ตอนที่แล้วสุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 6
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปสุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 8

สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 7


ตอนที่ 7 การค้นหาหลักฐาน

ลุคพูดแบบกวนๆ“ก็ผมคนเดิมนี่แหล่ะ ก็แค่อยากทำตัวให้เข้ากับบรรยากาศและสถานที่เฉยๆ พวกเธอไม่เข้าใจเอง....เอาเถอะไม่คุยกับพวกเธอแล้ว ไปสวีทกับแฟนของผมดีกว่า”

เจมิน่ายังคงหัวเราะอย่างสนุกสนาน แต่จู่ๆ เธอก็ถูกดึงออกไปและยกมือไว้บนไหล่ของ Luke ก่อนที่เธอจะถูกอุ้มออกไปพวกสาว ๆ ที่อยู่ข้างๆ ไม่โกรธอะไร พวกเธอแค่บ่นและยิ้มไปพลางๆ บางคนยังยกนิ้วให้ลุคด้วย

หลังจากทั้งสองออกจากบริเวณสระว่ายน้ำลุคก็ค่อยๆ วางเจมิน่าลง ทั้งสองก็เริ่มคุยกันพร้อมๆกับเดินเล่นบนสนามหญ้า อันที่จริงลุคมีข้อดีอย่างหนึ่งคือการเป็นผู้ฟังที่ดี และเจมินาชอบที่จะปรึกษาและบ่นกับเขาเป็นประจำ ซึ่งลุดเองก็ไม่ใช่แค่จะฟังอย่างเดียวเท่านั้นเขายังรับฟังอย่างตั้งใจ บางครั้งลุคยังได้ให้ข้อคิดบางอย่างกับเธอด้วย ด้วยเหตุนี้เธอถึงขั้นมองว่าลุคเป็นเหมือนพี่สาวที่มากประสบการณ์เลยด้วยซ้ำ

แม้ว่า เจมิน่าจะล้อว่าเขาเป็นเหมือนกันพี่สาวเลย อยู่สองสามครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เธอก็มีความสุขมากกับสิ่งที่ลุคนั้นทำให้เธอ เขานั้นเป็นคนที่มีความกล้ามากพอที่จะปกป้องเธอจากหมูป่าและมีความอดทนพอที่จะเป็นผู้ฟังที่ดีสำหรับเธอ ซึ่งเอาจริงๆแล้วนั่นเป็นสิ่งที่แม้แต่ครอบครัวของเธอยังทำเธอไม่ได้เลย

ลุคดูเหมือนจะไม่สนใจคำชมของเธอมากเท่าไรนัก เขาโอบแขนไปรอบตัวเธอด้วยรอยยิ้มกว้างและมือของเขาก็ลูบไล้ไปที่หลังของเธอและก็พูดขึ้นว่า "จำได้ไหมว่าคุณเป็นแฟนของผม ถ้าผมไม่มีความอดทนมากพอผมคงตายไปแล้วหล่ะ”

นั่นทำให้เจมิน่า พูดไม่ออก แต่เธอก็ไม่หยุดมือของเขาที่กำลังทำเหมือนกับปลาไหลเลื้อยเข้าไปด้านหลังใต้เสื้อของเธอ

ทั้งสองใช้เวลาเดินเล่นกันไม่นานนัก อันที่จริงแล้วเจมิน่าสาวมั่นและมีความคิดมากพอและในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเธอก็พูดถึงปัญหาล่าสุดทั้งหมดของเธอ ส่วนปัญหาอื่นๆ ที่มันใหญ่กว่าเธอเลือกจะไม่พูดถึงมันมากนักเพราะวิตกกัลวลเกินไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้

เธอหรี่ตาของเธอลงและกระโดดโอบแขนของเธอไปรอบคอของลุค และขารัดรอบเอวของเขาก่อนที่จะโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อจูบอย่างหวานซึ้งและเร่าร้อนให้เขา หลังจูบได้ระยะหนึ่งเธอก็กล่าวว่า“คุณไม่สบายในช่วงงานพรอม แล้ววันนี้รู้สึกดีขึ้นยังอ่ะ”

ลุคยิ้มและพูดว่า“ครับตอนนี้ผมสบายดีแล้ว”

"พิสูจน์สิ!" และเธอก็จู่โจมด้วยจูบที่ร้อนแรงอีกครั้ง

“ด้วยความเต็มใจครับ” ลุคตอบหลังจากนั้นทั้งสองก็เข้ามาในตัวบ้านโดยที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันและมองหามุมเงียบๆ ในห้องไหนสักห้อง ห้องนอนแรกที่พวกเขาพบถูกล็อคโดยห้องเงียบสนิท

ห้องนอนที่สองถูกล็อคจากด้านในและมีเสียงหอบแว่วๆจากข้างใน แน่นอนว่ามีใครบางคนอยู่ข้างใน มีเสียงชายคนหนึ่งตะโกนว่า“ถ้าคุณเป็นผู้หญิงเปิดเข้ามาได้เลย แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชายก็ไปไกลๆเลย”

ลุคและเจมิน่าหัวเราะและเดินต่อไป ห้องนอนที่สามไม่ได้ล็อค แต่ในขณะที่พวกเขาผลักประตูและเปิดออกพวกเขาก็เห็นมีหนุ่มสาวกำลังทำกิจกรรมกันอยู่ แม้ลุคและเจมินาจะยืนอยู่ที่ประตู แต่หญิงสาวก็ไม่ได้เขินอายอะไรในขณะที่ผู้ชายยิ้มก่อนจะพูดว่า“ห้องนี้จองแล้ว ยังไงก็ฝากปิดประตูด้วย ขอบคุณ.”

ลุคตอบว่า“โอ๊ะได้เลยๆ ...” ก่อนจะปิดประตูและยังช่วยล็อคประตูอีกด้วย

เจมิน่ามองไปรอบ ๆ ก่อนที่เธอจะกระซิบที่ข้างหูของลุค จากนั้นทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังห้องน้ำทั้งๆ ที่ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน

แต่เมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากห้องน้ำเพียงไม่กี่เมตรนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงครวญครางของชายหญิงจากภายใน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าห้องนี้ไม่ว่างซะแล้ว และสองคนในห้องไม่ได้คิดจะเก็บเสียงของพวกเขาเลย ซึ่งนั้นช่างมีความกล้ามากจริงๆ

เจมินาหลุดหัวเราะเมื่อเธอได้ยินเสียงครวญคราง

ลุคไม่ค่อยจะสนใจเท่าไรกับเสียงที่ลอดออกมาจากในห้อง ทั้งคู่หันกลับและเริ่มมุ่งหน้าขึ้นไปชั้นบนของบ้าน เอาจริงๆแล้วบ้านหลังนี้มีขนาดใหญ่มากระดับหนึ่งทีเดียวซึ่งมีถึงสามชั้น เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่มีห้องว่างพอที่จะให้พวกเขาได้ใช้ แต่ถึงกระนั้นในการพวกเขาค้นหาห้องเพื่อใช้งานพวกเขาพบว่ามีอยู่หลายห้องเลยที่ไม่ว่างและได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆของคู่รักหลายคู่มากมายก่อนที่ทั้งคู่จะมาจบการค้นหาและเลือกจะใช้ระเบียงของชั้นบนสุด

ความจริงนี่คือระเบียงปิดภายในบ้านที่เชื่อมต่อกับหน้าต่างของห้องใต้หลังคา

ถ้าพวกเขายืนขึ้นระเบียงนี้สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำในสวนหลังบ้านได้ พื้นที่ส่วนนี้แทบจะถูกปกปิดอย่างดีและยังไม่มีคู่รักคู่ใดขึ้นมาใช้งาน ดังนั้นลุคและจิเมนาจึงสามารถใช้เวลาความเป็นส่วนตัวที่ต้องการได้สำเร็จ

ขณะที่มือของลุคกำลังจะเริ่มลูบไล้และสัมผัสไปยังพื้นที่สงวนของหญิงสาว ทันใดนั้นมีเสียงร้องดังมาจากที่สระว่ายน้ำ

ซึ่งเสียงนี้แตกต่างจากเสียงคนของคนที่สนุกสนานในปาร์ตี้ และเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นเป็นคำพูดสั้น ๆ ที่ทุกคนคล้ายๆ กัน

"พระเจ้า!"

"เกิดอะไรขึ้น?"

“เกิดอะไรขึ้นว่ะเนี้ย”

ใช่แล้วหล่ะคำพูดเหล่านั้นแสดงถึงความตกใจและทุกๆ คนแสดงออกในทำนองเดียวกัน

ในตอนนั้นลุคและจิเมนากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่นั้น และลุคกำลังจะเข้าถึงส่วนสำคัญของกิจกรรมดังกล่าว พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหยุดและหันไปดูทางสระว่ายน้ำ

ทั้งคู่มองลงไปที่สระว่ายน้ำในเวลาเดียวกันและพบว่ากำลังมีคนกำลังมุงดูอะไรบางอย่าง บริเวณริมสระว่ายน้ำ

ซึ่งจากด้านบนทั้งสองเห็นว่ามีหญิงสาวในชุดบิกินี่นอนอยู่บนพื้นขณะที่หญิงสาวอีกสองคนกำลังอยู่ระหว่างกับการทำ CPR ในชุดบิกินี่

ลุคขมวดคิ้วและเริ่มตรวจสอบรอบๆ พื้นที่ตามสัญชาตญาณของเขา ซึ่งเขาเห็นเงาดำๆ ที่มุมหนึ่งของสระว่ายน้ำ ก่อนที่มันจะเลือนหายไปในความมืด

อันที่จริงเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับเงาดำนั้นมากเท่าไร และลุคพูดกับเจมินาว่า“ดูเหมือนจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นข้างล่างนะ ลงไปกันเถอะ”

...

เจมินาจับมือของลุคแน่นด้วยความตกใจแล้วพูดว่า“ลุคมันคือมิเชลล์! เธอตายแล้วหรือ”

ลุคมองลงไปก่อนจะส่ายหัว “นี่มันดูไม่ค่อยดีเลย และเธอไม่ขยับตัวเลย มันอาจจะเป็นไปได้สูงที่เธอจะตาย ไปดูกันดีกว่าว่าใครเรียกรถพยาบาลแล้วหรือยัง”

มีคนอยู่หลายคนที่อยู่ที่นี่และทั้งหมดเป็นคนในเมืองนี้ แม้ว่าอย่างแย่ที่สุดทุกคนในที่นี้จะไม่มีใครฉลาดเลย แต่พวกเขาก็ยังรู้ว่าควรที่จะโทรหาตำรวจและรถพยาบาลในสถานการณ์เช่นนี้

และอีกอย่างเมืองนี้ก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น นอกจากนี้บ้านของมาร์ธายังตั้งอยู่ในใจกลางเมืองซึ่งอยู่ห่างจากกรมตำรวจและโรงพยาบาลไม่ถึงห้านาที

แน่นอนว่าตำรวจมาถึงยังที่เกิดเหตุขณะที่ลุคและเจมินากำลังเดินลงมา เมื่อถึงพวกเขาถึงชั้นล่างรถพยาบาลก็มาถึงแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตามด้วยเหตุนี้ทำให้เราเห็นประโยชน์ของการมีพื้นที่กว้างขวางภายในบริเวณบ้านเมื่อรถตำรวจและรถพยาบาลขับตรงเข้าไปในสวนหลังบ้านและหยุดอยู่ไม่ไกลจากสระว่ายน้ำ

เมื่อลุคมาถึงบริเวณสระน้ำ เขาก็เห็นโรเบิร์ตกำลังลงจากรถตำรวจ

เมื่อเขานึกถึงเหตุการณ์ในตอนแรกที่ร่างของมิเชลล์ไม่ขยับตัวเขาก็ส่ายหัว ซึ่งมันมีโอกาสมากพอประมาณที่จะมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น ดังนั้นในฐานะหัวหน้าตำรวจโรเบิร์ตต้องมาอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตามโรเบิร์ตไม่ใช่คนเดียวที่มาที่นี่ ในขณะที่รถพยาบาลมาถึงรถตำรวจคันที่สองก็มาถึงในช่วงเวลาพร้อมๆ กัน โดยที่คราวนี้หญิงชาวลาตินคนหนึ่งได้ลงจากรถ

และลุคเองรู้จักผู้หญิงคนนี้เช่นกัน

นี่คือเซลิน่าซึ่งเป็นตำรวจหญิงที่ถูกขนานนามว่าสวยที่สุดในเมือง แต่แน่นอนว่าในเมืองนี้นั้นมีตำรวจหญิงเพียงแค่สองคน คนหนึ่งคือเซลิน่า ส่วนอีกคนคือแมรี่ซึ่งในปีนี้เธออายุมากกว่า 40 ปีแล้ว อันที่จริงเธอก็เคยเป็นตำรวจที่สวยที่สุดในเมืองนี้มาก่อน

เมื่อลุคมาถึงเขาไม่เดินไปเฉียดกับโรเบิร์ตเลย เขาพาเจมินาไปหาเซเลน่าซึ่งพยายามควบคุมกลุ่มนักเรียนและฝูงชนอยู่ แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า“ดีครับ คนสวย!”

ไม่ไม่นั่นเป็นสิ่งที่เขาคิด เขาจะไม่กล้าจะพูดแบบนั้นกับเธอหรอก

สิ่งที่ลุคพูดจริงๆ คือ“สวัสดีครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม”

เมื่อเซลิน่าเห็นเขาเธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกและพูดว่า“อ้าวลุคแม้ว่าคุณจะยังไม่ได้เริ่มงานอย่างเป็นทางการ แต่ตอนนี้คุณต้องช่วยในสิ่งที่เกิดขึ้น”

ลุคพยักหน้า "แน่นอน. ที่ผมเดินมานี่ก็เพื่อช่วยคุณแหล่ะ ว่าแต่ต้องการให้ผมทำอะไร”

เซเลน่าเหลือบมองเจมินาและถามว่า“นี่แฟนของคุณเหรอ?”

ลุคพยักหน้า

“อ่าวนี่คุณอยู่ในงานปาร์ตี้นี้ด้วยเหรอ” เซลิน่าถาม

ลุคพยักหน้าและให้คำอธิบายง่ายๆ “ใช่ครับนี่เป็นงานปาร์ตี้ของกลุ่มของนักเรียนมัธยมปลายที่เพิ่งจบการศึกษาของ โรงเรียน Knox High School คนที่นี่ส่วนใหญ่ก็เป็นนักเรียนทั้งนั้นแหล่ะครับ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด