ตอนที่แล้วDual Cultivation บทที่ 570: โอสถกาลนิรันดร์ (+)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDual Cultivation บทที่ 572: คะแนนเต็ม

Dual Cultivation บทที่ 571: การทดสอบการปรุงยา (ฟรี ชดเชย ๕๗๐)


Dual Cultivation บทที่ 571: การทดสอบการปรุงยา

สองสัปดาห์ได้ผ่านไปในชั่วพริบตา และก็ถึงวันทดสอบการปรุงยา หวังชูเหรินโซซัดโซเซออกจากห้องด้วยท่าทางที่ดูเหมือนกับคนเมา รู้สึกปวดเมื่อยไปทั่วทั้งร่างกาย

ซูหยางเดินตามออกมาหลังจากนั้น และเขาก็พูดกับเธอว่า “ถ้าเจ้ามิต้องการที่จะไปที่หอประชุม เจ้าก็สามารถที่จะอยู่ที่นี่พักผ่อนไปก่อนก็ได้”

หวังชูเหรินรีบส่ายหน้าและกล่าวว่า “ไม่ ข้าต้องการไปที่นั่นเนื่องเพราะว่าข้าก็ต้องการที่จะเข้าร่วมในการทดสอบการปรุงยาของท่านเช่นกัน”

“เจ้ามิควรฝืนตัวเองมากเกินไป มิว่าอย่างไรเจ้าก็แทบจะเดินเป็นเส้นตรงไม่ได้แล้ว” ซูหยางส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

“ท่านคิดว่านี่เป็นความผิดของใครที่ทำให้ข้าตกอยู่ในสภาพเช่นนี้” หวังชูเหรินมองดูเขาด้วยใบหน้าที่ไม่อยากเชื่อ “ถ้าท่านมิได้ทำข้าอย่างหนักหน่วงเช่นนี้ ข้าก็คงจะมิเป็นเช่นนี้…”

ซูหยางระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและกล่าวว่า “และใครที่เป็นคนที่เอาแต่กรีดร้องว่า”ทำข้าแรงกว่านี้“”

“...”

ใบหน้าหวังชูเหรินแดงก่ำขึ้นมาหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา เธอพึมพัมว่า “ช่างน่าชังนัก”

หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสองคนก็ออกจากนิกายดอกบัวเพลิงและมุ่งตรงไปยังหอประชุมที่ซึ่งคนนับร้อยได้มารวมตัวกันรอคอยพวกเขาเรียบร้อยแล้ว

“นั่นผู้อาวุโส”

“ผู้เยาว์คนนี้คำนับผู้อาวุโส”

“ยินดีต้อนรับกลับมาผู้อาวุโส”

ผู้คนที่นั่นต่างพากันทักทายเขาด้วยการโค้งคำนับด้วยความนบนอบ

ครั้นเมื่อทุกคนได้มารวมตัวกันที่หอประชุมเรียบร้อยแล้ว ซูหยางก็พูดขึ้นว่า “พวกเจ้ามีคำถามอะไรก่อนที่ข้าจักเริ่มการทดสอบหรือไม่”

บางคนได้ยกมือขึ้นและถามว่า “มีการทดสอบทั้งหมดเท่าไหร่”

“จักมีการทดสอบง่ายๆสามบททดสอบ พวกเจ้าจำต้องผ่านเพื่อที่จะได้เป็นศิษย์ของข้า”

“เกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนมากกว่าสามคนที่นี่ที่ผ่านการทดสอบ”

“เช่นนั้นเราก็จักมีการแข่งขันระหว่างผู้ชนะจนกว่าจะมีเพียงผู้มีพรสวรรค์ที่สุดสามคนเหลืออยู่”

“พวกเราจำเป็นจะต้องปรุงยาสำหรับการทดสอบนี้หรือไม่”

“ไม่ ข้ามิได้มีความอดทนในเรื่องนี้”

หลังจากที่ตอบคำถามทุกคนแล้ว ซูหยางก็เริ่มการทดสอบการปรุงยา

“สำหรับการทดสอบแรกนั้น ข้าจักทดสอบความแข็งแกร่งของการจตจำของพวกเจ้า” ซูหยางพลันโบกชายเสื้อ จนทำให้ม้วนคัมภีร์มากกว่าร้อยม้วนปลิวออกไปสู่ผู้เข้าร่วมการทดสอบ

“การทดสอบแรกนี้มีสองส่วนเช่นเดียวกัน นี่มีวัตถุดิบมากกว่าหนึ่งหมื่นรายการในแต่ละม้วนคัมภีร์ และมีความแตกต่างกันสิบชุด ทำให้มีวัตถุดิบทั้งสิ้นถึงหนึ่งแสนรายการ และสำหรับการทดสอบส่วนแรกนั้น พวกเจ้ามีเวลาสิบชั่วโมงในการจดจำวัตถุดิบให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และเพื่อที่จะได้เข้าสู่การทดสอบส่วนที่สอง พวกเจ้าจะต้องจดจำวัตถุดิบให้ได้อย่างน้อยหมื่นชนิด”

“จดจำวัตถุดิบหนึ่งหมื่นชนิดภายในสิบชั่วโมงอย่างนั้นรึ”

มีอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของคนในห้องที่พากันตกใจจนพูดไม่ออกกับความยากของการทดสอบแรก คงเป็นปาฏิหาริย์ถ้าพวกเขาสามารถจดจำได้ถึงหนึ่งพันรายการในเวลาสิบชั่วโมง อย่าว่าแต่ถึงหนึ่งหมื่นรายการ

ส่วนสำหรับบรรดาผู้เชี่ยวชาญการปรุงยาในห้องนั้น พวกเขาล้วนพากันแสดงสีหน้ามั่นใจออกมาในเมื่อพวกเขาต่างพากันจดจำวัตถุดิบมาไว้มากกว่าหมื่นรายการมานานหลายปีในชีวิตแล้วในฐานะนักปรุงยา ก็เหมือนกับให้หนังสือแนะนำเบื้องต้นการปรุงอาหารกับพ่อครัวหัวป่า

อย่างไรก็ตามทันทีที่การทดสอบเริ่มต้น เหล่าผู้เชี่ยวชาญการปรุงยาก็เริ่มตระหนักว่าพวกเขาเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทดสอบและพวกเขาก็ไม่รู้จักถึงวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่เขียนอยู่บนม้วนคัมภีร์ และความมั่นใจของพวกเขาก็พลันหดหายไปจนกระทั่งไม่มีเหลือ

“เกิดบ้าอะไรขึ้นกันนี่ ข้าได้จดจำวัตถุดิบมากกว่าห้าหมื่น และข้าก็สามารถที่จะนึกพวกมันทั้งหมดออกมาได้ดังปรารถนาเหมือนกับว่ามันเขียนอยู่บนหลังมือของข้า แต่ข้าก็มิอาจที่จะจดจำวัตถุดิบเหล่านี้ได้ นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน วัตถุดิบเหล่านี้มีอยู่แต่ภายในทวีปศักดิ์สิทธิ์กลางเท่านั้นรึ เขาจับข้าเสียอยู่หมัด ข้าควรจะรู้ว่ามันมิได้ง่ายขนาดนั้น” ผู้อาวุโสเจิ้ง หนึ่งในนักปรุงยาที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในทวีปตะวันออกร่ำร้องอยู่ในใจด้วยความตระหนกจนพูดไม่ออกกับการที่มีวัตถุดิบจำนวนมากมายที่เขาไม่เคยแม้กระทั่งได้ยินมาก่อน

หวังชูเหรินก็ไม่ได้ต่างออกไป แม้ว่าจะได้รับการสอนมาจากซูหยางโดยตรง เธอก็ไม่เคยได้เห็นวัตถุดิบส่วนมากในม้วนคัมภีร์มาก่อน

อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่กล้าที่จะเสียเวลามากนักมาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และตั้งสมาธิจดจำชื่อของวัตถุดิบเหล่านี้

สิบชั่วโมงให้หลัง ซูหยางก็ปรบมือและกล่าวว่า “ครบกำหนดสิบชั่วโมงแล้ว หยุดสิ่งที่พวกเจ้ากำลังทำอยู่และมองดูข้า มิเช่นนั้นข้าจะให้เจ้าไม่ผ่านการทดสอบในทันที”

และในทันใดนั้น ผู้คนที่อยู่ที่นั่นต่างก็พากันปิดม้วนคัมภีร์และมองดูเขา

ไม่เหมือนกับการฝึกวิชาของคนผู้หนึ่ง สิบชั่วโมงนั้นจะเหมือนกับเป็นเวลาที่ยาวนานมาก แต่สำหรับผู้เข้าร่วมการทดสอบเหล่านี้ เวลาที่ผ่านไปสิบชั่วโมงนี้รู้สึกเหมือนกับเวลาเพียงแค่สิบนาที

“พวกเจ้าคิดยังไงกับการทดสอบแรก” ซูหยางถามพวกเขาหลังจากนั้น

“ผู้อาวโส… วัตถุดิบเหล่านี้มาจากทวีปศักดิ์สิทธิ์กลางรึ” หนึ่งในพวกเขาถาม

“อะไรทำนองนั้น” เขาพยักหน้า

จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “พวกเจ้าอาจจะคิดว่าข้านั้นหลอกพวกเจัาที่ทำเช่นนี้ แต่ถ้าข้ามิทำเช่นนี้ นั่นย่อมมิเป็นความยุติธรรมสำหรับผู้ที่มิได้รู้หรือมีประสบการณ์มากนักในด้านการปรุงยา ในเมื่อนักปรุงยาที่นี่ล้วนได้เปรียบมีประสบการณ์ด้านการปรุงยามานานหลายสิบปีแล้ว”

“และเมื่อกล่าวถึงที่สุดแล้ว ข้าก็มิได้สนใจในความรู้และความสามารถปัจจุบันของพวกเจ้า ข้าเพียงแต่หาคนที่มีศักยภาพมากที่สุด นั่นก็คือจุดประสงค์ของการทดสอบของทั้งหมดนี้”

หลังจากนั้นซูหยางก็ส่งม้วนคัมภีร์เปล่าให้กับทุกคนในห้องนั้นและก็อธิบายว่าพวกมันเป็นส่วนที่สองของการทดสอบ “สำหรับการทดสอบส่วนถัดไปนั้น ข้าก็จักให้พวกเจ้านึกถึงวัตถุดิบให้มากที่สุดเท่าที่พวกเจ้าจะสามารถทำได้จากส่วนแรกของการทดสอบนำมาใส่คัมภีร์ที่ข้าเพิ่งส่งให้กับพวกเจ้านี้ สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำก็คือคิดถึงวัตถุดิบในใจของเจ้าในขณะที่สัมผัสกับม้วนคัมภีร์ และม้วนคัมภีร์ก็จักนับพวกมันให้กับเจ้า ในกรณีที่พวกเจ้าคิดที่จะโกงโดยการนึกถึงวัตถุดิบที่มิได้ปรากฏในวัตถุดิบหนึ่งแสนรายการที่ข้าให้นั้น ม้วนคัมภีร์ก็จักมินับมัน อย่างไรก็ตามพวกเจ้าสามารถทดสอบดูได้ตามสบาย”

“ส่วนสำหรับการทดสอบส่วนนี้นั้น พวกเจ้าจักมีเวลาสองชั่วโมงในการนึกวัตถุดิบออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้”

หลังจากที่พูดถ้อยคำเหล่านั้นจบแล้ว ซูหยางก็เริ่มจับเวลา

ที่แห่งนี้พลันเงียบสงัดลงไปในทันที และทุกคนในห้องนั้นนอกจากซูหยางก็ได้หลับตาของตนเองลงเพื่อช่วยในการตั้งสมาธิ

สองชั่วโมงให้หลัง ซูหยางก็พลันปรบมืออีกครั้ง ทำให้ทุกคนในห้องนั้นถึงกับตื่นตะลึง

“เปิดม้วนคัมภีร์ของพวกเจ้าและดูผลลัพธ์ของพวกเจ้า ถ้าพวกเจ้ามีจำนวนที่น้อยกว่าหนึ่งหมื่น นั่นหมายถึงว่าพวกเจ้าได้ล้มเหลวในการทดสอบนี้แล้ว และข้าก็จำเป็นต้องขอให้พวกเจ้าได้ออกจากที่แห่งนี้ไป”

ผู้คนที่นั่นต่างพากันเปิดม้วนคัมภีร์ด้วยมือที่สั่นเทา

เมื่อพวกเขาได้เห็นผลลัพธ์ของตนเอง มากกว่าครึ่งห้องก็แสดงสีหน้าเสียใจในขณะที่คนอื่นๆแสดงท่าทางโล่งใจออกมาทางใบหน้า

เพียงแค่การทดสอบเดียว คนจำนวนมากกว่าครึ่งของผู้ทดสอบก็ได้ล้มเหลวไป สูญเสียโอกาสที่จะเป็นศิษย์ของซูหยาง

ในเวลาหลังจากนั้นครั้นเมื่อคนที่ไม่ผ่านการทดสอบได้ออกไปจากหอประชุมแล้ว ซูหยางก็กล่าวกับผู้เข้าร่วมการทดสอบที่เหลือว่า “ใครที่ได้จำนวนมากกว่า สองหมื่น”

สองสามอึดใจให้หลัง คนสามสิบคนก็ได้ยกมือของพวกเขาขึ้น

ซูหยางพยักหน้าและกล่าวว่า “สำหรับวัตถุดิบทุกหนึ่งพันชนิดที่เจ้าได้จดจำ เจ้าจักได้รับแต้มหนึ่งแต้ม และเมื่อจบการทดสอบ คนสามคนที่มีแต้มสูงสุดจะได้เป็นศิษย์ของข้า”

จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “และใครก็ตามที่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดสำหรับการทดสอบแต่ละชุด เจ้าจักได้แต้มพิเศษสิบแต้ม ดังนั้นพวกเจ้าคนไหนที่ได้จำนวนสูงสุด”

หลังจากนั้น ซูซุน พ่อของเขาก็เผยให้เห็นม้วนคัมภีร์ให้กับทุกคนและกล่าวว่า “ข้าได้ 38,170”

เมื่อเป็นหนึ่งในไม่กี่คนของผู้ฝึกยุทธที่ได้ก้าวเข้าสู่เขตอัมพรวิญญาณ ความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจของซูซุนนั้นเห็นได้ชัดเจนว่าแข็งแกร่งกว่าคนโดยทั่วไป ทำให้เขาจดจำสิ่งต่างๆได้เร็วกว่าคนอื่น

“มีใครอีกบ้างที่มีผลลัพธ์ที่ดีกว่า” ซูหยางถามคนที่เหลือ

ในวินาทีถัดไป ไป่ลี่ฮัวก็ยกมือของเธอขึ้น “45,548”

“สมกับเป็นเจ้าสำนักของสำนักระดับสูง…” คนที่นั่นต่างพากันชื่นชมไป่ลี่ฮัวอยู่อย่างเงียบๆ

ไม่เพียงแต่เธอจะสวยจนสามารถล่มประเทศทั้งประเทศได้เท่านั้น แต่เธอก็ยังเป็นหนึ่งในผู้ที่มีพรสวรรค์คนหนึ่งภายในยุคของเธอที่สามารถเข้าสู่เขตอัมพรวิญญาณได้ตั้งแต่อายุยังน้อย จนกระทั่งตอนนี้เธอก็เป็นผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดคนหนึ่งในบรรดาผู้ฝึกยุทธในเขตอัมพรวิญญาณในทวีปตะวันออก โดยไม่รวมซูหยางและหงอวี้เอ๋อร์

“เจ้าคงเป็นไป่ลี่ฮัวใช่ไหม” ซูหยางพลันถามเธอ

“ผู้ต่ำต้อยคนนี้เรียกว่าไป่ลี่ฮัวจริงๆ” เธอตอบด้วยเสียงประหลาดใจอยู่บ้าง ในเมื่อเธอไม่คาดคิดว่าผู้อาวุโสคนนี้จะรู้จักเธอ

“อืมม.. ข้าได้ยินเรื่องราวดีๆของเจ้าจากซูหยาง เพื่อนตัวน้อยของข้า มิว่าเจ้าจะผ่านการทดสอบนี้หรือไม่ เจ้าสามารถอยู่ที่นี่จนกระทั่งการทดสอบนี้เสร็จสิ้นเพื่อที่ว่าเราจะสามารถได้คุยกันเป็นการเฉพาะมากขึ้น”

เมื่อได้ยินคำพูดของซูหยาง ไป่ลี่ฮัวก็มีสีหน้าเบิกบานด้วยความยินดี และเธอรีบคำนับเขา “ขอบคุณท่านผู้อาวุโส สำหรับการสละเวลาอันมีค่าของท่านให้กับผู้ต่ำต้อยคนนี้”

“ซูหยางนั่นช่วยข้าให้ได้พบกับนักปรุงยาคนนี้ได้จริงๆ ข้าต้องขอบคุณเขาให้ดีในคราวหน้าเมื่อข้าได้เห็นเขา” ไป่ลี่ฮัวคิดในใจในเวลาหลังจากนั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด