ตอนที่แล้วจุติข้ามโลก : ตอนที่159 เหลวไหล!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจุติข้ามโลก : ตอนที่161 โลกที่โหดร้าย

จุติข้ามโลก : ตอนที่160 หาความสนุก


ตอนที่160 หาความสนุก

หลังจากที่เออร์วินได้ออกคำสั่งไป กองสำรวจก็กระจายตัวแยกกันเป็น 10ทีมและพุ่งข้ามกำแพงไปทันที

สมาชิกกองสำรวจนั้นมีเพียงแค่ 1000 เท่านั้น แต่ทว่าเป็นกองทหารที่แข็งแกร่งที่สุด

เมื่อกองสำรวจออกไปหมดแล้ว อาร์มินที่ฉลาดมากที่สุดก็ถามขึ้นมาทันที “มันจะดีจริงๆใช่ไหมที่ให้เราอยู่ตรงนี้?”  หลังจากพูดเสร็จอาร์มินเขาก็มองไปรอบๆ เห็นพวกกองกำลังรักษาการณ์ที่ทำสีหน้าหมดความมั่นใจ

“เอาหน่าไม่มีปัญหาออะไรหรอก ใครกล้าขัดขืนคำสั่งถืออว่าเป็นศัตรูของมวลมนุษยชาติ!” ซูเซียวตอบกลับพร้อมกับนั่งบนขอบกำแพงเมือง และจ้องมองไปยังกำแพงโรเซ่ที่อยู่สุดลูกหูลูกตา

“เอ่ออ คุณเบียคุยะ..” เสียงที่น่ารำคานของเอเรนดังขึ้นมา ซึ่งทำลายความชิลของซูเซียวสุดๆ

“อะไร?”

เอเรนลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะถาม “คุณเบียคุยะ แม้ว่าผมจะรู้วิธีแปลงเป็นไททั่นแล้ว แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าผมจะมีสติมากพอที่จะสั่งการไททั่นให้ยกก้อนหินนั่นได้”

“ไม่ใช่ปัญหาหรอก เดียวผมจะช่วยดึงสติให้คุณเอง”

“จะทำยังไงงั้นหรอครับ?”

“ยังไม่ต้องรู้ตอนนี้หรอกหน่า” ซูเซียวพ่นควันบุหรี่ออกมา

จากนั้นก็สองชั่วโมงผ่านไปไวยิ่งกว่าโกหก

“ได้เวลาแล้ว ไปกันเถอะ!” ซูเซียวพูดขึ้นมาพร้อมกับกระโดดลงมาจากกำแพง เพิ่อมาตามเอเรนและผองเพื่อนไปทำภารกิจ

ห้านาทีหลังจากนั้น ทั้ง 4คนก็เข้ามาใกล้กำแพงโรเซ่มากขึ้น ใกล้ก้อนหินยักษ์ลูกหนึ่ง ซึ่งมีทรงกลมออกรีหน่อยๆ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 เมตร ไม่ง่ายเลยที่จะเคลื่อนย้ายมัน

เหล่ากองสำรวจที่ป้องกันก้อนหินอยู่นั้น เมื่อเห็นทั้งสี่คนมาถึงแล้ว พวกเขาก็เริ่มเคลียร์พื้นที่ในวงกว้าง

ฝีมือของกองสำรวจนั้นไม่มีตกเลย เพียงระยะเวลาสองชั่วโมง พวกเขาสามารถกวาดล้างไททั่นภายในกำแพงโรเซ่ได้ถึง 70% และสูญเสียสมาชิกไปเพียงไปกี่สิบคน

“เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องเป็นไททั่นได้แล้ว” ซูเซียวหันไปจ้องมองเอเรนที่ยืนอยู่ด้านหน้าก้อนหิน

“ผมยกมันได้จริงๆงั้นหรอ?”

“อย่าพูดเหลวไหลหน่า รีบกลายร่างเร็ว!”

ในเวลานี้ซูเซียวเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ฉุนเฉียวแล้ว ถ้าหากเอเรนยังไม่ยอมกลายเป็นไททั่น ซูเซียวคงจะได้ดราก้อนแฟลชฟ้าดฟันบังคับให้เขากลายร่าง

เอเรนพยักหน้าพร้อมกับยกนิ้วโป้งตัวเองขึ้นมาและกัดเข้าไป

ฉึกกก เลือดพุ่งกระเซ็นติดปากเอเรน แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เจ็บจัง!” หลังจากนั้นเอเรนก็กัดต่ออย่างต่อเนื่อง

ฉึก ๆ  ๆ

หลังจากกัดไป 4 ครั้ง เลือดของเอเรนตอนนี้ย้อยเต็มปากไปหมด แต่นั่นก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ดูเหมือนว่าผมไม่สามารถแปลงเป็นไททั่นได้” เอเรนพูดขึ้นมาด้วยความมึนงงและมองไปหาซูเซียว

“ลองนึกภาพว่า ถ้าเกิดนายแปลงเป็นไททั่นไม่ได้ อาร์มินและมิคาสะจะต้องตายดูสิ” ซูเซียวพูดพร้อมกับชักดราก้อนแฟลชที่สะท้อนแสงออกมา

“เห้ยยย!!” เอเรนพูดอย่างตกใจ

“ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ ทุกนาทีที่นายช้า นั่นหมายถึงชีวิตของกองสำรวจที่หายไปเรื่อยๆ”

เอเรนได้ยินแบบนี้ก็เริ่มกลืนน้ำลายลังเล “ขอเวลาผมหน่อย...”

“ลืมมันส้ะ ไม่มีเวลาให้รอแล้ว!” ซูเซียวขี้เกียจที่จะพูดเอาใจเด็กคนนี้แล้ว ซูเซียวจึงรีบพุ่งเข้าไปหามิคาสะและอาร์มิน

ทั้งสองนั้นไม่ได้ควักอาวุธออกมาแต่อย่างใด เนื่องจากว่าซูเซียวพุ่งมาด้วยความเร็วอย่างมาก

มีเพียงมิคาสะที่ตอบสนองได้ทัน เธอสามารถยกแขนขึ้นมาปกป้องตัวเองเอาไว้ได้ ซึ่งนี่ก็ยังไม่เพียงพอ

มิคาสะโดนซูเซียวถีบเข้าที่กล้ามเนื้อท้อง

ซิกแพคของเธอก็ไม่อาจจะต้านทานพลังเท้าของซูเซียวได้ จนทำให้ตัวเธอปลิวไปด้านหลัง

ซูเซียวก็ยังไม่หยุดแค่เท่านี้ เขายังตามเข้าไปเข่าใส่อกมิคาสะอีกหนึ่งที

บูม!

มิคาสะแทบตายด้วยการโจมตีของซูเซียว ร่างกายของเธอเริ่มหมดแรง

อาร์มินที่ยืนอยู่ใกล้ๆก็อยากที่จะเข้าไปช่วย แต่เขารู้ดีว่าซูเซียวทำแบบนี้ไปทำไม

สิ่งที่มิคาสะทำได้ในตอนนี้คือต้องหนี ไม่อย่างงั้นก็โดนซ้อมจนตาย

ในไม่ช้าซูเซียวก็เปลี่ยนเป้าหมายเมื่อเห็นมิคาสะไม่ไหวแล้ว  เขาพุ่งเข้าไปอัดอาร์มินต่อ

บูม!! อาร์มินล้มลงพื้นอย่างง่ายดาย

เมื่อเอเรนเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็ตกใจอย่างมาก “ทำอะไร ทำไมถึงต้องโจมตีพวกเขาด้วย?”

“ถ้าหากนายกล้าขยับเท้าตัวเองออกจากก้อนหินเกิน 3เมตร ผมจะเข้าไปตัดหัวคุณทิ้งอย่างแน่นอน!” ซูเซียวพูดพร้อมกับเหยีบที่กลางอกของอาร์มินเอาไว้

“ให้เวลาอีก 5วินาที ในการแปลงเป็นไททั่น ไม่อย่างงั้นคนแรกจะเป็นอาร์มิน ต่อมาก็จะเป็นมิคาสะ”

“1”

“2”

“3”

“4”

“5”

“เสียใจด้วยนะ” ซูเซียวยกดราก้อนแฟลชขึ้นเหนือหัว

หลังจากนั้นก็ปักมันลงมา

แต่ในจังหวะที่เอเรนเห็นดาบกำลังพุ่งลงมาเพื่อปักกลางอกเพื่อนพ้องของเขา เขาก็มีความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

“ไม่นะ!!!”

บูม!!

สายฟ้าสีทองพุ่งลงมาจากท้องฟ้า ปะทะลงไปที่เอเรนอย่างรุณแรง

ซูเซียวสามารถยั้งมือได้ทันในขณะที่ดาบจ่ออยู่ที่อกของอาร์มิน

ซูเซียวจ้องมองอาร์มินและพูด “นายยังโชคดีอยู่นะ” หลังจากนั้นก็ปล่อยอาร์มินไป

หันมาจ้องมองที่ไททั่นต่อ ซูเซียวถอนหายใจราวกับว่าเขารู้ดีว่าต้องมาเหนื่อยในการพาไททั่นเอเรนมายกก้อนหินต่อ

“แล้วไงต่อ? รีบยกก้อนหินยักษ์นั่นสิ! มัวรออะไรอยู่”

คำราม!! เอเรนคำราม

ดวงตาสีเขียวมืดจ้องมองมายังซูเซียว หลังจากนั้นก็

บูม!!!

เศษหินเศษดินที่ซูเซียวเคยยืนอยู่นั้น กระจุยกระจายไปหมด

 

“ถ้าจะไม่ร่วมมือกัน ก็จะได้จัดให้!” ซูเซียวพูดขึ้นมาพร้อมกับจ้องมองไปที่หลังคอของไททั่นเอเรน