ตอนที่แล้วตอนที่ 4 : บรรลุจิตดาบกระเรียนขาว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 : สังหารจอมยุทธระดับบัวภายใน

ตอนที่ 5 : 4 เมืองลี้ลับ


ตอนที่ 5 : 4 เมืองลี้ลับ

“จะเกินไปแล้วนะ เจียงฉือเป็นแค่เด็ก 6 ขวบเองนะ!”

“ใช่! เจ้าต้องการอะไรถึงได้รังแกเด็กแบบนี้?”

“ถ้าเจ้าเก่งจริงก็ไปหายัยแก่บ้านั่นเองสิ!”

“นี่เจ้ามีหน้ามาเก็บหนี้กับเด็กได้ยังไงกัน?”

ชาวบ้านเริ่มโหวกเหวกโวยวายกัน แต่ก็ไม่มีใครกล้าไล่หญิงวัยกลางคนคนนั้นออกไป

หญิงนางนี้มีชื่อว่า เฉินฮัว นางเป็นญาติกับตระกูลที่มีทั้งอำนาจและร่ำรวย ดังนั้นการที่จะทำอะไรกับนางก็จะส่งผลต่อความไม่พอใจของตระกูลนั้นด้วย

เฉินฮัวรู้สึกโกรธมากเมื่อได้ยินความเห็นของพวกเขาจึงคำรามกลับไป “การจ่ายหนี้มันก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลไม่ใช่รึไง ถ้าเจ้ารู้สึกไม่ดีก็ไปคุยกับตระกูลฝางเองซะไป!”

ตระกูลฝาง!

เป็นตระกูลที่เชี่ยวชาญในวรยุทธเป็นพิเศษจาก 4 เมืองลี้ลับ และคอยควบคุมการค้าประเวณีภายในเมือง แม้แต่ท่านเจ้าเมืองก็ไม่กล้าที่จะแหยมกับพวกมัน

มีหมู่บ้านอย่างน้อย 30 หมู่บ้านเหมือนลำธารขจีที่ต้องคอยพึ่งพา 4 เมืองลี้ลับ ถ้าพวกเขาไปสร้างความขุ่นเคืองให้กับพวกมัน ตระกูลฝางก็สามารถตัดเส้นทางการค้ากับหมู่บ้านอื่น ๆ ได้ด้วยคำสั่งเดียวเท่านั้น

ถึงแม้เฉินฮัวจะไม่ใช่เชื้อสายโดยตรงและไม่ได้ถูกพูดถึงภายในตระกูลมากนัก แต่ตระกูลฝางก็ยังมีอิทธิพลมากอยู่ดี

ชายร่างโตสองคนยืนอยู่หลังเฉินฮัวก็เป็นจอมยุทธเช่นกัน ถึงแม้พวกเขาจะพึ่งเข้าสู่ขั้นระดับรักษาปราณ แต่ก็ยังแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปอยู่ดี

แค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็ทำให้พวกชาวบ้านรู้สึกกดดันอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว

เจียงฉือน้อยเดินออกมาจากกระท่อม

ใบหน้าของเธอแสดงให้เห็นถึงความกลัว แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าซ่องคืออะไร แต่ผู้หญิงทั้งหมู่บ้านบอกว่ามันเหมือนกับนรก เมื่อเข้าไปครั้งหนึ่งแล้วจะไม่มีทางออกมาได้อีก

เธอห้ามไม่ให้โจวฉวนจีออกมาเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องมาเกี่ยวพันด้วย

“อีกสักพักคุณยายก็จะกลับมาแล้ว...นางไม่ได้ทิ้งข้าเอาไว้หรอก...ได้โปรด...” เจียงฉือน้อยพูดอย่างระมัดระวังด้วยท่าทางที่เหมือนกระต่ายน้อยกำลังสั่นกลัว

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะได้อ้อนวอนจบ เฉินฮัวก็ขัดขึ้นอย่างหยาบคายและตำหนิเธอ “ข้าให้เวลาเจ้าไปตั้ง 3 เดือนแล้ว! เจ้าคิดว่าอ้อนวอนต่อพระโพธิสัตว์แล้วท่านจะช่วยรึไง? พาตัวนางไป! ถ้านางต่อต้านก็หักขานางซะ!”

“ได้ครับ นายหญิง!”

ชายแข็งแรงคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังนางเดินไปหาเจียงฉือน้อย

“อ๊าาา——”

เจียงฉือน้อยกลัวมากเสียจนเผลอถอยหลังโดยไม่รู้ตัว และเกือบจะสะดุดล้มลงกับพื้น ยังไงเธอเป็นแค่เด็กอายุ 6 ปีเท่านั้น

แต่ก่อนที่เธอจะล้มลง โจวฉวนจีก็เข้ามาพยุงเธอไว้

เขาพยุงเธอขึ้นมาก่อนจะดึงเธอไปข้างหลัง เขาจ้องไปทางเฉินฮัวและเยาะเย้ยนาง “ยัยแก่อ้วน! มันเป็นเรื่องจริงสินะที่รูปลักษณ์ภายนอกมักสะท้อนออกมาจากจิตใจน่ะ เพราะที่เจ้าน่าเกลียดขนาดนี้มันก็มาจากจิตใจที่เลวทรามของเจ้านั่นแหละ!”

เมื่อได้ยินแบบนั้น ชายร่างแกร่งก็ตกใจก่อนจะหยุดเดินมาข้างหน้า

สีหน้าของเฉินฮัวเปลี่ยนไปอย่างมาก และชาวบ้านก็ตกตะลึงเช่นกัน

คำพูดแบบนี้มาจากเด็ก 2 ขวบจริง ๆ น่ะหรอ?

“ฆ่าไอเด็กนี่ซะ!”

เฉินฮัวกรีดร้องอย่างสุดเสียงด้วยความโกรธเกรี้ยวที่สั่นสะท้านไปทั่วร่างกายของนาง

เมื่อได้ยินคำสั่ง ชายร่างแกร่งก็เดินไปทางเขาทันที

โจวฉวนจีหัวเราะอย่างไม่แยแส ก่อนที่ดาบมังกรสีชาดจะปรากฎขึ้นต่อหน้าโดยที่ปลายดาบชี้ไปยังศัตรู

สวบ!

ฟึบ!

ดาบมังกรสีชาดแทงทะลุอกของชายร่างแกร่งไปจนถึงอกของเฉินฮัว

แค่ดาบเดียว คร่าไปถึง 2 ชีวิต!

ชายร่างแกร่งอีกคนที่เหลือนั้นตกใจกลัวอย่างมาก ก่อนจะรีบวิ่งหนีทันที

โอ้——

ชาวบ้านทุกคนก้าวถอยหลังด้วยความกลัว และใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ

ดาบมังกรสีชาดพุ่งตรงไปยังชายร่างแกร่งที่กำลังพยายามหลบหนีอย่างรวดเร็ว และตัดหัวของเขาออกทันที

หลังจากที่เขากลับชาติมาเกิดอีกครั้ง เขาก็โดนราชินีคอยไล่ล่าจะฆ่าเขาให้ตายให้ได้ ทำให้ในที่สุดเขาก็เข้าใจวิธีการกำจัดต้นตอปัญหาเสียที เลือดต้องล้างด้วยเลือด!

ถึงแม้เขาจะไม่มีพลังวิญญาณ แต่เขาก็สามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวกับดาบมังกรสีชาดได้ และสามารถควบคุมมันให้โจมตีได้ตามที่เขาต้องการ

ความเร็วของดาบในตำนานระดับเงินนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ลูกสมุนที่พึ่งจะเข้าสู่ระดับรักษาปราณจะสามารถต่อก่อนด้วยได้

และนี่เป็นครั้งแรกที่เจียงฉือน้อยเห็นคนตายต่อหน้า เธอจึงปิดตาด้วยความหวาดกลัว

โจวฉวนจีสูดลมหายใจเขาลึก ๆ ก่อนจะพูดบอกกับชาวบ้านว่า “พวกเจ้าทุกคน ถ้าไม่อยากให้หมู่บ้านลำธารขจีต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ได้โปรดเก็บสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เอาไว้เป็นความลับด้วย”

ชาวบ้านมองโจวฉวนจีด้วยความหวาดกลัวพลางก้าวถอยหลัง และไม่มีใครขานตอบเขาแต่อย่างใด

ปีศาจ!

เขาต้องเป็นปีศาจงแน่ ๆ!

เขากล้าที่จะฆ่าใครสักคนได้แม้จะอายุแค่ 2 ขวบ มันช่างแตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอก และความน่ารักที่พวกเขาเห็นยิ่งนัก

และยังดาบนั่นอีก มันคือดาบที่ชั่วร้าย ดาบปีศาจ!

เมื่อโจวฉวนจีเห็นท่าทางของพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวด้วยความหน่ายใจ

เขาเดินไปทางศพทั้ง 3 ก่อนจะค้นของในตัวพวกเขา

และเจอกับกระเป๋าที่ใส่เหรียญ 3 เหรียญ โจวฉวนจีจึงเอามันใส่ลงในสุดยอดช่องเก็บของ

หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้น เขาคิดว่าตัวเองคงไม่สามารถที่จะอยู่ในหมู่บ้านลำธารขจีได้อีกต่อไปแล้ว

แต่คนเราสามารถเดินทางรอบโลกได้ง่าย ๆ ขอเพียงแค่มีเงินเท่านั้น

“เจ้าพอจะช่วยจัดการเรื่องนี้ได้มั้ย?” โจวฉวนจีถาม

ชาวบ้านที่ได้ยินเขาก็เริ่มหนีด้วยความตกใจ

เขาถอนหายใจ ดาบมังกรสีชาดบินกลับมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาก่อนจะหายไป และก่อนที่จะเดินจากไป เขาก็หันหลังกลับมาและเดินไปหาเจียงฉือน้อย

เจียงฉือน้อยแง้มนิ้วของเธอออกและมองผ่านระหว่างซอกนิ้วนั้น เมื่อเธอเห็นว่าโจวฉวนจีเดินมาทางเธอ ก็รีบกอดเขาไว้และร้องไห้เสียงดัง

เขาตบหลังเธอเบา ๆ ก่อนจะพูดปลอบเธอว่า “อย่ากลัวไปเลย ข้าอยู่ตรงนี้นะ”

โจวฉวนจีนึกว่าหลังจากที่เธอเห็นเขาฆ่าคนไป เธอจะตีตัวออกห่างเขา แต่ช่างน่าแปลกใจที่เธอกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม

จิตใจของเขาสั่นไหว

ในใจของเจียงฉือน้อย โจวฉวนจีนั้นถือว่าเป็นน้องชายของเธอแล้ว

เจียงฉือน้อยใจเย็นลงหลังจากที่ถูกปลอบ

เธอถามเขาอย่างประหม่า “เจ้าน้องชาย เจ้าฆ่าพวกเขาไป พวกทหารจากรัฐบาลจะต้องมาตามจับตัวเจ้าแน่”

ทหารจากรัฐบาล?

เขาระเบิดหัวเราะออกมา

ถึงแม้มหาจักรวรรดิโจวจะคอยควบคุมทั้ง 10 อาณาจักร และอาณาจักรเหล่านั้นก็คอยควบคุมเมือง อีกทั้งเมืองและหมู่บ้านจำนวนมากมายที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเมืองเหล่านั้น แต่ทหารของรัฐบาลก็ไม่ได้มีอำนาจอะไรขนาดนั้น

โดยเฉพาะบริเวณเขตชายแดน

ยังไงซะนี่มันก็โลกแห่งจอมยุทธ ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะได้ครองอำนาจสูงสุด

ตราบเท่าที่เขายังคงแข็งแกร่ง ก็จะมีองค์กรที่ทรงพลังมากมายต้องการตัวเขาโดยไม่สนว่าเขาจะทำชั่วอะไรมาอยู่ดี

ตรงข้ามกับโลกก่อนโดยสิ้นเชิง โลกนี้มันช่างไร้ความปราณี

“ตอนนี้พวกเราต้องหนีแล้ว เจ้าจะมากับข้ามั้ย?” โจวฉวนจีถามอย่างจริงจัง

สำหรับเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการมีชีวิตอยู่ และเมื่อเขาโตขึ้น เขาจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นแน่นอน

แต่กว่าเขาจะสามารถผจญภัยไปยังที่ ๆ มีคนมากได้ ก็เมื่อเขาแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องตัวเองได้แล้วเท่านั้น

“พวกเรากำลังจะหนีหรอ? แล้วถ้าคุณยายกลับมา...”

เจียงฉือน้อยน้อยเกิดความลังเล ถึงแม้ยัยแก่บ้านั่นจะไม่ได้ดูแลเจียงฉือน้อยอย่างที่ควร แต่นางก็ยังเป็นคนในครอบครัวเพียงคนเดียวของเธออยู่ดี

ไม่สิ ยังมีคนในครอบครัวอยู่อีกตั้งคนนึงหนิ

โจวฉวนจีพูด “ท่านพี่ ถ้าพวกเราไม่หนี แล้วเกิดถูกจับได้ขึ้นมา ไม่ใช่ว่านั่นจะสร้างปัญหาให้คุณยายมากกว่าเดิมหรอ? ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้า นางจะเสียใจแค่ไหนกันล่ะ?”

เขายิ้มออกมา แต่ภายในใจกลับรู้สึกโกรธแค้นยัยแก่บ้านั่นมาก

โจวฉวนจีอาจจะมีความสุขกับวัยเด็กของเขาที่ได้อยู่หมู่บ้านลำธารขจี แต่ตอนนี้กลับต้องเข้าไปพัวพันกับปัญหา ซึ่งก็แน่นอน มันเป็นเพราะปัญหามากมายที่ยัยแก่บ้านั่นทิ้งเอาไว้ให้ยังไงล่ะ!

เมื่อคิดถึงเจียงฉือน้อยที่มักบ่นพึมพำถึงความฝันเกี่ยวกับยัยแก่บ้าของเธอ มันก็ยิ่งทำให้เขาโกรธมากกว่าเดิม

ยัยแก่นี่มันก็น่ารังเกียจพอ ๆ กับจักรพรรดิเหยียนแห่งโจวนั่นแหละ!

เจียงฉือน้อยคิดก่อนจะพยักหน้าตอบ “งั้นขอเวลาข้าแปปนึงนะ ขอไปเก็บข้าวของก่อน”

หลังจากที่เธอพูดจบก็กลับเข้ากระท่อมไป โดยพยายามไม่มองศพทั้ง 3 ร่างนั้น

“จิตวิญญาณแห่งดาบ ข้าสามารถใส่บ้านทั้งหลังลงในสุดยอดช่องเก็บของได้มั้ย?”

โจวฉวนจีจ้องมองไปทางกระท่อมที่เขาเคยอาศัยอยู่และถาม

เขาอาศัยอยู่ที่นี่มานานกว่า 3 เดือน และเริ่มรู้สึกผูกพันกับกระท่อมหลังนี้

หลังจากนี้ เขาวางแผนจะซ่อนตัวอยู่บนภูเขาสัก 2-3 ปี และจะดีมากถ้าพวกเขามีบ้านให้อยู่อาศัยได้

“ได้แน่นอน”

จิตวิญญาณแห่งดาบตอบ ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกดีใจมาก

“ท่านพี่! หยุดเก็บของก่อน! ออกมาเร็ว!”

โจวฉวนจีตะโกนลั่น เจียงฉือน้อยที่พึ่งเข้ากระท่อมไปจึงเดินออกมาอีกครั้งทันทีที่ได้ยิน

ด้วยความสงสัยเธอจึงถาม “ทำไมหรอ? ไม่ใช่ว่าพวกเราควรหนีหรอ?”

เขาจับมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้และสั่งภายในใจ “จิตวิญญาณแห่งดาบ เก็บบ้าน!”

กระท่อมไม้หายวับไปกับตาต่อหน้าเจียงฉือน้อย ซึ่งมันทำให้เธอถึงกับตกใจ

“ไม่ต้องกังวล ข้ารู้คาถาน่ะ ข้าเป็นคนเก็บบ้านไว้เอง”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด