ตอนที่แล้วตอนที่ 221 แต่งงาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 223 ไออสูร

ตอนที่ 222 จดหมาย


หลังจากที่หลานไพลินไปสั่งการลูกน้องเสร็จเรียบร้อย กลับเข้ามาอีกทีก็พบทานธรรมกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับทักทาย

“ท่านเหยื่อทั้งสอง ดูเหมือนพวกท่านจะตัวติดกันเกินไปแล้ว หากไม่ติดว่าพวกท่านอายุห่างกันมากราวปู่กับหลาน ข้าคงคิดว่าพวกท่านเป็นคู่รักกันสะอึก”

โป๊ก !! อังกาบเขกหัวทานธรรมอย่างแรง พร้อมกับกดหัวชายหนุ่มลง

“ขออภัยท่านเจ้าตึกทั้งสองที่สามีข้าเสียมารยาท”

หลานไพลินส่ายหน้าอย่างไม่ถือสา พลางย้อนถามสองสามีภรรยากลับ

“เรื่องเล็กน้อยช่างมันเถอะ ใครไม่รู้บ้างว่าทานธรรมนั้นเป็นคนแปลก ๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวบ้า ข้าเข้าใจ ว่าแต่พวกท่านเถอะคิดเห็นยังไงกับเรื่องการแต่งงานของพราวจันทร์”

สีหน้าทะเล้นของทานธรรมเปลี่ยนเป็นไม่พอใจ อังกาบยิ้มตอบ ก่อนเอ่ยว่า

“หากน้องสาวคิดดีแล้ว พวกข้าก็ไม่ได้มีสิทธิ์ขัดขวางนาง และต่อให้พวกข้าไม่ยินดี ขัดขวางไปก็ไร้ประโยชน์ แต่พวกข้าขอไถ่ถามพวกท่าน พวกท่านคิดดีแล้วหรือว่าต้องการจะก่อสงคราม กลุ่มภราดามีไว้เพื่อช่วยเหลือคนไร้พรสวรรค์ ไม่ใช่สร้างความลำบากให้พวกเขา”

หลานไพลินชักสีหน้าใส่ ทำให้กรจักรที่อยู่ข้างกายเอ่ยตอบแทน

“ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีการเสียสละ ขอเพียงพวกท่านรู้หน้าที่ของตัวเอง ต่อไปคนที่ลำบากจะไม่ใช่คนไร้พรสวรรค์ แต่จะเป็นพวกผู้มีพรสวรรค์เหล่านั้น”

“นี่พวกท่าน ! จะพูดมากกันอีกทำไม ถึงเวลาแล้ว อย่าให้ผู้ปกครองต้องรอนานนัก”

เสียงตะโกนของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ดังก้องมาจากบนหลังคาอาคารขนาดใหญ่ อันเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางกลุ่มภราดา ที่อยู่ภายในหุบเขาอันเร้นลับ

ทางด้านสมุทร หลังจากที่เขารู้ข่าวเรื่องงานแต่งงาน ระหว่างพราวจันทร์กับองค์ชายชัยวิชิต เขาก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางงานแต่งเอาไว้ ด้วยการส่งจดหมายไปหาเหนือภพ แต่จดหมายทุกฉบับล้วนถูกตีกลับทั้งสิ้น ซึ่งนั่นก็ทำให้สมุทรรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา หากเขาจะไปหาเหนือภพด้วยตัวเอง กว่าจะไปถึงก็ใช้เวลากว่าเจ็ดวัน ทว่าเหลือเพียงแค่สิบวันเท่านั้นก็ถึงฤกษ์แต่งงาน เกรงว่าต่อให้ไปถึงก็กลับมาไม่ทันการณ์ จึงได้แต่พึ่งคนในอย่างบุษย์น้ำเพชร ที่ก่อนหน้าหากไม่เป็นนางแจ้งข่าวว่าเหนือภพเป็นอันตราย เขาเองก็คงไม่รู้และคงส่งคนไปช่วยเหลือไม่ทัน และหวังว่าครั้งนี้นางจะช่วย

หลังจากองค์หญิงบุษย์น้ำเพชรทราบข่าวการกลับมาของเหนือภพ เธอก็ยิ้มมีความสุข  ขณะกำลังเดินหมากกับสมุทร ที่นัดหมายเธอออกมายังร้านน้ำชาแห่งหนึ่งในเครือตระกูลไตรลักษณ์

“ข้าบอกข่าวที่ท่านอยากรู้ไปแล้ว ดังนั้นท่านก็ให้คำตอบข้าทีว่า จริงแค่ไหนเกี่ยวกับการแต่งงานของพราวจันทร์กับองค์ชายรอง”

“ท่านเป็นอะไรกับนาง ทำไมดูสนใจข่าวนี้นัก”

“เพื่อน”

“เพื่อน ? ท่านควรจะดีใจกับนาง การแต่งงานนี้หากไม่เป็นการยินยอมทั้งสองฝ่ายมันคงไม่เกิดขึ้น”

“แล้วมีวิธีอะไรบ้างที่จะทำให้งานแต่งนี้ล่ม ข้ารู้ว่าราชวงศ์ของท่านก็ไม่ได้ยินดีกับงานแต่งนี้ใช่หรือไม่ ? ไม่สู้ท่านร่วมมือกับข้าทำลายงานแต่งนี้ซะ”

“แล้วเราองค์หญิงจะได้อะไร”

“ท่านไม่รู้เหรอว่า งานแต่งนี้ล้วนมีเงื่อนงำ อาจจะเป็นแผนของกลุ่มภราดาที่จะแทรกแซงเข้าราชสำนัก”

“เรื่องนั้นเราองค์หญิงรู้ดี แต่เราเองไม่จำเป็นต้องกังวล ปล่อยให้องค์เจ้าแคว้นจัดการเอง อีกอย่างเรารู้สึกว่างานแต่งนี้ก็ไม่เลว”

สมุทรดูออกว่าองค์หญิงใหญ่กำลังคิดอะไร พลางแสดงสีหน้าไม่พอใจ

“ข้าไม่รู้ระหว่างท่านกับเพื่อนข้าเหนือภพเป็นอะไรกัน แต่ท่านควรจะรู้ว่าเหนือภพกับพราวจันทร์เป็นสามีภรรยากัน ไม่มีที่ว่างให้ผู้อื่นเข้ามาแทรก”

บุษย์น้ำเพชรยังคงยิ้ม

“เดี๋ยวก็มีแล้วนี่ไง…. เราองค์หญิงชนะ”

องค์หญิงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งทันที หลังวางหมากตัวสุดท้ายในมือเอาชนะสมุทร ก่อนจะพูดต่อไปว่า

“ขอบคุณสำหรับข่าวดีที่เราองค์หญิงต้องการ ส่วนเรื่องการแต่งงานนั้น ต่อให้เรากับเหนือภพไม่ได้เป็นอะไรกัน และเราเต็มใจช่วย เราองค์หญิงก็ช่วยไม่ได้อยู่ดี เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของเราเพียงคนเดียว แต่เป็นเรื่องของตระกูลอมตะ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจขององค์เจ้าแคว้น หากท่านเจ้าแคว้นเห็นดีด้วย ใครเล่าจะกล้าขัดขวาง เจ้าก็น่าจะรู้ดีว่า ตระกูลขุนนางเก่าแก่ของท่านตกต่ำมาสู่ตระกูลพ่อค้าได้ยังไง ?”

เมื่อองค์หญิงพูดในสิ่งที่นางอยากพูดจบ นางก็เดินจากไปพร้อมกับข้ารับใช้ โดยที่ไม่รอคำตอบของหัวหน้าตระกูลไตรลักษณ์

สมุทรพ่นลมหายใจออกมา เวลานี้เขาจนปัญญาจริง ๆ การส่งจดหมายอาคมไปยังเมืองปัญญาตอนนี้ไม่ว่าจะส่งไปหาใครก็ล้วนส่งไม่ได้ ดูท่าต้องมีคนใหญ่คนโตของเมืองปัญญาเห็นดีด้วย ถึงกับเปิด ‘ค่ายกลต้านวิหค’ เป็นค่ายกลที่มักใช้ในสถานการณ์ศึกสงคราม เพื่อป้องกันสายลับส่งข่าวสารเข้าออก เว้นเสียจากจะมีจดหมายอาคมชนิดพิเศษ

น่าเสียดายที่จดหมายอาคมประเภทนั้น ต่อให้มีเงินก็ยังซื้อได้ยาก ทั้งยังเป็นสิ่งผิดกฎหมายแคว้น ใครมีครอบครองต่อให้เป็นพ่อค้าก็ต้องโทษทัณฑ์สังหารล้างตระกูล สมุทรรู้ดีว่าจะหาจดหมายพิเศษได้จากที่ไหน แต่เขาย้ำถามตัวเองว่า เขาควรจะเลือกเพื่อนหรือคนทั้งตระกูล แน่นอนว่าสมุทรย่อมเลือกครอบครัว ต่อให้รักเพื่อนเพียงใด เขาก็ไม่อาจเอาทั้งครอบครัวไปเสี่ยง

ครั้นจะให้เขาบุกไปหาพราวจันทร์ เพื่อไถ่ถามหาความจริง ก็ทำไม่ได้ เพราะสถานที่นางอยู่นั้นมีการคุ้มกันอารักขาเข้มงวด ยากที่คนภายนอกจะเข้าถึง

คำภาวนาและคำอธิษฐาน เป็นสิ่งที่สมุทรพอทำได้ ในฐานะที่เป็นผู้นำตระกูลเขาไม่อาจทำอะไรที่เป็นภัยต่อตระกูลได้เลย แต่ถึงอย่างนั้น ชายหนุ่มก็ไม่ได้นิ่งเฉย  เพียงไม่กี่นาทีจากนั้น จดหมายอาคมหลายฉบับก็ถูกส่งออกไปในหลายทิศทางแตกต่างกัน

ณ  ภูเขาอันห่างไกลทางทิศเหนือสุดของแคว้นอมตะ

กองกำลังชายหญิงผู้ใช้อาคมล้อมสังหารสัตว์อสูรแรดแดง ที่ตัวใหญ่พอ ๆ กับช้าง

“พี่ไร้ชื่อระวัง !”

หญิงสาวนางหนึ่งตะโกนขึ้น หลังเห็นชายหนุ่มกำลังถูกพุ่งชนโดยสัตว์อสูรแรดแดง แต่ก่อนที่มันจะได้ทำแบบนั้น คมดาบของไร้ชื่อก็ตวัดฟันใส่สัตว์อสูรแรดแดงอย่างจัง พร้อมกับมีภาพเงามายาสัตว์อสูรหกชนิดพุ่งออกไปเบื้องหน้า ก่อนที่ร่างของสัตว์อสูรแรดแดงจะแยกเป็นสองส่วน ไม่ต่างจากแตงโมถูกผ่า ในเวลานี้ไร้ซื่อชุ่มไปด้วยเลือดสีม่วงของสัตว์อสูร

“ดูเหมือนฝีมือเจ้าจะดีขึ้น” สไบเงิน ผู้นำกลุ่มเอ่ยอย่างชื่นชม

“ขอบคุณพี่สาว”

ไร้ชื่อยิ้ม เขาไม่ใช่คนป่าเถื่อนที่พูดไม่เป็น หรือไร้อารยธรรมแบบในอดีต เวลานี้เขาโตขึ้นมากทั้งความคิดและอุปนิสัย อีกทั้งเขายังมีเสน่ห์ รอบกายเต็มไปด้วยสาว ๆ

ขณะที่ไร้ชื่อกำลังถูกเอาใจใส่ วิหคอาคมก็บินตรงเข้ามาหาเขา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นกระดาษข้อความ

“มีงานใหม่หรือคะ” หญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มถาม ชายหนุ่มส่ายหน้าเบา ๆ

“ครั้งนี้ไม่ใช่ แต่เป็นงานของเพื่อนคนสำคัญ ไปเถอะ เราจะเดินทางกลับเมืองหลวงกัน”

ณ หุบเหวแห่งหนึ่ง ทางใต้ของแคว้นอมตะ

“จับไว้เฮงเฮง อย่าตกลงไปนะ ข้ากำลังจะลงไปช่วยแล้ว”

เสียงของเพื่อนร่วมทีมหนุ่มดังขึ้นอย่างร้อนใจ ขณะที่พยายามจะช่วยเพื่อนชายหน้าตี๋ที่กำลังห้อยต่องแต่งอยู่ตรงขอบผา

“ข้าบอกแล้วไง ว่างานอันตรายข้าไม่รับ นี่มันอะไรกัน ทำไมข้าต้องมาเป็นแบบนี้ทุกที”

เฮงเฮงโวยวายตัดพ้อทั้งน้ำตา เขาอุตส่าห์รับงานหาของป่าบนภูเขาที่มีสัตว์อสูรระดับต่ำ แต่ไม่วายต้องมาเผชิญหน้ากับภัยธรรมชาติ ที่ต่อให้เขาไม่ไปหามัน มันก็มาหาเขาอยู่ดี

‘นี่มันเรื่องบัดซบอะไรกัน’

ชายหนุ่มที่อยู่บนขอบผารีบนำปลายเชือกไปผูกกับโคนไม้ใหญ่จนแน่น จากนั้นเขาก็เอาปลายเชือกอีกฝั่งโยนให้เฮงเฮง

“เร็วเข้า ! จับเชือกไว้ ข้ามัดมันไว้กับต้นไม้แล้ว”

เฮงเฮงที่เกาะขอบผาจนเส้นเลือดแขนปูดโปน ทำท่าจะคว้าเชือก แต่เขากลับชักมือออก สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

“เจ้าตรวจดูให้ดี ๆ ก่อน ว่ามันจะไม่ขาดเมื่อข้าจับมัน”

“ได้ ๆ”

ชายหนุ่มที่อยู่ขอบผาร้อนใจ ก่อนจะลงทุนใช้ปราณอาคมเสริมกำลังไปกระตุกเชือกอย่างแรงหลายหน จนต้นไม้สั่นคลอน เมื่อแน่ใจจึงวิ่งย้อนกลับมา

“ไม่มีปัญหา นี่คือเชือกใหม่แข็งแรงทนทานไว้ใจได้”

เฮงเฮงได้ยินเช่นนั้นก็เป่าปากอย่างโล่งอก แต่ทันทีที่เขาใช้สองมือคว้าเชือกเพื่อดึงรั้งตัวเองขึ้นไป

แอ๊ดดดดด ~

เสียงต้นไม้ใหญ่กำลังหักโค่น แล้วล้มตึงลงมาในที่สุด เชือกที่ผูกรั้งเกิดการกระตุกกะทันหันทำให้เฮงเฮงที่หวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ตกใจเผลอปล่อยมือออกจากเชือก

“สวรรค์ ! ทำไมทำกับข้าแบบนี้”

อ๊ากกก ~

ชายหนุ่มร่วงลงไปสู่หุบเหว ท่ามกลางเสียงร้องของเพื่อนร่วมทีม

“เฮงเฮง !”

ซูม !! ร่างของเฮงตกลงมากระแทกกับแม่น้ำสายใหญ่ที่อยู่ใต้หุบเหว ร่างมอซอจมดิ่งลึกลงใต้แม่น้ำ ก่อนที่เจ้าของร่างจะกวัดแกว่งมือ ตะกายอย่างเร็วเพื่อขึ้นไปบนผิวน้ำ

ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาจากปาก เมื่อขึ้นมาบนผิวน้ำได้สำเร็จ ขณะนั้นก็มีนกอาคมตัวหนึ่งบินมาชนหน้าของเขา

“โอ๊ย !”

เฮงเฮงคว้าเอากระดาษอาคมมาสะบัดอ่าน ก่อนจะมีใบหน้าบูดบึ้ง แต่ไม่ทันที่เขาจะได้บ่นพึมพำตัดพ้อถึงเรื่องในจดหมาย ก็พลันมีเสียงน้ำแตกกระเพื่อมดังขึ้นใกล้ ๆ เมื่อสัตว์อสูรน้ำกำลังพุ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว เฮงเฮงอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้าง

“อ๊าก ~”

ร่างมอซอตะเกียกตะกายว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง ขณะที่จำนวนสัตว์อสูรน้ำที่ไม่รู้มันไปชวนกันมาจากไหน ถึงพากันมามากขนาดนี้

ณ พระราชวังอมตะ

พยัคฆ์คีรียืนนิ่งท้าสายลมอยู่บนหลังคาสูงของพระราชวัง เขาแบมือออกขณะที่นกอาคมกำลังโผบินเข้ามาใกล้ และกลายเป็นกระดาษอาคม ชายหนุ่มผมสีส้มอ่านมันด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะพ่นลมหายใจ ‘ฟู่ ~’ ออกมาด้วยสีหน้าซับซ้อน

ณ โรงฝึก โรงเรียนฮันเตอร์เซนต์อมตะ

เหนือฟ้าที่กำลังฝึกเรียกครุฑอาคมออกมานั้นถึงกับต้องชะงัก เมื่อเห็นนกอาคมกำลังโผบินมาทางเธอ  เหนือฟ้าคิดว่าเป็นจดหมายจากพี่ชาย จึงรีบพุ่งขึ้นบนฟ้าเพื่อคว้าเอาวิหคอาคมมาอ่านเนื้อหา ไม่นานจากนั้นใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กสาวก็บึ้งตึง

“ไร้เหตุผลที่สุด”

เด็กสาวไม่ค่อยพอใจ ทำไมพี่กลิ่นจันทร์ต้องแต่งให้ผู้อื่น ทั้งที่ยังเป็นเมียพี่ภพ

“เหนือฟ้า เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมมีสีหน้าเช่นนั้น”

ฌายินไถ่ถาม หลังกลับเข้ามาในสนามฝึกแล้วเห็นศิษย์รักอารมณ์ไม่ค่อยดี

“ทำไมคนเรารักกันถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทั้งยังต้องไปแต่งกับคนอื่น ไร้เหตุผลที่สุด”

ฌายินได้ยินเช่นนั้นก็อ้าปากค้าง ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ศิษย์ของเธอมีคนรัก แล้วใครคือคนนั้น ทั้งยังโง่ไปแต่งงานกับผู้อื่น

_____________________

ขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่ติดตามมาถึงตอนนี้นะครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด