Crisis ตอนที่ 8 : ค่ายผู้ลี้ภัย
Crisis : WorldDestruction ตอนที่ 8 : ค่ายผู้ลี้ภัยชั่วคราว
หานตงจวิน เป็นคนวิ่งนำหน้ากลุ่มพวกเขาให้ ฟ่านเสียน กับขงเชี่ยเอ๋อ อยู่ตรงกลางโดยมี เสี่ยวถัง คอยวิ่งปิดท้าย ด้านล่างตรงบริเวณทางเข้าของตึก Channel TV News ในเวลานี้มีซอมบี้หลายตัวรายล้อมอยู่ พวกเขาจัดการกับซอมบี้ตัวที่อยู่ด้านหน้าเพื่อเปิดทางเท่านั้น ฟ่านเสียน และขงเชี่ยเอ๋อ คอยช่วยสกัดซอมบี้ตัวอื่นๆ เป็นบางครั้ง พวกเขาไม่จำเป็นต้องฆ่าพวกมันทั้งหมด เพียงแค่วิ่งไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เสียงคำรามของซอมบี้ดึงดูดซอมบี้ตัวอื่นๆ ให้ไล่ตามพวกเขามาติดๆ จำนวนของพวกมันมีมากเกินกว่าที่พวกเขาจะรับมือไหว พวกเขารีบวิ่งตัดเข้าไปในซอยเล็กๆ ด้านข้างของตึก แต่กลับไปเจอกับซอมบี้อีกฝูงหนึ่งปิดกั้นเส้นทางเอาไว้ พวกเขาถูกซอมบี้ปิดล้อมเอาไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
" นั่น! ตรงนั้น! " เสี่ยวถัง ชี้ไปที่บันไดหนีไฟ พวกเขาพากันเปลี่ยนเส้นทางแล้วรีบวิ่งไปที่บันไดหนีไฟทันที
" ปังง! ปังงง! ปังง! ปัง! ปัง! ปัง! ปังงง! "
เหวินเซียะ กับเหลียวกง เปิดฉากยิงซอมบี้ที่กำลังวิ่งกรูเข้ามาเพื่อถ่วงเวลาให้คนอื่นๆ ปีนบันไดขึ้นไป ก่อนจะดึงสลักระเบิดมือแล้วขว้างมันออกไป
" บรึ้มมม! บรึ้มมมมม! "
เสียงระเบิด 2 ลูก ดังสนั่น แรงระเบิดฉีกร่างของซอมบี้จนแหลกเละ ระเบิดเพียงแค่ถ่วงเวลาให้ซอมบี้ช้าลงเท่านั้น แต่มันก็มากพอที่จะซื้อเวลาให้พวกเขาหนีไปจากตรงนี้ได้สำเร็จ
พวกเขาปีนขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้าของอาคารแล้วก็พากันวิ่งไปข้ามไปยังอีกอาคารหนึ่งที่สร้างติดกัน มีบางช่วงต้องกระโดดข้ามไปที่อาคารอีกฝั่ง เพราะบางอาคารไม่ได้สร้างเชื่อมติดกัน มีช่องว่างห่างกันเกือบๆ 2 เมตร พวกเขากระโดดข้ามมันไปด้วยความหวาดเสียว เมื่อวิ่งไปจนสุดอาคารพวกเขาก็เดินลงตรงบันไดหนีไฟที่อยู่ด้านหน้าอาคารแล้ววิ่งตัดข้ามถนนไปยังอีกฝั่งทันที
ดูเหมือนใกล้จะถึงขีดจำกัดของทุกคนโดยเฉพาะ ขงเชี่ยเอ๋อ เธอดูอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม หานตงจวิน จึงนำทุกคนเข้าไปหลบร้านซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่งเพื่อหยุดพัก หลังจากเห็นว่าพวกเขาน่าจะหนีพ้น และปลอดภัยจากฝูงซอมบี้เหล่านั้นแล้ว
" เราจะแวะพักที่นี่กันก่อน จากนั้นค่อยเดินทางต่อ! " หานตงจวิน บอกให้ทุกคนพักเหนื่อย หลังจากหลบเข้ามาด้านในร้านซ่อมรถยนต์
หลังเหตุการณ์วันสิ้นโลก การพุ่งชนของหินอุกกาบาตได้ลดจำนวนประชากรไปมากกว่า 60% ของโลก คลื่นรังสีจากการระเบิดของดาวหางส่งผลกระทบโดยตรงกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ บนโลก ระบบการสื่อสารบนโลกล้มเหลวเนื่องจากดาวเทียมทั้งหมดถูกทำลายไปจนหมดสิ้น ต่อมาไวรัสจากหินอุกกาบาตได้เปลี่ยนศพคนตายให้กลายซอมบี้ ทำให้มีประชากรบนโลกลดลงไปอีกเหลือเพียงแค่ 10% เท่านั้น
มีผู้รอดชีวิตอีกจำนวนมากที่ไม่ได้ถูกส่งตัวไปยังศูนย์หลบภัย หลายคนรวมกลุ่มกันเพื่อต่อสู้กับซอมบี้ พวกเขาใช้อาคาร หรือห้างร้านภายในเมืองเป็นที่พักอยู่อาศัย และใช้มันเป็นป้อมปราการป้องกันการจู่โจมจากซอมบี้ หลายคนยังตั้งความหวังเอาไว้ว่ารัฐบาลจะส่งทหารเข้ามาช่วยพวกเขา
ผู้รอดชีวิตหลายคนกลัวเกินไปที่จะต่อสู้กับซอมบี้ พวกเขาอ่อนแอ และถูกกดขี่จากคนที่แข็งแกร่งกว่า ผู้รอดชีวิตที่ได้รับสกิลต่อสู้ พวกเขาเติบโตและแข็งแกร่งได้เร็วกว่าผู้รอดชีวิตทั่วไป คนเหล่านี้สามารถจัดการกับซอมบี้ได้อย่างง่ายดาย พวกเขากลายเป็นผู้กุมอำนาจ และยกตัวเองขึ้นเป็นผู้นำของกลุ่มในเวลาต่อมา
ภายในเมืองกลุ่มผู้รอดชีวิตเริ่มต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงอาหาร บางกลุ่มอาศัยจำนวนคนที่เหนือกว่าบุกเข้ายึดทำลายฐานที่มั่นของอีกฝ่าย และบังคับให้เป็นทาส ในโลกอันแสนโหดร้ายในตอนนี้กฏหมายไม่สามารถใช้จัดการคนเหล่านี้ได้ ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้นถึงจะได้ครอบครองทุกสิ่ง ความแข็งแกร่ง คือ กฏหมาย
. . . . . . . . . . . . . . . . . .
" อ๊าาาา! อาาาาาร์! "
เสียงร้องคราญครางของหญิงสาวดังระงมไปทั่วห้อง บนร่างกายของเธอมีชายคนหนึ่งกำลังบดขยี้ความเป็นชายกับเรือนร่างของหญิงสาวอย่างเร่าร้อน เสียงหายใจหอบกระเส่ากระชันถี่มากขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลงร่างของทั้งสองก็เกร็งกระตุกสั่นสะท้านอยู่ครู่หนึ่ง ร่างกายอันกำยำผละออกจากหญิงสาวโดยไม่ใยดี เขาหยิบบุหรี่ม้วนหนึ่งขึ้นมาจุด ก่อนจะสูดควันเข้าไปเต็มปอดแล้วพ่นลมหายใจออกมาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
ชายคนนี้ชื่อว่า จ้าวเฟิง เขาเป็นหัวหน้าโจรของแก๊งมังกรดำ เขาพาลูกน้องออกตระเวนปล้นชิงสิ่งของมีค่าต่างๆ ภายในเมือง เหยื่อทุกคนถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม พวกมันไว้ชีวิตเฉพาะหญิงสาวและจับตัวกลับมาเพื่อใช้เป็นที่สนองตัณหาของพวกมันเท่านั้น ภายในแก๊งตอนนี้มีสมาชิกมากกว่า 30 คน
" ก๊อกก! ก๊อก! ก๊อกก! " มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก
" เข้ามา! " จ้าวเฟิง ขานตอบ
ฮั่วซาง เปิดประตูเดินเข้ามาก็มองเห็นหญิงสาว 2 คน ถูกมัดมือทั้งสองข้างเอาไว้กับหัวเตียง พวกเธอนอนหมดสภาพในลักษณะที่เปลือยกาย หญิงสาวทั้งสองพึ่งถูกจับตัวมาเมื่อ 5 วันก่อน จ้าวเฟิง เห็นหญิงสาวทั้งสองเป็นเพียงแค่ตุ๊กตายางที่มีไว้สำหรับระบายความใคร่เท่านั้น หลังจากเขาเล่นสนุกกับพวกเธอจนเบื่อแล้ว ก็จะส่งพวกเธอให้กับบรรดาลูกสมุนของมันได้ร่วมสนุกกัน
" ลูกพี่! พวกเราพบหมาป่าพลัดหลงเข้ามา 6 ตัว พวกมันมีอาวุธครบมือ เป็นผู้ชาย 4 อีก 2 คน เป็นผู้หญิงครับ " ฮั่วซาง รีบมารายงานหลังจากพวกมันพบกลุ่มของ ฟ่านเสียน ไม่ไกลจากรังของพวกมัน
" ส่งคนจับตาดูพวกมันไปก่อนอย่าพึ่งพลีพล่าม รอพวกมันเผลอเมื่อไหร่แล้วค่อยลงมือ เราไม่จำเป็นต้องเปลืองกระสุนโดยเปล่าประโยชน์ " จ้าวเฟิง พูดแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย
กลุ่มของ ฟ่านเสียน ได้พักเหนื่อยไม่นานทุกคนก็รู้สึกดีขึ้น หลังจากซ่อมระบบการสื่อสารไม่นานศูนย์บัญชาการก็ติดต่อพวกเขากลับมา
" หัวหน้าครับ! ศูนย์บัญชาการแจ้งให้เรารีบกลับฐานโดยเร็วที่สุด มีภารกิจระดมพลเร่งด่วนครับ " เหวินเซียะ รีบแจ้ง หานตงจวิน ทันทีหลังได้รับการติดต่อจากศูนย์บัญชาการ
" เหลียวกง! ออกไปหารถยนต์มาคันหนึ่ง พวกเราจะขับรถกลับไปศูนย์บัญชาการ " หานตงจวิน กางแผนที่ออกมาเช็คตำแหน่งเส้นทางที่เขาได้ทำเครื่องหมายเอาไว้ ถนนบริเวณรอบๆ นอกเมืองค่อนข้างโล่งไม่มีรถยนต์จอดกีดขวาง และไม่มีอาคารสูงถล่มลงมาปิดทับเส้นทาง อาจจะต้องขับรถอ้อมเล็กน้อยแต่มันก็เป็นเส้นทางที่ปลอดภัย
" ได้ครับ! หัวหน้า " เหลียวกง รับทราบคำสั่งแล้วรีบเดินออกไปหารถยนต์ทันที
ใช้เวลาไม่นาน เหลียวกง ก็พบรถยนต์คันหนึ่งสภาพของเครื่องยนต์ยังใช้ได้จอดอยู่ด้านหลัง หลังจากตรวจเช็คสภาพ และเติมน้ำมันเต็มถังเรียบร้อย รถยนต์ของพวกเขาก็พร้อมจะได้เดินทางได้ทุกเมื่อ
. . . . . . . . . . . . . . . . . .
" บรื้นนนนนนน! เอี๊ยกกก . . กกก . ก! "
รถยนต์คันหนึ่งกำลังดริฟเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงผ่านกลางสี่แยกไฟแดงแห่งหนึ่ง ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากล้อรถราวกับเกิดเพลิงไหม้ กลุ่มของ ฟ่านเสียน พึ่งจะเลี้ยวรถตัดหน้าฝูงซอมบี้ไปอย่างฉิวเฉียด หากพวกเขาขับมาช้ากว่านี้คงพลาดโอกาสที่จะฝ่าฝูงซอมบี้เหล่านี้ออกไปได้อย่างปลอดภัย
" ย่าฮูวววว! เกือบไปแล้วเชียว! " เหลียวกง ตะโกนออกมาด้วยความสะใจ หลังจากเขาโชว์ดริฟตัดหน้าฝูงซอมบี้กลางสี่แยก
ใบหน้าของ เสี่ยวถัง และขงเชี่ยเอ๋อ เปลี่ยนเป็นหมองคล้ำ เหลียวกง ขับรถส่ายไปส่ายมาเพื่อหลบสิ่งกีดขวาง และหลบหลุมบนถนนมาตลอดทาง ยิ่งกว่านั้น เขายังโชว์ดริฟกลางสี่แยกเมื่อครู่นี่อีก ทำให้ท้องไส้ของทั้งสองสาวปั่นป่วนจนพวกเธอทนไม่ไหว ต้องรีบลดบานกระจกลงแล้วอ้วกออกมาทันที
" อ๊อกกกกกกกกกก! " หลังจากอ้วกอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าของพวกเธอก็ดีขึ้นเล็กน้อย
" ไอ้บ้าเหลียวกง! นายขับรถให้มันดีๆ กว่านี้ไม่ได้หรือไง " เสี่ยวถัง หันกลับมาบ่นพร้อมกับเช็คคาบเลอะที่มุมปาก
" ฮา ฮา ฮ่า ฮ่า! โทษทีสาวๆ ถ้าขับช้ากว่านี้ เราคงขับไปไม่ถึงฐานแน่นอน " เหลียวกง มองไปที่กระจกมองหลัง ก็พบแววตาที่น่ากลัวของ เสี่ยวถัง กำลังจ้องมองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจและหัวเราะเสียงดัง เสี่ยวถัง บ่นด่าเขาอยู่หลายครั้งตลอดการเดินทาง
. . . . . . . . . . . . . . . . . .
จ้าวเฟิง มองรถยนต์ที่พึ่งขับออกไปผ่านเลนส์กล้องส่องทางไกล เขารู้สึกเสียดายที่ปล่อยให้เหยื่อหลุดรอดมือไปก่อนจะทันได้ลงมือ
เวลาผ่านไปอีก 2 ชั่วโมง รถยนต์ก็ขับมาถึงค่ายผู้ลี้ภัย พวกเขาใช้อาคารที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกันตรงบริเวณสี่แยกเป็นป้อมปราการ โดยใช้รถบัสที่เสริมแผ่นเหล็กเลื่อนเข้าออกแทนประตู ส่วนกำแพงประตูสร้างขึ้นจากซากของรถยนต์ที่เอามาวางทับซ้อนกันแล้วเชื่อมโครงเหล็กเสริมเข้าไปให้มันแข็งแรง ด้านบนของกำแพงเสริมนั่งร้านแล้วติดตั้งป้อมปืนกลเอาไว้หลายจุดเพื่อป้องกันซอมบี้โจมตี
พอถึงค่าย หานตงจวิน ก็แยกตัวออกไปเพื่อเข้าพบผู้บัญชาการ และรายงานข้อมูลภารกิจ ฟ่านเสียน และขงเชี่ยเอ๋อ ถูกพาตัวไปยังห้องพักรับรอง หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองก็ถูกเรียกให้เข้าพบผู้บัญชาการเป็นการส่วนตัว
" ยินดีต้อนรับ ผมคือ ผู้การเจียลู่ เป็นผู้บัญชาการของค่ายผู้ลี้ภัยแห่งนี้ ผมได้ฟังเรื่องราวของพวกคุณมาเยอะจากปากของผู้กองหานตงจวิน หากไม่ได้พวกคุณทั้งสองให้การช่วยเหลือ ภารกิจครั้งนี้คงต้องคว้าน้ำเหลว " ผู้การเจียลู่ กล่าวต้อนรับด้วยความยิ้มแย้ม
" ท่านกล่าวชมพวกเราเกินไปแล้ว หากให้พูดตามตรง ผมมีเรื่องให้ท่านช่วยอยู่เรื่องหนึ่ง " ฟ่านเสียน กล่าวด้วยความประหม่าเล็กน้อย
" อ้อ! เรื่องพ่อกับแม่ของคุณ ผมรับปากจะช่วยเหลือคุณเต็มที่ แต่ . . . ตอนนี้เรายังติดต่อกับทางศูนย์หลบภัยไม่ได้ คงต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่ง ผมถึงจะให้คำตอบกับคุณได้ "
" ขอบคุณท่านผู้การ! ที่ช่วยตอบรับคำขอเล็กๆ จากผม "
" ตอนนี้ค่ายผู้ลี้ภัยของเรากำลังขาดแคลนกำลังคนอย่างมาก ผมขอให้คุณพักอยู่กับเราที่นี่สักระยะหนึ่ง ผมอาจต้องพึ่งพาความสามารถของคุณ ช่วยพวกเราจัดการกับซอมบี้ที่พยายามบุกเข้ามาทำลายค่ายผู้ลี้ภัยแห่งนี้ "
" ผมจะช่วยเท่าที่จะทำได้ครับ "
" เอาละ ผมไม่รบกวนเวลาของพวกคุณแล้ว เชิญพวกคุณทั้งสองกลับไปพักผ่อนได้ "
ค่ายผู้ลี้ภัยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นก่อนเหตุการณ์วันสิ้นโลก พวกเขาเป็นทหารที่ถูกส่งมาปกป้องสะพานฝั่งตะวันตก เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมประท้วงนำกำลังคนมาปิดกั้นสะพานเอาไว้ หลังจากข่าวการพุ่งชนของอุกกาบาตได้ถูกเผยแพร่โดยสำนักข่าวต่างๆ ก็เกิดความวุ่นวายทั่วทั้งเมือง รัฐบาลจึงต้องส่งกองกำลังของทหารออกมาป้องกันจุดสำคัญต่างๆ ในเมืองเอาไว้
ฟ่านเสียน ได้รับการดูแลอย่างดีจากผู้การ พวกเขามีห้องพักส่วนตัวเป็นของตัวเอง ในระหว่างที่ ขงเชี่ยเอ๋อ กำลังอาบน้ำ ฟ่านเสียน ได้จัดเตรียมรายการไอเทมสำหรับสร้าง เตาหลอมโลหะ หลังจากสกิลอาชีพ [BlackSmith] ได้รับการปลดล็อค เขาก็อยากจะลองสร้างสิ่งของต่างๆ เต็มไปหมด
มีประกายแสงสว่างจ้าปรากฏขึ้นที่หน้าต่างระบบ หลังจากไอเทมที่จัดเตรียมเอาไว้หาย ใช้เวลาไม่นานเตาหลอมโลหะก็ถูกสร้างขึ้นเสร็จสมบูรณ์ มันถูกส่งไปอยู่ในช่อง Ability item ของหน้าต่างระบบอาชีพ [BlackSmith] ฟ่านเสียน ไม่จำเป็นต้องเอาเตาหลอมออกมาตั้งไว้ด้านนอกเพื่อทำการหลอมโลหะในแบบปกติ เขาสามารถหลอมวัตถุดิบต่างๆ อย่างเช่น แร่เหล็กดิบ [Iron Ore] ให้กลายเป็น แท่งเหล็ก [Iron Ingot] ผ่านทางหน้าต่างของระบบได้เลย
[ เตาหลอมโลหะ ได้ถูกสร้างขึ้นเสร็จสมบูรณ์! ]
ฟ่านเสียน ยังขาดไอเทมอีกชิ้นหนึ่งนั่นก็คือ ทั่งตีเหล็ก มันต้องใช้ แท่งเหล็ก [Iron Ingot] เป็นวัตถุดิบหลักในการสร้างขึ้นมา ฟ่านเสียน ไม่รอช้ากดยืนยันการสร้าง ทั่งตีเหล็ก ทันทีเมื่อได้รับ แท่งเหล็ก [Iron Ingot] ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด
[ ทั่งตีเหล็ก ได้ถูกสร้างขึ้นเสร็จสมบูรณ์! ]
ฟ่านเสียน ดีใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นรายการสร้างไอเทมอาวุธต่างๆ ได้รับการปลดล็อค เขาตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดของไอเทมเหล่านั้น แต่ก็พบว่าค่าพลังโจมตีของมันน้อยกว่าไอเทมที่ดรอปจากซอมบี้ หากเขาต้องการสร้างอาวุธที่มีค่าพลังโจมตีที่สูงกว่านี้ เขาจำเป็นต้องเลื่อนระดับสกิลอาชีพ [BlackSmith] ขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ ถึงจะสามารถสร้างอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมได้ เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ฟ่านเสียน ก็เปิดใช้งานไอเทมเลื่อนระดับสกิลโดยตรงทันที
[ สกิลอาชีพ [BlackSmith] ของคุณได้เลื่อนระดับเป็น Level 2! ]
= [Passive Skills] =
[BlackSmith : Lv 2] ความเชี่ยวชาญในสร้างอุปกรณ์ระดับ Expert
คุณสมบัติพิเศษ : สามารถตรวจพบแร่ได้ในระยะ 200 เมตร [+ได้รับแร่เพิ่ม 2 เท่า]
สามารถอัพเกรดได้ : เงื่อนไขที่ต้องการ ใช้ 8 Skill point!
==================
