ตอนที่แล้วเล่ม1 : บทที่ 64 – หัวเราะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม1 : บทที่ 66 – สีดำ

เล่ม1 : บทที่ 65 – อันดับห้า


กำเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 65 – อันดับห้า

รถม้าที่มีตราสัญลักษณ์ของตระกูลวิลฟอร์ดกำลังเคลื่อนที่ตรงไปยังทิศทางของคฤหาสน์บัลวัน

เมื่อโนอาห์โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน ผู้พิทักษ์ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายจากการที่เขาสร้างความเสียหายต่อทุ่งแต่การเอ่ยชื่อตระกูล “บัลวัน” ออกไปก็เพียงพอที่จะได้รับคำขอโทษกลับมาและไปส่งเขากลับถึงหน้าบ้าน

แน่นอนว่านั่นก็ออกจะดูเป็นการข่มขู่เล็ก ๆ

โนอาห์รับคำเสนอการนั่งรถม้าไปส่งด้วยความยินดีเนื่องจากอาการบาดเจ็บของเขายังฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ เขาเลือกที่จะออกไปจากทางเดินหุบเขานี่ทันทีที่เขามีโอกาสเพราะความกลัวที่จะต้องเจอเสียงคำรามของราชาอีกครั้ง

ตระกูลได้มอบเสื้อผ้าใหม่ให้เขา ดังนั้นเขาจึงซ่อนไว้อีกครั้งในแหวนปริภูมิ ระหว่างเดินทาง สมาธิส่วนใหญ่ของเขาเพ่งไปกับการรักษาร่างกายที่แตกสลายของอัสซีในทะเลแห่งสติและเมื่อเขามาถึงคฤหาสน์ ความแข็งแกร่งของเขาก็กลับมาพร้อมอีกครั้ง

เขามองไปรอบ ๆ บ้านและอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

‘ในที่สุดฉันก็กลับมาได้!’

* * * * *

ย้อนเวลากลับไปเล็กน้อย สักสองสัปดาห์ก่อนที่โนอาห์จะตกลงไปในหุบเขาลึก

วิลเลียมกำลังอ่านรายงานเล่มหนึ่ง ณ ตึกผู้พิทักษ์ ขณะที่เขากำลังอ่านอยู่นั้น มือของเขาก็เริ่มสั่นและโทสะก็ปรากฏชัดบนใบหน้าของเขา จากนั้นการอ่านก็หยุดลงและกระดาษในมือก็ขาดวิ่นเป็นชิ้น ๆ

‘พวกขุนนางเวร ส่งโนอาห์ไปติดกับดักแท้ๆ!’

เขารุดรีบออกมานอกคฤหาสน์และวิ่งตรงไปยังหน้าผาทวิลโบเรีย เขาใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์จึงไปถึงช่องเขาแต่สิ่งที่เขาพบกลับมีเพียงแค่ซากศพและร่องรอยจากการต่อสู้ เขาค้นทุกศพแต่ก็ไม่พบศพของโนอาห์

‘รายงานกล่าวไว้ว่าขบวนถูกโจมตีที่นี่ แต่กลับไม่พบศพของเขา’ เขาครุ่นคิดขณะวิเคราะห์สถานการณ์ไปด้วย ‘อย่าบอกนะว่าเจ้าเลือกที่จะหนีลงไปในข้างล่างนั่น! หนึ่งในจุดที่อันตรายที่สุดของพื้นที่นี้’ เขาเข้าไปใกล้ ๆ หน้าผาและมองลงไปข้างล่าง พบเพียงหมอกหนาบดบังการมองเห็น ‘ถ้าเจ้าลงไปที่ข้างล่างนั่นจริง ๆ ศิษย์รักของข้า ขอให้สวรรค์โปรดจงเมตตาเจ้าด้วยเถิด’

เขาอยู่ที่เดิมตลอดทั้งวันเพื่อภาวนาขอให้โนอาห์ปลอดภัย จากนั้นเขาก็ถอนหายใจและส่ายหน้าพร้อมหันหลังกลับไปยังคฤหาสน์ ‘เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับต่อแม่ของเจ้าเด็กนี่ก่อนก็แล้วกัน’

หลายเดือนผ่านไป จากความกังวลก็เริ่มผันเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวัง เขาห้ามผู้พิทักษ์ทุกนายกล่าวถึงเหตุการณ์นี้ แต่ท้ายที่สุด ข่าวลือบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับโนอาห์ก็แพร่สะพัดออกไป หลายคนต่างเชื่อว่าเขาหนีไปได้และไปอยู่กับตระกูลลานเซย์เพื่อแลกเปลี่ยนหลักสูตรการฝึกตน บางส่วนคิดว่าเขาถูกจับเป็นตัวประกันเพื่อเรียกค่าไถ่กับตระกูล

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีความรู้สึกไม่ดีต่อความเป็นตายร้ายดีของโนอาห์มากที่สุดก็คือลิลลี่เนื่องจากเธอสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของริส

เขามาหาเธอน้อยลงเช่นเดียวกับความรุนแรงที่มีต่อเธอในยามกลางคืนที่ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ความกังวลของเธอเพิ่มมากขึ้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรบกวนวิลเลียมด้วยคำถามมากมาย

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ช้าเธอก็เข้าใจว่าวิลเลียมเองก็ไม่ทราบข้อมูลอะไรเลยเกี่ยวกับสถานการณ์ของลูกชายเธอ การรอคอยกำลังกลายเป็นสิ่งที่ทำให้จุกอกไร้ที่สิ้นสุด จากนั้น หลังจากกว่าสี่เดือนที่โนอาห์จากไป ข่าวที่มอบความสุขก็เดินทางมาถึง

โนอาห์กลับมาคฤหาสน์แล้ว!

ทั้งลิลลี่และวิลเลียมรีบวิ่งออกจากอาคารต่าง ๆ ไปที่ประตูหน้าคฤหาสน์ทันที วิลเลียมเป็นคนแรกที่มาถึงและยืนมองเด็กหนุ่มที่ยิ้มแย้มอยู่บนรถม้าของตระกูลวิลฟอร์ด เด็กหนุ่มผู้มีผมดำยาวและดวงตาสีฟ้าเป็นประกาย เขาสวมเสื้อผ้าตัวใหญ่ที่ดูไม่เข้าได้เข้ากับสัดส่วนเลยพร้อมกับดาบสองเล่มอยู่ในฝักที่ด้านหลัง

เขาแลดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและวิลเลียมก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างสดใสเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ‘เขาโตขึ้นมาก’ ก่อนที่เขาจะทันได้เดินไปหาโนอาห์ ร่างของลิลลี่ก็ผ่านเขาไปและกระโดดตรงไปหาเด็กหนุ่มที่กำลังยิ้ม

“แม่บอกเจ้าแล้วใช่ไหมว่าให้ระวังแถมยังหายไปนานอีก! เจ้ารู้ไหมว่าแม่เป็นห่วงขนาดไหม? พอแล้ว แม้จะไม่ให้เจ้าออกจากห้องทั้งเดือน ไม่สิ สองเดือนไปเลย!”

ลิลลี่ทั้งกอดและต่อว่าลูกชายแต่นั่นก็ชัดเจนแล้วว่าเธอเผยให้เห็นความสุขที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจที่ได้เห็นว่าโนอาห์ปลอดภัย โนอาห์ต้องใช้เวลาทั้งวันเพื่อปลอบเธอทำให้เธอสบายใจขึ้น ส่วนวิลเลียมก็ทำได้เพียงมองแม่ลูกอยู่ห่าง ๆ

ลิลลี่หลับไปในห้องของโนอาห์ในวันนั้น เผยให้เห็นรอยยิ้มของเธอที่ปรากฏบนใบหน้าแม้ขณะที่ยังหลับ

วันต่อมา เขาใช้เวลาตลอดช่วงเช้ากับแม่ของเขาก่อนที่ออกไปยังห้องวิลเลียมเพื่อส่งรายงาน วิลเลียมเองก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน และใบหน้าของเขาก็เริ่มเคร่งขรึมเมื่อโนอาห์บรรยายสภาพแวดล้อมของหุบเขา เขาไม่ได้พูดอะไรถึงตระกูลอัสซีหรือคาถาแต่เขามีหนึ่งข้อสงสัยตั้งแต่ตอนหลบหนีออกมาจากหุบเขา

“ท่านอาจารย์ ราชาอันดับอะไรรึ?”

วิลเลียมกำลังแยกแยะคำพูดของโนอาห์เมื่อเขาได้ยินคำถามและดำดิ่งในความคิด หลังจากที่ลังเลเล็กน้อย เขาก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

“น่าจะอันดับห้า เจ้าพูดว่าเจ้าเปิดเส้นทางหุบเขาไปสู่ทุ่งดอกเอียโนใช่ไหม? ข้าต้องไปเตือนตระกูลโชสติ พวกเขาจะจัดการให้ ข้าเกรงว่าสถานการณ์นี้จะอันตรายเกินกว่าที่ตระกูลขนาดกลางจะรับมือไหว”

โนอาห์เริ่มรู้สึกสนใจ

“พวกเขาจะฆ่าราชาหรือขอรับ?”

วิลเลียมส่ายหน้า “การต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตระดับนั้นจะสั่นสะท้านพื้นที่อำนาจทั้งหมด พวกเขารับผิดชอบไม่ไหวแน่ อีกทั้งหุบเขาอาจจะพังทลายระหว่างการต่อสู้ มีแต่จะเสียผลประโยชน์ พวกเขาต้องรักษาความปลอดภัยบนเส้นทาง และทำให้เป็นเขตหวงห้าม”

โนอาห์รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเนื่องจากเขาต้องการที่จะเห็นการต่อสู้หากเป็นไปได้ แต่สิ่งที่วิลเลียมพูดนั้นก็มีเหตุผล จากนั้นเขาก็นึกถึงเรื่องหนึ่งและยิ้มออกมาอย่างเขินอายต่อหน้าอาจารย์

“วัฏจักรขั้นที่หกของข้าสมบูรณ์แล้ว เราเริ่มการรักษาขั้นสุดท้ายกันทันทีเลยก็ได้นะขอรับ”

วิลเลียมมองเด็กหนุ่มที่กำลังยิ้มให้ แต่อีกใจหนึ่งเขาก็อยากที่จะโยนเจ้าเด็กนี่ลงไปในหน้าผานั่นอีกครั้งหนึ่ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด