ตอนที่แล้วบทที่ 260
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 262

บทที่ 261


หมู่บ้านขนาดกลางที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ผู้คนส่วนใหญ่ด้านในเป็นเผ่าอสูรมายา รูปร่างคล้ายมนุษย์ ตัวสูงใหญ่แขนยาว มีเล็บที่แหลมคมเป็นอาวุธ นิสัยรักสงบโหดเหี้ยมเช่นอสูรร้ายแต่ถึงกระนั้นก็หาได้มุ่งโจมตีผู้ใดหากไม่เข้ามาในพื้นที่ของตน ภายในบ้านหลังใหญ่ใจกลางของหมู่บ้าน ชายชราผู้หนึ่งนั่งอยู่เพียงผู้เดียวบนโต๊ะไม้คร่ำเคร่งจ้องมองบางสิ่งในมืออยู่อย่างไม่วางตา เขาพึมพำบางอย่างเพียงผู้เดียว

“บัดซบนัก ข้าศึกษาตำรานี้อยู่นานหลายสิบปียังไม่ได้อะไรเลย”

ทันใดนั้นเองชายชราก็รีบเก็บบางอย่างในมือซุกซ่อนเอาไว้ช่องลับใต้โต๊ะ ไอร้อนแผ่เข้ามาในห้องเมื่อเงยหน้าจ้องมองก็พบชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งก้าวเดินเข้ามาภายในห้อง

“คารวะท่านหัวหน้า ข้ามีข่าวจะแจ้งต่อท่าน”

ชายชราถึงกับขมวดคิ้วเอ่ยวาจาถามด้วยความสงสัย

“เกิดสิ่งใดขึ้นกันเหลาจือ”

“ตอนนี้คนของเราที่ออกลาดตระเวนสามกลุ่มยังไม่มีกลุ่มใดกลับมา ข้าเกรงว่าพวกเทพจะส่งกองกำลังมายังที่นี่ อีกทั้งข้าจับหญิงสาวเผ่ามนุษย์ได้หลายคน ซึ่งคนพวกนั้นไม่มีความสามารถมายังที่นี่ได้เป็นแน่”

ในระหว่างที่กล่าวอยู่นั้นชายฉกรรจ์นามเหลาจือหรี่ตามองไปบนโต๊ะเห็นผ้าสีเทาที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดสีแดง เขาแสยะยิ้มขยับเท้าเข้ามาใกล้ชายชราอย่างช้าๆ

“มีความเป็นไปได้ บอกคนของเราให้พร้อม พวกมันคงหลอกล่อพวกมนุษย์ชั้นต่ำให้เป็นคนจัดการ”

“ขอรับ”

“หากไม่มีสิ่งใดแล้วเจ้าออกไปก่อนเถอะ”

ชายชราหาได้สนใจสิ่งใดเมื่อกล่าวเสร็จสิ้นก็นั่งหลับตา ทันใดนั้นชายฉกรรจ์นามเหลาจือก็จ้วงแทงมือขวาไปที่หน้าอกของชายชราอย่างรวดเร็ว เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากรูที่หน้าอกหยดลงพื้น ชายชราจ้องมองดูเหลาจือด้วยความสงสัย ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกระซิบดังมาจากข้างหู

“ท่านอยู่มานานเกินไปแล้วท่านหัวหน้า อีกอย่างข้าได้คำสั่งมาจากหมู่บ้านหลักว่าให้สังหารท่านนั้นเพราะท่านเห็นต่างไปจากทุกคน”

“ความทะเยอทะยานของพวกเจ้าช่างน่ากลัวนัก เจ้าคิดว่าเมื่อข้าตกตายลงพวกเทพจะปล่อยพวกเจ้าไปรึ ในเมื่อพวกนั้นต้องการสิ่งใดเจ้าก็น่าจะรู้”

“แน่นอนว่าแต่ท่านเถอะจะมอบคัมภีร์ออกมาหรือไม่”

ชายชราเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาดังลั่น

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าคิดว่าคัมภีร์ที่พวกเทพและพวกเจ้าหาอยู่ที่ข้าอย่างนั้นรึ ข้าจะบอกกล่าวต่อเจ้าหากว่ามันอยู่ที่นี่จริงข้าคงฝึกสำเร็จไปนานแล้วไอ้หนู ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าถูกคนพวกนั้นหลอกเสียแล้ว”

“หากเป็นเช่นนั้นจริงท่านก็สมควรตกตายได้แล้ว”

สิ้นเสียงกล่าวเหลาจือก็ตวัดมือซ้ายไปที่ลำคอของชายชราอย่างรวดเร็วพร้อมกับดึงแขนขวาออกมาหลังจากนั้นก็ซัดฝ่ามือขวาไปที่พื้นและผนังห้อง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เศษชิ้นส่วนไม่ปลิวกระจายไปทั่วบริเวณหลาวจากนั้นก็นำดาบเล่มหนึ่งออกมาฟันไปที่ศพของชายชราและที่ขาซ้ายของตนหลังจากนั้นก็โยนดาบลงพื้น ทันใดนั้นก็มีชายฉกรรจ์สองคนรีบพุ่งเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นศีรษะของชายชราผู้เป็นห้วหน้าร่วงลงพื้นก็ร้องคำรามโดยความโกรธแค้น

“บัดซบ เหลาจือใคร มันเป็นใครที่สังหารท่านพ่อข้า”

“มันเป็นพวกที่เทพส่งมา มันแอบลอบมาสังหารท่านหัวหน้า”

สิ้นเสียงกล่าวของเหลาจือก็มีชายฉกรรจ์อีกผู้หนึ่งรีบเข้ามาในห้องเช่นกันเมื่อมาถึงก็ตื่นตกใจกับภาพที่เห็นเล่นกัน เมื่อตั้งสติได้ก็ร่บเอ่ยวาจาทันที

“คารวะท่านเหลาจือ คุณชายเหลาซือ คนที่เราจับมาถูกสังหารหมดแล้วขอรับ พวกนั้นคงแอบเข้ามาในหมู่บ้าน”

ทันใดนั้นชายผู้ถูกเรียกขานเหลาซือก็เอ่ยวาจาออกมาเสียงดัง

“แจ้งคนของเราทั้งหมด เตรียมตัวให้พร้อมคืนนี้เราจะออกสังหารคนพวกมัน”

แสงอรุณลาลับขอบฟ้าหลายคนจากเขตหนึ่งเริ่มเตรียมตัวกันบ้างแล้ว เหล่าผู้มีอันดับยังคงประชุมวางแผนกันอยู่ต่างจากกลุ่มของเนี่ยฟงที่หาได้เข้ารวมกลุ่มกับผู้อื่น ออกมาพักกันเองรอบนอกจากหมู่บ้านเกือบแปดลี้ เนี่ยฟงสะบัดมือขวาสร้างวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าเอาไว้ตามพื้นเป็นหานป๋อที่เอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ข้าว่าเจ้าควรพักเสียหน่อยเถอะ ตั้งแต่เจ้ากลับมาก็สร้างวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ตามพื้นจนแทบจะไม่มีที่ไหนไม่มีแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเนี่ยฟงก็หัวเราะออกมาดังลั่น

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เชื่อข้าเถอะว่ามันต้องมีประโยชน์ ว่าแต่พวกจูคังกลับมาหรือยัง”

“ยังไม่เห็นผู้ใดกลับมา เจ้าให้พวกนั้นไปทำสิ่งใดรึ”

“หายางต้นสน”

“เจ้าต้องการทำสิ่งใดรึ”

“คอยดูก็แล้วกันว่าข้าจะเอามาทำสิ่งใด”

ไม่นานพวกจูคังก็กลับมา เนี่ยฟงเมื่อได้ยางสนจำนวนมากก็โยนไปจนทั่วบริเวณที่ตนสร้างวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ไว้ แน่นอนสิ่งที่เนี่ยฟงทำหลายคนก็สงสัยเช่นกัน แต่เมื่อสอบถามสิ่งใดก็ไม่มีสิ่งใดเพิ่มเติมเพียงแค่รอเฝ้าดูเท่านั้น ไม่ถึงสิบลมหายใจเจินอู่ก็กลับมาพร้อมกับแจ้งข่าว

“พวกนั้นเริ่มเคลื่อนไหวกันแล้ว โดยมีกลุ่มของหัวอิงและอันเฉินเป็นกลุ่มเข้าปะทะด้านหน้า ส่วนที่เหลือแยกย้ายกันเข้าโจมตีรอบนอก”

เนี่ยฟงได้ยินเช่นนั้นก็ยกยิ้ม

“เป็นไปตามที่ข้าคิดเอาไว้ไม่มีผิด เอาละพวกเจ้าติดตามกลุ่มคนพวกนั้นไป หากถูกโจมตีให้นำพวกเขาทั้งหมดถอยมาที่บริเวณนี้ เราจะสังหารคนพวกนั้นกัน”

หานป๋อถึงกับขมวดคิ้ว เนี่ยฟงที่หันไปมองก็ยกยิ้มพร้อมกับหันไปมองรอบด้าน

“พวกเจ้าคิดว่าคนพวกนั้นจะชนะแน่รึ เพียงแค่จัดกองกำลังก็คงจะดูออก เอาเถอะพวกเจ้าเฝ้ารอด้านหลังก็พอหากเห็นท่าไม่ดีให้นำพวกเขาถอยมาที่นี่แล้วพวกเจ้าจะรู้เองว่าข้ากำลังทำสิ่งใด”

หลายคนทำหน้างุนงงแต่ก็หาได้กล่าวสิ่งใดเพิ่มทำได้เพียงพยักหน้าให้เท่านั้น ไม่นานหานป๋อก็นำกองกำลังไปทั้งหมด เนี่ยฟงแผ่ลมปราณตรวจสอบเมื่อไม่มีผู้ใดก็รีบสะบัดมือขวานำสมุนไพรออกมาหลากหลายชนิดพร้อมกับหม้อปรุงยา

ทางด้านหัวอิงและอันเฉินพวกเขาทั้งสองกลุ่มมุ่งหน้าเข้ามาใกล้หมู่บ้านไม่ถึงหนึ่งลี้ก็ต้องเผชิญหน้ากับพวกชายฉกรรจ์นับยี่สิบคนที่มุ่งหน้าเข้ามา เสียงการปะทะดังสนั่นปราณดาบปลิวว่อนหัวอิงฟาดฟันดาบในมืออย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับอันเฉิน เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง ไม่ถึงสองเค่อทั้งสองก็เริ่มแปลกใจเพราะดาบในมือเริ่มที่จะฟันไม่เข้าผิวหนังของคนพวกนี้เสียแล้ว ความได้เปรียบด้านจำนวนคนเริ่มที่จะไม่เป็นผลเสียแล้ว คนของตนเริ่มที่จะตกตายหลายสิบคน แต่ทั้งสองก็ยังไม่ถอยจนกระทั่งกลุ่มคนด้านหน้าเริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจึงคิดถอยหลังสมทบกับกลุ่มหลัก

ทางด้านจูคังและเจิงอู่ที่มุ่งหน้ามายังสนามรบก่อนคนอื่นแน่นอนว่าเห็นสภาพกลุ่มของหิวอิงแล้วได้แต่ส่ายศีรษะ เพราะความรีบร้อนและประมาณทำให้ควบคุมปราณที่คมอาวุธไม่สม่ำเสมอ อีกทั้งคนที่เหลือก็หาได้มีความชำนาญติดตามหัวหน้ากลุ่มมาเท่านั้น จูคังรีบสั่งการกลุ่มของตนกระจายพาคนทั้งหมดหลบหนีออกมา หลังจากทุกคนแยกย้ายกันแล้วจูคังก็พุ่งทะยานลงจากกิ่งไม้เข้าหาหัวอิง

“คุณชายหัวอิง ข้าจูคังคนของคุณชายเนี่ยฟง พวกท่านหลบถอยติดตามข้ามาเถอะขอรับ”

หัวอิงเมื่อหันไปมองว่าเป็นผู้ใดก็ยกยิ้มตะโกนออกมาเสียงดัง

“ทุกคนถอย ติดตามข้ามา”

สิ้นเสียงกล่าวหัวอิงก็ถีบเท้าถอยออกมาติดตามจูคัง เช่นเดียวกับคนอื่นๆเริ่มล่าถอยแล้วเช่นกัน เผ่าอสูรมายาเองก็พุ่งทะยานติดตามด้วยตอนนี้มีไม่ต่ำกว่าเจ็ดสิบคนแล้ว เมื่อถอยมาได้ระยะหนึ่งก็พบเจอกับกลุ่มหลักที่เข้ามาในพื้นที่ หัวอิงยกยิ้มรีบพุ่งเข้าหาหยวนเจี้ยนพร้อมกับรายงาน เป็นหยวนเจี้ยนที่ตัดสินใจปักหลักสู้เนื่องจากกำลังคนมีมากกว่า หัวอิงถึงแม้จะคัดค้านในใจแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใด ถึงแม้ว่าต้วเขาเองจะมีอันดับที่สูงกว่าแต่ก็ยากที่จะค้านผู้มีอันดับทั้งหมดที่เห็นด้วยกับหยวนเจี้ยน จูคังที่เข้าใจเป็นอย่างดีจึงทำได้เพียงหลบออกมาด้านนอกสมทบกับพวกหานป๋อ

เสียงดาบปะทะกรงเล็บดังลั่น เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง การปะทะเป็นไปอย่างดุเดือด เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ปราณดาบปลิวว่อนเลือดสีแดงฉานพุ่งออกจากแขนที่ถูกกระชากพร้อมกับเสียงร้องโหยหวน ไม่นานก็เป็นเช่นเดิมทันทีที่จำนวนของเผ่าอสูรมายาเพิ่มมากขึ้น พวกเขาก็เริ่มที่จะเข้าปะทะไม่ไหวเพราะร่างกายที่ทนทานต่ออาวุธ อีกทั้งยังลงมือได้ว่องไว เป็นไปตามคาดเกือบหนึ่งชั่วยามจูคังรีบพุ่งเข้าหาหัวอิงเพื่อแจ้งถอย และเป็นหัวอิงที่ตะโกนออกมา

“ทุกคนถอย ติดตามข้ามา”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด