ตอนที่แล้วระบบใช้จ่ายตอนที่139
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบใช้จ่ายตอนที่141

ระบบใช้จ่ายตอนที่140


บทที่ 140: ปาฏิหาริย์

และทันใดนั้น สิ่งชางเวินชีที่เดาไว้มันก็ถูกต้อง นักข่าวหญิงค่อย ๆ ถอดผ้าพันคอและแว่นตาของเธอออก จากนั้นใบหน้าที่สวยงามก็ปรากฏบนหน้าจอขนาดใหญ่ ด้วยการถ่ายภาพระยะใกล้มันทำให้ทุกคนทั้งในและนอกสนามแทบคลั่ง!

ตอนนี้สนามเวทีทิศตะวันตกสี่แยกวงเวียนทั้งหมดเงียบลงอย่างน่าประหลาดไปชั่วขณะ หลังจากผ่านไปห้าวินาทีเสียงเชียร์ที่คล้ายกับแผ่นดินไหวก็เริ่มดังขึ้นและดังเป็นคลื่น ผู้คนนับไม่ถ้วนตะโกนเรียกชื่อลี่เนียนเหว่ย บางคนถึงกับร้องไห้และสะอื้น ผู้ชมในสนามรู้สึกตื่นเต้นและตกใจเพราะพวกเขารู้สึกว่ามันคุ้มค่าเกินกว่าที่พวกเขาได้มาที่นี้เสียอีก ผู้คนที่อยู่นอกสนามกำลังทุบหน้าอกของตัวเอง ทำไมพวกเขาถึงซื้อตั๋วไม่ทัน! หากพวกเขาซื้อตั๋วก่อนเวลา พวกเขาคงมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเทพธิดาของพวกเขาแล้ว!

"เหว่ยเหว่ย ฉันรักคุณ!"

"เทพธิดา เธอคือเทพธิดาของฉัน!"

ทั่วทั้งสนามเต็มไปด้วยเสียงเชียร์อย่างล้นหลาม เพียงแค่ภาพของลี่เนียนเหว่ยเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนตื่นตาในค่ำคืนนี้!

“หงต้าหลี่ได้ทุ่มสุดตัว!” ชางเวินชีพูดอย่างไร้พลังเพราะหมดแรงไปกับการเชียร์ “เขากล้าที่จะให้ลี่เนียนเหว่ยทำหน้าที่เป็นนักข่าวชั่วคราวเพื่อสัมภาษณ์ดารา มันสุดยอดจริง ๆ เขาทุ่มสุดตัวจริง ๆ”

“การถลุงเงินในครั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด” ดิงเชียงเฉินยอมรับ "เพียงแค่ส่วนนี้ก็ทำให้เรตติ้งรายการพุ่งกระฉูด นอกจากนี้มันคงจะทำให้ตั๋วสำหรับสองสามตอนถัดไปเป็นที่ต้องการอย่างมาก!"

“ต้องยอมรับว่าเขาเก่งจริงๆ” ชางเวินชียิ้มอย่างขมขื่น “ไอเดียของเขาไม่เลวเลย นักร้องในประเทศที่มีชื่อเสียงที่นั่งอยู่ตอนนี้คงพร้อมจะโทรหาและขอมาร่วมรายการตลอดเวลาแน่นอน”

"ก็คงงั้นแหละนะ แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าพวกเขาโทรมาตอนนี้" ดิงเชียงเฉิงพูดตะคอก "นักร้องหนึ่งคนจะถูกคัดออกทุก ๆ สองตอน แล้วจะนำนักร้องพวกนั้นเข้ามาในรายการได้ง่าย ๆ ได้ยังไงกัน? แต่ฉันคิดว่า ถ้าท่านนายน้อยมอบเงินให้พวกเขาหลายแสน พวกเขาก็คงเต็มใจมาแน่นอน!"

"ฉันคิดเหมือนกัน" มู่ซีเซียวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พวกเขาก็พูดด้วยรอยยิ้ม “การกระทำของท่านนายน้อยต้าหลี่เปรียบดั่งพระเจ้า แน่นอนว่าคงไม่มีใครเทียบเขาได้ ตอนแรกที่ฉันเห็นเขาทุ่มเงินมหาศาลเพื่อคอนเสิร์ตครั้งแรก ฉันคิดว่าเขาแค่เล่นสนุก ๆ แต่ตอนนี้ฉันคงต้องตบหน้าตัวเองเรียกสติซะแล้ว”

“ไม่ต่างกันเลย” ชางเวินชีส่ายหัว “ตอนนี้ไปดูการแสดงกันก่อนดีกว่า”

จากนั้นภายใต้เสียงเชียร์ของผู้ชม การจับฉลากในตอนแรกของรายการ "ฉันเป็นนักร้อง" ก็เริ่มขึ้น

"ตอนนี้มีผู้เข้าร่วม คือ .. ชูจงฉิน หลิวหยูฉิง เซี่ยหยูเหยา เฟยซาง หยางจุน เสี่ยวเหมา เจียงหยู หลี่เหว่ย" เมื่อมองไปที่ผู้เข้าแข่งขันเหล่านี้ ชางเวินชีแตะที่คางของเขาและพูดว่า "ถ้าจะให้พูดแล้ว นักร้องพวกนี้ที่จริงยังไม่ถือได้ว่าเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ แต่ถ้ามองดี ๆ ก็เหมือนกับว่ารายการนี้กำลังซ่อนอะไรบางอย่างไว้อยู่ ผู้ที่คิดรายการเช่นนี้ได้จะต้องเป็นคนที่ฉลาดมากแน่ ๆ"

ดิงเชียงเฉินพยักหน้า "เอ่อ..นักร้องเหล่านี้ก็ดีนะ แต่พวกเขาแค่ไม่ได้โอกาสที่จะเฉิดฉายแค่นั้น เหตุผลมันก็มีตั้งหลายประการ หลิวหยูฉิงมีพรสวรรค์ แต่ไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถของเขา เซี่ยหยูเหยามีทักษะการร้องเพลงที่ดี แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ค่อยสวย เฟยซางและหยางจุนมีค่าตัวไม่มากนักเลยได้มาอยู่ที่นี่ หลังจากได้รับคำเชิญจากชูจงฉิน ส่วนเสี่ยวเหมาเป็นหนึ่งในนักร้องโทนเสียงต่ำที่ดีที่สุด แต่เนื่องจากรูปร่างหน้าตาและอายุของเขาความนิยมของเขาจึงไม่สูงมากนัก เจียงหยู มีความสามารถที่ดีและหน้าตาดีและยังเป็นคนที่มีพรสวรรค์ แต่ไม่มีโอกาสที่จะได้เฉิดฉาย หลี่เหว่ย มีความสามารถในการร้องเพลงที่ดีและมีอัลบั้มขายดี แต่ก็มีเพียงไม่กี่อัลบั้ม น่าเสียดายที่ไม่มีเพลงดี ๆ ในอัลบั้มหลัง ๆ ของเขาเลย ทำให้ความนิยมของเขาลดลงเรื่อย ๆ และสุดท้าย ชูจงฉิน ถือได้ว่าเป็นพี่ใหญ่ของวงการดนตรี เขามีความสามารถที่ชาญฉลาด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเก่งแค่ไหน"

"ใช่ อย่างที่นายพูดเป๊ะเลย วันนี้เราคงจะได้รับชมการแข่งขันที่สนุกอย่างแน่นอน" ชางเวินชีกระซิบและยิ้ม “แต่พอมีชูจงฉินเข้ามาร่วมรายการแล้ว เขาก็ได้ที่หนึ่งแน่นอน ฉันว่าอีกเจ็ดคนที่เหลือจะแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งที่เหลืออีกหกตำแหน่ง มันไม่ง่ายเลย!”

ดิงเชียงเฉินพยักหน้า “ใช่ แต่ยังดีที่ทุกคนที่แข่งยังมีโอกาสเหลืออยู่ โอเค กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว มาดูกันว่าใครจะได้เป็นที่สองในตอนนี้!”

ในความคิดของชางเวินชีและดิงเชียงเฉิน การแสดงที่คล้ายกัน โดยทั่วไปแล้วนักร้องจะร้องเพลงเหมือนกัน หลังจากเริ่มการแสดงทีละคน พวกเขาต้องแสดงเดี่ยวและดึงดูดผู้ชมเพื่อให้ผู้ชมทำการโหวต

แต่หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็ต้องตกใจ

คนแรกที่ร้องเพลง คือ เจียงหยู นักร้องหญิงวัย 22 ปี

เธอเป็นคนที่มีความสามารถ แต่ไม่มีโอกาสที่จะได้เฉิดฉาย ชางเวินชีและดิงเชียงเฉินจึงเตรียมพร้อมที่จะหลับตาฟังเธอร้องเพลงและสนุกไปกับเธอ

อย่างไรก็ตามในขณะที่พวกเขาพร้อมที่จะหลับตาฟัง จู่ ๆ แสงไฟบนเวทีก็หรี่ลง ภาพทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันจนทำให้ทุกคนสับสน ผู้ชมคิดเพียงว่าการแสดงของนักร้องบนเวทีจะต้องสว่างและมีสีสัน เพื่อที่พวกเขาจะได้เห็นใบหน้าของนักร้อง แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าจู่ๆบนเวทีก็มืดดับลงไป ราวกับไฟดับ

ดิงเชียงเฉินส่ายหัว “ท่านนายน้อยไม่ใช่คนที่จะทำอะไรผิดพลาดแบบนี้แน่ ฉันค่อนข้างมั่นใจในเรื่องนี้ แต่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”

ชางเวินชีสงสัยและพูดอย่างสับสน "แสงสลัว ๆ แบบนี้เป็นไปได้ยังไง แล้วทีนี้จะเห็นใบหน้านักร้องยังไงละทีนี้"

ในขณะที่เขาพูด ทันใดนั้นทั้งสนามก็เงียบ

ความเงียบที่น่าขนลุก

มีผู้ชมในสนามมากกว่า 50,000 คนและขณะนี้ทุกคนเงียบสนิท

ราวกับว่าเมืองที่พลุกพล่านได้กลายเป็นเมืองร้าง

แต่ จู่ ๆ ก็มีแสงดาวส่องสว่างมาที่เจียงหยู!

มันคือแสงดาวจริงๆ! ดวงดาวค่อย ๆ ปรากฏขึ้นจากด้านข้างของเธอและลอยขึ้นศีรษะของเธอก่อนที่จะปรากฏทั่วเวทีทั้งหมดที่เจียงหยูกำลังแสดงอยู่!

ดวงดาวมีหลากหลายสีตั้งแต่สีเหลืองสีน้ำเงินไปจนถึงสีม่วง แสงดาวกระพริบเป็นครั้งคราว ดูสวยงามมาก!

"นี่มัน!!" ดิงเชียงเฉินตกใจมาก! ไม่ใช่แค่เขาที่ตกใจ แต่ทุกคนในสนามก็ตกใจด้วย! ชางเวินชีอุทาน "นี่มันอะไรกัน?! ภาพนี้มันสวยมาก"

"การฉายภาพโฮโลแกรมไงล่ะ!" มู่ซีเซียวตะโกนมาจากด้านข้าง "เป็นการฉายภาพโฮโลแกรมในหนังไซไฟ พระเจ้า! ท่านนายน้อยต้าหลี่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีตั้งแต่ตอนไหนกัน?!"

แน่นอนว่าด้วยคำอุทานของมู่ซี่เซียว จู่ ๆ ก็มีอุกกาบาตเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นรอบ ๆ ตัวของเจียงหยูอย่างช้าๆ!

อุกกาบาตเหล่านั้นมีขนาดเล็ก แต่ก็ดูสมจริงมาก ผู้ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ แม้ไม่สามารถสัมผัสได้ แต่พอพวกเขายื่นมือออกไปสัมผัสพวกมัน ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าลูกอุกกาบาตเป็นของจริงหรือของปลอม!

ช็อกกันแทบทุกคน!

ในตอนนี้ในใจของทุกคนต่าง "ช็อก"

และเมื่อทุกคนร้องอุทานด้วยความตกใจ เพลงของเจียงหยู "น้ำตาแสงดาว" ก็ได้เริ่มดังขึ้น!

ในห้องพรีเมียม VIP

เมื่อมองไปที่ฉากนั้น หลิงยี่ก็ต้องตะลึงและอ้าปากค้าง ทันใดนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปกอดแขนหงต้าหลี่ “พี่ใหญ่ต้าหลี่! นี้เป็นการฉายภาพโฮโลแกรมในหนังไซไฟสินะ?! เครื่องฉายภาพสามารถฉายคนจริงได้ด้วยไหม?”

หงต้าหลี่หัวเราะและกินเยลลี่ที่หลิงเสี่ยวหยี่แกะให้ เขาพยักหน้า “อืม ทำได้สิ คล้ายๆกัน แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้สามารถฉายภาพได้แค่สีขาวดำเท่านั้น”

“พี่ใหญ่ต้าหลี่ ฉันขอคารวะพี่และต่อจากนี้ไปฉันจะติดตามพี่!” หลิงยี่น้ำตาไหลออกมาด้วยความตื่นเต้น “ฉันใฝ่ฝันถึงเทคโนโลยีแบบนี้มานานแล้ว ในที่สุดก็ได้เห็นมันในวันนี้! พี่ใหญ่ต้าหลี่ หลังจากคอนเสิร์ตจบ พี่ต้องพาพวกเราไปดูนะ!”

ถังมู่ซินยิ้มและพูดว่า “ดูนายตอนนี้สิ อย่างกับคนบ้าแน่ะ ถ้าการแสดงจบลงเดี๋ยวพวกเราจะพานายไปที่นั่นเองแหละ” บอกตามตรงว่าเธอรู้สึกดีมากที่ได้ทำให้คนอื่นสนุกสนาน

ดูซินเฉินจ้องมองไปที่เวทีด้านล่างและพูดไม่ออก ไม่นานนัก จู่ ๆ เขาก็พูดว่า "ฉันบอกได้เลยว่าพี่ใหญ่ต้าหลี่ได้ลงทุนอย่างหนักสำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้" จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปกอดแขนหงต้าหลี่ “แต่ฉันไม่คิดว่าพี่ใหญ่ต้าหลี่จะคิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้! พี่ใหญ่ต้าหลี่ ได้โปรดพาน้องชายคนนี้ไปสนุกด้วยเถอะ!”

“ฉัน.. ฉันประทับใจมากจริงๆ” ลังเฮามองไปที่เวทีด้านล่างในขณะที่บิดต้นขาของเขา “ท่านนายน้อยถึงขนาดคิดค้นเทคโนโลยีแบบนี้ขึ้นมาได้ ดูเสียงเชียร์ของผู้ชมเหล่านั้นสิและสีหน้าที่ตื่นเต้นของพวกเขาสิ บอกได้เลยว่าในตอนต่อไป ตั๋ว 50,000 ใบ คงไม่เพียงพอแน่นอน!” ลังเฮายังกอดแขนหงต้าหลี่อยู่ “พี่ใหญ่ต้าหลี่ได้โปรดสอนวิธีถลุงเงินเถอะ! วันนี้ฉันเปิดโลกทัศน์แล้วจริงๆ! ฉันจะจงรักภักดีและเป็นผู้ติดตามของพี่ต่อจากนี้ไป! ฉันอยากเป็นเหมือนพี่!”

"การถลุงเงินเป็นศิลปะที่ต้องใช้ความสามารถ!" หงต้าหลี่กระตุกจมูกและพูดอีกครั้ง "การถลุงเงินเป็นทักษะอย่างหนึ่ง นายไม่เข้าใจหรอก"

ถังมู่ซินที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ได้ยิ้มและพูดว่า "นั่นเป็นเรื่องจริง การที่จะถลุงเงินและประสบความสำเร็จแบบนี้ได้ ในโลกใบนี้มีเพียงต้าหลี่เท่านั้นที่สามารถทำได้!"

ในขณะที่หงต้าหลี่กำลังคุยกับเพื่อนของเขา ผู้ชมด้านล่างต่างก็หลงใหลในฉากนี้

โชว์ของเจียงหยู พูดได้เลยว่ามันดูสมบูรณ์แบบ ทั้งเพลงและการแสดงสดของเธอนั้นยอดเยี่ยมมากและสเปเชียลเอฟเฟกต์บนเวทีถือได้ว่าเป็นระดับโลก มันคือเทคโนโลยีการฉายภาพโฮโลแกรมที่เรากำลังพูดถึง ในตอนแรกเจียงหยูสวยมาก เมื่อรวมกับเอฟเฟกต์จากดวงดาวโฮโลแกรมแล้วเธอก็ดูเหมือนเทพธิดา เมื่อเพลงถึงท่อนฮุก อุกกาบาตจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาจากท้องฟ้าทำให้การแสดงดูน่าทึ่ง ถ้าไม่มีใครได้เห็นหรือไม่มีใครเชื่อ คงคิดว่ามันเป็นของจริง

ในไม่ช้าเพลง "น้ำตาแสงดาว" ก็จบลงและเจียงหยูก็ได้รับเสียงปรบมือดังที่สุดในชีวิตของเธอ!

ในสนามเวทีทั้งสนามมีผู้คนมากกว่า 50,000 คนและเสียงปรบมือดังขึ้นเป็นเวลา 30 วินาทีก่อนที่มันจะค่อยๆเบาลง

ด้านนอกสนาม ผู้ชมจำนวนนับไม่ถ้วนถูกย้ายไปตามฉาก นี่เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมดนตรีในรัฐสวรรค์! ถือได้ว่าเป็นงานบุกเบิกในโลกแห่งดนตรี! เพลงที่สมบูรณ์แบบควบคู่ไปกับเทคโนโลยีการฉายภาพโฮโลแกรมอันหรูหรา การแสดงนี้ทำให้ผู้คนตกใจราวกับว่ามนุษย์พึ่งเคยขับเครื่องบินเป็นครั้งแรก

"นี้เขาเป็นนักถลุงเงินอัจฉริยะจริงๆ" ชางเวินชีทรุดตัวลงบนเก้าอี้และพึมพำ “นี่มันเรื่องใหญ่แล้ว! เทคโนโลยีการฉายภาพโฮโลแกรม มันคือจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีการฉายภาพโฮโลแกรม!”

"ความสามารถของท่านนายน้อยนั้นไม่อาจหยั่งรู้ได้!" ดิงเชียงเฉินถอนหายใจ "ไม่น่าแปลกใจที่นายน้อยกล้าพูดว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาผลิตบางสิ่งมันจะต้องดีที่สุด! ถ้ามันไม่ได้มาตรฐาน เขาจะทุ่มเงินทั้งหมดและทำมันให้ดีที่สุด!"

เวทีนี้จะไม่สามารถสร้างเอฟเฟกต์แบบนี้ได้ หากไม่ใช่ว่าท่านนายน้อยเป็นคนจัดการมันขึ้นมา

"มันเป็นปาฏิหาริย์จริง ๆ!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด