ตอนที่แล้วระบบใช้จ่ายตอนที่148
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบใช้จ่ายตอนที่150

ระบบใช้จ่ายตอนที่149


บทที่ 149: เคลติน

หัวหงต้าหลี่เต็มไปด้วยเหงื่อ เขารีบถามหลิงเสี่ยวหยี่ว่า “เสี่ยวหยี่ ขยะที่บริเวณด้านนอกของภูเขาเทียนจิงยังไม่ได้จัดการใช่ไหม? จะจัดการเมื่อไหร่?”

หลิงเสี่ยวหยี่หยิบสมุดบันทึกออกมาจากกระเป๋าเสื้อและพูดว่า “ท่านนายน้อยค่ะ เราได้ทำการจ้างคนงานมาเก็บกวาดไปครึ่งหนึ่งแล้วค่ะ พื้นที่นั้นกว้างขวางเกินไปและมีขยะจำนวนมากที่แขวนอยู่บนต้นไม้ จำเป็นต้องมีคนงานปีนขึ้นไปเก็บค่ะ มันลำบากนิดหน่อยค่ะ”

“โอ้ ฉันไม่แคร์” หงต้าหลี่พูดอย่างดุเดือดว่า “จ้างคนงานมาเพิ่ม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องเร่งด่วนสำหรับฉัน” เขาเกือบจะพูดถึงระบบในใจของเขาโดยบังเอิญ แต่เขาได้เปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว “พวกสัตว์ที่ฉันซื้อมาจำเป็นต้องมีที่อยู่อาศัยในตอนนี้ ต้องจัดการให้ไว”

"โอเค เข้าใจแล้วค่ะ" หลิงเสี่ยวหยี่รีบตอบกลับ

หงต้าหลี่ยังคงออกคำสั่ง "และก็! เสี่ยวหยี่ ตอนนี้จัดการรับสุนัขและแมวจรจัดมาให้ฉันด้วย ฉันจะเลี้ยงพวกมัน! ฉันต้องการรับเลี้ยงพวกมันเท่าที่จะทำได้! โอ้ ใช่ ฉันต้องการคนเลี้ยงพวกมันด้วย!” เมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าภารกิจต้องการอะไร เขาต้องเริ่มงานทันที

เหลือเพียง 4.1 ล้านหยวนเท่านั้น ไม่มีเวลาให้รอแล้ว!

โชคดีที่การหาสุนัขและแมวจรจัดไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ไม่งั้นหงต้าลี่คงร้องไห้แน่ ๆ

ตอนนี้ปากของถังมู่ซินอ้ากว้างจนกลายเป็นรูปตัว “O” "ต้าหลี่! ทำไมนายถึงรับสุนัขและแมวจรจัดมากมายขนาดนี้!? อย่าบอกนะว่านายจะเอาสุนัขและแมวจรจัดพวกนี้เลี้ยงเสือกับสิงโต? เลี้ยงเพื่อมาเป็นอาหารเนี่ยนะ!?“เมื่อเธอพูดจบ เธอรู้สึกว่าหงต้าหลี่ไม่ใช่คนแบบนั้นและพูดว่า”ไม่ ไม่ใช่ นายไม่ใช่คนโหดร้ายแบบนี้”

“แน่นอน ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น” หงต้าหลี่กลอกตา เขาพูดว่า “ฉันจะเสียโอกาสดี ๆ แบบนี้ในการถลุงเงินได้ยังไง? นอกจากนี้เธอไม่คิดเหรอว่าสุนัขและแมวจรจัดเหล่านั้นน่าสงสารเหรอ?”

"ก็จริง" ถังมู่ซินเห็นด้วยกับเขา “ฉันหยุดคิดไม่ได้เลย ไม่คิดว่านายจะทำแบบนี้เพื่อถลุงเงิน นายคิดจะทำอะไรของนาย การที่รับเลี้ยงพวกมันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย อย่างน้อยนายก็ยังมีสมองที่ต้องถลุงเงินอยู่นิ ฮิฮิ”

หงต้าหลี่พูดอย่างดูถูกว่า “หมายความว่าไงมีสมองถลุงเงิน? ฉันมีสมองอยู่แล้ว!”

สองวันต่อมา ในเมืองเทียนจิงทั้งเมืองก็ปรากฏกลุ่มคนจำนวนมากที่ออกตามหาสุนัขและแมวจรจัด พวกเขาถามทุกคนและทุก ๆ คนที่รู้ข้อมูลก็ตามหาว่าพวกมันอยู่ที่ไหน ต่อมาผู้คนเริ่มตั้งชื่อพวกเขาว่า “นักล่าสุนัขและแมวจรจัด” ทำให้หงต้าหลี่กลายเป็นคนพูดไม่ออก

ถึงแม้ว่าเขาจะพูดไม่ออกตอนนี้ เขาก็นอนอยู่บนโต๊ะในห้องเรียนโดยมองไปที่หน้าจอของระบบอย่างต่อเนื่อง

[ภารกิจที่ 1: ใช้จ่ายอย่างห่วงใย ภารกิจที่ต้องทำ: ช่วยเหลือสัตว์ที่น่าสงสาร ความคืบหน้าปัจจุบัน: 757/1000]

[ภารกิจที่ 1: ใช้จ่ายอย่างห่วงใย ภารกิจที่ต้องทำ: ช่วยเหลือสัตว์ที่น่าสงสาร ความคืบหน้าปัจจุบัน: 938/1000]

[ภารกิจที่ 1: ใช้จ่ายอย่างห่วงใย ภารกิจที่ต้องทำ: ช่วยเหลือสัตว์ที่น่าสงสาร ความคืบหน้าปัจจุบัน: 1142/1000]

ความคืบหน้าของภารกิจจะเปลี่ยนไปทุก ๆ ชั่วโมง

ความคืบหน้าปัจจุบัน: 1353/1000]

ความคืบหน้าปัจจุบัน: 1579/1000]

ท้ายที่สุดก็หยุดการเปลี่ยนแปลง เป็นเวลากว่าสามชั่วโมงที่ระบบในใจแจ้งเตือนตลอด

[ภารกิจที่ 1: ใช้จ่ายอย่างห่วงใย

สถานะภารกิจ: เสร็จสิ้นแล้ว

ความคืบหน้าปัจจุบัน: 1885/1000

รางวัลภารกิจ: "สัตว์จะเป็นเพื่อนที่แสนดี"

ผลที่ตามมา: โฮสต์จะไม่ถูกสัตว์ใหญ่ใด ๆ โจมตี ตราบใดที่โฮสต์ไม่โจมตีพวกมันก่อน

ระดับ: จูเนียร์]

อธิบายเพิ่มเติม

[ระดับภารกิจสำเร็จ: สมบูรณ์แบบ

คำอธิบายเพิ่มเติม 1: โฮสต์ช่วยเหลือสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ เพราะเขาชอบพวกมันจริง ๆ ไม่ใช่เพราะเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จอย่างเดียว

รางวัลเพิ่มเติม: เอฟเฟคได้รับการปรับปรุงและเพิ่มเลเวลขึ้น

คำอธิบายเพิ่มเติม 2: เป็นความลับ โฮสต์ไม่จำเป็นต้องสวมใส่ จะมีผลเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น หากโฮสต์ไม่ได้ทำร้ายหรือโจมตีสัตว์ สัตว์จะไม่ทำอะไรโฮสต์ ในขณะเดียวกัน ระดับความรักของโฮสต์เพิ่มขึ้นต่อสัตว์ประเภทต่าง ๆ สัตว์พวกนั้นจะไม่เป็นศัตรูต่อมนุษย์คนอื่นเมื่อสัตว์อยู่กับโฮสต์]

เมื่อเห็นคำอธิบายเพิ่มเติมทั้งสองนี้ หงต้าหลี่ก็หัวเราะจนปากของเขาแทบหุบไม่ลง

ช่างเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ!

นั่นหมายความว่าฉันสามารถสอนหรือควบคุมให้นกอินทรียืนบนบ่าหรือจูงเสือออกไปเดินเล่นได้ใช่ไหม? ให้ตายเถอะ แค่คิดมันก็ทำให้ฉันตื่นเต้นแล้ว!

ฉันไม่คิดว่าจะมีสิ่งมหัศจรรย์และสิ่งที่น่าเหลือเชื่อในโลกใบนี้ที่มีสีสันได้เท่าฉันอีกแล้ว!

“ออกไปเที่ยวกันเถอะ!” ตอนนี้เขาได้รับฉายาแล้ว ไม่มีอะไรต้องลังเลอีกต่อไป เขาเดินออกจากห้องเรียนเพื่อไปหาเคลติน และมันก็จะเดินตามเขาไป

“อาจารย์ ผมขอลาไปทำอะไรสักอย่างนะครับ!”

ครูผู้สอน: "อ่า ครับผม เดินช้า ๆ นะครับ อย่าหกล้มล่ะครับ”

“รับทราบครับ” เพียงฉันขอลาไปข้างนอก ครูถึงกลับต้องเป็นห่วงฉันขนาดนี้ แค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าฉันน่ากลัวขนาดไหน!

หลังจากออกจากโรงเรียน ผู้ติดตามทั้งเก้าก็ปรากฏตัวขึ้นทันที "ท่านนายน้อย!"

“ไปสวนสัตว์กันเถอะ!” หงต้าหลี่หัวเราะเสียงดังและขึ้นรถทันที “วันนี้มันน่าเบื่อเหลือเกินที่ฉันจะต้องอยู่ในโรงเรียน ไปเอาเสือตัวเล็กออกมา แล้วไปเดินเล่นกันเถอะ!”

คนขับรถแทบสำลักน้ำลายตัวเองตาย “ท่านนายน้อยครับ นั่นคือเสือนะครับ แม้ว่าตอนนี้มันจะเป็นแค่ลูกเสือ แต่มันก็มีความดุร้าย ถ้าท่านนายน้อยโดนกัด..”

หงต้าหลี่สงบลง “มันจะไม่เกิดขึ้นแบบนั้นหรอก ไม่ต้องกังวล มันมีอายุไม่กี่เดือน โอ้ ใช่ ซื้อเนื้อแกะและเนื้อวัวระหว่างทางด้วย ตอนนี้มันคงจะหิวแล้วใช่ไหม?”

สวนสัตว์ของถังหยา

“ท่านนายน้อยครับ ท่านตั้งใจจะนำเคลตินเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อเลี้ยงดูมันจริง ๆ เหรอครับ?” ใบหน้าของถังหยาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น มันเป็นลูกเสืออยู่ ถึงมันจะยังตัวเล็ก แต่มันโตเร็วมาก หากหงต้าหลี่โดนกัด เขาอาจจะมีชีวิตเหลือแค่ครึ่งปีหรือหนึ่งปีก็ได้ เขาคงจะต้องหนีไปต่างประเทศได้เท่านั้น

“ไม่ต้องกังวล ฉันสบายดี ฮิฮิ” หงต้าหลี่ไม่ได้อธิบายว่าทำไมเขาถึงแน่ใจว่าเขาจะสบายดี มันง่ายกว่าที่จะไม่พูด “เร็วเข้า นำทางไป!”

“โอ โอเคครับ” หยาดเหงื่อของถังหยาไหลออกมา

แต่เนื่องจากท่านนายน้อยได้ทำตามคำขอของเขาแล้ว เขาก็ไม่กล้าปฏิเสธหงต้าหลี่ เขาได้แต่หวังว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด

หลังจากไปถึงสวนเสือแล้ว ถังหยาก็ขอให้คนเลี้ยงนำลูกเสือออกมา ไม่นานนักก็มีลูกเสือขนปุย ตัวเล็ก ๆ วางลงตรงหน้าหงต้าหลี่ “ท่านนายน้อยครับ ลูกเสือมาแล้ว โปรดระวังด้วยนะครับ อย่าเผลอนะครับ ไม่อย่างนั้นมันอาจจะกัดท่านได้ครับ”

คนเลี้ยงดูเสือไม่ได้บอกอย่างนั้นโดยไม่มีเหตุผล สัตว์อย่างเสือจะไม่ทำอะไรอันตรายเมื่อเจ้าของเล่นกับมันตอนตื่น แต่ทันทีที่เจ้าของหลับ จะไม่รู้เลยว่ามันจะทำอะไรบ้าง คนเลี้ยงดูเสือดูแลพวกมันมาเป็นเวลานาน ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงต้องระวังสัตว์ เช่น เสือและสิงโตให้มาก

"ไม่ต้องห่วงนะ" หงต้าหลี่ย่อตัวลงเอานิ้วมือสัมผัสเคลตินลูกเสือตัวน้อยอย่างเบา ๆ “เคลตินมาให้ฉันจุ๊ฟหน่อย!”

น่าแปลก ทุกคนจ้องมองและรู้สึกประหลาดใจ เจ้าเคลตินกลิ้งไปบนพื้นและเผยให้เห็นท้องนุ่ม ๆ ของมันให้หงต้าหลี่เห็น นิ้วของหงต้าหลี่จิ้ม ๆ ที่พุงของมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า!

"ฮ่าฮ่าฮ่า! เก่งมาก!" หงต้าหลี่รู้สึกดีใจมาก สัตว์อย่างเสือนั้นมีความดุร้ายตามธรรมชาติและแม้แต่ลูกเสือที่เพิ่งเกิดใหม่ที่มีอายุเพียงไม่กี่เดือนก็ยังมองมนุษย์เป็นศัตรูตามสัญชาตญาน แต่ตอนนี้มันตอบสนองหงต้าหลี่อย่างเป็นมิตร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเอฟเฟกต์ของภารกิจเสริมที่เสร็จสิ้นไปมันเป็นยังไง “สัตว์คือเพื่อนที่ดีที่สุด” มันโดดเด่นมาก!

“ไปกันเถอะ ฉันจะพาแกออกไปเดินเล่น!” หงต้าหลี่ไม่ลืมที่จะเตือน: “โอ้ ใช่แล้ว เอาข้าวโพด แมวตัวเล็ก ๆ ตัวนั้นมาให้ฉันด้วย ถึงพวกมันทั้งคู่จะต่างกัน แต่ฉันก็จะพามันไปเดินเล่นด้วยกันให้ได้!”

หยาดเหงื่อของถังหยาไหลออกมา “อย่างไรและมันเหมือนกันยังไงครับ?”

แต่ยังไงก็ตามเขาต้องปฏิบัติตามคำสั่งของท่านนายน้อย ดังนั้นเขาจึงรีบไปตามหาผู้เลี้ยงดูเสือ

หงต้าหลี่อุ้มเคลตินขึ้นมาและถือไว้ในอ้อมแขน ขณะที่เขาเดินไป เขาก็หัวเราะและพูดว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า จากนี้ไปฉันเป็นเจ้านายของแกแล้วนะ มาให้ฉันจุ๊ฟหน่อยสิ!” เมื่อพูดเช่นนั้นเขาก็ยื่นปากไปหา

ในขณะที่ทุกคนรอบตัวของเขาหวาดกลัวจนจะหัวใจวาย เคลตินก็เลียอุ้งเท้าของมันและเลียปากของหงต้าหลี่!

"ฮ่าฮ่าฮ่า! เก่งมาก!" หงต้าหลี่ภูมิใจในตัวเองมาก “จากนี้ไปฉันเป็นเจ้านายของแกแล้ว แกต้องฟังฉัน ได้ยินไหม? ถ้าฉันขอให้แกไปทางทิศตะวันออก แกจะไปทางทิศตะวันตกไม่ได้ ถ้าขอให้จับหมา แกจะไปไล่ไก่ไม่ได้! ถ้ามีใครมาทำร้ายฉัน แกต้องไปกัดมัน!”

คำตอบเดียวของเคลตินคือการส่งเสียงร้อง

คำราม !!!

เสียงคำรามของเสือสามารถทำให้ทั้งป่าสั่นไหวได้ ถังมู่ซินไม่รู้ว่ามันจะทำให้โลกสั่นสะเทือนหรือไม่ แต่เมื่อเธอเห็นหงต้าหลี่อุ้มเคลตินไว้ในอ้อมแขนของเขา เธอก็ตัวสั่นเทาไปทั้งตัว

"ต้าหลี่!" ถังมู่ซินกรีดร้องและรีบวิ่งไปหาต้าหลี่ เพื่อต้องการอุ้มเคลติน "นายอยากตายรึไง ถ้ามันกัดนายจะทำยังไง? เร็วๆ ส่งมาให้ฉัน ฉันจะเอาไปคืนเขา!"

แม้ว่าสาว ๆ จะชอบสัตว์ตัวเล็ก ๆ และขนปุย แต่เสือมันไม่ใช่สัตว์ที่แสนดีขนาดนั้น มันแตกต่างกันกับการที่อุ้มมันไว้ในมือและมองดูมันจากระยะไกล แต่เมื่อถังมู่ซินเห็นหงต้าหลี่อุ้มเคลติน เธอก็รีบวิ่งไปหาหงต้าหลี่ทันทีและแย่งอุ้มเคลตินออกจากหงต้าหลี่ ซึ่งมันทําให้หงต้าหลี่รู้สึกแปลก ๆ

"เธอไม่กลัวเสือเหรอ?" หงต้าหลี่งงงวย "ฉันจําได้ว่าตอนที่เราไปสวนสัตว์ เธอไม่กล้าที่จะยืนใกล้พวกมันสะด้วยซ้ำ"

"นายถามย้ำทำไมห๊ะ? ฉันจะไม่กลัวได้ยังไง!" ถังมู่ซินหย่นจมูก "แค่ฉันกลัวว่ามันจะกัดนายเท่านัน้ล่ะ!"

“เธอเป็นห่วงฉันมากเลยเหรอ?” หงต้าหลี่รู้สึกงง

ใบหน้าของถังมู่ซินเปลี่ยนเป็นสีแดงและพูดเบา ๆ ว่า "ฉันแค่ทำให้แน่ใจก็เท่านั้นเอง! เพราะยังไงฉันเป็นคู่หมั้นของนาย เข้าใจไหม?" เธอไม่ได้พูดต่อ แต่หงต้าหลี่รู้สึกได้ แต่ก่อนเธอดูเหมือนจะไม่ชอบเขามาก

หงต้าหลี่พูดว่า "งั้นคงไม่มีอะไรจริงๆอย่างที่เธอพูดนั้นแหละ เคลตินมาจุ๊ฟหน่อย!"

เคลตินก็ยังเลียหงต้าหลี่ไม่หยุด

"มันเข้าใจนายพูดด้วยเหรอ!?" ถังมู่ซินตกตะลึงอีกครั้ง คราวนี้เธอไม่ได้พยายามแย่งอุ้มเคลติน แต่เธอเอื้อมมือออกไปและพยายามจะอุ้มมัน "งั้นนายขอให้มันจุ๊ฟฉันบ้างได้ไหม? มันน่ารักมากเลย!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด