ตอนที่แล้วบทที่ 118 ซูเพล็กซ์ดีที่สุดในโลก (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 120 เจ้าเคยเห็นก้นของนกยูงไหม (อ่านฟรี)

บทที่ 119 พวกเจ้าไม่เข้าใจคำว่า 'การแทรกซึม'! (อ่านฟรี)


“ทำไมพวกเขาถึงได้กินอาหารมื้อใหญ่สุดหรู แต่พวกเราต้องมาซ่อนตัวที่นี่เพื่อกินขนมปังแห้ง ๆ กับบิสกิตข้าวโพดแบบนี้ด้วย!”

“เรากำลังทำเควส…”

“แม้ว่าพวกเขาจะไม่ให้เรากิน อย่างน้อยก็ให้เราได้เห็นว่างานเลี้ยงของชนชั้นสูงเป็นยังไงก็ยังดี! ข้าไม่มีโอกาสได้ถ่ายทอดสดมันลงในฟอรัมด้วยซ้ำ!”

“เจ้ายังคิดจะทำแบบนั้นอยู่อีกเหรอโกวต้าน?”

ผู้เล่นที่ถูกขังอยู่ในห้องไหนสักห้องในตึกข้างปราสาทอินทรีเงิน ต่างก็ไม่พอใจ

แม้แต่เอลีน่านักบุญหญิงฝึกหัดที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดก็พองแก้มอย่างไม่พอใจ เธอนอนขดอยู่บนโซฟาแข็ง ๆ ขณะที่พึมพำเบา ๆ ว่า “พุดดิ้งนม…”

“เอ็ดเวิร์ด เจ้าจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ”

หลังจากคร่ำครวญมาครึ่งวัน จู่ ๆ โกวต้านก็สังเกตเห็นว่าเอ็ดเวิร์ดไม่ได้พูดอะไรเลยตั้งแต่มาถึง เขานั่งขมวดคิ้วอยู่บนเก้าอี้ราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่

“จริง ๆ แล้วตอนแรกข้ารู้สึกมันแปลกนิดหน่อย”

เมื่อโกวต้านถาม เอ็ดเวิร์ดก็ไม่ได้นิ่งเงียบอีกต่อไป เขาเริ่มพูดถึงข้อสงสัยของเขา “นี่คือบ้านของลอร์ดใช่ไหม ตามปกติที่นี่น่าจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับลอร์ด แม้ว่าพ่อของเขาจะไม่ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมก็ตาม”

“เจ้ากำลังสงสัยว่า ทำไมลอร์ดของเราถึงจ้างผู้เล่นมาเป็นผู้คุ้มกันใช่ไหม” เทรรอสเช่คนอ้วนที่หลงมาทำเควสเดียวกันกับเอ็ดเวิร์ดอีกครั้ง ตอบอย่างมั่นใจว่า “มันก็ต้องเป็นเพราะเขากลัวจะถูกกลุ่มโจรซุ่มโจมตีระหว่างทางนะสิ จากประสบการณ์ของข้า พวกโจรชอบปล้นขบวนรถม้าที่มีการป้องกันอ่อนแอ แต่ถ้ารถม้าถูกคุ้มกันโดยพวกเรา ก็จะไม่มีโจรหน้าไหนกล้าโจมตีขบวนรถม้าของลอร์ด!”

“สมแล้วที่เป็นพี่ใหญ่เทรรอสเช่ สุดยอดจริง ๆ!” ซิลวาคนผอมเริ่มเลียเทรรอสเช่ทันที

“ไม่ สิ่งที่ข้าจะบอกก็คือ ทำไมทุกคนที่นี่มีสถานะ 'เป็นกลาง' พวกเขาควรจะเป็นมิตรไม่ใช่เหรอ”

เอ็ดเวิร์ดบอกข้อสงสัยของเขา “จำได้ไหมว่ามนุษย์กบมีสถานะเป็นกลาง พวกเขาล้อมเราในทันทีที่พบเรา และสามารถโจมตีได้ตลอดเวลา”

จากคำพูดของเขา ในที่สุดผู้เล่นค้นพบว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น

สำหรับสิ่งมีชีวิตและคนแปลกหน้าทุกคนที่มีเจตนาไม่ชัดเจน จะถูกทำเครื่องหมายด้วยชื่อสีเหลือง หมายถึงสถานะเป็นกลาง มันเกิดขึ้นบ่อยจนทุกคนเคยชินกับมัน นั่นทำให้พวกเขาไม่คิดมากเมื่อเห็นพวกชื่อสีเหลือง

แต่ถ้าลองคิดดูดี ๆ มันก็แปลก ที่ทหารในบ้านของลอร์ดถูกระบบกำหนดว่าเป็นกลาง และมีความเป็นปรปักษ์ต่อพวกเขา

“นั่นหมายความว่า คนเหล่านั้นคิดร้ายต่อท่านลอร์ดของเราใช่ไหม?” วีลาถามอย่างกังวลถ้าอย่างนั้นเราก็ควรหาทางแจ้งเรื่องนี้ให้ท่านลอร์ดรู้

"อย่าพึ่งตกใจ เขาต้องรู้เรื่องนี้อยู่แล้วแน่ ๆ ไม่งั้นเขาคงไม่เรียกพวกเรามาด้วยหรอก ส่วนผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ในงานเลี้ยง ก็น่าจะไม่ใช่ศัตรู” เอ็ดเวิร์ดพูดให้พวกเขาสงบลง

“ว่าแต่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” โกวต้านสงสัย “ข้ารู้สึกว่าแม้แต่พ่อของลอร์ดก็ยังเคารพเธอ แต่เธอยังดูเด็กมาก…”

“เรื่องนี้ข้าได้ถามทหารยามก่อนที่จะเข้ามาแล้ว” เอ็ดเวิร์ดที่เตรียมการมาระยะหนึ่งแล้วพูดว่า “พ่อของเธอคือเคานต์ไอนซ์วอเตอร์ เพื่อนเก่าของดยุกอินทรีเงิน แต่เขาก็ได้จากไปแล้วโดยที่ไม่มีทายาทชาย ซึ่งเป็นเหตุให้ศักดินาของเขาถูกยึดคืนโดยจักรวรรดิ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักคือคินลีย์•ไอนซ์วอเตอร์ เป็นลูกศิษย์ของนักเล่นแร่แปรธาตุที่ดีที่สุดในทวีป”

“นักเล่นแร่แปรธาตุที่ดีที่สุดในทวีป…” โกวต้านกลืนน้ำลายอย่างตกตะลึง “เจ้ารู้เรื่องของเธอมากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ข้าจำได้แค่ว่าเธอจ้องมองหน้าอกโจด้วยความอิจฉา”

โจได้ยินแบบนั้นก็เบ่งกล้ามอวด แต่ทุกคนกลับเพิกเฉยเขา

"นี่ยังไม่หมดนะ เธอยังมีเรื่องซุบซิบอีก“เอ็ดเวิร์ดเล่าข้อมูลต่อไปที่จะทำให้คนอื่น ๆ ตกตะลึง”เลดี้ไอนซ์วอเตอร์เป็นอดีตคู่หมั้นของท่านลอร์ด แต่นักเล่นแร่แปรธาตุคนนั้นไม่สนใจตระกูลเฟาสต์ และยกเลิกงานหมั้นของเธอทันทีเมื่อเธอกลายเป็นลูกศิษย์ของเขา”

ซีเว่ยเกือบจะพ่นแตงโม*ที่เขากินอย่างมีความสุขในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ออกมา

(แตงโม = คำเปรียบเปรยของจีน หมายถึงรอดูเรื่องสนุกอยู่ข้างสนาม)

นี่อะไร แองโกร่าไม่เพียงแต่จะเป็นบุตรชายจากตระกูลขุนนางสูงศักดิ์ที่ถูกครอบครัวกดหัว และถูกลอบสังหารระหว่างทางก่อนที่เขาจะกลายเป็นลอร์ด แต่เขายังมีอดีตคู่หมั้นอีกด้วย?

พื้นหลังตัวละครแบบนี้คืออะไร เฮ้?!

ใครจะรู้ หากซีเว่ยไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเขา แองโกร่าอาจได้ข้ามไปต่างโลกหลังจากที่พวกโจรฆ่าเขา และกลับชาติมาเกิดในฐานะสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกก็เป็นได้…

น่าเสียดายที่แองโกร่าไม่ได้เป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมก่อนหน้านี้ นั่นทำให้แม้ซีเว่ยจะมองผ่านความทรงจำของเทพเจ้า เขาก็ไม่รู้อดีตของแองโกร่า นั่นทำให้ความสนุกของเขาลดลงอย่างมาก

ในขณะที่ซีเว่ยกำลังพิจารณาว่า เขาควรจะให้ความสำคัญกับแองโกร่ามากขึ้นดีไหม ผู้เล่นคนอื่น ๆ ด้านล่างก็เริ่มกระสับกระส่าย

คนที่กลัวมากที่สุดก็คือวีลา หญิงสาวจากหมู่บ้านชายขอบ และปาร์ตี้ของเอ็ดเวิร์ดก็รู้สึกกดดัน ผิดกับคู่หูอ้วนผอมซึ่งสามารถพูดจาไร้สาระต่อไปได้ภายใต้การทรมาน

“ยามที่ประตูไม่นับเป็นอะไรสำหรับพวกเรา แต่ถ้าเราก่อเรื่องใหญ่มันจะลำบาก ดยุกอินทรีเงินจะไม่เข้าข้างลอร์ดของเราแน่ ๆ” วีลามองดยุคเป็นศัตรูทันที และเป็นกังวลเกี่ยวกับแองโกร่า “ร่างกายของลอร์ดอ่อนแอ เขาเทียบเราไม่ได้”

ไม่ใช่ว่าเธอดูถูกทหารยาม แต่ข้อความ 'เลเวล 5' เหนือหัวของพวกเขานั้นโดดเด่นเกินไป มีเพียงท่าทางที่พวกเขาแสดงออกเท่านั้นที่ดูเหมือนว่าพวกเขาแข็งแกร่ง ในทางกลับกัน แม้วีลาจะเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่ม แต่เธอมีเลเวล 14 แล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอยังมีคุณสมบัติพิเศษในฐานะที่เป็น NPC ดังนั้นเธอจึงมีพลังเทียบเท่ากับผู้เล่นเลเวล 15

“ข้าไม่รู้ว่ามีทหารยามกี่คนในทุนย่า” โจกระตือรือร้นจนยกปัญหาไปสู่ระดับเมืองแล้ว

“เมืองใหญ่แบบนี้คงมีสัก 2-3 พันนาย และน่าจะมีค่ายทหารตั้งอยู่ใกล้ ๆ” เอ็ดเวิร์ดตอบ “แต่ทหารไม่ใช่ปัญหา กองทัพศักดิ์สิทธิ์ในเมืองต่างหากที่เป็นปัญหา ศาสนาของที่นี่แบ่งเป็นวิหารแห่งความรุ่งโรจน์และศาสนจักรสีขาวอันสว่างไสว ที่มีกองทัพศักดิ์สิทธิ์มากถึง 600 นายที่เราไม่สามารถยั่วยุได้”

ทหารของเมืองเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่การต่อสู้ในเมืองก็ไม่เหมือนการทำสงครามในที่ราบกว้าง มันมีตรอกซอกซอยแคบ ๆ ที่จำกัดจำนวนคนเข้าออกได้ ด้วยทักษะชุบชีวิตของเอลีน่า หากพวกเขาต้องการ เพียงแค่มีกลยุทธ์ที่ใช้การได้และผู้เล่นอีกไม่กี่คน พวกเขาก็สามารถบดขยี้ทหารรักษาการนับพันได้ง่าย ๆ

กลับกัน กองทัพศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับพรจากเทพเจ้านั้นคือปัญหาที่แท้จริง แม้ว่าความสามารถในปัจจุบันของผู้เล่นจะไม่แย่ แต่ก็ยังช่วยอะไรไม่ได้ เพราะวิหารแห่งความรุ่งโรจน์และศาสนจักรสีขาวอันสว่างไสวเป็นศาสนจักรขนาดใหญ่ พวกเขามีแชมป์เปี้ยนหลายคนที่มีพลังมากกว่าอัครมุขนายกกระดูกเน่า

“นั่นคือเหตุผลที่เราต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยในเขตปราสาท เพราะสิ่งที่อันตรายที่สุดในนี้คือผู้วิเศษเพียงไม่กี่คนเท่านั้น” เอ็ดเวิร์ดกล่าวสรุประงับความเปรี้ยวตีนของผู้เล่น

ตอนนั้นเอง โกวต้านก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า "เดี๋ยวก่อน! ท่านลอร์ดเพิ่งตอบโพสต์ของข้า! เขากำลังบอกให้เราวางแผนแทรกซึมเข้าไปในปราสาทของพี่ชายคนโตของเขาเซซิล และดูว่าเราสามารถขโมยข้อมูลอะไรได้บ้าง”

“ดูเหมือนว่าท่านลอร์ดจะค้นพบบางอย่างในงานเลี้ยง…”

วีลาเปิดฟอรัมเช่นกัน เธอเริ่มค้นหาโพสต์ของโกวต้านโดยไม่สนใจข้อความและรูปภาพทั้งหมดที่เขาโพสต์ และค้นหาการตอบกลับของลอร์ด ในที่สุดเธอก็เจอคำตอบของแองโกร่า และความคิดที่จะตอบกลับของเธอก็ได้หายไปหลังจากอ่านมัน

“ภารกิจแทรกซึม? ปล่อยให้เราจัดการ!”

ดวงตาของเทรรอสเช่ที่ไม่ได้พูดอะไรมากสว่างขึ้น “เราเคยแทรกซึมเข้าไปในค่ายของชุมนุมลับดวงตามาก่อน และได้รับข้อมูลเส้นทางภายในนั้น!”

"ถูกตัอง เราเป็นมืออาชีพ!” ซิลวาเสริม

"พวกเจ้า? ช่างเถอะ…”

ปากของเอ็ดเวิร์ดกระตุกเมื่อเขาจำสิ่งที่เขาได้ยินในชุมนุมลับดวงตาได้ “เจ้า 2 คนเป็นนักรบไม่ใช่ชาโดว์โร๊ค ไม่เหมาะกับการแทรกซึม…”

“เจ้าจะไปรู้อะไร!? อย่าประมาทพวกเราเชียวนะ!” เทรรอสเช่ถลึงตาใส่เอ็ดเวิร์ดและขัดจังหวะการโต้แย้งของเขา “ชาโดว์โร๊คเป็นเพียงนักฆ่า! พวกเขารู้แต่การลอบแทงข้างหลัง พวกเขาจะรู้อะไรเกี่ยวกับการแทรกซึม!”

"ถูกต้อง! เรากำลังช่วยท่านลอร์ดในแบบของเรา!” ซิลวายกแขนขึ้นตะโกนอย่างไม่พอใจ

เดิมทีเอ็ดเวิร์ดอยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่พอคิดอีกที เขาก็รู้สึกว่าการมีพวกโง่ 2 คนนี้คอยก่อความวุ่นวายกับศัตรู ในขณะที่เขาลอบเข้าไปทำเควสให้เสร็จเหมือนคราวที่แล้วก็ดีเหมือนกัน

ดังนั้นเขาจึงหยุดเถียงและหันไปสนใจหัวข้อใหม่แทน “ตอนนี้ปัญหาหลักของเราคือ ทำยังไงเราถึงจะลอบออกไปได้แบบไม่ให้ยาม 2 คนที่เฝ้าอยู่นอกประตู…”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เทรรอสเช่ก็พุ่งออกไปนอกประตูแล้ว

“พาวเวอร์พรีลูด(Power Prelude)!” เขาคำรามชื่อทักษะสุดปอดขณะพุ่งชนประตูอย่างแรงจนประตูหลุดกระเด็น

"มาแล้ว! ทักษะที่พี่เทรรอสเช่ภาคภูมิใจที่สุด 'พาวเวอร์พรีลูด' ทักษะที่สร้างความเสียหายได้เป็น 2 เท่าของผู้เล่นทั่วไป!” ซิลวาอธิบายอย่างตื่นเต้นข้าง ๆ เขา

ผู้เล่นคนอื่น ๆ มองไปยังมือทั้ง 2 ข้างที่ยังสั่นระริกของเทรรอสเช่อย่างเงียบ ๆ และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้ากับยามทั้ง 2 นายใต้บานประตูที่ล้มลง

----------------------------------

เพจ FC-Translate

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด