ตอนที่แล้วตอนที่ 90 ค่าปรับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 92 แปลกไป

ตอนที่ 91 กิลด์เมฆา


ตอนที่ 91

กิลด์เมฆา

“คุณกวี...ไม่ได้พบกันนานนะคะ”ทันทีที่กวีเดินทางมายังเมืองทอรัส คนแรกที่กวีได้พบก็คือแก้วนั่นที่มารอรับอยู่แล้วนั่นเอง

“ครับ คุณแก้วท่าทางจะสบายดีนะครับ”กวียิ้มรับก่อนจะเดินตามแก้วไปด้วยท่าทีคุ้นเคย ก่อนหน้านี้กวีเคยหลงเข้าไปในเควสกับแก้วที่ถ้ำใต้ทะเลลึก แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันนานนักแต่ก็ทำให้เชื่อใจกันพอสมควร การมาเจอหน้าครั้งนี้เลยไม่ได้ทำให้ทั้งสองประหม่านัก

“แน่นอนค่ะ หลังจากนั้นก็มีเรื่องนิดหน่อยพวกเราก็เลยต้องเร่งพัฒนาฝีมือค่ะ”แก้วตอบพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ตั้งแต่รู้ว่ากวีคนที่เป็นหัวหน้ากิลด์สุริยันจันทรากลับมาคนของฝั่งพันธมิตรก็ตื่นตัวขึ้นมากกว่าแต่ก่อนหลายเท่า ไม่ใช่แค่เรื่องการเก็บเลเวลเท่านั้น ทั้งเรื่องอาวุธและเครื่องป้องกันเองก็ต้องเตรียมพร้อมกันอย่างดี แต่...เพราะก่อนหน้านี้เรย์กว้านซื้อหินเสริมพลังไปจำนวนมากจนหินเสริมพลังขาดตลาดส่งผลให้กิลด์ฝั่งพันธมิตรมีทางเลือกไม่มากคือการซื้อหินเสริมพลังราคาแพงหรือไม่ก็มาล่าหาเอาเองเท่านั้น และจากที่กวีอ่านรายละเอียดของดันเจี้ยนที่พวกแก้วจะไปก็น่าจะเพราะต้องการหินเสริมพลังเป็นหลักแน่ๆ

“โชคดีนะครับที่ผมเพิ่งจะได้เควสใหม่ช่วยเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงเข้าเรดของคุณแก้วไม่ได้แน่ๆ”กวีหัวเราะออกมาเช่นกัน หลังจากจบสงครามกวีและคนอื่นๆได้รับรางวัลจากเควสปกป้องเมืองการ์กันจำนวนมาก โดยค่าประสบการณ์ที่ได้รับนั้นก็มากตามศัตรูที่สังหารไปด้วย เพราะแบบนั้นกวีเลยได้เลเวลเพิ่มมาจนเลเวล 83 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังตามเลเวลของแก้วที่เลเวลขึ้นไปเป็นเลเวล 107 ไม่ทันอยู่ดี จะว่าไปกิลด์เมฆากิลด์ย่อยของกิลด์เสียดฟ้าก็ขึ้นชื่อเรื่องการเก็บเลเวลมากเลยนี่นา

“งานนี้พวกเราหวังไอเทมกันมากกว่าค่ะ ถึงจะแบ่งค่าประสบการณ์ไม่ได้แก้วก็อยากให้คุณกวีมาด้วยอยู่ดี”แก้วตอบพลางพากวีเดินเข้ามาในตัวเมืองทอรัส ที่นี่เป็นเมืองที่อยู่ในอาณาจักรโทรว่าที่อยู่ทางตะวันตกจากอาณาจักรทริช เป็นอาณาจักรขนาดเล็กที่มีพื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยภูเขาและป่าไม้ เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรแห่งขุนเขาก็คงได้ เมืองทอรัสแห่งนี้ตั้งอยู่บนสันเขาแห่งหนึ่งที่สามารถมองทอดยาวแนวชมแนวเขาได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของเมือง ให้อารมณ์เหมือนเมืองของชาวเผ่าที่อาศัยอยู่บนที่สูงเลย

“พี่แก้ว มาแล้วเหรอ”เดินออกมาจากจุดวาร์ปได้ไม่นาน กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาหาแก้วด้วยท่าทียิ้มแย้มพร้อมกล่าวทักทายอย่างเป็นมิตรอีกต่างหาก

“ขอโทษที่ให้รอนะทุกคน คนนี้คือคุณกวีจอมเวทที่จะมาช่วยเราในครั้งนี้”แก้วเดินเข้าไปแนะนำกวีกับสมาชิกเรดด้วยท่าทีสบายๆ ดูเหมือนทุกคนจะเป็นคนของกิลด์เมฆากิลด์ที่แก้วเป็นรองหัวหน้ากิลด์อยู่กันหมด

“ฝากตัวด้วยนะคุณกวี”ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหากวีพลางทักทายอย่างเป็นมิตร

“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”หญิงสาวอีกคนพอแก้วแนะนำตัวกวีให้ก็เดินเข้าไปทักทายทันที สมาชิกของเรดนี้ท่าทางเป็นมิตรมากทีเดียว ดูแล้วอบอุ่นกว่าเรดที่กวีเคยเข้ามาก่อนหน้านี้หลายเท่า

เกษแก้วกัลยา คือชื่อตัวละครสายธนูที่เก่งการที่สุดคนหนึ่งเท่าที่กวีเคยรู้จัก ไม่ทราบว่าตอนนี้ตำแหน่งมือธนูของเธออยู่ลำดับที่เท่าไหร่ แต่ฝีมือในโลกเสมือนจริงนั้นกวีได้ประจักษ์ไปแล้ว เรื่องฝีมือนั้นไม่มีอะไรต้องสงสัย แต่...สิ่งหนึ่งที่ทำให้กิลด์เมฆาที่เป็นเพียงกิลด์ขนาดย่อยของกิลด์เสียดฟ้าเท่านั้นกลายเป็นกิลด์ที่ได้รับความสนใจจากกวีได้นั้นไม่ใช่เพราะฝีมือของแก้วเท่านั้น

กิลด์เมฆาเป็นหนึ่งในกิลด์ตัวปัญหาที่กวีต้องเผชิญทุกครั้งเวลาทำสงครามกับฝ่ายพันธมิตร กิลด์เมฆาไม่ได้อยู่กับกิลด์เสียดฟ้าตลอดเวลาเหมือนกิลด์ย่อยกิลด์อื่นๆ พวกเขาเป็นเหมือนกองโจรที่คอยป่วนสนามรบได้เป็นอย่างดี และด้วยฝีมือของคนในกิลด์ก็ทำให้กวีตึงมืออยู่ไม่น้อย วันนี้ที่ตอบรับคำเชิญของแก้วก็เพราะอยากจะทราบฝีมือของกิลด์เมฆาในตอนนี้เท่านั้นเอง

“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับทุกคน”กวียิ้มพลางมองเหล่าสมาชิกเรดด้วยท่าทียินดี กิลด์เมฆาไม่เหมือนกิลด์ใหญ่ที่อยู่กันเป็นระบบบริษัทหรือลูกน้องกับเจ้านาย แค่เห็นตรงนี้กวีก็รู้แล้วว่าทุกคนเป็นกันเองมากแค่ไหน ไม่เหมือนกับกวีที่อาศัยการซื้อใจเหล่าลูกกิลด์ แก้วนั้นอยู่กับลูกกิลด์เหล่านี้เหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ

“ฮ่องเต้ ช่วยอธิบายดันเจี้ยนที่พวกเราจะไปลงให้คุณกวีฟังหน่อยนะ”แก้วเดินเข้าไปหาชายคนหนึ่งก่อนจะขอให้ชายคนนั้นช่วยแนะนำเรื่องดันเจี้ยนให้กวี

“คะ..ครับ”ชายคนนั้นได้ยินก็ทำท่าทีเลิกลักก่อนจะเดินเข้ามาหากวีด้วยท่าประหม่าอย่างประหลาด ชายหนุ่มคนนี้เป็นผู้ชายตัวเล็กสวมแว่นหนาจนแทบมองไม่เห็นดวงตา เขาเดินมาถึงก็หยิบเอากระดาษแผ่นใหญ่ออกมาก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะเบื้องหน้ากวี

“ดันเจี้ยนที่พวกเราจะไป....”ฮ่องเต้เริ่มเล่ารายละเอียดให้กับกวีอย่างละเอียด ดันเจี้ยนที่เรดนี้จะไปลงคือดันเจี้ยนหุบเขาวิญญาณหมาป่า โดยบอสของดันเจี้ยนนี้คือเกรทสปิริตวูล์ฟ บอสวิญญาณรูปร่างหมาป่าเลเวล 110 ซึ่งตัวบอสนั้นไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ เรดของแก้วสามารถจัดการมันได้อยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือมอนสเตอร์ตามทางต่างหาก โดยในดันเจี้ยนนี้มี สปิริตวูล์ฟ อยู่ถึง 4 ชนิดแบ่งออกเป็นสี น้ำตาล ฟ้า เขียว และ แดง พวกมันเป็นมอนสเตอร์เลเวล 92 และมักจะโผล่มาจำนวนมากทีละไม่ต่ำกว่า 30 ตน

แน่นอนว่าเรดที่สามารถล้มบอสเลเวล 110 ได้สบายนั้นไม่มีปัญหากับมอนสเตอร์จำนวนมากอยู่แล้ว พวกเขาสามารถจัดการสปิริตวูล์ฟได้กันอย่างไม่มีปัญหา แต่....สปิริตวูล์ฟเหล่านี้จะไม่ดรอปหินเสริมพลังให้หากไม่ทำให้กลับคืนร่างเดิมเสียก่อน พวกมันเป็นหมาป่าที่มีพลังธาตุห่อหุ้มตัวโดยแบ่งออกเป็น ดิน น้ำ ลม และ ไฟ ตามสีของพวกมันนั่นเอง หากยังไม่มีการหักล้างพลังธาตุก่อนจะฆ่ามัน โอกาสได้ไอเทมอย่างหินเสริมพลังจะต่ำมาก และนี่ก็คือเป้าหมายที่ชักชวนให้กวีเข้ามา เพราะการทำให้มันกลับร่างเดิมจำเป็นต้องใช้เวทมนตร์ที่มีธาตุหักล้างกับหมาป่าแต่ละสีเพื่อทำให้มันกลับร่างเดิมนั่นเอง

“ยอดเลย ศึกษามาดีมากเลยนี่นา”กวีมองแผ่นกระดาษของฮ่องเต้ด้วยท่าทีอึ้งๆ ไม่ใช่แค่รายละเอียดของมอนสเตอร์ แต่ยังมีการคาดเดาสกิลรวมถึงโอกาสดรอปไอเทมต่างๆอีกด้วย และที่สำคัญที่สุดดูเหมือนฮ่องเต้จะทำตารางเปรียบเทียบว่าพวกสปิริตวูล์ฟที่คืนร่างเดิมแล้วกับยังไม่ได้คืนร่างเดิมดรอปหินเสริมพลังต่างกันแค่ไหนอีกด้วย ตารางนี้ละเอียดมากและน่าเชื่อถือแบบไม่มีข้อสงสัยเลย

“ขอบคุณครับ...”ฮ่องเต้ตอบพลางยิ้มอายๆออกมา การมีคนมาชมผลงานแบบนี้รู้สึกดีจริงๆ

“ข้อมูลพวกนี้พวกคุณก็เป็นคนช่วยกันสร้างขึ้นมางั้นเหรอ”กวีถามพลางมองไปทางเหล่าสมาชิกกิลด์เมฆาทั้งหมด แม้ในสงครามจะมีหน้าที่เหมือนกองโจร แต่เวลาปกตินั้นพวกเขาเป็นปาร์ตี้ล่าไอเทมชั้นยอดเลย

“ครับ ถึงส่วนใหญ่จะเป็นพี่แก้วกับฮ่องเต้ช่วยกันทำตารางขึ้นมาก็เถอะ”หญิงสาวในเรดตอบพลางมองไปทางแก้วอีกคน เรื่องนี้แม้แต่กวีก็ยังประหลาดใจ แก้วดูเป็นสาวลุยๆนึกภาพเธอนั่งอยู่หน้ากองหนังสือทำตารางข้อมูลไม่ออกเลย

“พอเลย มองพี่แบบนั้นหมายความว่าไงกัน”แก้วค้อนใส่หญิงสาวคนนั้นด้วยท่าทีดุๆทันที ไม่ว่าใครก็คิดว่ามันขัดๆออกมาทั้งนั้นเล่นเอาทุกคนพากันหัวเราะออกมาเลย

“มิน่าล่ะกิลด์เมฆาถึงมีชื่อเสียงเรื่องหาไอเทมขนาดนี้ เป็นเพราะมีพวกคุณช่วยกันนี่เอง”กวีชื่นชมออกมาอย่างจริงใจ แต่หากเป็นเรย์ละก็คงมองคนพวกนี้เป็นศัตรูไปเลยก็ได้ มีหลายครั้งที่เรย์พยายามทำสงครามการค้ากับฝ่ายพันธมิตร แต่เพราะมีกิลด์อย่างกิลด์เมฆาที่สามารถฟาร์มหาไอเทมมาได้ก็เลยทำให้แผนของเรย์เสียไปหลายครั้ง

“แฮะๆ พี่กวีชมแบบนี้พวกเราก็ดีใจแย่เลย”เด็กหนุ่มคนหนึ่งหัวเราะออกมาด้วยท่าทีเขินๆไม่ต่างจากฮ่องเต้ก่อนหน้านี้เลย

“นั่นสิ ปกติกิลด์อื่นๆไม่ค่อยชมพวกเราเท่าไหร่หรอก”หญิงสาวอีกคนตอบพลางหันไปคุยกับเพื่อนๆด้วยท่าทีขำๆ แม้จะทำงานได้ดีแต่กิลด์เมฆาก็ไม่ค่อยได้รับคำชมนักเพราะพวกเขาเป็นเพียงกิลด์ขนาดเล็กที่อยู่ใต้ปีกของกิลด์ใหญ่อีกที กิลด์แบบพวกเขายังมีอีกหลายกิลด์และผลงานก็ห่างกันไม่มากด้วย

“เจ้าพวกนั้นพอเป็นในสงครามก็บอกว่าพวกเราเก่งแต่สู้กับมอนสเตอร์ก็เลยไม่เอาไหนด้วยสิ”ชายอีกคนบ่นพลางทำท่าเซ็งออกมา เพราะมีจำนวนน้อยก็เลยปะทะกับพวกกวีที่เป็นทัพใหญ่ตรงๆไม่ได้ แม้จะสร้างความปั่นป่วนได้ดีแต่ก็มีหลายคนที่มองว่ากิลด์เมฆายังอ่อนแอและไม่จำเป็นอยู่มาก

“พอแล้ว คุณกวีเขาลำบากใจหมดแล้วนะ”แก้วว่าพลางเข้าไปห้ามพวกน้องๆเอาไว้ เพราะความสนิทสนมกันก็เลยปล่อยตัวไปหน่อยหรือเปล่านะ

“ขอโทษครับ เดี๋ยวพวกเราจะลองไปหุบเขาวิญญาณหมาป่ากันเลย พี่กวีจะเอาพวกนี้ไว้อ่านหรือเปล่าครับ”ฮ่องเต้ถามพลางยื่นกระดาษที่ใช้จดรายละเอียดของพวกหมาป่าให้กับกวี

“พวกคุณไม่เก็บไว้ใช้เหรอครับ”กวีถามพลางมองกระดาษที่ฮ่องเต้ยื่นมาให้

“ไม่ต้องห่วงค่ะ พวกเราจำกันได้หมดแล้ว”หญิงสาวคนที่บ่นเรื่องกิลด์อื่นออกมาตอบพลางยิ้มด้วยท่าทีมั่นใจ

“ยอดจริงๆ ไม่ว่าใครจะว่ายังไงพวกคุณก็เป็นกิลด์ที่ยอดเยี่ยมมาก”กวียิ้มออกมาด้วยท่าทีชื่นชม หากเป็นสมัยก่อนกวีไม่มีทางได้โอกาสมาดูงานหลังบ้านของกิลด์เมฆาแบบนี้แน่ๆเพราะโผล่ไปก็คงโดนหันอาวุธเข้าใส่แล้ว วันนี้เลยนับได้ว่าเปิดหูเปิดตาจริงๆ

“แฮะๆ พี่กวีชมอีกสิครับ พวกเราใกล้จะลอยกันแล้ว”ชายหนุ่มคนหนึ่งแซวพลางหัวเราะออกมา ด้วยท่าทีร่าเริงทำเอาบรรยากาศภายในเนินเขาแห่งเมืองทอรัสแห่งนี้ครื้นเครงไม่น้อย กิลด์ที่อบอุ่นแบบนี้แม้ไม่ใช่แนวของกวีแต่ก็ไม่ได้เกลียดหรอกนะ และการที่กิลด์ออกมาเป็นแบบนี้ได้ก็ต้องอยู่ที่ผู้นำด้วย เกษแก้วกัลยา บางทีคุณค่าของเธออาจจะไม่ได้อยู่แค่ฝีมือธนูเท่านั้นก็ได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด