ตอนที่แล้วตอนที่ 57 ปะทะนักฆ่าเงา(รีไรท์)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 59 ระดับสีเขียว(รีไรท์)

ตอนที่ 58 กิน...กิน...และกิน(รีไรท์)


ตอนที่ 58 กิน...กิน...และกิน(รีไรท์)

จีซัสมองเข้าไปในหมอกน้ำแข็งและฝุ่นควันด้วยความหวาดกลัว มือขนาดยักษ์ที่จับไปที่ร่างของเขา พร้อมกับแรงบีบมหาศาล เขามองไปที่ไนเรลที่อยู่ในร่างของอมนุษย์กิ้งก่าตัวสูงกว่า 6 เมตร

ตามร่างกายมีรอบบาดแผลจากการโดนหอกน้ำแข็งทิ่มแทงอยู่หลายแห่ง แต่ด้วยความสามารถ [ร่างไททัน B] ที่ได้มาจากซอมบี้ไททันขั้น 3 มันก็ทำให้พลังชีวิตของเขาอึดเป็นอย่างมาก

“เป็นไปไม่ได้ทำไมแกไม่ตาย! ทำไม? ในเมื่อโดนหอกน้ำแข็งยิงใส่ไปขนาดนั้น” จีซัสตระโกนออกมาด้วยความไม่อยากเชื่อ

คนตายที่กำลังจะตายอย่างจีซัส ไนเรลไม่จำเป็นต้องตอบคำถาม เขาเพิ่มแรงบีบของมือที่จับจีซัสอยู่ในทันที

“แกฆ่าฉันไม่ได้ ฉันคือลูกชายคนที่ 3 ของตระกูลชั้นสูงรัสเซล ถ้าฆ่าฉันตระกูลรัสเซลต้องไม่ปล่อยแกแน่” จีซัสรู้ได้ทันทีว่าถ้าเป็นแบบนี้มันจะต้องโดนไนเรลบีบตายอย่างแน่นอน เขาจึงรีบพูดออกมาด้วยความรวดเร็วหมายจะใช้ตระกูลของเขาข่มขู่ไนเรล

“ตายไปซะ!” แต่ดูเหมือนว่าไนเรลจะไม่สนใจ คำขู่ของจีซัสเลยแม้แต่น้อย เรื่องระหว่างเขากับจีซัสมันเกินกว่าที่จะพูดคุยกันได้แล้ว และอีกอย่างไนเรลไม่ได้กลัวตระกูลรัสเซลของจีซัสเลยแม้แต่น้อย

“อ๊าก! อัก! ไม่ ๆ ไม่!!!!!!!!!!!” จีซัสร้องด้วยความเจ็บปวด รับรู้ได้ถึงอวัยวะภายในที่กำลังถูกบีบอัดเข้ารวมกัน เลือดที่ไหลออกมาจากทวารทั้ง 7 ของร่างกายราวกับสายน้ำ

ดวงตาที่ปูดโปนหลุดออกมาพร้อมกับของเหลวสีแดงฉานในร่างกายและอวัยวะภายในที่พุ่งออกมาไม่ต่างกับน้ำพุโลหิต

ไนเรลบีบจีซัสจนตายคามือเหมือนกับบีบผลส้มเละคามือไม่มีผิด และอันดับหนึ่งหน่วยดาบของเมืองย่อย 101 ก็ตกตายไปทั้งแบบนี้

ไนเรลมองไปที่ร่างของจีซัส เขาพยายามที่จะไม่ทำลายหัวของจีซัสเพราะเขามีแผนที่จะใช้ตัวตนของจีซัสในฐานะหน่วยดาบในการเรียกร้องหาความรับผิดชอบจากรัฐบาลของเมืองย่อย 101 ในการบุกรุกครั้งนี้

ไนเรลโยนร่างของจีซัสทิ้งไปด้านจากนั้นก็มองตรงไปที่คนของพาราซัสอีก 4 คนที่กำลังจะวิ่งไปถึงต้นคริสตัลวิวัฒนาการแล้ว

ไรเรลให้มือหยิบไปที่ดาบหนักกระดูกทั้งสองเล่มขั้นมา

ดาบหนักที่อยู่ในมือของในเรลในร่างของไททันนั้น เหมือนกับกลายเป็นดาบสั้นธรรมดาไม่มีผิด ทันทีที่หลุดออกมาจากมือทั้งสองข้างของเขามันก็พุ่งตรงไปหาคน 2 ใน 4 ที่วิ่งไปที่ต้นคริสตัลวิวัฒนาการทันที

“เร็วอีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว...”

ตูม!!!

แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทันทำอะไร ดาบหนักก็แทงทะลุร่างพวกเขาตายไปสองคนในทันที

คนที่เหลืออีกสองคนก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันมองไปที่ร่างของเพื่อนที่โดนดาบหนักเสียบทะลุหน้าอกตายคาที่

“หนี” นั้นคือความคิดเดียวที่มีอยู่ในหัวของทั้งสองคนในตอนนี้แต่มันก็สายไปซะแล้วเพราะไนเรลวิ่งมาหาพวกเขาด้วยความรวดเร็ว

“ตายไปซะ” หมัดของ

ไนเรลต่อยไปที่คนหนึ่งในนั้นจนร่างแหลกเป็นหมอกเลือดหายไปในทันที

ส่วนอีกคนถึงกลับหวาดกลัวจนไม่มีจิตใจที่จะสู้อีกมันทิ้งตัวลงและพยายามคลานหนีไนเรลไม่ต่างจากสัตว์ที่บาดเจ็บ

ไนเรลไม่รอช้า เหยียบลงไปที่ร่างของชายคนนั้นจนแหลกแหลวในทันที

คนทั้งสี่คนได้ตกตายไปทั้งแบบนี้

“ภารกิจล้มเหลวแล้ว หนีเอาตัวรอดก่อน”

“บัดซบนังผู้หญิงบ้านั้นเข้ามาขวางอยู่ได้ ฆ่าเธอก่อนเลย”

แต่ในตอนนั้นเองที่เขาได้ยินเสียงของเอวาที่โดนผู้บุกรุกอีก 3 คนลุมโจมตีโดยเฉพาะ ผู้ที่ใช้พลังธาตุไฟ โหมหมัดเพลิงต่อยไปที่เธอ

“บังอาจ” ไนเรลที่เห็นแบบนั้นก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้นรีบตรงไปหาคนทั้ง 3 ในทันที

“โลแกนไปช่วยเอวาก่อนเร็ว”

“เร็วไปช่วยท่านเอวา”

คนของสมาพันธ์นักล่ารีบเข้าไปช่วยเอวาในทันทีแต่มันก็ช้าอยู่ดี

ในขณะที่การโจมตีปิดฉากจากผู้ที่ใช้พลังธาตุไฟกำลังจะมาถึงตัวของเอวา เธอมองไปการลูกไฟขนาดยักษ์ที่เข้ามา ถ้าเธอโดนการโจมตีนี้เข้าไปละก็จะต้องตายอย่างแน่นอน

เอวาพยายามที่จะจับใบมีดสายลมพาตัวเองหนี แต่ลูกไฟนั้นใหญ่เกินไป

“ไนเรล...” เอวามองไปที่ลูกไฟนั้น และรู้ว่าเธอจะต้องตายแต่ก็ยังนึกเสียใจที่ไม่ได้บอกความรู้สึกของตัวเองให้ไนเรลได้รับรู้ นี่คือสิ่งเดียวที่เธอเสียใจ

เธอที่ต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปในช่วงแรกของวันสิ้นโลก ทั้งพ่อแม่ที่กลายเป็นซอมบี้ น้องชายที่ติดเชื้อตายไปจากการที่พยายามช่วยเธอ เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ที่มากไปกว่านั้นคือ ทำถึงเป็นเธอที่รอดมาอยู่คนเดียวเสมอ

จนกระทั่งเธอได้รู้ว่าที่เธอรอดมาได้ก็เพราะโชคชะตาอาจจะต้องการให้เธอได้มาพบกับไนเรลก็เป็นไปได้

ไนเรลได้ช่วยชีวิตของเธอมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่ ครั้งแรกที่พาหนีออกมาจากการปิดล้อมของซอมบี้ ครั้งที่สองก็จากจิ้งจกหางหอกและปลิงพิษนั้น และครั้งที่สามก็ยอมสู้กับจิ้งจกหางหอกอีกครั้งจนเกือบจะกลายเป็นสัตว์ไปจริง ๆ และเขายังยอมรับคำขอของเธอและพักพวกนักล่าในการก่อตั้งสมาพันธ์นักล่าแบกรับหน้าที่ประธานสมาพันธ์และความกดดันจากรอบข้าง

ถึงเธอจะรู้ว่าทุกอย่างที่ไนเรลทำไม่ได้ทำเพื่อปกป้องเธอเพียงคนเดียว แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ตกหลุมรักเขาไปแบบไม่มีเหตุผลแล้ว

“ไนเรล...” เอวาเรียกชื่อของคนที่เธอรักมากที่สุดออกมาพร้อมกับน้ำตา...

แต่ดูเหมือนคำพูดของเธอจะส่งไปถึงไนเรล เพราะทันทีที่ลูกไฟขนาดยักษ์นั้นปะทะเข้ากับจุดที่เธออยู่ก็มีร่างขนาดยักษ์เข้ามาโอบกอดเธอไว้

ลูกไฟที่ปกคลุมระยะกว่า 10 เมตรระเบิดออกกระจายไปในทันที เอวามองไปที่ใบหน้าของในเรลที่กำลังอุ้มเธอและใช้แผนหลังเป็นเหมือนกับโล่ป้องกันไฟให้กับเธอ

“ไม่เป็นอะไรนะ” ไนเรลถามเอวาออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง

เอวาที่เห็นดังนั้นน้ำตาก็ไหลออกมา แต่เธอก็รีบเช็ดน้ำตาทันทีเพราะตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาร้องไห้ พวกเขายังต้องจัดการกับคนพวกนั้นอีก 3 คน

ไนเรลค่อย ๆ ปล่อยเอวาลงอย่างช้า ๆ พร้อมกับหันไปมองผู้บุกรุกทั้งสามอย่างอาฆาตแค้น

เขาเดินไปที่คนทั้งสามที่ตอนนี้ถูกล้อมไว้ด้วยผู้พิทักษ์และโลแกน

โดยมีสองคนที่โดนแมวน้อยที่โผล่ออกมาดังหน้าจัดการสะกดจิตพวกมันให้ฆ่ากันเอง ส่วนอีกคนที่ใช้ความสามารถไฟโจมตีเอวา ก็พยายามโจมตีไปที่ผู้พิทักษ์เพื่อจะหลบหนี

ไนเรลไม่รอช้าต่อยเข้าไปที่ร่างของมันอย่างรุนแรงโดยที่ไม่ทันระวังตัวเลยแม้แต่น้อย

“อ๊าก” มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างกายและกระดูกที่หักไปทั้งร่างฉีกแทงผ่านผิวหนังออกมา

มันนอนหายใจโรยรินใกล้ตายในทันที แต่แน่นอนว่ามันก็ยังไม่ตายเพราะไนเรลไม่ยอมให้มันตายง่าย ๆ แน่นอน

“ได้โปรด...อั๊ก..ไว้ชีวิต...ได้โปรด...อ๊ากกก” ชายคนนั้นพยายามร้องขอชีวิตในขณะที่ร่างถูกไนเรลยกขึ้นมา

ความโกรธของไนเรลนั้นมีมากถึงขนาดที่สามารถกลืนกินชายคนนี้ได้เลยและไนเรลก็จัดการกลืนกินมันลงไป

ความรู้สึกในการกินมนุษย์นั้นมันไม่ได้แปลกใหม่เลยสำหรับไนเรล ถึงเขาจะเคยบอกกับตัวเองว่าในชีวิตนี้จะไม่กินเผ่าพันธุ์เดียวกับเขาอีก แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้เสมอไป

อีกอย่างไนเรลคิดว่าเขาคงต้องสร้างตัวตนให้สมกับที่เป็นประธานสมาพันธ์นักล่า ต้องแสดงอำนาจให้คนที่พยายามหาเรื่องเขาได้เห็นจุดจบของคนที่กล้ามาบุกรุกสมาพันธ์นักล่าจะเป็นอย่างไร

และสิ่งเดียวที่เขาถนัดที่สุดนั้นก็คือ ความป่าเถื่อนโหดเหี้ยมอำมหิตดังปีศาจที่กลืนกินมนุษย์ และเป็นพวกหมาบ้าที่จะกัดคนเหล่านั้นจนถึงที่สุด

ทันทีที่ร่างของชายคนนั้นไหลลงไปในคอเข้าสู่กระเพาะอาหารของไนเรลมันก็ถูกย่อยสลายด้วยความรวดเร็วกว่าตอนกลืนซะอีก

เมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการดูเหมือนจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะสำหรับมันแล้วไม่มีแบ่งแยกเผ่าพันธุ์ สิ่งที่มันสนก็คือระดับของความสามารถเท่านั้น

ไนเรลมองไปที่ผู้บุกรุกอีกสองคนที่สู้กันเองจากความสามารถของแมวน้อย

ในเมื่อเขากินมนุษย์ไปแล้วงั้นจะกินเพิ่มอีกสักสองคนจะเป็นอะไร หลังจากนั้นร่างของทั้งสองก็หายไปในท้องของไนเรลอย่างรวดเร็ว

ทุกคนที่อยู่รอบข้างมองไปที่ไนเรลอย่างหวาดกลัวถึงความอำมหิตของเขา ถึงพวกเขาจะเป็นไนเรลกินซอมบี้ไปจำนวนมากแต่ตอนนั้นไนเรลก็อยู่ในร่างของกิ้งก่ายักษ์ แต่ตอนนี้เขาอยู่ในร่างที่ไม่ต่างจากคน

หลายคนถึงกับสั่นเทาเมื่อเห็นสายตาที่ไนเรลจ้องมองมา มันอาจจะเป็นเพราะสัญชาตญาณของเหยื่อที่มีต่อผู้ล่า ที่กลัวการถูกจับกิน

ไนเรลมองไปที่คนพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้พิทักษ์หรือคนของสมาพันธ์นักล่า สำหรับเขาแล้วสายตาของพวกนี้ที่มีต่อเขาไม่มีค่าเลยแม้แต่น้อย เขาเลิกสนใจคนพวกนี้และหันไปจัดการงานสุดท้าย นั้นก็คือ นักฆ่าเงาที่ตอนนี้สูญเสียการควบคุม เงาไปแล้วทำให้ร่างของมันสลายหายไป

นักฆ่าเงายังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่โดนเจ้าคาปิบาร่าหยอกเย้าเล่นเป็นแมวจับหนูอยู่ ตัวของนำฆ่าเงากระอักเลือดออกมาเรื่อย ๆ

มันมองไปที่ไนเรลที่เดินเข้ามาอย่างหาอย่างเชื่องช้า ไนเรลที่เข้ามาในสนามพลังของธีโอก็รับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของมัน ยิ่งเขาอยู่นานเท่าไหร่ก็ยิ่งเคลื่อนไหวช้าลงเท่านั้น

“สมกับเป็นพวกอสูร” ไนเรลมองไปที่ธีโอ

มนุษย์ชั้นสูงกับอสูรนั้นจะมีความต่างกันอยู่ตรงนี้ปกติแล้ว มนุษย์ชั้นสูงจะมีความสามารถ 1 อย่าง แต่อสูรจะมีความสามารถได้หลายอย่างต่างกันไปตามสายเลือดและระดับ

ไนเรลได้แต่คิดว่าโชคดีที่ธีโอนั้นเชื่อฟังแมวน้อย และมันก็กินพืชเป็นอาหาร มีนิสัยรักสงบ

เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้ามันกินเนื้อเป็นอาหาร และชอบล่ามนุษย์ละก็จะมีใครฆ่ามันได้หรือไม่ คงจะมีแต่พวกที่มีความสามารถเคลื่อนไหวที่รวดเร็วอย่างต่อเนื่องเพื่อทดแทนการเคลื่อนไหวที่ช้าลง

ตัวของไนเรลที่เริ่มเคลื่อนที่ช้าลงอยู่ ๆ ก็กลับมาเคลื่อนไหวได้ปกติเมื่อธีโอกระโดดมาโดนตัวของเขา

ดูเหมือนว่าคนที่มันเตะตัวจะทำให้การเคลื่อนไหวกลับมาเป็นปกติ ไนเรลเดินเข้าไปหานักฆ่าเงาที่ตอนนี้เหมือนกันกำลังสโลโมชั้นอยู่

“มีอะไรจะสั่งเสียไหม?” ไนเรลมองไปที่นักฆ่าเงาที่พยายามกระโดดเข้าไปในเงา หลังจากนั้นเขาก็กินนักฆ่าเงาทั้งเป็น

ต่อไปในอนาคตในชีวิตนี้จะไม่มีนักฆ่าเงาหนึ่งในมนุษย์ชั้นสูงที่น่ากลัวอีกต่อไป

เมื่อธีโอเห็นว่าไนเรลฆ่านักฆ่าเงาไปแล้วมันก็ยกเลิกความสามารถของตนเองและกลับไปหากินผลคริสตัลวิวัฒนาการของตนเองต่อโดยไม่สนใจใคร

ในตอนนี้ไนเรลค่อย ๆ เดินไปที่ต้นคริสตัลวิวัฒนาการด้วยสภาพที่อยู่ในร่างของไททัน เขารู้ว่าตัวเองนั้นบาดเจ็บหนักมา ถ้าไม่ได้ความสามารถที่อึดของร่างนี้ละก็เขาคงไม่สามารถทนได้นานถึงตอนนี้ ไนเรลค่อย ๆ นั่งลงไปในทันทีโดยหลังเอนพิงต้นคริสตัลวิวัฒนาการ

“ฉันคงออกล่าความสามารถที่เป็นประโยชน์และเข้าคู่กันไว้บ้างแล้ว”

ไนเรลเริ่มที่จะคิดถึงวิธีการใช้งานความสามารถของ [การดูดซับความสามารถ???] ให้มีประสิทธิภาพที่สูงที่สุด เพราะถึงอย่างไรตอนนี้ทั้งตัวเขาและเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการก็หลอมรวมกันแล้ว

ไนเรลมองไปที่รอยสักใบไม้สีทองที่หน้าอกของเขาที่ตอนนี้ค่อย ๆ งอกออกมามีหลายใบที่สร้างไม่สำเร็จ แต่ก็มีสองใบที่สร้างสำเร็จนั้นก็คือใบของความสามารถ [เงา S] และอีกอันนั้นก็คือ [เพลิง A]

สำหรับความสามารถ [เงา S] ที่การกินไปแค่คนเดียวแล้วได้มานั้น อาจจะเป็นเพราะว่า ระดับของนักฆ่าเงานั้นเป็นระดับสีเขียว สูงกว่าไนเรลอยู่ 1 ขั้น แต่ความสามารถ [เพลิง A] ได้มาเพราะโชคล้วน ๆ ที่กินแค่มนุษย์ชั้นสูงระดับสีน้ำตาลเท่าเขาไปแล้วได้มันมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด