ตอนที่แล้วบทที่ 272
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 274

บทที่ 273


สภาพด้านในเมืองมีผู้คนมากมายเดินไปมาด้านหน้ามีตลาดขนาดใหญ่หลายคนนำของออกมาวางพื้นขาย บางคนก็มีโต๊ะไม้มาวางของ หลายร้านมีคนมุงดูจนแน่นขนัด ส่วนก็มีหลายร้านที่หาได้มีผู้คนหยุดเดินชมสินค้า เนี่ยฟงเมื่อเข้ามาด้านในก็หาที่ลับสายตาเปลี่ยนเสื้อผ้าสวมใส่เป็นชุดสีดำหลังจากนั้นก็เดินเที่ยวชมตลาด มีทั้งชิ้นส่วนสัตว์อสูร แก่นพลังปราณ สมุนไพร อาวุธต่างๆรวมไปถึงเสื้อผ้าสวมใส่ เขาเดินวนไปมาเกือบชั่วยามก็หาได้มีสิ่งใดสนใจ เสียงร้องของท้องดังแว่วเข้ามาไม่นานเขาก็เดินออกจากตลาดเพื่อหาโรงเตี๊ยม ทันใดนั้นเขาก็พบกับร้านขายของบางอย่างเล็กๆทางขวามือ เมื่อมายืนหน้าร้านก็พบมีคัมภีร์อยู่สองเล่มและแผ่นหนังสามม้วนมีเด็กสาวตัวเล็กนั่งอยู่ด้านหน้าส่วนด้านข้างมีชายชราผู้หนึ่งนอนสั่นเทาอยู่

“พ่อเจ้าไม่สบายรึเด็กน้อย”

“ใช่แล้วพี่ชายข้าจึงนำสมบัติที่บ้านออกมาขาย เพื่อจะนำเงินไปรักษาบิดา”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็ยกยิ้มสะบัดมือขวานำแหวนของใครบางคนที่เก็บได้ออกมาสองวงยื่นให้กับเด็กสาว

“เจ้านำไปเถอะมันคงจะพอมีเงินรักษาบิดาเจ้าได้”

หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็กำลังจะเดินจากไปก็ได้ยินเสียงตะโกนมาจากด้านหลัง

“พี่ชายท่านโปรดหยุดก่อน”

เมื่อเนี่ยฟงหันไปมองเด็กสาวคนนั้นก็โยนแหวนมาให้เนี่ยฟง

“ขอบคุณพี่ชาย”

เนี่ยฟงยื่นมือขวารับแหวนพยักหน้าตอบรับหลังจากนั้นก็เดินไปออกไปหาโรงเตี๊ยมสำหรับทานอาหาร เขาเดินเกือบครึ่งชั่วยามก็หาได้มีโรงเตี๊ยมหลังไหนว่างเขาจึงตัดสินใจกินบะหมี่ข้างทางแทน ในระหว่างนั้นเองก็มีเสียงตะโกนเสียงร้องดังลั่นมาจากด้านหน้าของเมืองหลายคนออกไปมุ่งดู ไม่นานก็มีทหารสี่นายหามชายฉกรรจ์สองคนเดินผ่านมา เนี่ยฟงหรี่ตามองก็พบว่าเป็นกลุ่มคนจากขบวนของหัวหน้าเปาที่หลบหนีมา ไม่นานเถ้าแก่ก็นำบะหมี่มาให้เนี่ยฟง

“เถ้าแก่ที่นี่พบมีร้านขายแผนที่สำหรับเดินทางหรือไม่ ขอรับ”

“เจ้าเป็นนักเดินทางรึ”

“เป็นเช่นนั้นขอรับ”

“เจ้าเดินไปทางขวามือจะเห็นร้านขายอาวุธเจ้าไปสอบถามที่นั่นเถอะ ที่นั่นมีความพิเศษกว่าที่อื่นเพราะบริเวณชั้นสองจะมีแรงกดดันมากกว่าเป็นพิเศษเพราะอาวุธที่อยู่ด้านบนส่วนใหญ่แล้วถูกนำมาจากซากศพของเทพที่ตกตายในสงครามหากเจ้ามีความสามารถก็สามารถขึ้นไปได้ ว่าแต่เจ้าใจกล้าไม่น้อยที่ออกเดินทางช่วงสงครามเช่นนี้”

“ขอบคุณเถ้าแก่มากขอรับ เกิดสิ่งใดขึ้นที่นี่ขอรับ”

เถ้าแก่ถึงกับขมวดคิ้วจ้องมองชายหนุ่มด้านหน้าอย่างไม่วางตา

“หากเจ้ากล่าวเช่นนี้แสดงว่าเจ้าคงเก็บตัวฝึกวิชานานแล้วสินะถึงไม่รู้เรื่องสงครามระหว่างเทพตกสวรรค์เหมาหนานและอ๋องมู่”

เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับ

“เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้มากได้ยินคนเขาลือกัน ในอดีตทั้งสองช่วยกันกอบกู้แผ่นดินที่นี่มาหลายสิบปีจากพวกสัตว์อสูรและปีศาจ แต่เมื่อแปดปีก่อนทั้งสองก็หันคมดาบเข้าหากัน มีหลายคนกล่าวว่าเป็นเพราะทั้งสองอยากเป็นผู้ปกครองที่นี่ ทำให้ผู้คนเริ่มที่จะแบ่งฝ่ายกันเอง ไม่นานก็เกิดสงครามขึ้นที่นี่ แต่ก็เป็นผลดีเช่นกัน เมื่อก่อนเมืองนี้หาได้คึกคักเช่นที่เจ้าเห็น หลายคนเริ่มอพยพมาที่นี่”

ในระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกันก็มีชายฉกรรจ์สามนายสวมชุดสีเทาเดินเข้ามาในร้าน เถ้าแก่เมื่อหันไปมองว่าเป็นผู้ใดมาก็รีบเดินเข้าหาพร้อมกับสะบัดมือขวานำถุงผ้ายื่นให้ชายผู้หนึ่ง หลังจากนั้นเถ้าแก่ก็ก้าวถอยออกมารอ ทันทีที่ชายผู้นั้นตรวจสอบของในถุงก็เอ่ยวาจาออกมา

“เถ้าแก่มันไม่ครบตามที่เราตกลงเอาไว้”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเถ้าแก่ก็รีบคุกเข่าอย่างรวดเร็ว

“ได้โปรด ภรรยาขอกำลังป่วยนางต้องการยามารักษา”

สิ้นเสียงกล่าวชายฉกรรจ์ด้านหน้าก็ตบไปที่ใบหน้าของเถ้าแก่เสียงดังสนั่น เพียะ

“ไอ้ลูกหมา เจ้าคิดว่าเจ้าจะไม่จ่ายเช่นนั้นรึ”

“ได้โปรด ข้าจ่ายแน่แต่ขอเลื่อนไปก่อนได้หรือไม่”

เพียะ เสียงตบหน้าดังอีกครั้งแต่ทว่าครั้งนี้หาใช้เถ้าแก่แต่เป็นชายผู้นั้นที่ถูกตบหน้าล้มลงไปนอนกับพื้น เนี่ยฟงที่เห็นเหตุการณ์ก็หาได้สนใจยังคงนั่งทานบะหมี่อยู่ มีชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งสวมชุดสีขาวเข้ามาช่วยเหลือเถ้าแก่

“พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรถึงลงมือเช่นนี้ พวกเจ้าคงเป็นคนของวังโจวสินะ กลับไปบอกหัวหน้าของเจ้าซะว่าข้าซิวเจียงจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง บอกมาว่าเถ้าแก่ติดหนี้พวกเจ้าเท่าไร”

ชายฉกรรจ์อีกสองคนยืนตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัว

“เรื่องนี้คงไม่จบเช่นนี้แน่”

สิ้นเสียงกล่าวชายฉกรรจ์ทั้งสองก็ลากตัวเพื่อนของตนที่ล้มลงกับพื้นออกไป ซิวเจียงหรี่ตามองชายหนุ่มผู้หนึ่งที่กำลังทานบะหมี่อยู่พร้อมกับยกมือขวาขึ้นมาชี้

“เหอะ คิดว่าเจ้าจะมีความเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้เสียอีก เสียชาติเกิดยิ่งนัก”

เนี่ยฟงที่กำลังทานบะหมี่อยู่ถึงกับขบวนคิ้วจ้องมอง

“ข้าเป็นคนนอกหาได้เกี่ยวข้องอันใดกับเถ้าแก่ อีกอย่างข้ามาเมืองนี้เป็นครั้งแรก หากข้าลงมือช่วยเหลือแล้วผู้ใดจะรับผิดชอบข้า”

“คนขี้ขลาดเช่นเจ้ามักมีคำกล่าวอ้างสวยหรูเสมอ”

“เชิญท่านกล่าวต่อไปเถอะ”

เนี่ยฟงลุกขึ้นสะบัดมือขวานำแหวนออกมาหนึ่งวงพร้อมกับโยนไปให้เถ้าแก่

“ไม่ต้องทอน ขอบคุณสำหรับบะหมี่เถ้าแก่”

หลังจากนั้นเขาก็หันหลังเดินจากไปซิวเจียงแสยะยิ้มหมายพุ่งเข้าหาเนี่ยฟงก็ต้องตกใจกับเสียงร้องอุทานของเถ้าแก่ที่อยู่ด้านข้าง มองเห็นเงินและของอีกมากมายเกลื่อนพื้นเมื่อหันกลับไปมองชายหนุ่มด้านหน้าก็พบว่าหายตัวไปเสียแล้ว หลังจากออกจากร้านบะหมี่เนี่ยฟงก็เดินไปทางทางมือตามที่เถ้าแก่บอกกล่าว เมื่อเดินมาไม่นานทางขวามือก็พบร้านขายอาวุธตามที่เถ้าแก่กล่าว เป็นร้านขนาดใหญ่พอสมควรมีสองชั้น ด้านหน้ามีอาวุธมากมายตั้งอยู่บนชั้นไม้ มีผู้คนเดินเข้าออกตลอดเวลา เนี่ยฟงยืนจ้องมองอยู่นานก็ก้าวเดินเข้ามาด้านใน มีอาวุธมากมายหลากหลายชนิดห้อยอยู่บนผนังห้อง ตรงกลางมีชายฉกรรจ์และหญิงสาวคอยคิดเงินสำหรับหารซื้อขาย มีผู้คนมากมายยืนจ้องมองอาวุธอย่างไม่วางตา

เนี่ยฟงเดินดูอาวุธต่างๆอยู่นานก็เห็นคนจำนวนเจ็นคนลงมาจากชั้นสอง เนี่ยฟงก็เดินสวนขึ้นไป ทันใดนั้นก็มีเสียงกล่าวดังมาจากด้านบน

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครไอ้หนูถึงคิดจะเดินขึ้นมาชั้นสอง”

เนี่ยฟงเงยหน้าขึ้นมองก็พบเห็นชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งสวมชุดสีเขียวที่มาพร้อมกับคนอีกหกคนด้านหลัง

“แล้วเหตุใดพวกท่านถึงขึ้นไปได้”

“เจ้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถเช่นนั้นรึ แม้แต่ตัวข้าเองก็ขึ้นมาไม่ถึงหนึ่งเค่อด้วยซ้ำ”

“เรื่องนั้นมันเรื่องของท่านหาใช้เรื่องของข้า ตัวท่านไร้ความสามารถเองอย่าคิดว่าผู้อื่นจะเป็นแบบท่าน ทางที่ดีไสหัวของพวกท่านออกไปซะ”

แน่นอนว่าสิ่งที่เนี่ยฟงกล่าวออกมาผู้คนบริเวณชั้นหนึ่งได้ยินจนทั่วบริเวณ หลายคนหันมาจ้องมองบริเวณบันไดขึ้นไปชั้นสอง ชายฉกรรจ์สวมชุดเขียวแสยะยิ้มหลีกทางให้แก่ชายหนุ่มด้านหน้า แน่นอนหลายคนล้วนแล้วแต่แปลกใจ เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับหลังจากนั้นก็ก้าวเดินขึ้นไปชั้นสอง ชายผู้หนึ่งในกลุ่มเจ็ดคนก็เอ่ยวาจาออกมา

“ชินฉางเจ้าคิดจะทำสิ่งใด”

“เราจะรอคอยมันอยู่ด้านล่าง อีกไม่นานมันคงรีบลงมาแน่ เมื่อนั้นข้าจะสั่งสอนมันเองที่คิดหักหน้าข้าชินฉาง”

แต่นอนว่าสิ่งที่ชินฉางเอ่ยออกมาเนี่ยฟงเองก็ได้ยินเช่นกันเขาจึงกล่าววาจาออกมาเช่นกัน

“หวังว่าเมื่อข้าลงมาจะพบเห็นพวกท่านเช่นกัน”

สิ้นเสียงกล่าวของเนี่ยฟงชินฉางก็กำหมัดในมือทั้งสองแน่นจ้องมองขึ้นไปบนชั้นสอง เมื่อขึ้นมาถึงชั้นสองก็มีว่ามีแรงกดดันจำนวนไม่น้อยเช่นกันพุ่งออกมาจากอาวุธหลากหลายชนิดที่อยู่ชั้นสอง มีชายชราผู้หนึ่งผมสีขาวยาวถึงกลางหลังสวมชุดสีเทาขลิบเขียวนั่งอ่านคัมภีร์อยู่บริเวณกลางห้อง เนี่ยฟงรีบก้มคารวะ

“ท่านผู้เฒ่าข้าต้องการเลือกดูอาวุธขอรับ”

ชายชราเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองเนี่ยฟง

“เชิญเจ้าเลือกดูเถอะ”

สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงก็ก้มคารวะอีกครั้งหลังจากนั้นก็เดินดูอาวุธมากมายที่อยู่บนผนังห้อง

“ไอ้หนูเจ้าจะเปลี่ยนอาวุธเช่นนั้นรึ”

“ข้าต้องการมีดสั้นอีกสองเล่มขอรับ”

“มีดสั้น”

“ใช่ขอรับ แต่หากมีดาบที่สามารถต้านทานพลังของข้าได้ก็คงจะมีไม่น้อยเช่นกัน ตอนนี้ข้ามีเพียงมีดสั้นและแส้แข็งสองเล่มเท่านั้นขอรับ ส่วนอาวุธที่ปล้นชิงมาข้าคิดว่ามันคงต้านทานพลังของข้าไม่ได้แน่”

เนี่ยฟงเดินดูอาวุธแต่ละชิ้นอย่างช้าๆ มีบางครั้งเอื้อมมาคว้าจับอาวุธตรวจสอบไปมาไม่นานก็วางไว้เช่นเดิม แน่นอนว่าการกระทำของเนี่ยฟงล้วนแล้วแต่สร้างความแปลกใจให้แก่ชายชราไม่น้อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด