ตอนที่แล้วบทที่ 4 สังหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 6 สำนักดาบบูรพา

บทที่ 5 สหาย


ท่าทางแสนเฉยชาของเสี่ยวเฉินนั้นทำให้เฉินมู่ซือโกรธจนเลือดขึ้นหน้า “ได้สิ ได้ ตอนนี้เจ้าอวดเก่งไปก่อนเถอะ เดี๋ยวรอให้ผู้เฒ่าแห่งนิกายภูเขาหยกมาก่อนเถอะ แล้วข้าก็ลืมบอกไปอย่าง ว่าผู้เฒ่าที่ว่านี้เดินทางมาในครั้งนี้กับเขาด้วย และตอนนี้เขาก็อยู่ที่วังหลิงซาน...”

เพื่อจะได้ทำลายตระกูลเสี่ยวลงอย่างราบคาบในครั้งนี้ เฉินมู่ซือได้วางแผนมานับหมื่นอย่าง เธอถึงขั้นบอกให้เสินหมิงชวนผู้เฒ่าแห่งนิกายภูเขาหยกออกมากับเขาด้วยเพื่อเป็นการเตรียมการขั้นสุดท้าย

แต่ว่าเรื่องที่เฉินมู่ซือไม่รู้ก็คือผู้เฒ่าที่ออกมาด้วยในครั้งนี้เป็นปู่ของเสินหมิง นามเสินเกาเหยียน

หลังจากฆ่าเสินหมิงลง เธอก็มั่นใจแล้วว่าเสี่ยวเฉินต้องตายแน่ พอได้ยินเฉินมู่ซือพูด ใบหน้าของทุกคนในตระกูลเสี่ยวก็เต็มไปด้วยความกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสี่ยวชิง ผู้ที่รีบเดินเข้ามาหาเสี่ยวเฉินและบอกว่า “เฉิน เจ้ารีบไป ก่อนที่ผู้เฒ่านิกายภูเขาหยกมันจะมาถึง รีบไป...”

ตอนนี้ต้องให้เสี่ยวเฉินรีบไป เพราะหากผู้เฒ่าแห่งนิกายภูเขาหยกมาถึง เขาคงหนีไปไม่ได้

เขากังวลเรื่องนั้น แต่พอสิ้นเสียงของเสี่ยวชิง เขาก็ได้ยินเสียงอันเย็นเยือกตะโกนขึ้นมาจากทางประตูบ้านตระกูลเสี่ยวว่า “จะไปไหน?”

เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็น และจากนั้นชายแก่ผมขาวก็เดินเข้ามาในบ้านตระกูลเสี่ยว ตามมาติด ๆ ด้วยเจ้าเมืองหลิงซาน

ชายชราคนนี้คือผู้เฒ่าแห่งนิกายภูเขาหยกเสินเกาเหยียนอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนทางเจ้าเมืองหลิงซานนามจางเฉียงก็ตามมาด้วยใบหน้าสุดอึดอัด

ไม่มีใครคาดคิดว่าเสินเกาเหยียนจะมาถึงเร็วขนาดนี้ หลังได้เห็นการปรากฏตัวของชายชรา ทั้งตระกูลเฉินและตระกูลหม่าต่างพูดทักออกมาพร้อม ๆ กัน “ผู้เฒ่าเสิน...”

พวกเขาต่างแสดงความนอบน้อมต่อเสินเกาเหยียนอย่างถึงที่สุด มันไม่แปลก เพราะนี่คือผู้เฒ่าแห่งนิกายภูเขาหยก อย่าว่าแต่สามตระกูลใหญ่ แม้แต่ตัวเจ้าเมืองหลิงซานเองก็ยังไม่กล้าจะลบหลู่เขา

เขาเดินเข้ามาในบ้านตระกูลเสี่ยวด้วยสีหน้าสุดผยอง เดินทีแล้วที่เสินเกาเหยียนมาที่นี่ก็เพื่อจะดูว่าทำไมถึงได้ใช้เวลากันนานนัก จนเขาทนไม่ไหวต้องออกมาดูเอง เขาคิดที่จะมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นด้วยตาของตัวเอง แต่หารู้ไม่เลยว่าเสินหมิงถูกเสี่ยวเฉินสังหารไปแล้วเรียบร้อย

พอเสินเกาเหยียนเดินมาเห็นร่างของเสินหมิง เขาก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ก่อนจะค่อย ๆ เข้าไปหาศพของเสินหมิงเงียบ ๆ พร้อมดวงตาที่เหม่อลอย เขานั่งกอดศพของหลานชายอยู่นานจนในที่สุดเสินเกาเหยียนก็พ่นลมหายใจสุดรุนแรงออกมา

การขึ้นเป็นผู้เฒ่าของนิกายภูเขาหยกได้นั้น หมายความว่าพลังลมปราณของเสินเกาเหยียนก็ต้องอยู่ในระดับปฐพีแล้ว และมันก็สูงกว่าใครทุกคนในที่นี้ทั้งหมด

เขาโกรธแค้น เพราะเสินหมิงคือญาติเพียงคนเดียวที่เขาเหลืออยู่ เขาเลี้ยงเสินหมิงมาตั้งแต่เล็ก ตอนนี้พอได้มาเห็นศพของเสินหมิงต่อหน้า ไม่มีทางเลยที่เสินเกาเหยียนจะไม่โกรธ

“ใคร ใครมันฆ่าหมิง ใครกัน...” เขาจ้องมองที่ร่างของเสินหมิงพร้อมตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

หลังสัมผัสได้ถึงความโกรธเคืองของเสินเกาเหยียน เจ้าเมืองหลิงซานที่อยู่ข้าง ๆ จึงได้แต่ทำหน้าอึดอัดไม่รู้จะต้องพูดอะไร ที่เขารู้แน่แก่ใจคือวันนี้เสินเกาเหยียนจะไม่ยอมปล่อยคนทำไปแน่ ๆ

พอได้เผชิญหน้ากับความโกรธแค้นของเสินเกาเหยียน ทุกคนในตระกูลเสี่ยวต่างได้แต่หันไปมองหน้ากัน เดิมทีแล้ว การปรากฏตัวของเสี่ยวเฉินนั้นนำพาความหวังกลับมา แต่ตอนนี้จิตสังหารของเสินเกาเหยียนกลับดึงพวกเขากลับสู่นรก

นี่คือผู้เฒ่าของนิกายภูเขาหยก กลุ่มคนที่จัดว่ามีอำนาจที่สุดในมณฑลหลิงซาน แล้วตระกูลเสี่ยวจะทนทานความโกรธแค้นของคนระดับนี้ได้อย่างไร?

“เฉิน ฟังคำพ่อ รีบไป ออกไปตอนยังมีร่าง ไม่ต้องกลัวว่าเราจะไม่มีฟืนพอเผา...”

ความหมายสั้น ๆ ง่าย ๆ ก็คืออย่าไปสู้กับเสินเกาเหยียนอย่างมี่คิดหน้าคิดหลัง พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน เขาไม่มีทางสู้ได้ เสี่ยวชิงได้แต่กระซิบบอกลูกชายไป

ในตอนนี้เขาหวังเพียงแค่จะให้เสี่ยวเฉินหนีออกไปได้อย่างปลอดภัย แต่ทว่าตอนที่เสี่ยวชิงกำลังบอกให้เสี่ยวเฉินรีบไป เฉินมู่ซือก็พูดขึ้นมาก่อน

“ผู้เฒ่าเสิน ศิษย์พี่โดนเสี่ยวเฉินแห่งตระกูลเสี่ยวฆ่า...”

เสี่ยวเฉิน? หลังได้ยินคำของเฉินมู่ซือ เสินเกาเหยียนก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา มังกรแห่งตระกูลเสี่ยว? กลับมาแล้ว? อัจฉริยะที่นิกายภูเขาหยกตามหา เด็กหนุ่มที่สำเร็จวิชาได้กลับมาแล้วหลังจากหายไป 3 ปี?

เขาไม่คาดคิดว่าเสี่ยวเฉินจะกลับมาในเวลานี้ แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ตอนนี้หลานชายของเขาตายลง ต่อให้เป็นราชาสวรรค์เขาก็ไม่คิดจะละเว้น

โดยไม่ต้องให้ใครบอก สายตาของเสินเกาเหยียนก็จ้องตรงไปยังเสี่ยวเฉินทันที จิตสังหารที่เขาปล่อยออกมามันคมกริบราวกับใบมีดพุ่งไปทิ่มแทงเสี่ยวเฉิน

แม้จะถูกเสินเกาเหยียนจ้องมองด้วยจิตสังหาร แต่เสี่ยวเฉินกลับไม่คิดจะหลบหลีกใด ๆ ไม่แสดงท่าทีตื่นตระหนก ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉย

นอกจากนั้นเขากลับค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเสินเกาเหยียนพร้อมบอกว่า “ข้าให้โอกาสมันแล้ว น่าเสียดายที่มันไม่รับไว้...”

เขาพูดออกมาราวกับมันเป็นเรื่องปกติธรรมดา ใบหน้าของเขาเรียบเฉย น้ำเสียงของเขาเยือกเย็น แต่หลังได้ยินคำพูดของเสี่ยวเฉินมันกลับทำให้เสินเกาเหยียนโกรธจนควันแทบจะออกหู

“ดี ดี มังกรแห่งตระกูลเสี่ยว คิดว่าแค่มีพรสวรรค์แล้วจะทำอะไรก็ได้ใช่ไหม? วันนี้เฒ่าคนนี้จะสอนเจ้าเอง ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าข้าไม่ว่าจะพรสวรรค์ใด ๆ ก็ไร้ความหมาย เจ้าฆ่าหมิง ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย...”

เสี่ยวเฉินไม่ได้แสดงท่าทางกลัวใด ๆ ออกมาเลย นั่นกลับยิ่งทำให้เสินเกาเหยียนโกรธหนักเข้าไปใหญ่ เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าต่อให้เสี่ยวเฉินจะมีพรสวรรค์แค่ไหน วันนี้เขาจะต้องตายลง

จิตสังหารที่มีนั้นท่วมท้น และระหว่างที่เสี่ยวเฉินและเสินเกาเหยียนกำลังจ้องหน้ากัน ตระกูลหม่าและตระกูลเฉินที่อยู่ข้าง ๆ ก็ได้แต่สงสัยในใบหน้าสบายใจของเสี่ยวเฉิน

เจ้าหมอนี่มันเอาความมั่นใจมาจากไหน? นี่ไม่ใช่แค่ศิษย์นิกายภูเขาหยก แต่นี่คือหนึ่งในผู้เฒ่าของนิกายภูเขาหยก เป็นหนึ่งในผู้มีพลังลมปราณระดับปฐพี ระดับที่สามารถสั่นคลอนหลิงซานได้ทั้งมณฑล

ไม่มีใครทราบว่าเสี่ยวเฉินเอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหน แม้ตอนนี้เขาจะมีพลังลมปราณระดับทอง แต่เสินเกาเหยียนคือคนที่สะสมปราณมาเป็นเวลา 100 ปี แค่การตบมันก็มากพอจะฆ่าเสี่ยวเฉินได้แล้ว

มันโง่เง่า อ่อนโลก หรือมีความมั่นใจว่าจะสู้กับเสินเกาเหยียนได้กัน? ขณะที่ทุกคนกำลังสงสัย ก็มีเงาร่างหลายคนมาถึงยังหน้าประตูตระกูลเสี่ยวอีกครั้ง

คนเหล่านี้มีทั้งชายหญิง รวมทั้งหมด 7 คน อายุราว ๆ 20 ปี แต่ละคนต่างดูอ่อนโยน ชายหน้าตาหมดจด หญิงหน้าตาสะสวย

และเมื่อคนหนุ่มสาวทั้ง 7 คนเดินเข้ามายังบ้านตระกูลเสี่ยว พวกเขาก็ตกเป็นเป้าสายตาในทันที มันไม่แปลก เพราะหากมองดูบรรยากาศรอบตัวของคนเหล่านี้ มันก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา ๆ ไม่มีคนธรรมดาที่ไหนจะปล่อยบรรยากาศแบบนี้ออกมาได้

ไม่มีใครรู้เป้าหมายของคนเหล่านี้และไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร แต่ไม่นานนัก ชายหนุ่มในชุดคลุมสีเหลืองทองที่เดินนำคนทั้ง 7 ก็เดินออกมามองดูเสี่ยวเฉินและพูดด้วยรอยยิ้ม

“ศิษย์น้องเสี่ยวเฉิน ในที่สุดก็ตามเจ้าทัน...”

เป็นเครื่องบ่งบอกว่าเขารู้จักกับเสี่ยวเฉิน พอได้ยินแบบนี้ เสี่ยวเฉินเองก็ยิ้มและตอบกลับชายหนุ่มชุดสีเหลืองทองไป “ศิษย์พี่โม่ ข้าไม่ได้กลับบ้านมาตั้งสามปีนะ”

“นั่นสินะ ข้ารู้ว่าเจ้าตื่นเต้น แต่เอ๋ นี่มันเรื่องอะไรกันรึ?” เขาพูดคุยกับเสี่ยวเฉินอย่างเป็นกันเอง และระหว่างที่สนทนาไป ชายชุดเหลืองทองก็หันไปเห็นร่างของเสินหมิง และหันไปถามเสี่ยวเฉินว่าเกิดอะไรขึ้น

“ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่ฆ่าศิษย์สำนักในนิกายภูเขาหยกไป” เสี่ยวเฉินตอบคลายสงสัยให้ชายหนุ่มชุดเหลืองทอง

หลังได้ยินคำพูดของเสี่ยวเฉิน ทุกคนต่างคิดว่าชายหนุ่มชุดเหลืองทองจะตระหนกและว่ากล่าวเสี่ยวเฉิน คิดว่าไม่มีใครจะช่วยเขาได้แล้ว คนอื่น ๆ ต่างคิดว่าเสี่ยวเฉินนั้นบ้า แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าหลังจากได้ยินแบบนั้น ชายหนุ่มชุดเหลืองทองจะพูดออกมาอย่างไม่คิดอะไรมากมาย

“ศิษย์สำนักในนิกายภูเขาหยก ฆ่าแล้วก็ฆ่าไป แต่มีเรื่องอะไรกัน...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด