ตอนที่แล้วตอนที่ 41 หลับตาลงซะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 43 กลยุทธ์เครื่องบดเนื้อ

ตอนที่ 42 ศึกเปิดตัวของสมาพันธ์นักล่า


ตอนที่ 42 ศึกเปิดตัวของสมาพันธ์นักล่า

หลังจากที่ไนเรลและผู้พิทักษ์สมาพันธ์เดินผ่านไป ด้านหลังของเขาก็ตามมาด้วย เอวา ที่แต่งตัวด้วยชุดเกาะหนังงูสีดำในมือถือดาบซอมบี้เงา

โดยด้านหลังเป็นกลุ่มของนักล่า ซึ่งมี เอียนและนักล่าอีก 5 คนที่รอดชีวิตมาพร้อมกับไนเรล ทั้ง 5 คนมีชื่อว่า เจแดน ดีแลน เกรย์สัน ลีวาย แมทธิว

พวกเขาก็ตามมาด้วยและแน่นอนว่าทั้งหมดได้เลือนไปเป็นมนุษย์ชั้นสูงแล้ว จากการที่ได้กินผลคริสตัลวิวัฒนาการประเภทพลังธาตุที่ไนเรลมอบให้ไป ทำให้ได้รับความสามารถ ประเภทพลังธาตุมา

โดย เจแดนได้ความสามารถควบคุมดิน ดีแลนควบคุมน้ำ เกรย์สันควบคุมเหล็ก และสุดท้าย ลีวายและแมททิวที่ได้ความสามารถควบคุมไฟ ทั้งหมดเป็นระดับ F

เนื่องมาจากทุกคนที่ให้วิธีการวิวัฒนาการเป็นมนุษย์ชั้นสูงด้วยผลคริสตัลวิวัฒนาการนั้นทุกพลังที่ได้จะเป็นแค่ระดับ F และที่สำคัญคือ ความหลากหลายของพลังนั้นก็จะน้อยมาก

ส่วนความสามารถที่เจอได้น้อยจะถูกเรียกว่าความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งไม่ใช่ว่าไม่มีซ้ำแต่จะน้อยมาก อาจจะได้มาจากการสืบทอด หรือเกิดขึ้นมาโดยบังเอิญ เพราะถึงอย่างไร มนุษย์นั้นก็มีมากมายการที่จะมีคนที่มีความสามารถเหมือนกันบ้างก็ไม่แปลกอะไร

และส่วนใหญ่คนที่มีความสามารถแบบเอกลักษณ์นั้นจะเป็นพวกที่เลือนเป็นมนุษย์ชั้นสูง ในรอบแรก ๆ

ถึงจะบอกว่าความสามารถที่พวกเขาได้มานั้น เป็นแค่ระดับ F แต่พลังของมันก็ไม่ได้วัดกันที่ความสามารถซะอย่างเดี่ยวเพราะมันวัดกันที่มนุษย์ชั้นสูงที่ใช้มันด้วยว่าดึงประสิทธิภาพมาได้ถึงแค่ไหน

ทันทีที่ไนเรลนำกลุ่มของสมาพันธ์นักล่า เข้าจัดการกับซอมบี้ภายในกำแพงไม่นาน พวกเขาก็จัดการกับซอมบี้ได้ทั้งหมดอย่างง่ายดาย

และดูเหมือนว่าพวกผู้พิทักษ์ทั้ง 35 คนจะไม่พอใจกับจำนวนของซอมบี้ที่น้อยเกินไปซักเท่าไหร่

ผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างพากันตกใจอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขามองไปที่กลุ่มของสมาพันธ์กันอย่างแปลกประหลาด

“เกิดอะไรขึ้น? มนุษย์ชั้นสูงพวกนี้มาจากไหน?”

“เหลือเชื่อคนที่ใส่เกาะหนักพวกนั้นเป็นมนุษย์ชั้นสูงทั้งหมดเลยหรือ”

“เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีมนุษย์ชั้นสูงมากขนาดนี้ ฉันจำได้ว่าข้อมูลทางค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 มีมนุษย์ชั้นสูงอยู่แค่ 200 กว่าคน และ เกินสามในสี่ได้เข้าร่วมกับรัฐบาล”

“แต่ถ้าทุกคนเป็นมนุษย์ชั้นสูงทั้งหมดรวมทั้งพวกที่ตามมาทีหลังนั้นก็หมายความว่าพวกเขามีมนุษย์ชั้นสูงเกือบ 100 คน”

“ใครกันที่จะมีอำนาจควบคุมคนมากขนาดนี้ ใช่พวกบริษัทพาราซัสหรือเปล่า”

“ไม่น่าใช่ถึงพวกเขาจะมีกองกำลังของตนเองแต่ก็ไม่น่าจะมีมนุษย์ชั้นสูงมากขนาดนี้”

“ถ้างั้นพวกเขาคือใคร?”

ทุกคนพูดถึงกลุ่มของสมาพันธ์ในทันที พวกเขาพยายามหาว่านี่คือคนของใคร อีกทั้งยังโยงไปถึงองค์กรต่าง ๆ แต่ว่าก็ไม่มีใครรู้ได้ เพราะไนเรลยังไม่ได้ประกาศเรื่องของการก่อตั้ง สมาพันธ์นักล่า

นั้นก็เป็นเพราะว่า ก่อตั้งสมาพันธ์นักล่านั้นไม่ใช่เพียงแค่ประกาศออกไปก็สามารถจัดตั้งขึ้นได้ ถ้าทำอย่างนั้นก็แต่จะมีคนหัวเราะเอาเท่านั้น ที่คิดว่าคนโง่ที่ไหนถึงอยากจะมาเป็นตัวแทนของนักล่าทุกคน

ดังนั้นเขาจึงต้องอาศัยโอกาสในการแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของสมาพันธ์นักล่า เพราะไม่มีใครที่จะสามารถปฏิเสธพลังอำนาจที่แข็งแกร่งได้

และตอนนี้ซอมบี้ฝูงนี้ก็พาโอกาสก็มาให้พวกเขาแล้ว

“เปิดประตู” ไนเรลบอกกับร้อยเอกหนุ่มที่พาทหารลงมาจัดการกับซอมบี้ในกำแพงซึ่งตอนนี้โดนพวกผู้พิทักษ์จัดการหมดแล้ว

“ไม่ได้ ประตูนี้ถูกปิดโดยคำสั่งของพลตรี พวกเราไม่สามารถเปิดได้” ร้อยเอกตอบด้วยน้ำเสียงแน่วแน่

ไนเรลมองไปที่เขาอยู่สักพักจากนั้นก็มองไปที่กำแพงด้านบนที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย

“งั้น ฉันจะไปคุยกับเขาเอง”

“เดี๋ยว...” แต่ไม่ทันรอให้ร้อยเอกคนนั้นได้พูดอะไรอยู่ ๆ ไนเรลก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วข้ามผ่านพวกเขาไปในทันที

ตอนนี้เขาสามารถควบคุมความสามารถ [ราชานักวิ่ง B] ได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถใช้ได้เต็มที่เพราะมันไม่เหมาะกันการเคลื่อนที่ในระยะใกล้แบบนี้ ถึงแบบนั้นการเคลื่อนที่นี้ก็ทำให้เขามาอยู่ตรงหน้าของพลตรีได้อย่างรวดเร็ว

“นั้นอะไรซอมบี้เงาหรือ คุ้มกันท่านพลตรีเร็ว”

“ไม่ทันแล้ว”

“เดียวนั้นไม่ใช่ซอมบี้เงาแต่เป็นมนุษย์ชั้นสูง”

ไนเรลหยุดห่างออกไปจากพลตรีเล็กน้อยทหารหลายคนรีบจ่อปืนไปที่ไนเรลในทันที พวกเขาไม่รู้ว่าการที่ไนเรลขึ้นมาบนกำแพงเพื่อจุดประสงค์อะไร

“คุณคือพลตรีที่ควบคุมที่นี่ใช่หรือไม่”

“ก่อนที่จะถาม นายควรที่จะแนะนำตนเองก่อนไม่ใช่หรือว่าเป็นใครและต้องการอะไร” พลตรีถามกลับไปที่ไนเรลอย่างไม่เกรงกลัว

การที่เขาขึ้นมาถึงยศพลตรีได้นั้น ไม่ได้เป็นเพราะโชคช่วย แต่ต้องผ่านสงครามและภารกิจมามากมาย ดังนั้นสภาพจิตใจของเขาจึงมั่นคงกว่าทหารหน้าใหม่ที่ใช้เส้นสายในการเลื่อนยศมาอย่างเทียบไม่ติด

และที่สำคัญการที่ไนเรลหยุดและถามถึงเขาจะต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน เพราะถ้ามีเจตนาแอบแฝงจริง ๆ ไนเรลคงจัดการกับเขาโดยตรงไม่จำเป็นที่จะต้องมาพูดคุยกันเลยแม้แต่น้อย

“ผมคือ ไนเรลอาโรเดีย ประธานสมาพันธ์นักล่าที่ยังไม่ได้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการ ส่วนเหตุผลก็คงเป็นการยืนมือเข้าช่วยเหลือพวกคุณในการจัดการกับซอมบี้พวกนั้น ไม่รู้ว่าคุณจะสนใจหรือไม่” เพียงแค่คำกล่าวของเขาออกมาก็สามารถพลิกกลับไปเป็นผู้ถามคำถามในทันที

การที่จะทำข้อตกลงอะไรสักอย่างกับใคร คนที่เป็นผู้ถามคำถามมักจะมีความได้เปรียบอยู่เสมอนี่คือคำสอนของปู่ของ ซึ่งไนเรลก็จดจำและนำมาใช้เสมอ

พลตรีหรี่ตามองไปที่ไนเรล การที่เรียกตัวเองว่าเป็นสมาพันธ์นักล่านั้นหมายความว่าคิดจะเป็นตัวแทนของนักล่าทุกคน เขาจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนหรือไม่ก็เป็นพวกสมองมีปัญหา

เพราะแม้แต่รัฐบาลก็ยังอยากจะรวบรวมนักล่าพวกเข้าด้วยกันแต่ก็ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จ แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับบอกว่าคือ ประธานสมาพันธ์นักล่าที่ยังไม่ได้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการ แต่มันจะต่างอะไรกัน

“เอาอย่างไรจะร่วมมือหรือไม่ ถ้ารวมมือก็ต้องใช้แผนของผม เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกคุณจะไม่มีเวลามากแล้ว” ไนเรลชี้ไปที่ซอมบี้ไททันที่สูงกว่า 6 เมตรกำลังเดินมาที่พวกเขาพร้อมกับเสียงร้องคำรามที่ดังจนแสบแก้วหู

“บัดซบพวกแกมั่วทำอะไรอยู่ ยิงทุกอย่างไปที่มัน อย่าให้มันเข้ามาได้”

“ยิงแล้วครับแต่มันไม่ได้ผล ตัวมันใหญ่เกินไป” ทหารปืนใหญ่รีบรายงานทันที

พลตรีมีสีหน้าที่น่าเกลียดทันที แต่แล้วเขาก็หันมาพูดกับไนเรลอย่างไม่มีทางเลือก

“ว่ามา ว่าแผนคืออะไร”

หลังจากที่ไนเรลลงมาที่หน้าประตูทหารก็เตรียมที่จะเปิดประตูเหล็กที่ถูกปิดไว้ออกเพื่อให้พวกไนเรลออกไปด้านนอกกำแพง

“นายจะเอาแบบนี้จริง ๆ?” เอวาถามออกมาด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ต้องเป็นห่วงทำตามที่บอกไปก็พอ ถึงอย่างไรซอมบี้สติปัญญามันก็ต้องตาย”

ไนเรลพูดกับเอวาเสร็จ เขาก็หยิบดาบหนักขนาดยักษ์ทั้งสองเล่มขั้นมามันมีน้ำหนักรวมกันไม่ต่ำกว่าครึ่งตัน แต่ด้วยความที่เขาเลื่อนขึ้นมาเป็น มนุษย์ชั้นสูงระดับ สีน้ำตาล มันจึงทำให้ความสามารถ [พละกำลัง 50 เท่า] เขาสามารถให้ได้ถึง 20 เท่าแล้ว

ทุกคนมองไม่ที่ไนเรลผู้ใส่เกาะหนักซึ่งมีหนังของกิ้งก่ากลายพันธุ์ขั้น 2 หลอมรวมกับด้านนอกของเกาะอีกชั้น ในขณะที่ในมือถือดาบหนักยักษ์ไว้ทั้งสองข้าง เขาถอหร่างออกไปถึง 1 กิโลเมตรจากประตูตั้งท่าจะเตรียมวิ่ง

เขาจะทำอะไร? นี่คือคำถามที่ถุกคนได้แต่ถามกันไปมา แต่ก็ไม่มีใครรู้ดังนั้นทุกคนจึงได้แต่รอดูเท่านั้น

“หวังว่าระยะแค่นี้คงพอ” ไนเรลกะระยะห่างระหว่างเขาและซอมบี้ไททันขั้น 3 ที่สูงกว่า 6 เมตรที่อยู่นอกเมืองออกไป 2 กิโลเมตร

“เปิดประตู” ไนเรลตะโกนออกไปในทันที

“เอาไงหัวหน้า” ทหารที่จับคันโยกอยู่หันมาถามกับร้อยเอกหนุ่ม เพราะเขาคิดว่าไนเรลเป็นบ้าอะไรถึงต้องไปตั้งท่าวางไกลถึงตรงนั้น ถ้าเกิดเปิดประตูละซอมบี้จำนวนมากได้แต่แห่เข้ามาแน่ ๆ

“เปิดประตู” ร้อยเอกหนุ่มกัดฟันตอบ

เห้อ...ทหารที่ถือคันโยกถอนหายใจเตรียมตัวตายออกมา และเขาก็สับคันโยกประตูลงอย่างแรง

กึก ๆ คลื่น ๆ

เสียงกลไกของประตูเหล็กกล้าที่สูงกว่า 4 เมตรค่อยแยกออกเผยให้เห็นฝูงซอมบี้ธรรมดาจำนวนมากที่พยายามเบียดตัวกันเข้ามา

อ๊าค!!!

พวกมันกรีดร้องกันด้วยความหิวกระหายเมื่อเห็นมนุษย์ที่อยู่หลังประตู

“ซอมบี้เข้ามาแล้วยิง...” ทหาร 20 กว่าทั้งท่าเล็งปืนไปที่ซอมบี้แต่พวกเขาช้าไปเพราะในตอนนั้นเองที่อยู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น

ตูม!

บางสิ่งบางอย่างที่วิ่งผ่านไปทางประตูด้วยความเร็วสูงมาก ชนซอมบี้ธรรมดาพวกนี้กระจุยกระจายไปราวคนละทิศละทาง บางตัวก็ขาดครึ่งบางตัวก็ร่างแหลก

และสิ่งที่วิ่งผ่านไปนั้นก็คือไนเรลที่เขาใช้ความสามารถของ [ราชานักวิ่ง B] อย่างเต็มกำลัง ด้วยระยังทาง 1 กิโลเมตรมันทำให้เขาทำความเร็วได้ถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

และมีดาบหนักยักษ์ที่หนักถึงครึ่งตันเป็นเหมือนดังหัวลูกศรนำทางพุ่งผ่านฝูงซอมบี้ไปเหมือนดังวิ่งผ่านผิวน้ำ

ด้วยพละกำลังถึง 20 เท่าการที่ชนกับซอมบี้ธรรมดาพวกนี้นั้นไม่สามารถลดความเร็วของเขาลงได้เลย แต่มันกลับเพิ่มขึ้นไปอีกในระยะ 2 กิโลเมตรที่ห่างจากซอมบี้ไททัน

“อ๊าคคค”

ซอมบี้ไททันที่เห็นไนเรลพุ่งมาหามันแต่ไกลก็ร้องคำรามออกมาอย่างท้าทาย ที่เหมือนกับสัตว์ร้าย มันคือยักษ์ใหญ่กับแค่เหยื่อตัวเล็ก ๆ ที่พุ่งเขามาจะสามารถหยุดมันได้อย่างไร

“รนหาที่ตาย” ไนเรลที่เห็นแบบนั้นก็เร่งความเร็วเต็มที่

ตูม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

เสียงการปะทะที่สนั้นหวันไหวราวกับระเบิดขนาดย่อม ๆ คลื่นที่กวาดผ่อนออกมาอัดซอมบี้ธรรมดารอบ ๆ จนปลิวกระจายออกไปในทันที

หลังฝุ่นทีจากลงทุกคนก็มองไปที่จุดปะทะ

“เหลือเชื่อ เมื่อกี้มันคืออะไร?”

“เขายังเป็นคนอยู่หรือไม่”

“การปะทะเมื่อครู่เขาตายหรือไม่”

“ไม่ดูนั้นเร็วเขายังไม่ตาย”

ทุกคนมองผ่านประตูไปแม้แต่ทหารบนกำแพงก็มองไปเช่นเดียวกัน ทุกคนมองไปที่ไนเรลและซอมบี้ไททัน 6 เมตร แต่ที่ทำให้ทุกคนอ้าปากค้างจริง ๆ คือ ซอมบี้ไททันขั้น 3 ที่ตอนแรกไม่มีใครคิดว่าจะหยุดมันได้

แต่ไนเรลกับหยุดมันได้ ที่มากไปกว่านั้นคือมันล้มลงนอนและมีใบดาบหนักยักษ์ทั้งสองเล่มของไนเรลเสียบทะลุศีรษะ ทำให้มันตายไปในทันที

มนุษย์ตาย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ทันทีที่ทุกคนเห็นซอมบี้ไททันตาย เสียงของซอมบี้สติปัญญาที่กรีดร้องออกมาด้วยความเดือดดานก็ดังไปทั่วทั้งสนามรบ ซอมบี้ทั้งหมดเริ่มบ้าคลั่งและพุ่งตรงมาหาไนเรลที่ในมือถือดาบยักษ์ที่เหลือใบดาบอีกครึ่งในทันที

“เข้ามาไอ้พวกซากศพ ข้าจะส่งพวกแกลงหลุมไปอีกรอบ” ไนเรลไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย เขาตะโกนท้าทายมันโดยตรงเลยด้วยซ้ำพร้อมกับใช้ความสามารถ [คำบัญชาเผ่าพันธุ์ F] ออกมา

“ผู้พิทักษ์ทุกคนฆ่ามัน นักล่าทุกคนฆ่ามัน มนุษย์ทุกคนฆ่ามัน”

“เฮ้ ๆ ผู้พิทักษ์ทุกคนฆ่ามัน นักล่าทุกคนฆ่ามัน มนุษย์ทุกคนฆ่ามัน” ผู้พิทักและคนของสมาพันธ์นักล่าตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงและวิ่งถาโถมใส่ซอมบี้อย่างไม่มีใครกลัวตาย

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความสามารถ [คำบัญชาเผ่าพันธุ์ F] ของไนเรลหรือสิ่งที่เขาทำในการฆ่าซอมบี้ไททัน 6 เมตรนั้น มันกลับปลุกความกล้าของทุกคน ทั้งคนธรรมดา และนักล่าที่อยู่ภายในกำแพงให้จับอาวุธ ตะโกนคำของไนเรลและวิ่งตามหลังของผู้พิทักษ์ไปสู้สงคราม

“ผู้พิทักษ์ทุกคนฆ่ามัน นักล่าทุกคนฆ่ามัน มนุษย์ทุกคนฆ่ามัน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด