใจเอง อย่างไร ผมฉันต้องใส่ข้อมูลต่าง ๆ ให้ตรงก่อน ก่อนที่เต่าตัวใหญ่จะได้รับการช่วยเหลือจะต้องเก็บคลิปวิดีโอนี้ไว้เป็นความลับ”

จริง ๆ แล้วสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไม่อนุญาตให้วิดีโอรั่วไหลออกไป

แต่ตอนนี้การตั้งค่าของหลินหยูหยินเสร็จสมบูรณ์ไม่มากก็น้อย น่าจะถึงเวลาในไม่ช้าสำหรับการที่จะไปช่วยเหลือเต่ายักษ์ที่โดนจระเข้ตะครุบอยู่ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะแจ้งให้คนในตระกูลหงรู้ล่วงหน้า ในความเป็นจริง กุญแจสำคัญที่สุด คือ มู่ฮุยโจวต้องการยกยอ "มาสคอตแห่งเมืองเทียนจิง" อย่างหงต้าหลี่เพื่อเสริมอิทธิพลให้เขา พูดได้ว่าอาเสี่ยน้อยอย่างเขาโชคดีเหนือคนธรรมดา ข่าวของเหลียงอี้เฟิงที่สุ่มซื้อลอตเตอรี่และถูกรางวัล 200,000 หยวน นั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะรู้ ...

"โอ้? เล่นวิดีโอเร็ว เราอยากดูแล้ว!“ด้วยภาพและเสียงวิดีโอนั้น มีความน่าเชื่อถือมากกว่าคำพูด หงตูรีบเรียกผู้ติดตามของเขาและพูดว่า”ค่อย ๆ จัดการไดรฟ์ข้อมูลนี้มีค่า”

หลังจากที่ผู้ช่วยเชื่อมต่อไดรฟ์ USB เข้ากับหน้าจอขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว ทุกคนในตอนนี้ก็ประหลาดใจ

“นี่คือ…” หงตูได้ดูจนหนวดของเขาเริ่มสั่น “นี่คือสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างโดยพระเจ้า!”

ลูกหลานทั้งหมดในห้องประชุมต่างร้องอุทานด้วยความประหลาดใจเช่นกัน

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยเห็นเต่าตัวใหญ่ แต่เต่าขนาดมหึมานี้ ไม่สามารถหาเจอได้ง่าย ๆ

ไม่นานคลิปวิดีโอก็เล่นจบ หงตูหายใจเข้าลึก ๆ และมองไปที่หงต้าหลี่ที่กำลังเล่นอยู่อีกข้างหนึ่ง ในขณะที่เขาพึมพำว่า “ท่านมู่ฮุยโจว เต่ายักษ์ตัวนี้ ต้าหลี่เป็นคนค้นพบมันเหรอ?”

“ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ค้นพบ” มู่ฮุยโจวยิ้มและพูดว่า “อันที่จริงเต่ายักษ์ตัวนี้อยู่ในถ้ำหินงอกหินย้อยที่บริเวณด้านนอกของภูเขาเทียนจิง ซึ่งอยู่ภายใต้ชื่อของหงต้าหลี่ ในตอนนี้นับได้ว่าเป็น…สัตว์เลี้ยงส่วนตัวของท่านนายน้อยต้าหลี่”

ทุกคนในห้องประชุมต่างตกใจอีกครั้ง

“พระเจ้า นั่นต้องเป็นเต่าดำที่หายากใช่ไหม? ด้วยเต่าตัวนี้ มันเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาจริง ๆ ในอนาคตใครจะกล้าแตะต้องเขาอีก!”

“เต่าดำสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัตว์เลี้ยง… ฉันอยากเรียนรู้การถลุงเงินเหมือนนายน้อยต้าหลี่แล้วสิ …”

ในขณะที่คนด้านข้างกำลังนิ่ง ในตอนนี้พวกเขาสั่นกลัว ในทางกลับกันด้านของหงต้าหลี่กลับไม่สนใจพวกเขา สำหรับเขา จริง ๆ แล้วเขาไม่สนใจสิ่งที่คนอื่นพูด เพราะการมีความสุขเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

ทันใดนั้นหลังจากปล่อยให้ผู้ช่วยของเขาเก็บไดรฟ์ USB มู่ฮุยโจวก็มองไปรอบ ๆ สถานที่แล้วยิ้ม เขาพูดว่า "ตอนนี้ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผมจะไม่รบกวนทุกคนอีก เอ่อ ผมขอพาคนนี้กลับก่อนนะครับ โอ้ โอเค“เมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ มู่ฮุยโจวก็ตะโกนไปทางหงต้าหลี่เสียงดัง”ท่านนายน้อยต้าหลี่ครับ ท่านคิดว่าเราควรจัดการคนนี้ยังไงครับ? คนผู้นี้เขาเป็นคนหัวดื้อที่ท่านตามหา”

"อัยยา?" ตอนนี้หงต้าหลี่พบบิ๊กเฮดและหันหน้าไปมองเขา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็โบกมือ “มันขึ้นอยู่กับนายเลยตอนนี้ อยากทำอะไรก็ทำ” หลังจากที่หงต้าหลี่พูดจบ เขาก็พูดเสริมว่า “โอ้ ใช่ บอกเขาด้วยว่าอย่าออกไปทำร้ายคนอื่นอีก”

สิ่งที่เขาหมายถึงนั้นชัดเจนในตอนนี้ มู่ฮุยโจวยิ้มทันทีและพูดว่า "ผมเข้าใจแล้ว ผมจะกลับก่อนนะครับ”

หงต้าหลี่ยังคงเดินไปรอบ ๆ ด้วยชุดดำน้ำที่หยูหยินทำเสร็จ โดยหงต้าหลี่ไม่แม้แต่จะมองบิ๊กเฮด ในขณะที่เขาพูดว่า “อืม ไปเถอะ โชคดี”

ฮิฮิ สิ่งที่เขาพูดนั้นไม่มีคำใดเปรียบ คำว่า "โชคดี" เสียงพูดของเขานั้นทำให้คนฟังรู้สึกสบายใจ มู่ฮุยโจวรู้สึกตื่นเต้น “พี่น้องไปซื้อลอตเตอรี่กันเถอะ!”

เมื่อพูดถึงเรื่องลอตเตอรี่ ถือว่าเป็นแหล่งรายได้ตามกฎหมาย ไม่นับเป็นการรับสินบนจากผู้อื่น ...

หลังจากที่มู่ฮุยโจวและคนอื่น ๆ ออกไป หงตูก็ถอนหายใจยาว ขณะที่เขามองไปที่หงเจียนหยี่และหงอันเปา เขาพูดอย่างขมขื่นว่า "พวกแกทั้งสองคน ในฐานะที่ฉันเป็นผู้อาวุโสของตระกูลหง ตอนนี้ฉันเสียหน้าไปหมดแล้ว เพราะพวกแกทั้งสองคน เห้อ ... "

หงเจียนหยี่อายเกินกว่าจะพูด ในขณะที่หงอันเปาขอร้อง “ท่านผู้อาวุโส ท่านปู่ พวกเรา…”

“การทำร้ายคนในตระกูลกันเอง ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดครั้งใหญ่” หงตูสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขาคิดสักพักแล้วพูดต่อ ว่า “มอบธุรกิจทั้งหมดของแกให้ฉันดูแล โดยฉันจะหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยจัดการให้ แกทั้งสองคนอย่าหนีไปไหนอีกและอยู่ที่นี่เพื่อไตร่ตรองตัวเองให้ดี”

เมื่อเขาพูดอย่างนั้น หงตูก็มองไปที่หงเหว่ยและหงหยิง ขณะที่เขาถามว่า “คุณคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้?”

“สำหรับฉัน ฉันเห็นด้วย” หงเหว่ยหมุนลูกบอลในมือของเขา ในขณะที่เขาพูดอย่างร่าเริงว่า “เด็กสองคนนี้เป็นคนใจร้อน เป็นเรื่องที่ดีที่จะปล่อยให้พวกเขาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่สักปีและให้พวกเขาได้สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วย ปลูกฝังจิตใจและนิสัยใหม่ หึหึ”

หงหยิงพยักหน้าเช่นกัน "ฉันเห็นด้วย" เมื่อเธอพูดอย่างนั้น เธอก็ลุกขึ้นยืนและช่วยดึงแขนหงอันเปาที่คุกเข่าขึ้นพร้อมกับพูดว่า "อันเปาไม่ใช่ว่าเราลำเอียง แต่คุณต้องเปลี่ยนแปลงนิสัยใหม่จริง ๆ"

ทั้งสามคนเห็นด้วย เป็นเอกฉันท์ ดังนั้นจึงถือเป็นการตัดสินใจขั้นสุดท้าย หงเจียนหยี่และหงอันเปาไม่สามารถหนีไปข้างนอกได้ ต้องอยู่ที่นี้ตลอดหนึ่งปี

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรการลงโทษนี้อาจกล่าวได้ว่าค่อนข้างผ่อนปรน

นั่นเป็นเพราะหงตูพิจารณาว่าเขาเป็นหลานชาย ดังนั้นเขาจึงไม่ขอให้บิ๊กเฮดพูดถึงเหตุการณ์ทั้งหมด มิฉะนั้นแม้จะมีความผิดเพียงสองข้อ การยุยงให้ผู้อื่นเสพยาและทำร้ายคนอื่นภายใต้ผู้บังคับบัญชา โดยทำร้ายเพื่อนร่วมตระกูลอย่างลับ ๆ พวกเขาจะถูกจำคุกอย่างน้อยสามปีและในอนาคตจะไม่สามารถอยู่ในตระกูลหงได้

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็มีความสัมพันธ์ฉันท์ปู่และหลาน ดังนั้นหงตูจึงทนไม่ได้ที่จะเห็นพวกเขาอยู่ในสภาพนั้น อย่างไรก็ตาม “ต้องเป็นกลาง ใช้แนวทางที่เป็นกลาง” อย่างน้อยเขาก็ต้องให้ความเป็นธรรม

ดังนั้นนี้จึงเป็นวิธีการจัดการปัญหาที่ดีอยู่แล้ว

“ผมเข้าใจแล้วครับ ท่านผู้อาวุโสสองและท่านผู้อาวุโสสาม” หงอันเปาร้องไห้อย่างขมขื่น “ผมจะเรียนรู้จากความผิดพลาดและปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นครับ”

“ฮิฮิ เด็กดี การสารภาพความผิดจะได้รับโทษแค่ครึ่งหนึ่ง” หงตูปลอบหงอันเปา หลังจากนั้นไม่นานเขามองไปยังหงต้าหลี่ที่กำลังยุ่งอยู่กับสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ ขณะที่เขายิ้มและถามว่า “ต้าหลี่ หลานคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้?”

"ฮะ?" หงต้าหลี่ไม่ได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้น "เรื่องอะไรครับ?"

“ปู่จะปล่อยให้เจียนหยี่และอันเปาอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อพักฟื้นจิตใจ มันดีมั้ย?” ไม่จำเป็นต้องพูด กับดักที่พวกเขาวางไว้คืออยากให้ต้าหลี่เป็นคนตัดสินใจ หงตูต้องการความเห็นจากต้าหลี่ด้วยเช่นกัน

“โอ้ ยังไงก็ได้ ผมเห็นด้วยทุกอย่าง” หงต้าหลี่ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับสองคนนั้น “ท่านปู่ เอาตามที่ท่านปู่พูดนั้นละ!” หลังจากพูดจบเกี่ยวกับเรื่องนี้ หงต้าหลี่ก็หันไปถามหลินหยูหยินอีกครั้ง “หยูหยิน อุปกรณ์นี้มีไว้เพื่ออะไร…”

"เอาล่ะ" หงตูตบไหล่หงอันเปา “พวกแกสองคนออกไปก่อน หากมีเรื่องอื่นที่แกต้องการ ก็ค่อยมาบอกกับเรา”

"เข้าใจแล้วครับ" ใบหน้าของหงเจียนหยี่ซีด เขารู้ว่าสิ่งที่เขาพูดตอนนี้จะไม่ช่วยอะไรเลย อย่างน้อยหงตูก็ทิ้งใบหน้าที่ละอายใจไว้ ดูเหมือนว่าหงเจียนหยี่และหงอันเปาจะต้องอยู่ที่นี้หนึ่งปีจริง ๆ “เราจะออกไปก่อน แล้ว..”

เมื่อทุกอย่างจบลง ทั้งสองจึงเดินตามผู้คุมและแยกตัวออกไป

"เอาล่ะ" หงตูมองไปที่ลูกหลานที่อยู่ในห้องประชุมในตอนนี้ “ฉันเชื่อว่า ณ ตอนนี้ทุกคนคงคิดได้เกี่ยวกับเรื่องอันดับทายาทรุ่นใหม่ในปีนี้แล้ว ฉันขอประกาศในที่นี้ว่าในปี 2014 อันดับแรกผู้ที่ได้สืบทอดตระกูลหง ได้แก่ หงต้าหลี่ มีใครจะแย้งอะไรอีกไหม?”

ในตอนนี้มีใครจะพูดอะไรไหม? ตอนนี้ลูกหลานทั้งหมดแพ้อย่างราบคาบ ตัวอย่างมีให้เห็นด้านหน้าพวกเขา แม้แต่มู่หยูซีก็ไม่มีอะไรจะพูด ใครจะยังโง่ที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหงต้าหลี่?

ไม่ว่าหงต้าหลี่จะได้รับเงินเพราะโชคหรือความสามารถของเขา อย่างน้อยเขาก็ได้รับเงินนั้นอย่างยุติธรรมและเป็นธรรม แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

หลายครั้งมันเป็นเรื่องง่ายที่จะแย้งกับตัวเอง ซึ่งไม่ต้องหาคำอธิบายใด ๆ และขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ในการพูด

ตอนนี้ทุกคนจ้องไปที่หงต้าหลี่ด้วยความชื่นชมและอิจฉาเท่านั้น

ทุกคนมีความอิจฉาในตัวเอง แต่นั่นเป็นเพียงสถานการณ์ที่พวกเขาเกือบจะมีโปรไฟล์เดียวกัน

คนที่มีรายได้เดือนละ 5,000 หยวน อาจอิจฉาคนที่มีรายได้เดือนละ 8,000 หยวน แต่ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าใครที่มีรายได้ 5,000 หยวนต่อเดือนจะอิจฉาคนที่ได้รับเงิน 50 ล้านต่อเดือน

ความอิจฉาไม่สามารถทำอะไรได้กับความสามารถที่แท้จริง

ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หงตูก็ค่อย ๆ เดินไปตรงหน้าหงต้าหลี่ หงตูยิ้มและถามว่า “ต้าหลี่ ตอนนี้หลานเป็นทายาทรุ่นใหม่ของตระกูลในปีนี้ หลานมีอะไรจะพูดไหม?”

ทายาทคนใหม่แห่งปีของตระกูลได้รับผลประโยชน์มากมาย ยิ่งไปกว่านั้นมีเพียงคนเดียวที่จะได้ทุกปี ลูกหลานทุกคนมีโอกาสเพียงครั้งเดียว เมื่อปีที่แล้วมู่หยูซี และหลังจากที่เธอเป็นทายาทคนใหม่เป็นเวลาหนึ่งปี เธอก็สามารถอยู่ในตำแหน่งที่หนึ่งได้อีกสองปี หลังจากนั้นสองปี เธอจะเข้าสู่ระดับกลางของตระกูล ซึ่งอยู่ในอันดับเดียวกับคนที่มีอายุ 40 ปีหรือน้อยกว่านั้น

ตอนนี้หงตูได้ถามหงต้าหลี่เกี่ยวกับคำขอต่าง ๆ ที่เขาอยากได้ ตราบใดที่ไม่ใช่คำขอที่มากเกินไปเขาก็จะทำให้แน่นอน

อย่างไรก็ตามหงต้าหลี่ก็ยังเป็นหงต้าหลี่ เขาไม่ได้กังวลแม้แต่น้อยว่าทายาทตระกูลคนใหม่จะเป็นอย่างไร สำหรับเขา สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข ด้วยตำแหน่งทายาทคนใหม่ของตระกูลในปีนี้ ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องมุ่งเน้นหาเงินให้เหมาะสมในอนาคต?

เมื่อถึงตอนนั้นคนในตระกูลระดับสูงก็จะเข้ามาพัวพันเขาทุกวันและยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเขา เขาจะถลุงเงินได้ยังไง?

เขาจะถลุงเงินเล่นอย่างมีความสุขได้เหรอ?!

ดังนั้นหงต้าหลี่จึงพูดว่า “สำหรับผมก็ไม่มีอะไรอยากจะพูดมากหรอกครับ ผมขอให้ปู่ปล่อยลูกน้องของผมซะแค่นั้น” หลังจากนั้นเขายังคงศึกษาเกี่ยวกับการตั้งค่าอย่างสนุกสนานร่วมกับหลินหยูหยิน

เมื่อได้ยินคำพูดของหงต้าหลี่ ทุกคนก็ตกตะลึง คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่สัมผัสกับโลกธุรกิจตั้งแต่ยังเด็ก พวกเขาเคยเห็นคนที่ขอรางวัลมาก่อน แต่ไม่ใช่แบบนี้ ทำไมต้าหลี่ถึงไม่ต้องการอะไร? อย่างไรก็ตามพวกเขาเห็นแบบนั้น เขาไม่ได้ใส่เรื่องนั้นและน้ำเสียงของเขาก็ฟังดูเหมือนเขากำลังจะพูดว่า: “ผมไม่สนใจ ผมมีเงินเยอะอยู่แล้ว”

“เอ่อ…” หงตูรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาได้สัญญาไว้แล้ว เขาจึงไม่สามารถกลับคำพูดของตัวเองได้ เขาโบกมือและพูดว่า “ไปปล่อยคนของต้าหลี่ เนื่องจากเป็นคำขอของทายาทคนใหม่ของตระกูลหง ตราบใดที่ไม่ขัดกับหลักการ ฉันก็ไม่สามารถคัดค้านได้”

ผู้ช่วยก็ออกไปทันที

หลังจากจัดการเรื่องนี้ หงตูก็ถามอีกครั้งว่า “ต้าหลี่เงินที่มีไว้ให้สำหรับทายาทคนใหม่ล่ะ…”

“เงินอะไรครับ?” หงต้าหลี่ปฏิเสธโดยตรง ในขณะที่เขาส่ายหัวเหมือนเสียงกลอง “ไม่ ขอบคุณครับ ผมไม่เอา ผมมีเงินเยอะอยู่แล้ว ผมจะมีเวลาจัดการเงินส่วนอื่นได้ยังไง? ท่านปู่เอาไปแจกจ่ายให้คนอื่น ๆ เลย”

ในตอนนี้เขาต้องการเพียงแค่หลุดพ้นจากความสัมพันธ์ทั้งหมดเกี่ยวกับการประเมินของตระกูล ถ้าเขาเอาเงินจากการที่ได้เป็นทายาทรุ่นใหม่มา เขาจะถูกจับตามองและโดนตรวจสอบและประเมิน นั่นเป็นเรื่องลำบากเกินไป ดังนั้นเขาต้องปฏิเสธมันอย่างแน่นอน

เมื่อได้ยินสิ่งที่หงต้าหลี่พูด ลูกหลานทั้งหมดในห้องประชุมก็ตกตะลึงทันที ทันใดนั้นห้องประชุมใหญ่ทั้งห้องก็เงียบลง

“ต้าหลี่ หลานไม่ต้องการมันจริง ๆ เหรอ?” หงตูถามด้วยความประหลาดใจ “มันไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลยนะ …”

“ไม่ ขอบคุณครับ” หงต้าหลี่พูดพร้อมกับฮัมเพลง “ผมถลุงเงินได้ดีแล้ว ผมไม่สนใจเงินจำนวนนี้หรอก…” เมื่อพูดถึงจุดนี้ เขาก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็พูดเสริมว่า “โอ้ ใช่แล้วปู่ ผมมาที่นี่ในครั้งนี้เพื่อจะลาออกจากการเป็นทายาทรุ่นใหม่ ผมไม่ต้องการตำแหน่งอีกต่อไป ให้รางวัลคนที่ได้อันดับถัดจากผม ใช่แล้ว ท่านปู่ ปู่พูดเรื่องอะไร ผมกลายเป็นทายาทรุ่นใหม่ของตระกูลหงได้ยังไง? ทำไมผมไม่รู้เรื่องนี้?”

แน่นอน หลานไม่รู้เรื่อง เพราะว่าหลานนอนหลับตลอดการประชุมไง อาเสี่ยน้อยเอ้ย!

เหงื่อของหงตูปกคลุมไปทั่วหน้าผากของเขา เขาไม่สามารถอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้เช่นกัน อนิจจา เขากัดฟันอย่างแน่วแน่แล้วพูดว่า “เราจะทำตามที่หลานพูด ให้รางวัลอันดับถัดไปแทน”

หลังจากนั้นไม่นาน หงตูก็หันไปที่แพลตฟอร์มและถามว่า “ผลลัพธ์เป็นยังไง?”

"ใช่ ตามนั้น" ผู้ช่วยส่งเอกสารให้หงตูและหงตูก็ได้อ่านออกเสียงว่า “เนื่องจากหงต้าหลี่ตัดสิทธิ์ในการเข้าร่วมการจัดอันดับทายาทรุ่นใหม่ของตระกูลหงในปีนี้ จึงมีดังนี้!

“อันดับที่ 3 ได้แก่ หงเทียนหยัง คะแนนรวม 67.4 คะแนน รางวัลสำหรับอันดับที่ 3 คือ: เงินกองทุนพัฒนา 50 ล้าน”

หงต้าหลี่: "อัยยา?!"

“อันดับที่ 2 ได้แก่ หงอันจิน คะแนนรวม 87.8 คะแนน รางวัลสำหรับอันดับที่ 2 คือ: เงินกองทุนพัฒนา 80 ล้าน”

หงต้าหลี่: "ฮะ?!"

“อันดับที่ 1 ได้แก่ มู่หยูซี คะแนนรวม 93.5 คะแนน รางวัลสำหรับอันดับที่ 1 คือ: เงินกองทุนพัฒนา 100 ล้าน!”

หงต้าหลี่: "อะไรกันเนี้ย ..."

มือของเขาสั่นระริกขณะหยิบแว่นกันแดดออกมาจากกระเป๋ากางเกงและสวมแว่น ในตอนนี้ถังมู่ซิน,ลี่เนียนเหว่ย,หลิงเสี่ยวหยี่ และคนอื่น ๆ ก็วิ่งเข้ามาหาเขา เมื่อถังมู่ซินเห็นหงต้าหลี่ เธอก็รีบเข้าไปหาเขาและถามว่า “ต้าหลี่ นายสบายดีไหม? นายโอเครึเปล่า? ฉันได้ยินมาว่านายเท่มาก แม้ว่านายจะอยู่ในห้องประชุมนายก็สวมแว่นกันแดด แต่ตอนนี้นายดูเท่มาก ตอนนี้ฉันมองดูนาย นายเท่มาก”

“ฮ่าฮ่า…ฮ่าฮ่า…ฉันจะเป็นอะไรได้ยังไง” หงต้าหลี่หัวเราะอย่างร่าเริงในขณะที่เขาพูดว่า “ฉันหลับสบายเลย … คืนนี้กลับไปเล่นเกมกัน …ฉันไม่แน่ใจว่าโยเทียนเฮาจะเป็นยังไงบ้าง และคนที่เหลืออีก แล้วก็ไอดีเกมของเราด้วย”

"ฮิฮิ ดูเหมือนว่าท่านนายน้อยจะกระปรี้กระเปร่านะคะ" ลี่เนียนเหว่ยเดินไปที่ด้านข้างของหงต้าหลี่และพูดเบา ๆ ว่า “ยิ่งไปกว่านั้นคุณหยูหยินก็อยู่ที่นี่เช่นกัน เธอต้องมีความสุขที่ได้เล่นกับเราแน่ค่ะ ทำไมเราไม่กลับไปพักผ่อนกันล่ะค่ะ”

หงต้าหลี่: "โอเค ... โอเค ..."

ขณะที่เธอพูด เธอเดินไปด้านข้างของหลินหยูหยิน “คุณหนูหยูหยิน ถ้าคุณหนูไม่รีบไปไหน คืนนี้คุณหนูมาเล่นกับพวกเราได้นะคะ”

"เอ่อ.." หลินหยูหยินคิดอยู่พักหนึ่ง ความจริงที่ว่าคืนนี้เธอไม่มีอะไรเร่งด่วนให้จัดการ เธอจึงพยักหน้าทันที "โอเค ตามนั้น"

ก็ได้ข้อยุติในที่สุด

ขณะนี้ทุกอย่างได้ตัดสินใจแล้ว หงตูเดินไปข้างหน้า เขายิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นพวกคุณทุกคนกลับไปพักผ่อนเถอะ เรายังต้องจัดการเรื่องอื่นอีก ร่างกายของต้าหลี่อ่อนแอ โปรดอย่าปล่อยให้เขาเล่นจนดึกดื่นล่ะ”

“อะ รับทราบค่ะ” ลี่เนียนเหว่ยรับบทเป็นพี่สาวคนโตในกลุ่ม เธอจึงตอบตกลงและพูดว่า “พวกเราจะเตือนท่านนายน้อยให้นอนเร็วเองค่ะ โปรดไว้วางใจได้เลยค่ะ ท่านผู้อาวุโส”

"ดีมาก" หงตูยื่นมือที่ค่อนข้างเหี่ยวย่นและแห้งและตบไปที่ไหล่ของลี่เนียนเหว่ยเบา ๆ พลางพูดว่า “เธอดีมากเลยนะ ฉันดีใจจริง ๆ  ยังไงเธอเองก็สามารถมาที่นี่ได้บ่อย ๆ นะ เพราะยังไงพวกเธอก็คือแขกของฉัน”

เมื่อเขาพูดอย่างนั้น ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาหมายถึงอะไร ลี่เนียนเหว่ยหน้าแดงและยิ้มทันทีที่เธอเห็นด้วย “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”

“ฮิฮิ ไปเถอะ”

ทันใดนั้นหลินหยูหยินก็ขึ้นรถซูเปอร์สปอร์ตสีดำสุดเท่คันนั้น ในขณะที่หงต้าหลี่และคนอื่น ๆ ออกไปจากห้องประชุมใหญ่ หงต้าหลี่เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ดวงจันทร์บนท้องฟ้าในขณะที่เขาพูดด้วยท่าทางที่เย็นชา “วันนี้แสงแดดไม่เลวเลย!”

“นั่นมันแสงดวงจันทร์ต่างหากล่ะ!” ถังมู่ซินยักไหล่ของเธออย่างช่วยไม่ได้ “นายนอนอิ่มจนเกินไปไหม?”

อันที่จริงไม่ใช่ว่าหงต้าหลี่จะง่วงนอน…

ไม่น่าแปลกใจที่ท่านปู่บอกว่าจำนวนเงินสำหรับที่หนึ่งไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย นั่นมัน 100 ล้าน อ่า!!!!

นั้นสามารถแลกเป็น 100 คะแนนสถานะได้เลยนะ อ่า!!!!!!

ตาของหงต้าหลี่เกือบจะบอด เพราะน้ำตาไหลทะลักออกมาจากเบ้าตาของเขา ถ้าฉันรู้ว่ามันเป็นจำนวนเงินมากขนาดนั้น การทำธุรกิจแบบไหนถึงจะได้เงินขนาดนั้น ในตอนนั้นฉันควรจะเอามัน อ่าาาาาาาา!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด