ตอนที่แล้วตอนที่ 2 เอลเดน เวิลด์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 ความฝันที่เป็นจริง

ตอนที่ 3 โลกใหม่


ตอนที่ 3: โลกใหม่

ล่องลอย

นั่นคือสิ่งที่ลีรู้สึก เมื่อสติของเขาได้ลอยละล่องผ่านสิ่งที่รู้สึกเหมือนกับความว่างเปล่า รอบตัวเขามีแต่ความมืด ความมืดมิดที่ดูเหมือนจะจับต้องได้ ส่องแสงแพรวพราวดั่งคลื่นทะเลสีดำ แต่เขาไม่มีแขนเพื่อที่จะขยับ ไม่มีร่างกายที่จะรู้สึกหรือสัมผัสสิ่งใด มันเป็นเพียงดวงตาข้างในจิตใจของเขาที่ดูเหมือนล่องลอยและมองเห็นมัน

ลีรู้สึกงุนงงสับสนอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ราวกับว่าเขาตกอยู่ในความฝัน โลกรอบตัวเขาสั่นคลอนและกำลังอยู่ระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและจินตนาการ แล้วมีเสียงสะท้อนผ่านเข้ามาในหัวของเขา พุ่งเข้าไปสู่แก่นแท้ใจกลางในความนึกคิดของเขา

"โอ้ คนต่างโลกผู้ยิ่งใหญ่ ฉันหวังว่าคุณจะให้อภัยเราที่ดึงตัวคุณมาจากโลกของคุณ แต่เรามีความต้องการอย่างแรงกล้า"

ลีบอกไม่ได้เลยว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของผู้ชาย หรือเป็นเสียงของผู้หญิง หรือเป็นเสียงของใครสักคนหรือไม่ มันถูกบิดเบือนไปเล็กน้อยและเต็มไปด้วยเสียงซ่า

"พวกเราให้เลือดเนื้อแก่คุณเพื่อให้คุณได้เดินท่ามกลางหมู่พวกเรา พวกเราให้ความรู้แก่คุณเพื่อให้คุณเข้าใจเราและเข้าใจโลกใบนี้ พวกเราเรียกร้องให้คุณช่วยเราให้พ้นจากความทุกข์ยาก โลกของเราใกล้ถูกทำลาย อารยธรรมนั้นแขวนอยู่บนเส้นด้าย เสียงร้องของผู้คนนับพันสะท้อนก้องเรียกถึงคุณ พวกเรา-”

เสียงนั้นหยุดไปก่อนที่จะพูดจบ และทันทีที่เสียงสิ้นสุดลง โลกก็คืนกลับมา

แสงสีสันต่างๆพุ่งเข้ามาหาลีทันทีที่ความมืดหายไป มันรู้สึกสับสนอย่างเหลือเชื่อที่ได้รับความรู้สึกทั้งห้าและร่างกายในชั่วพริบตาเดียว และมันคงเรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ ที่เขาไม่ได้อาเจียนออกมาในทันที

ลีคิดที่จะกระพริบตา แต่เขากลับได้ตระหนักว่าร่างกายเขาไม่สามารถทำได้ เขาจึงสัมผัสใบหน้าของเขาโดยสัญชาตญาณ มือของเขาเย็นจนไปถึงกระดูก เขามองไปที่มือของเขาอีกครั้ง

กิ่งไม้ มือของเลเซิน เขามองไปรอบๆด้วยความตกใจ เขากำลังประมวลผลทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นข้อๆ ข้อแรกเขาอยู่ข้างนอก ข้อที่สองมันเป็นเวลากลางคืน ข้อที่สามเขาอยู่กลางป่าใหญ่ แต่ที่นี่แตกต่างไปจากทุกอย่างในเกม ไม่มีความรู้สึกหรือประสาทสัมผัสใดๆของเขาที่ถูกลดทอนลง

จริงๆแล้วมันดูคมชัดมากขึ้น เขาสามารถได้ยินเสียงลมพัดดังหวีดหวิวระหว่างกิ่งก้านของต้นไม้ได้อย่างชัดเจน เป็นเสียงที่สอดประสานกันได้เหมือนเสียงผิวปากที่น่าขนหัวลุก เปลือกไม้และใบไม้ของต้นไม้รอบๆตัวเขานั้นช่างแจ่มชัด เต็มไปด้วยสีเขียวและสีดำอย่างไม่น่าเป็นไปได้ พร้อมกับรายละเอียดต่างๆมากมายเกินกว่าที่คอมพิวเตอร์กราฟิกจะรังสรรค์ให้ได้ เขาสัมผัสได้ถึงดินที่นุ่มและชื้นใต้เท้าเปล่าของเขา เขาได้กลิ่นของพื้นดิน

เขาไม่อยากจะเชื่อเลย แต่เขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่ในเกม

และมันไม่ใช่เพียงเพราะประสาทสัมผัสของเขา ไม่ว่าจะเป็นฝันบ้าอะไรก็ตามที่เขามี นั่นไม่ได้แค่ส่งเสียงคุยอยู่ในหัว แต่มันยังให้ความรู้แก่เขา เขารับรู้ว่าเขาถูกเรียกตัวไปยังโลกใบใหม่ ซึ่งความรู้ความเข้าใจที่เขาได้ทำให้เขาไม่ตื่นตระหนกหรือสับสนมากเกินไปนัก ขณะที่เขาถูกพามายังโลกอีกใบ

เขารู้สึกว่าเขาควรจะได้รับความรู้มากกว่านี้ เช่นว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนและเขาควรจะทำอะไร แต่มีบางอย่างผิดพลาดไป ทำให้เขามีอิสระพอที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจ

ปฏิกิริยาแรกของลีคือเดินขึ้นไปบนต้นไม้และวางฝ่ามือไว้บนลำต้นของมัน เขารับรู้แล้วว่าเขาดูไม่เป็นเป็นมนุษย์มากแค่ไหน เขาสูงเกือบสามเมตรมีร่างกายที่ประกอบไปด้วยไม้ ใบไม้และกระดูก

เลเซินไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เป็นมิตรนัก พวกมันไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาที่น่าพิสมัย พวกมันน่าเกลียดและน่ากลัว หากธรรมชาติมีตัวตนขึ้นมาจากวัฏจักรของชีวิตและความตายแล้ว เลเซินก็คือความตาย

ศีรษะของลีเป็นหัวกะโหลกของกวางที่ไม่มีหนังหุ้มและมีเขากวางแหลมที่ทำจากไม้ทรงบิดงอ กิ่งก้านเล็กๆต่างๆงอกออกมาจากร่างกายของเขา แต่แทนที่จะเป็นดอกไม้ที่ผลิบานสวยงาม พวกมันกลับกลายเป็นหัวกะโหลกของสิ่งมีชีวิตทั้งที่เป็นสัตว์ป่าและมนุษย์

แต่ลีไม่ได้รังเกียจร่างกายของเขามากนัก มันรู้สึกเป็นธรรมชาติราวกับว่านี่เป็นร่างของเขาเอง ยังมีนิสัยบางอย่างที่เขามีอย่างเช่นอยากกระพริบตา แต่ทำไม่ได้เมื่อพิจารณาจากลักษณะกะโหลกที่เป็นศีรษะของเขา แต่ความรู้สึกนี้คงจางหายไปตามกาลเวลา สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาได้มากที่สุดก็คือ โลกรอบๆตัวเขานั่นเอง

นี่มันน่าทึ่งมาก ลีไม่เคยได้เห็นดงพงไพรในชีวิตจริงเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาเคยเห็นพวกมันแค่ในความเป็นจริงเสมือน(VR) และวิดีโอหรือเอกสารทางประวัติศาสตร์มาโดยตลอด แต่เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าเขาจะได้มายืนอยู่ข้างต้นไม้จริงและได้สัมผัสมัน สิ่งนี้เกือบจะเป็นตำนานที่ได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่หายไปจากโลกไปแล้ว

ธรรมชาตินั้นมหัศจรรย์และงามเฉิดฉันอย่างที่ลีคาดหวังไว้ และยิ่งกว่าที่เขาปรารถนา อารมณ์อันอบอุ่นของความอัศจรรย์ใจและความสุขแผ่ซ่านอยู่ในตัวเขา และเขาต้านน้ำตาแห่งความปิติเอาไว้ แม้จะรู้ดีว่าหัวกะโหลกของเขาแบบนี้ไม่สามารถสร้างหยดน้ำตาออกมาได้

หากสิ่งเดียวที่ลีทำได้คืออยู่ในหมู่มวลแมกไม้พนาลีแห่งนี้และชื่นชมมันชั่วนิจนิรันดร เขาก็พอใจแล้ว

ลีตึงเครียดขึ้น

เขารู้สึกได้ถึงบางสิ่ง เขาพยายามมองไปที่มุมบนของการมองเห็นโดยสัญชาตญาณ เพื่อดูว่าจะมีแผนที่ย่ออยู่ตรงไหนสักแห่งหรือไม่ แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น เขาคิดว่าเขามีความสามารถทั้งหมดของตัวละครในเกมของเขา แต่เขาไม่แน่ใจว่าถ้าใช้มันแล้วจะรู้สึกอย่างไร

ตอนนี้มีบางอย่างกระตุ้นให้ [สัมผัสผืนป่า] ของเขาทำงาน นั่นทำให้เขาสามารถตรวจจับศัตรูเป็นรัศมีกว้างรอบตัวเขาได้หากเขาอยู่ในป่า

ในเกม [สัมผัสผืนป่า] ของลีจะปรากฏเป็นจุดสีแดงที่ทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่ย่อของเขา แต่ตอนนี้มันเป็นเหมือนกับสายโยงตามสัญชาตญาณ และเมื่อเขาเดินตามสัญชาตญาณของเขาที่ปรากฏขึ้นมา สายโยงตามสัญชาตญาณก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น บอกได้ว่าเขาอยู่ใกล้มากขึ้นแล้ว

ลีเดินทางผ่านป่าอย่างเงียบเชียบและรวดเร็ว ในเกมเลเซินสามารถเมินเฉยต่อการปะทะกันของกลุ่มคนทั้งหมดในป่าได้เนื่องจากลักษณะร่างกายตามธรรมชาติ ทำให้พวกมันเคลื่อนที่ผ่านต้นไม้ได้โดยไม่มีคนสังเกตเห็น เขาสามารถทำแบบนั้นได้เช่นเดียวกัน ร่างกายของเขาค่อยๆเคลื่อนผ่านป่า มันรู้สึกแปลกเล็กน้อยที่เห็นวัตถุที่เป็นของแข็งผ่านตัวเขาไป แต่เขาก็คุ้นชินกับมัน

หลังจากนั้นไม่นาน ลีก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ริมป่า ข้างหน้าคือถนนลูกรังกว้าง เขาระมัดระวังตัว แม้เขาจะรู้ว่าเขามีพลังทั้งหมดของตัวละครเลเวล 100 ในเกมและเสียงนั้นที่เรียกเขาว่าผู้ยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ไม่รู้แน่ชัดว่าสิ่งอื่นๆในโลกนี้นั้นแข็งแกร่งเพียงใด

ลีซ่อนตัวอยู่ระหว่างต้นไม้และมองเข้าไปที่ถนน เลเซินยังสามารถซ่อนเร้นกายได้ตามธรรมชาติในป่า ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยกังวลมากนักที่จะถูกพบเห็นเข้า แต่ถ้าเขาถูกพบเจอเข้า เขาก็สามารถหลบหนีหรือป้องกันตัวเองได้ในทันทีโดยใช้พลังที่มีจากคาถาหรือความสามารถอื่นๆ

เขาเห็นเกวียนไม้พลิกคว่ำ ล้อที่แตกหักไร้ซึ่งประโยชน์ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดก้องไปในอากาศ ผักนานาชนิดกลาดเกลื่อนอยู่ทั่วอาณาบริเวณ ลีพอจะจำพืชผักบางชนิดได้จากในโลกของเขาเอง เช่น แครอท กะหล่ำปลี มะเขือเทศและอื่นๆ เขาจดจำมันได้ว่าเป็นของจากเอลเดน เวิลด์

มันน่าประทับใจแค่ไหนที่เขาสามารถมองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน เต็มไปด้วยรายละเอียดและสีสัน และเขาเดาว่ามันเกิดจากการมองเห็นในเวลากลางคืนตามธรรมชาติของสายพันธุ์ของเขา

มีผู้ชายอยู่หลายคนรอบๆเกวียนนั้น เสื้อผ้าของพวกเขาเป็นแบบยุคกลางและลีจำได้ว่าพวกเขาสวมใส่สินค้าจากเอลเดน เวิลด์ เสื้อทูนิคทั่วไป ผ้าคลุมทั่วไป กางเกงขายาวทั่วไปและอื่นๆ ทั้งหมดนี้เป็นไอเทมเริ่มต้น ไม่มีค่าอะไรเลยในช่วงเลเวลแรกๆ

ผู้ชายมักเปลี่ยนน้ำหนักเท้าจากเท้าหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง บางคนดึงที่ฮูดบ่อยๆเพื่อให้แน่ใจว่าผ้าปกคลุมใบหน้าอยู่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาทุกคนพร้อมที่จะวิ่งหนี และกลัวที่ถูกจับได้ว่ากำลังทำอะไรผิดๆ

ชายคนหนึ่งคุกเข่าลงและเริ่มตะโกน มีกริชทั่วไปอยู่ในมือของเขา "จ่ายมาเถอะตา ตาก็รู้กฎหมายของที่นี่ดีนี้ ตอนนี้ดรอซโซ่ต้องการเงินภาษีของเขา"

ลีได้เห็นว่าชายคนนี้คุยกับใคร นั่นเป็นชายชราคนหนึ่งที่นอนกองอยู่กับพื้น มือของเขากุมอยู่ที่บริเวณกลางลำตัว เห็นได้ชัดว่าเขาถูกต่อยเข้าที่ท้อง เขาแต่งตัวด้วยไอเทมทั่วไปเช่นกัน และมีริ้วรอยเหี่ยวย่นทั้งที่มือและบนใบหน้าของเขา

ศีรษะล้านของเขามีรอยจุดและรอยแผลเป็น เขาอายุมากแล้วแต่ยังค่อนข้างแข็งแรง มีรูปร่างหนาที่เกิดจากการใช้แรงกายมาตลอด ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สามารถต่อสู้กับคนที่มีอาวุธได้

"ขอสาปแช่งแก" ชายชราถ่มน้ำลายด้วยความยากลำบาก "ฉันยอมรับเฉพาะกฎที่ดีของดัชเชส*เท่านั้นแหละ ไม่ใช่สำหรับพวกคนที่ละทิ้งหน้าที่บางคนแล้วสวมรอยว่าตัวเองเป็นราชาโจร"

โจรยกกริชของเขาขึ้นด้วยมือข้างหนึ่ง และยื่นมืออีกข้างหนึ่งออกไป "พูดให้มันดีๆหน่อย อัศวินผู้มีกลิ่นหอมของดัชเชสคงจะไม่ได้มาช่วยแกเร็วๆนี้แน่ ตอนนี้เอาเงินมาให้เรา 10 เหรียญเงินที่จะช่วยให้แกได้มีชีวิตที่น่าสงสารต่อไป"

ชายชราหัวเราะเบาๆ และยิ้มให้เห็นถึงฟันที่มีเหลืออยู่ไม่กี่ซี่

“มีอะไรน่าขำอย่างนั้นเหรอ?” โจรพูดขึ้นพร้อมกับจ่อกริชให้อยู่ใกล้ลำคอของชายชรามากขึ้น

“นี่แกคิดว่าชาวนาแก่ๆอย่างฉันมี 10 เหรียญเงินเหรอ?” ชายชราลุกขึ้นนั่งอย่างอ่อนแรง "แกนี่มันเพ้อเจ้อ" เขาขยี้จมูก "และพวกแกทุกคนก็มีกลิ่นเหมือนหมู อาบน้ำอาบท่าแล้วไปหางานจริงๆจังๆทำเถอะ"

“เดล แค่ฆ่าเขาและเอาของของเขาไปสิ” โจรอีกคนพูด เขาเลียริมฝีปากที่มีคราบสกปรก “เราเอาของไปขายที่ตลาดทีหลังก็ได้ บางทีอาจจะได้ทำสตูว์ดีๆกินกัน”

ลีไม่จำเป็นต้องได้ยินมากไปกว่านั้น เขามองเห็นพ่อของตนในร่างชายชราคนนี้ พวกเขาทั้งสองเป็นคนบนแผ่นดินโลก เป็นชาวนา เป็นคนที่มีความแข็งแรงและบึกบึนเหมือนดิน เขาจะไม่ปล่อยให้ชีวิตต่ำต้อยที่มีดำรงอยู่ด้วยการไม่ทำงานอย่างคนเหล่านี้ได้ฆ่าใครอีก

เมื่อลีมีความโกรธและมีความตั้งใจอยากฆ่าเกิดขึ้น เขาก็รับรู้ได้ว่าจะใช้คาถาและสกิลของเขาอย่างไร สิ่งที่เขาต้องทำก็คือนึกถึงคาถาที่เขาต้องการใช้แล้วมันจะปรากฏออกมาเอง

อันดับแรกเขาร่าย [พลังวิเคราะห์] เพื่อตรวจสอบเลเวลและค่าสถานะของกลุ่มโจรพวกนี้

ความสามารถของพวกนั้นปรากฏขึ้นในหัวของเขา ในรูปแบบของหน้าโปรไฟล์ตัวละคร

_______________

ชื่อ: โจร

เลเวล: 8

เผ่าพันธุ์: มนุษย์

คลาส: ไม่มี

ความชำนาญ: ไม่มี

ค่าสถานะ:

STR- 20

AGI- 15

INT- 5

ความต้านทาน:

เกราะ – 5

เวทมนตร์ – 0

จิตใจ – 0

ไอเทม:

เสื้อทูนิคทั่วไป (อก)

กางเกงขายาวทั่วไป (ขา)

ผ้าคลุมทั่วไป (อุปกรณ์เสริม)

อาวุธ:

กริช [ทั่วไป] (มือเดียว)

____________________

ความไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มโจรเหล่านี้กับลี ก็เหมือนกับความแตกต่างกันของขนาดระหว่างมดกับภูเขา

โจรเหล่านี้ไม่มีแม้แต่คลาส - ที่ปลดล็อกเมื่อเลเวล 10 – และความชำนาญหรือคลาสย่อยตามที่พวกเขารู้จักกันทั่วไป ถูกปลดล็อกที่เลเวล 20

ในทางตรงกันข้าม ลีเป็นลูกผสมของนักเวทย์และนักดาบเลเวล 100 ที่มีความชำนาญคือดรูอิด ,ซัมมอนเนอร์และเชฟชิฟเตอร์ ค่าสถานะของเขาเต็ม เขาไม่ได้มาพร้อมกับสิ่งของทั้งหมดที่เขามี เขามีเพียงเหรียญและสิ่งที่อยู่บนตัวเขาในตอนที่เขาถูกเรียกมาเท่านั้น แต่นั่นก็เกินพอที่จะจัดการกับอะไรก็ได้ที่มีความสามารถแค่นี้

อุปกรณ์ที่เขามักสวมใส่ตามปกติ แม้ว่าจะไม่ได้สวมใส่อยู่ในขณะนี้ที่เป็นของระดับฟ้าประทาน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่หายากและแข็งแกร่งที่สุดในเอลเดน เวิลด์ มันผ่านการถูกบดขยี้ได้หลายร้อยชั่วโมง

ด้วยค่าความแข็งแกร่งของเขา ลีสามารถฆ่าโจรแต่ละคนได้ด้วยการกวาดกรงเล็บเพียงครั้งเดียว หรือเขาจะปล่อยให้พวกมันโจมตีเขาเป็นเวลานับพันๆปี ถึงกระนั้นเขาก็จะไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน และด้วยค่าความว่องไวของเขา พวกโจรจะไม่สามารถโจมตีเขาได้ตั้งแต่แรก หรือไม่พวกนั้นก็จะไม่สามารถหลบหลีกการโจมตีของเขาได้เลย ด้วยค่าความฉลาดของเขาทุกคาถาโจมตีที่ใช้จะเปลี่ยนคนเหล่านี้ให้กลายเป็นรอยเปื้อนเลือดบนพื้น หรือทำลายจิตใจของพวกเขาจนกู่ไม่กลับ

ลีร่าย [รากเลือด] พร้อมกับมือที่กวัดแกว่ง เขารู้สึกได้ว่ามานาของเขาถูกใช้ไป ในตำนานของเอลเดน เวิลด์ มานาเป็นพลังใจของคนๆหนึ่ง และยิ่งใช้ไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเหนื่อยล้าทางจิตใจมากขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าในเกมการใช้มานาเป็นเพียงการแสดงผ่านแถบสีน้ำเงินใน HUD แต่ในโลกใหม่นี้กลับให้ความรู้สึกเหมือนที่กล่าวไว้ในตำนาน เขารู้สึกเหนื่อยเพียงเล็กน้อยราวกับว่าเขาใช้พลังสมองเพียงน้อยนิดในการดูเอกสารเป็นเวลา 10 นาที

ลีก้าวออกจากป่าในขณะที่ใช้งาน [รากเลือด] มีรากไม้โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินข้างใต้โจรที่คุกคามชายชรา รากที่มีรูปร่างเหมือนเสาเข็มพุ่งตรงผ่านโจรและพุ่งสูงขึ้น เสียบร่างโจรและปล่อยให้มันห้อยอยู่กลางอากาศ ที่ปลายสุดของรากนั้นเป็นเหมือนดอกไม้ที่น่าเกลียดน่ากลัว

รากนั้นดูดเลือดของโจร ดูดไปจนศพไม่เหลืออะไรมากไปกว่าเปลือกแห้งเหี่ยว เลือดไหลลงมาที่รากและเส้นใยของใบก็เต้นระรัวอย่างรุนแรงราวกับเส้นเลือด และส่องแสงเป็นสีแดงเข้มขณะที่มันดูดอย่างหิวโหย

[รากเลือด] ครั้งต่อไปจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ยิ่งฆ่าได้มากเท่าไหร่ความตายก็ยิ่งเกิดมากขึ้นเท่านั้น ลีไม่รู้สึกสำนึกผิดที่ฆ่าพวกคนเหล่านี้ไป เขาเคยได้ต่อสู้เป็นแนวหน้าของสงครามและย่อมรู้ดีว่าการเอาชีวิตรอดนั้นหมายถึงอะไร บทเรียนหนึ่งที่เขาได้รับจากสงครามก็คือบางชีวิตก็ไร้ค่า

กลุ่มโจรร้องด้วยความตกใจขณะที่พวกเขาถอยห่างออกจากเพื่อนที่ถูกเสียบ สนใจอยู่กับฉากที่น่าสยดสยองตรงหน้าของพวกเขา กลุ่มโจรไม่ได้รับรู้ถึงการปรากฏตัวของลี และหนึ่งในนั้นก็ถอยหลังมาหาเขา

โจรชะงักไปก่อนที่จะค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมอง ซึ่งเป็นเห็นหัวกะโหลกที่มองลงมาที่เขา มีดวงตาที่ว่างเปล่าสีดำเหมือนช่องว่างอันดูเหมือนจะดูดวิญญาณออกจากร่างเขาได้ และก่อนที่เขาจะได้กรีดร้อง ลีก็คว้าหัวของเขาไว้ทัน โจรรู้สึกตัวเล็กและอ่อนแอลงเพราะโดนลีจับ

ลีขยี้หัวของโจรจนเละเป็นเนื้อยุ่ยและโยนศพนั่นทิ้งไป มันพุ่งไปไกลหลายสิบเมตรก่อนที่จะแตกแยกออกจากกันอยู่บนต้นไม้

"วิ่ง!" คนหนึ่งในกลุ่มโจรกรีดร้องออกมา

ลียกนิ้วขึ้นและ [รากเลือด] ก็โผล่ออกมาอีกครั้ง แทงทะลุผ่านสะดือของโจรและระเบิดออกมาทางปากทำให้โจรเงียบลง

แต่พวกโจรก็ได้ยินไปแล้ว จึงรีบเร่งวิ่งหนีออกไป ดวงตาของพวกนั้นเบิกโผล่งกว้างด้วยความตื่นตระหนกและอ้าปากค้างด้วยความหวาดกลัว

ตอนนี้ลีมั่นใจแล้วว่าเขาจะมีใช้ความสามารถของเขาอย่างไร เขาโบกมือและร่าย [สังหาร] เขาเฝ้าดูขณะที่พวกโจรหายเข้าไปในป่า เขาจะตามไล่ล่าพวกนั้นก็ได้ แต่มันเปล่าประโยชน์ เพราะในไม่ช้าพวกมันทั้งหมดก็ต้องตายอยู่ดี และแทนที่จะตามพวกโจรไปเขาได้คุกเข่าข้างชายชราแทน

ในระยะทางไกล การสังหารของปีศาจอีกาได้ถือกำเนิดขึ้น โดยมันจะติดตามโจรแต่ละคนอย่างบ้าคลั่งไปในป่า ฉีกแขนฉีกขาและบดขยี้ไปถึงกระดูกประหนึ่งเครื่องบดเนื้อบินได้

"คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?" ลีกล่าวขณะที่เขาเข้าไปช่วยพยุงที่ด้านหลังของชายชราอย่างอ่อนโยนและช่วยให้เขายืนขึ้นมาได้

"ใช่ ฉันไม่เป็นไร พ่อหนุ่มน้อย" ชายชรากล่าว ขณะที่เขาตบเข้าที่ต้นแขนซึ่งเป็นต้นไม้ของลีอย่างขอบคุณ "แหม เธอเป็นพ่อหนุ่มใหญ่สินะ แล้วพวกนี้คือชุดเกราะอย่างนั้นเหรอ? ไม่เคยได้สัมผัสอะไรแบบนี้มาก่อนเลย"

ชายชราย่นหน้าผากด้วยความงุนงง ในขณะที่นิ้วของเขาขยับขึ้นและลงอยู่ที่แขนของลี เขาจ้องมองอย่างว่างเปล่า แค่มองตรงไปข้างหน้าเท่านั้น

ลีรับรู้ได้ว่าว่าชายคนนี้ตาบอด แต่ก็ต้องขอบคุณที่เป็นอย่างนี้เช่นกัน เพราะเขาคิดว่าชายชราคนนี้ก็คงจะกลัวเขาไม่แพ้กันถ้าเขาได้เห็นลี

"โอ้ ขอเวลาสักครู่" ลีกล่าว ขณะที่เขาผลักชายชราออกไปเบาๆ ลีไม่ต้องการทำให้ชายชราตกใจไปมากกว่านี้ ดังนั้นเขาจึงใช้ความสามารถเชฟชิฟเตอร์เพื่อเปลี่ยนรูปร่างให้เป็นมนุษย์ ในเกมนั่นหมายความว่าเขาได้กลายเป็นตัวละครจำลองที่เขาสร้างขึ้นซึ่งจำลองมาจากลักษณะหน้าตาของเขาเอง

ปัญหาคือ รูปร่างนี้ดูเป็นคนเอเชียตะวันออกอย่างแน่นอน และจากที่ลีเห็นคนที่นี่เป็นชาวยุโรปตะวันตก เขาไม่มีรูปร่างมนุษย์คนอื่นที่เขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่อยู่ในเกม การมีรูปร่างเพื่อความสวยงามมากกว่าหนึ่งแบบมันก็ไม่ค่อยมีประโยชน์สักเท่าไหร่นัก แต่นี่เป็นปัญหาที่ต้องไตร่ตรองในภายหลัง

ตอนนี้ สิ่งที่ลีให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือการช่วยเหลือชายชราคนนี้

“ผมคิดว่าชุดเกราะของผมน่าจะทำร้ายคุณ ผมก็เลยถอดมันออก” ลีกล่าวขณะที่เขาจับแขนของชายชราเพื่อช่วยพยุง "รู้สึกดีขึ้นไหม?"

"เกราะเหรอ? นั่นอธิบายว่าทำไมแขนของเธอถึงแปลกๆสินะ ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าเธอเป็นอัศวินน่ะสิ ขอบคุณพระราชวงศ์สำหรับสิ่งที่เธอทำ" ชายชราหัวเราะ “และไม่ต้องสงสัยเลย เธอน่ะเป็นเด็กหนุ่มที่จิตใจดีเช่นกัน มันไม่เป็นไรนะถ้าเธอจะใส่ดกราะต่อไป – ความภาคภูมิใจของและทั้งหมดอัศวิน ฉันอาจจะแก่และตาบอด แต่ฉันก็ยังไม่พิการ แต่ฉันก็ยังต้องการความช่วยเหลือบ้าง ถ้าไม่เป็นการรบกวนเธอมากเกินไป โปรดช่วยฉันขนของขึ้นเกวียนอีกครั้งได้ไหม?”

พวกเขาขนของขึ้นเกวียนกันอย่างรวดเร็ว ชายชราแม้จะมีอาการบวมช้ำในท้อง แต่ก็ยังสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่เห็นได้ชัดว่าเขาเกรงว่าพวกโจรอาจกลับมา แต่ลีก็รู้สึกประหลาดใจที่ชายชราสามารถสำรวจสภาพแวดล้อมได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว

เขาจะเอียงศีรษะของเขาทุกครั้งทุกครา ขณะที่เขาไปตามมือกว้างของตนที่เคลื่อนผ่านดิน โดยใช้การได้ยินและการสัมผัสเพื่อค้นหาพืชผักและสมุนไพรทุกชนิดที่เขาต้องการ ลีตระหนักได้ว่ามนุษย์ในโลกนี้มีความสามารถมากกว่ามนุษย์ในโลกของเขา แข็งแกร่งกว่าพร้อมกับประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลมกว่า ซึ่งทำให้พวกเขารู้ทิศทางได้ด้วยตัวเองแม้ว่าจะตาบอด

เมื่อบรรทุกของขึ้นเกวียนเสร็จสรรพ ชายชราก็ถอนหายใจขณะที่เขาจับที่แอก มันเป็นเกวียนที่ต้องลากด้วยตัวเอง แล้วลีก็แตะไหล่ของชายชรา

"ให้ผมเข็นแทนได้นะ" ลีกล่าว

"ฉันไม่ได้พิการ หนุ่มน้อย" ชายชรากล่าว

“อย่างน้อยก็ให้ผม ไปส่งคุณที่บ้านเถอะ” ลีกล่าว ขณะที่ใบหน้ามนุษย์จำแลงของเขายิ้มขึ้น

"ฉันไม่ได้พิการ แต่ฉันแก่แล้วฉันยอมรับ ใช่ ฉันจะรับข้อเสนอนั้น ฉันสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปเมื่อหลายปีก่อน แต่ให้ตายสิ พระเจ้าช่วย เธอน่าจะได้เห็นฉันตอนที่ฉันยังหนุ่มยังแน่น" ชายชรากล่าว

สำหรับลีแล้วชายชรามีเกียรติยศศักดิ์ศรีที่น่าเคารพ มันทำให้เขานึกถึงพ่อของเขาในวัยชราเป็นอย่างมาก ในตอนที่เขาไออย่างบ้าคลั่งตอนนั้นแขนของเขาสั่นเทา แต่ก็ยังยืนยันที่จะขี่จักรยานไปส่งอยู่ทุกวี่ทุกวัน ศักดิ์ศรีของผู้ชายที่ภูมิใจในงานของตนไม่ว่าจะย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม

***

ดัชเชส (Duchess) - ภริยาของดยุก

------------------------------------

ติดตามตอนล่าสุดได้ที่เพจ: ว่างๆก็เลยเอานิยายมาแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด