ตอนที่แล้วตอนที่ 18 จดหมายจากปู่(แก้คำผิด)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101(แก้คำผิด)

ตอนที่ 19 ลูกแมวสีขาวบนหลังคาปิบารา(แก้คำผิด)


ตอนที่ 19 ลูกแมวสีขาวบนหลังคาปิบารา(แก้คำผิด)

หลังจากที่เข้ามาในตึกห้องเช่า ก็เจอกับประตูกรงเหล็กที่ล๊อคไว้อยู่ ไนเรลแค่ออกแรงกระชากเบา ๆ ล๊อคของมันก็หลุด

หลังจากที่ทุกคนเข้าไปหมดแล้วเขาก็หาเหล็กเส้นแถวนั้นมาขัดล๊อคไว้เหมือนเดิม “หวังว่ามันจะกันพวกมันได้”

“ไปรีบไปหลบข้างบนก่อน” เมื่อเข้ามาในตึกห้องเช่าทุกคนก็รีบวิ่งขึ้นไปที่ชั้นที่เขาเห็นแมวอยู่ทันที แต่ประตูมันถูกล๊อคไว้

ไนเรลมองไปที่หน้าต่างบานเกรดก็เห็นแมวน้อยยืนสองขาอยู่บนหัวเจ้าคาปิบารา มันทำท่าแบมือให้กับเขา และก็เป็นที่น่าแปลกใจอีกครั้งที่เขาเข้าใจมัน

ไนเรลหันไปบอกกับทุกคน “มันบอกให้ทิ้งอาหารทั้งหมดแล้วมันจะยอมให้เข้าไป” แต่ดูเหมือนเขาจะแปลผิดแมวน้อยจึงเคาะกระจก

“แม้วววว แมะ มิววว”

ไนเรลหันไปมองมันใหม่ และหันมาบอกกับทุกคนอีกครั้ง “มันบอกว่าอาหารที่เอามาทั้งหมดเป็นของมัน”

แต่เมื่อเขาพูดมาถึงตรงนี้ก็หันไปเถียงมันทันที “เดี่ยวสิ แกจะเอาไปทั้งหมดแล้วพวกเราจะกินอะไร?”

นิเรียมองที่พี่ชายของเธอและแมวน้อยต่อราคากันอย่างดุเดือด ผลสุดท้ายพี่ชายเธอและแมวน้อยก็ตกลงกันได้

“ครึ่งนึง! ตกลง” ไนเรลรีบตอบตกลงทันที

ทันใดนั้นประตูก็เปิดมันเป็นเจ้าคาปิบาราที่กัดเชือกที่ผูกไว้กับลูกบิดประตู

ประตูเปิดออกพวกเขาก็เข้าไปด้านในทันที และทุกคนก็ได้แต่เงียบจนได้ยินแค่เสียงลมหายใจของคนรอบข้าง

ไนเรลและแมวน้อยสีขาวโผ่ลหัวมองออกไปที่หน้าต่างบานเกรด แต่ด้วยขาที่สั้นของแมวน้อยที่ยืนอยู่บนหัวคาปิบาราไม่สะดวกนักมันจึงกระโดดไปนั่งบนไหล่ของไนเรลแทน

เหตุการณ์นี้กินเวลาถึง 1 ชั่วโมง ทันทีที่ไนเรลให้สัญญาณว่าพวกฝูงซอมบี้มันไปแล้ว ทุกคนก็ถอนหายใจโล่งอกทันที

ในหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาความรู้สึกของทุกคนเหมือนกับเล่นกู้ระเบิด ไนเรลเองก็ปาดเหงื่อบนหน้าผากในขณะที่แมวน้อยก็ทำท่าปาดเหงื่อเช่นกัน

แต่แล้วมันก็หันมามองที่ไนเรลแล้วใช้อุ้งเท้าตบไปที่ไหล่ของเขาเพื่อเป็นการเตือนว่า “แม้ว ๆ ๆ (ข้อตกลง)”

“รู้แล้วน่า” ไนเรลหยิบเนื้อต่อหัวเสือกลายพันธุ์รมควันแบ่งให้กับแมวน้อย ส่วนคนอื่น ๆ ก็ทำตามเขาแบบงง นิเรียหยิบผลไม้กระป๋องที่เธอเอามาด้วยออกมาเช่นกัน

เมื่อแมวน้อยเห็นเนื้อต่อหัวเสือกลายพันธุ์ลมควันก็รีบกินทันที ส่วนเจ้าคาปิบาราก็เดินไปที่ผลไม้กระป๋องมันใช้ฟันกัดไปทีเดียวกระป๋องก็ขาดออกเผยให้เห็นผลไม้เเสนอร่อย มันก็ลงมือกินเช่นกัน

ระหว่างที่ทั้งสองคน ไม่สิบสองตัวกำลังกินอยู่นั้น นิเรียก็ถามไนเรลแบบงง ๆ “พี่ชายฟังที่มันพูดรู้เรื่องด้วยเหรอ?”

“รู้สิ! ทุกคนไม่รู้เหรอ?” ไนเรลถามออกไป แต่พอเห็นว่าทุกคนส่ายหัวเขาก็พอจะรับรู้บางอย่างได้หรือว่ามันจะเป็นพวกอสูร

อสูรในที่นี้ คือ สัตว์ที่พัฒนาจนมีสติปัญญา บางจำพวก มันฉลาดกว่ามนุษย์ก็มี บางพวกก็วิวัฒนาการจนเปลี่ยนรูปร่างเป็นลักษณะของมนุษย์ อสูรที่ถือกำเนิดมานั้นถือว่าพิเศษมาก

ส่วนอีกพวกที่เรียกว่าเผ่าพันธุ์ยักษ์เถื่อนนั้นมันมาจากอีกที่หนึ่ง

ในชีวิตที่แล้ว สามเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญามนุษย์ อสุรกาย ยักษ์เถื่อน ต่างแย่งชิงทรัพยากรและการอยู่รอด

แต่ถึงแม้มนุษย์จะมีเทคโนโลยีเข้าช่วยพวกเขาก็ยังจัดเป็นเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอที่สุด

ตอนนี้มีอสูรน้อยอยู่ข้างหน้าเขาแล้ว ‘ฆ่ามันทิ้งเลยดีไหม’

แมวน้อยรู้สึกได้ถึงสายตาและความคิดของไนเรลมันก็ตั้งท่าสู้ทันที ขนที่ฟูฟ่องกรงเล็บที่กางออกจากอุ้งเท้าเล็กนั้นมันทำให้ไนเรลคิดถึงตัวเขาในอดีต

สองมือที่สู้กับซอมบี้ ปากและฟันที่กัดกินซากคน กินเพื่อเอาชีวิตรอด มันเหมือนกับเขาเลย ทั้งแมวน้อยและไนเรลจ้องกันอยู่สักพัก ทั้งคู่ก็หัวเราะออกมา

ไนเรลถามไปที่แมวน้อย “นายชื่ออะไร?”

“เหมียว มี้ๆ”

ทันทีที่มันได้ยินคำถามของไนเรลก็ประท้วงทันที

“เป็นตัวเมีย”

“แม้วๆๆๆ”

“ชื่อมะลิ”

“ม้าว เหมียว ม้าว”

“ส่วนเจ้านั้นชื่อ ธีโอ”

ไนเรลพูดทุกสิ่งที่แมวน้อยบอกออกมา ส่วนคนอื่น ๆ ก็ได้แต่ฟังที่ไนเรลพูด หนึ่งคน หนึ่งแมว นั่งคุยกัน

บางครั้งแมวน้อยก็จะโบกมือไปมาเป็นการปฏิเสธบางครั้งมันก็พยักหน้า

“แม้ว มี้ แม้ววววววววว...”

“อย่างนี้นี่เอง” ไนเรลพยักหน้าตอบและทั้งสองคน ไม่สิและทั้งคนและแมวก็ยื่นมือจับกับอุ้งเท้า ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำข้อตกลงกันได้แล้ว

“เอาละ! มะลิและธีโอจะไปกับพวกเรา” ไนเรลหันมาบอกกับทุก

“พี่ไนเรลไม่ตกใจเหรอ? ที่เข้าใจที่แมวพูด” ดามินที่เงียบมาตลอดก็ถามขึ้นมาด้วยความที่เขาเป็นคนอ่านหนังสือ ดูข่าว สื่อออนไลน์มาเยอะ เขาก็พอจะรู้มาบ้างว่ามักมีพวกที่เรียกตัวเองว่าทาศแมวและบอกว่าคุยกับแมวรู้เรื่อง

แต่ที่เขาเห็นพวกนั้นคุยกับแมว แมวมันก็ไม่สนใจอะไร เขาเลยคิดว่าทาสแมวตัวจริงต้องคุยกับแมวรู้เรื่อง ‘หรือว่าพี่ไนเรลจะเป็นทาสแมวตัวจริง สมแล้วกับที่เป็นพี่ชาย ของลูกพี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ’

ไนเรลมองดามินที่พยักหน้าไปมาอยู่คนเดียวและพูดขัดขาก่อนที่จะไปไกลกว่านี้

“มันมีความสามารถพิเศษในการสื่อสารทางจิตนะ” ไนเรลอธิบาย

แมวน้อยพยักหน้าเป็นการบอกว่า “เมี้ยว ๆ (แม่นแล้ว)” แต่เหมือนมันจะพูดบางอย่างอีก ไนเรลก็รีบแปลทันที

“เมี้ยวๆๆๆ มี้ ง้าวว มี้ ม้าวววว”

“มันบอกว่ายังมีความสามารถอื่น ๆ อีกนะ แต่ไม่บอกหรอก….” เมื่อฟังจบเขาก็หันไปเถียงกับมันทันที “ไม่บอก! แล้วจะพูดหาอะไร?”

ทุกคนมองไปที่ไนเรลปกติเขาจะเป็นพวกเย็นชาสนใจแต่น้องสาวเท่านั้น แต่ในตอนนี้เขากับสนุกในการพูดคุยกับแมวน้อยมะลิซะงั้น

“พี่ชาย...” นิเรียที่นั่งอยู่ด้านข้างก็เรียกเขา ไนเรลจึงปรับอารมณ์และเลิกเถียงกับแมวน้อย

“เดี๋ยวพี่จะออกไปดูด้านนอกก่อนนะ” ไนเรลเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ เพื่อดูว่าซอมบี้ไปหมดหรือยัง

ส่วนนิเรียและแมวน้อยก็ดูจะไม่ลงรอยกันสายตาทั้งคู่จ้องมองกันราวกับจะมีประกายไฟขึ้นมา

ดามินได้แต่ส่ายหน้าและเดินไปสำรวจดูรอบ ๆ ห้อง เขาพบกับศพหญิงชราและเขาก็กลับมาพร้อมหนังสือที่ด้านในมีรูปถ่ายของมะลิ ธีโอ และหญิงชราอยู่

ในขณะที่หมอแฮรี่และเมสันก็จ้องไปที่เจ้าคาปิบารา และคุยกันว่า จะผ่าทดลองร่างกายมันอย่างไร สร้างอาวุธแบบเจ้าคาปิบาราดีหรือไม่

ผ่านไปสักพักไนเรลก็กลับเข้ามาและบอกให้พวกเขาพักผ่อนสักสามชั่วโมงพวกเขาจะออกเดินทางต่อ

การค้างคืนอยู่ที่นี่ไม่ปลอดภัย มันเหมือนกับอยู่ในกรงขังรอให้ซอมบี้หาเจอเท่านั้น พวกเขาต้องออกไปจากเมืองโดยด่วน

และในตอนนั้นมะลิก็ได้มาขอให้ไนเรลช่วยฝังศพคุณยายของเธอ ซึ่งไนเรลก็ช่วยอย่างเต็มที่เช่นกัน

ไนเรลเองก็ใช้เวลา 3 ชั่วโมงนี้อย่างคุ้มค่าโดยการนอนหลับทันที แต่ก่อนนอนเขาก็เปลี่ยนชุดและทิ้งชุดเก่าที่เต็มไปด้วยเลือดของซอมบี้

และแล้วเวลา 3 ชั่วโมงก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วมันเริ่มที่จะมืดแล้วเพราะตอนนี้มันเป็นเวลา 6 โมงเย็น

“ไปกันเถอะ” ไนเรลหันไปบอกกับทุกคน

พวกเขารีบวิ่งออกมาจากตึกห้องเช่าและตรงไปที่สะพาน โดยมีเจ้าคาปิบาราที่สะพายกระเป๋าน้อย ๆ วิ่งนำและมีแมวน้อยอยู่บนหัวของมันเพื่อบอกเส้นทาง

ในที่มีเเสงน้อยแบบนี้แมวน้อยกับเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจน แต่นิเรียเองก็เห็นได้ชัดเจนเช่นเดียวกับแมวน้อยเช่นกันเพราะความสามารถของเธอ [ดวงตาเทพ S]

นั้นทำให้ทั้งทีมปลอดภัยขึ้นเป็นอย่างมาก

ด้วยสะพานที่เล็กและแคบพวกเขาจึงต้องเบียดตัวผ่านรถยนต์ที่จอดเรียงรายกันอยู่บนสะพานไปอย่างทุลักทุเลพอสมควร

พวกเขาข้ามสะพานมาได้ครึ่งทางแล้วอยู่ ๆ มะลิก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ

“เมี้ยวๆ!!!”

“แย่แล้วมีบางอย่างกำลังตรงมาทางนี้” นิเรียเองก็เห็นเช่นกัน เธอชี้ไปที่ด้านหลังทางที่พวกเขามา

ตูม! ปัง!

มันคือซอมบี้ยักษ์ ขั้น 2 ที่เดินนำฝูงซ้อมบี้มา ด้วยตัวที่มีขนาดใหญ่ มันจึงชนและพักดันรถยนต์ที่ขวางทางเดินออก ทำให้ซอมบี้ที่ตามมาด้านหลังเดินมาได้อย่างง่ายดาย

“เร็ววิ่งเลย”

ทุกคนพากันวิ่งหนีอย่างสุดกำลัง มะลิที่นั่งอยู่บนหัวธีโอก็พากันกระโดดไปบนหลังคารถอย่างรวดเร็ว ส่วนซอมบี้ยักษ์ ขั้น 2 ก็เริ่มเร่งความเร็วตามพวกเขาแต่มันก็ยังช้าเป็นอย่างมาก

เมื่อออกมาพ้นสะพาน พวกเขาก็หันกลับไปมองดูพวกซอมบี้ก็ยังตามมาอยู่

“เอาไงดี?” หมอแฮรี่พูดออกมา

ไนเรลเหมือนจะมีความคิดบางอย่าง “เมสันคุณทำแบบนี้ได้ไหม?”

ไนเรลและเมสันซุบซิบกันอยู่สักพัก ก็เริ่มลงมือกัน

เขาเอาระเบิดมือทั้ง4 ลูกให้เมสันจัดการส่วนทุกคนช่วยกันเปิดฝาถังน้ำมัน ไนเรลใช้แรงของเขาผลักรถจนน้ำมันในรถไหลไปตามสะพาน

หลังจากนั้นทุกคนก็รีบถอยออกมาจากสะพานไปไกลเหลือเเค่เมสันและไนเรลที่ทำบางอย่างอยู่

“ฮ้าา” ไนเรลออกเเรงปาถังที่มีระเบิดอยู่ไปกลางสะพาน

“วิ่งเร็ว” เมสันและไนเรลวิ่งกันสุดกำลัง หนึ่งคนแก่ หนึ่งคนหนุ่ม วิ่งกันหน้าตั้ง

5…

4…

3…

2…

ตูม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ระเบิดลูกนั้นรุนแรงมาก สะพานสั่นสะเทือนเล็กน้อยทันที ซอมบี้ยักษ์ขั้นสอง ถึงกลับกระเด็นหน้าอกของมันเละไปเป็นเนื้อบดทันที

แต่ด้วยพลังชีวิตที่อึดของมันก็ลุกขึ้นเดินต่อ

แต่มันไม่ได้หมดแค่นั้น ประกายไฟจากระเบิดทำให้น้ำมันที่พื้นลุกเป็นทะเลเพลิงย่างสดพวกซอมบี้ทั้งหมด และแล้วสิ่งที่พวกเขาหวังผลก็มาถึงนั้นก็คือ

ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!

รถยนต์ที่อยู่บนสะพานเริ่มระเบิดกันอย่างต่อเนื่อง จากกลางสะพานไล่ออกมาส่องฝั่งทาง

แขนขาของซอมบี้กระจัดกระจายกระเด็นไปตามแรงระเบิด

ไนเรลและเมสันวิ่งกลับมารวมกลุ่มกับทุกคน พวกเขามองดูรถยนต์ระเบิดจากบนเนิน ส่วนแมวน้อยมะลินั้นก็ล้วงไปหยิบเนื้อแห้งจากในกระเป๋าหลังเจ้าคาปิบาราออกมากันพร้อมชมวิวดอกไม้ไฟระเบิดอย่างสบายใจ

หลังจากแรงระเบิดสะพานก็ถล่มลงมา ซอมบี้ที่ยังไม่ตายทั้งหมดก็หล่นลงไปในแม่น้ำแล้วก็กลายเป็นงานเลี้ยงให้กับปลาและสัตว์น้ำกลายพันธุ์จำนวนมาก

“กรรรรร!! ว๊าก…..!!!” ซอมบี้ยักษ์ ขั้น 2 ดูจะเนื้อหอมเป็นพิเศษ มันถูกลุมฉีกร่างแยกไปคนละทาง

ทุกคนมองไปที่แม่น้ำแล้วก็ขนลุกขึ้นมา มันมีสัตว์กลายพันธุ์จำนวนมาก มากจนในน้ำไม่มีพื้นที่ให้พวกมันว่ายไปมา

พวกเขาไม่อยากคิดเลย ถ้าตนเองตกลงไปในน้ำจะเกิดอะไรขึ้น?

“ไปกันต่อเถอะ” ทุกคนออกเดินทางกันต่อเพื่อออกห่างจากเมืองซานติเกียให้เร็วที่สุด

กลุ่มของไนเรลเดินกันอีก 3 ชั่วโมงและแล้วก็เจอกับรถบรรทุก 6 ล้อขนผักที่จอดทิ้งไว้ข้างทาง แต่รถมันสตาร์ทไม่ติด ไนเรลจึงให้เมสันจัดการ ซึ่งเมสันก็ถึงกับบ่นว่า ‘เขาเป็นช่างทำอาวุธ ไม่ใช่ช่างซ่อมรถ’ แต่เขาก็ได้แต่ก้มหน้าซอมรถบรรทุก 6 ล้ออยู่ดี

ใช้เวลาไม่นานรถบรรทุกคันเก่าก็ออกวิ่งอีกครั้ง โดยที่มีหมอแฮรี่เป็นผู้ขับและดามินนั่งอยู่ด้านข้างเพื่อเรียนรู้วิธีการขับรถกับเขา

นิเรียเองก็นั่งอยู่ด้านข้างเพื่อคอยเตือนเวลาเจอซอมบี้ไกล ๆ

ส่วนไนเรลและแมวน้อยมะลินั่งอยู่ข้างหลังกระบะทั้งคู่หลับไปทันที ไนเรลจะพยายามหลับในทุกครั้งที่เขามีโอกาส เพื่อให้ตัวเองพร้อมที่สุดอยู่ตลอดเวลา

ส่วนเจ้าธีโอก็ถูกเจคอบหลอกล่อด้วยหญ้าที่เก็บมาจากข้างทาง มันก็กินโดยไม่สนว่าเจคอบจะกอดมันอยู่เลยแม้แต่น้อย

และแล้วรถบรรทุก 6 ล้อก็วิ่งตรงสู่ค่ายลี้ภัยของเขตตะวันออกไป ในยามค่ำคืนที่เงียบสงบ

.....................................

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด