ตอนที่แล้วบทที่ 23 วิญญาณคุณภาพสูงเกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25 เปลวไฟและกลิ่นของกำมะถัน

บทที่ 24 แวมไพร์ปรากฏตัว


บทที่ 24 แวมไพร์ปรากฏตัว

แต่รอยก็ยังไม่แน่ใจเต็มร้อยว่าวิญญาณของลูเซียสกำลังจะเปลี่ยนเป็นวิญญาณที่มีคุณภาพสูงได้จริงๆ  ทว่าน่าประหลาดใจแม้ว่าตอนนี้ลูเซียสจะยังมีชีวิตอยู่แต่ปีศาจเช่นรอยกลับสามารถได้กลิ่นของวิญญาณจากร่างกายของเขาอย่างชัดเจน

เมื่อได้กลิ่นหอมหวานดังกล่าวก็ทำให้รอยน้ำลายสออย่างช่วยไม่ได้ ร่างกายของเขาถูกกระตุ้นจากสัญชาตญาณให้รีบหาทางรับวิญญาณดวงนี้มาโดยเร็ว!

อย่างไรก็ตามรอยพยายามยับยั้งสติและให้เหตุผลกับตัวเองว่ายังไม่ถึงเวลา เขายังต้องการให้ลูเซียสมีชีวิตอยู่ต่ออีกหน่อย เนื่องจากจิตวิญญาณของเขายังไม่อยู่ในสภาพที่น่าลิ้มลองที่สุด!

มันเป็นเพราะรอยถูกล่อลวงจากกลิ่นของวิญญาณที่กำลังตกต่ำรอยจึงกำลังมองลูเซียสอย่างหิวกระหาย เมื่อดวงตาของลูเซียสสบตากับรอยส์เขาก็รู้สึกตัวสั่นเย็นเหยียบไปยันกระดูกสันหลัง ลูเซียสรู้สึกราวกับว่าเขากำลังถูกจับจ้องโดยสัตว์ร้ายอันตรายมันเป็นการเตือนจากสัญชาตญาณและสัมผัสที่หกของสิ่งมีชีวิต

ลูเซียสขยับถอยหลังโดยไม่รู้ตัวจนเกือบพลาดตกจากหลังคาของคฤหาสน์ แต่มือใหญ่ของรอยคว้าตัวเขาไว้ันและยกตัวเขาเข้ามาใกล้

"เจ้ากลัวอะไร?" รอยหรี่ตาลง

"ไม่-ไม่มีอะไรขอรับ!" ลูเซียสปฏิเสธอย่างตื่นตระหนก อย่างไรก็ตามต้องบอกว่าตอนนี้ลูเซียสรู้สึกเสียใจอย่างแท้จริงกับการตัดสินใจของเขาที่ได้ตัดสินใจติดต่อกับปีศาจ ปีศาจตัวจริงนั้นน่ากลัวกว่าที่เขาคิด!

อย่างไรก็ตามตอนนี้บอกได้ว่ารอยสามารถตีความและแสดงออกได้อย่างสมบูรณ์แบบในฐานะของปีศาจ รอยระเบิดเสียงหัวเราะออกมาราวกับว่าเขากำลังอ่านความคิดของลูเซียสได้หมดจดจากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า

“เจ้าคิดว่าจะมีทางหันหลังกลับได้งั้นหรือลูเซียส? มันไม่มีประโยชน์! หลังจากเซ็นสัญญาปีศาจแล้วร่างกายของเจ้าจะปกคลุมไปด้วยออร่าของปีศาจ เช่นเดียวกับแสงจากหิ่งห้อยที่กระพริบอยู่ในความมืดมิดท่ามกลางสายตาของคริสตจักร!”

จิตใจของลูเซียสแทบจะแตกสลายทันทีที่ได้ยินความจริงตรงหน้า

ในขณะที่ออร่าปีศาจอาจเป็นความจริง ลูเซียสไม่รู้เลยว่ารอยกำลังหลอกลวงเขาหรือไม่ แต่ตัวเขาที่เป็นขุนนางนั้นจะไม่ทราบได้อย่างไรว่านักล่าปีศาจจากคริสตจักรทรงพลังแค่ไหน

ขณะที่รอยกำลังเฝ้ามองลูเซียสที่กำลังจะสติแตกรอยกลับยกยิ้มออกมาอย่างเย็นชา

"อย่าตระหนกจนเกินไปนัก.. บางทีปีศาจเช่นข้าอาจจะชั่วร้ายก็จริงแต่ปีศาจให้ค่าเกี่ยวกับสัญญามากกว่าที่เจ้าคิด เพราะตั้งแต่ที่เจ้าได้เซ็นสัญญาแล้วมันก็จะเป็นไปตามนั้น!”

หลังจากที่รอยพูดจบเขาก็ปล่อยลูเซียสลงก่อนจะผายมือวาดกรงเล็บออกไปด้านหน้า อย่างไรก็ตามกรงเล็บที่ส่องประกายเย็นเหยียบให้ประสบการณ์น่าหวาดเสียวแก่ลูเซียส ลูเซียสมองไปที่เล็บเหล่านั้นด้วยลมหายใจแผ่วเบาและเคลื่อนตัวตามรอยออกไป

“เจ้าทำงานได้ดีที่เดียวลูเซียสในการรวมรวมจิตวิญญาณมนุษย์สี่ดวงมาให้ข้าได้อย่างรวดเร็ว” รอย

ยิ้ม

“ดังนั้นข้าควรจะให้รางวัลตอบแทนแก่เจ้าเล็กน้อย!”

ในขณะที่รอยพูดเขาก็เปิดหน้าอินเทอร์เฟซของระบบออกมา

รอยไม่แน่ใจเกี่ยวกับวิธีการที่ปีศาจตัวทำให้ความปรารถนาของผู้อัญเชิญสำเร็จด้วยวิธีใด แต่เขาคิดว่าปีศาจระดับต่ำซึ่งไม่รู้วิธีใช้เวทมนตร์จะแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงอย่างแน่นอน ซึ่งแตกต่างกับรอยเพราะเขามีวิธีแก้ปัญหาที่สะดวกกว่ามาก

รอยร่างภาพหลอดทดลองที่มีของเหลวบางส่วนต่อเขาก็เริ่มกำหนดคุณสมบัติของยาในหลอดทดลอง

โดยอธิบายไว้ว่า ยาน้ำลดความอ้วน สามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินสิบกิโลกรัมได้อย่างรวดเร็ว!

คำอธิบายความหมายของยาดังกล่าวนั้นเรียบง่ายจึงไม่ต้องใช้พลังวิญญาณมากนักเพื่อแลกเปลี่ยน ดังนั้นรอยจึงใช้นิ้วของเขาวาดไปในอากาศต่อหน้าลูเซียส ไม่นานนักหลอดทดลองที่มีน้ำยาอยู่ข้างในก็ปรากฏขึ้นมาอยู่ในมือใหญ่ของรอย

และดูเหมือนว่าหลอดทดลองจะมีของเหลวคล้ายน้ำเปล่า… ใช่รอยขี้เกียจเกินไปที่จะแต่งสีและมันก็น่าจะจืดชืดไร้รสชาติไปด้วย เขายื่นขวดยาให้ลูเซียสไปทั้งแบบนั้น

"ดื่มมัน!" รอยกล่าว

“สิ่งนี้สามารถช่วยยืดอายุของเจ้าได้!”

ลูเซียสถือหลอดทดลองไว้แต่เขาก็ยังคงลังเลและไม่แน่ใจว่าเขาควรเชื่อรอยหรือไม่ แต่เมื่อเห็นรอยจ้องมองอยู่ลูเซียสก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเงยหน้าขึ้นและกระดกยาน้ำลงไป

ลูเซียสเลียริมฝีปากแต่ไม่รับรู้รสอะไร ในขณะที่เขากำลังสงสัยจู่ๆร่างกายของเขาก็รู้สึกแสบร้อนมาจากภายใน ด้วยความหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดลูเซียสก็กรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก

จริงๆแล้วความร้อนที่เกิดนั้นมันเป็นเพียงการเผาผลาญไขมันส่วนเกินของเขา..

หลังจากตะโกนไปสักพักลูเซียสก็ตระหนักได้ว่าไม่มีความเจ็บปวดอื่นใด เขาเพียงแค่เหงื่อออกมากกว่าปกติเท่านั้นหลังจากความรู้สึกแสบร้อนหายไปทันใดนั้น ลูเซียสก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองเบาขึ้นมาก ความรู้สึกโล่งและสบายตัวจนเหมือนกับว่าเขากลับมาเยาว์วัยอีกครั้ง!

ลูเซียสอัดแน่นไปด้วยอารมณ์ขณะที่ใช้มือสัมผัสร่างกายด้วยความเหลือเชื่อทั้งยังอุทานด้วยความประหลาดใจ

“โอ้พระเจ้า! …อายุขัยของข้าเพิ่มขึ้นแล้วใช่ไหม”

"ใช่!" รอยตอบขณะมองลงไป

“ลูเซียสเจ้าจ่ายของด้วยวิญญาณดังนั้นข้าจึงทำตอบสัญญาและเพิ่มอายุขัยของเจ้าเป็นข้อตกลงที่ยุติธรรมใช่หรือไหม”

"ใช่! ใช่แล้วของรับนายท่าน!" ลูเซียสพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “มันช่างยุติธรรมจริงๆ!”

รอยยักไหล่เหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็คิดในใจว่าลูเซียสชายคนนี้เป็นคนโง่เขลาแค่ไหน

โลกแห่งนี้อยู่ในช่วงปลายศตวรรษที่สิบเก้า วิทยาศาสตร์ยังคงเพิ่งเริ่มพัฒนาดังนั้นเมื่อรอยหยิบขวดยาออกมา ลูเซียสกลับยังคงไม่รู้ว่ายาของมนุษย์คืออะไรและโรคอ้วนก็เป็นศัตรูตัวฉกาจต่อสุขภาพ เนื่องจากยาลดความอ้วนของรอยช่วยให้ลูเซียสเผาผลาญไขมันได้ถึง 10 กิโลกรัมอย่างรวดเร็วส่งผลทำให้น้ำหนักตัวลดลงทันที สิ่งนี้ช่วยลดภาระแก่หลอดเลือดและหัวใจ ไม่แปลกที่ร่างกายของเขาจะรู้สึก ‘ผ่อนคลาย’ และยังคงเข้าใจผิดไปว่าสิ่งนี้เป็นการยืดอายุของเขา

อืม… คงถือว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดไปทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะการลดน้ำหนักก็ช่วยให้เขามีสุขภาพที่ดีและการมีชีวิตเพิ่มขึ้นอีกซักสองสามปีก็เป็นเรื่องปกติ

สิ่งจอมปลอมเช่นเดียวกับน้ำตาลเทียมรอยมอบให้ลูเซียสก็เพื่อดึงดูดให้เขามีความตั้งใจที่จะทำธุรกรรมกับปีศาจมากขึ้น รอยเลือกที่จะทำเช่นนี้ก็เพราะเขาต้องการวิญญาณของลูเซียสซึ่งอาจจะมีโอกาศกลายเป็นวิญญาณคุณภาพสูงในไม่ช้า รอยจะปล่อยมือจากมันไปง่ายๆได้อย่างไร? เขาต้องการยืดเวลาออกไปและจงใจไม่ทำตามสัญญาณที่จะยืดอายุขัยแก่เขา

เนื่องจากรอยเดาได้ว่าจิตวิญญาณของลูเซียสกำลังพัฒนาไปสู่ความตกต่ำเนื่องจากความเลวทรามของเขา รอยจึงปล่อยให้จิตวิญญาณของลูเซียสเสื่อมโทรมต่อไป

ข้อดีอีกอย่างคือหลังจากได้รับผลประโยชน์จากรอยอย่างเห็นได้ชัด ต่อมาลูเซียสก็จะตั้งใจรวบรวมวิญญาณอย่างกระตือรือร้นมากขึ้น

สำหรับวิธีการรวบรวมนะหรือ ฮี่ ฮี่ แน่นอนว่ารอยเป็นคนนำเสนอวิธีการฆ่าคนให้แก่ลูเซียส อย่างไรก็ตามแวมไพร์มักจะเข้ามาในเมืองบ่อยครั้งดังนั้นลูเซียสจะไม่ถูกค้นพบเร็วๆนี้ ผู้คนจะตำหนิแวมไพร์เหล่านั้นแทนสำหรับชีวิตที่หายไปภายในเมือง

อนิจจานี่ฉันกำลังชั่วร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ! รอยถอนหายใจก่อนจะทำตัวไม่ถูกไปชั่วครู่ ตอนนี้ฉันเป็นปีศาจสำหรับมาตรฐานของปีศาจแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังกลายเป็นปีศาจที่โดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆใช่หรือไม่!?

ขณะที่รอยพูดคุยกับตัวเองอยู่ในใจทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้องดังมาจากที่ห่างไกล รอยหันไปมองและเห็นสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับค้างคาวขนาดใหญ่บินอยู่บนท้องฟ้าในระยะไกล มันพุ้งผ่านชั้นหมอกสีเทาและบินทะลุออกไป

ในฐานะที่รอยเป็นปีศาจความมืดไม่นับว่าเป็นอุปสรรคในการมองเห็นอีกต่อไปเขาสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆในสภาพแวดล้อมที่มืดมิดได้อย่างชัดเจน เมื่อสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับค้างคาวบินทะลุหมอกออกมารอยก็เห็นเป็นเงาของปราสาทที่อยู่เบื้องหลัง

แม้ว่าลูเซียสจะมองไม่เห็น แต่เมื่อเขาก็ได้ยินเสียงร้องก็ตัวสั่นและตื่นตระหนกทันที

“แวมไพร์! มันคือแวมไพร์ขอรับนายท่าน! พวกมันกำลังออกมาล่า!”

ซวยแล้วฉันต้องรีบกลับเข้าไปหาที่ซ่อน! ลูเซียสคิดแต่เขาก็ถูกรอยรั้งตัวไว้

“ทำไมเจ้าถึงชอบตื่นตระหนกนัก? เจ้าอยู่ภายใต้การคุ้มครองจากปีศาจแล้วแวมไพร์จะกล้าสัมผัสตัวเจ้าได้อย่างไร”

“ใช่…ใช่แล้ว!” ลูเซียสค่อยๆลุกขึ้นจากพื้นและเริ่มมีกล้าขึ้นเล็กน้อย

ในความเป็นจริงลูเซียสไม่ควรถูกตำหนิ เมืองเล็กๆของทรานซิลวาเนียตกอยู่ภายใต้เงามืดของแวมไพร์มาเป็นเวลานานหลายปีทำให้ผู้คนหวาดกลัวพวกมันมาโดยตลอด และลูเซียสในฐานะนายกเทศมนตรีของเมืองเขาเคยนำกลุ่มชาวเมืองเพื่อต่อต้านการโจมตีของแวมไพร์

แต่โชคร้ายเพราะหลังจากถูกแวมไพร์สังหารหมู่ได้ไม่นานชาวเมืองก็เริ่มเปลี่ยนมาต่อต้านลูเซียสแทน และสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ลูเซียสรู้สึกหมดหนทางมากขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ทำไมเขาก็คงไม่คิดจะใช้วิธีสุดโต่งเช่นการขอความช่วยเหลือจากปีศาจเป็นแน่

รอยชี้ไปในทิศทางที่แวมไพร์บินออกมาและถามลูเซียสว่า

"ทิศทางนั้น.. นั่นคือที่ที่ปราสาทแวมไพร์อยู่หรือ?"

"ใช่แล้วขอรับ!" ลูเซียสพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

“แดรกคิวลาและภรรยาแวมไพร์ของเขาอาศัยอยู่ที่นั่น ผู้คนทั่วทั้งเมืองต่างรู้เกี่ยวกับปราสาทแห่งนี้ แต่นอกเหนือจากตระกูลวิลลิสแล้วแน่นอนว่าไม่มีใครกล้าเข้าใกล้สถานที่นั้น…”

“เจ้ากลับไปได้แล้ว ข้าอยากจะไปดูที่ปราสาทหลังนั้นซักหน่อย” รอยผ่อนคลายการยึดเกาะก่อนจะกางปีกปีศาจขนาดใหญ่ออกมาสร้างลมกระโชกแรงขณะที่เขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

ลูเซียสจ้องมองไปในทิศทางที่รอยบินออกไปอย่างว่างเปล่าและใช้เวลานานก่อนที่เขาจะกลับมามีสติอีกครั้งราวกับเพิ่งตื่นจากฝัน แต่ทว่าลูเซียสกลับต้องตัวสั่นอีกครั้งขณะที่พยายามปีนลงมาจากหลังคา..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด