ตอนที่แล้วCrisis ตอนที่ 5 : ซอมบี้ร่างวิวัฒนาการขั้นที่ 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCrisis ตอนที่ 7 : Elite Zombie

Crisis ตอนที่ 6 : หน่วยพยัคฆ์ขาว


Crisis : WorldDestruction ตอนที่ 6 : หน่วยพยัคฆ์ขาว

บนท้องฟ้าของเมืองฉางไห่ในเวลานี้ ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆฝนก้อนสีดำทั่วทั้งเมือง มันไม่ใช่เมฆฝนตามฤดูกาลปกติ แต่เป็นเพราะฝุ่นละอองจากหินอุกกาบาตที่ลอยฟุ้งกระจายอยู่ในชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้ชั้นบรรยากาศของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน

ฟ่านเสียน และขงเชี่ยเอ๋อ พยายามหาที่พักสำหรับคืนนี้ เมฆฝนบนท้องฟ้ากำลังก่อตัวอย่างรวดเร็ว ดูจากสภาพของอากาศแล้วน่าจะเกิดพายุใหญ่ หากพักตามบ้านชั้นเดี่ยว หรืออาคารเล็กๆ 2 ชั้น อาจไม่ปลอดภัย พวกเขาจะต้องแข่งกับเวลา เพราะทันทีที่ฝนตกสถานการณ์จะเลวร้ายมากยิ่งขึ้น

หลังจากใช้เวลาอยู่พักหนึ่ง ฟ่านเสียน ก็มองเห็นสถานที่เหมาะๆ สำหรับใช้เป็นที่หลบฝน มันเป็นตึกอาคารสูง 5 ชั้น สภาพภายนอกดูทรุดโทรมจากการชนของอุกกาบาต แต่โครงสร้างหลักภายในอาคารยังดูแข็งแรงไม่ได้รับความเสียหาย  ตึกหลังนี้ดูแตกต่างจากตึกอื่นๆ ฟ่านเสียน สังเกตเห็นหลังคาของบ้านหลังเล็กๆ บนชั้นดาดฟ้าของตึก ฟ่านเสียน เดินนำหน้าเข้าไปก่อนแล้วจัดการกับซอมบี้ที่อยู่ด้านของตึกได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความช่วยเหลือของสกิล [Eyes of Mind] ช่วยให้เขาสามารถมองเห็นในที่มืด ใช้เวลาเพียงไม่นานเขาก็พา ขงเชี่ยเอ๋อ ขึ้นไปถึงชั้นดาดฟ้าของอาคาร

ทันใดนั้น สายฝนได้ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ฟ่านเสียน รีบพา ขงเชี่ยเอ๋อ เข้าไปหลบข้างในบ้านทันที ดูเหมือนเจ้าของบ้านคงรีบร้อนออกไปโดยไม่ทันได้ล็อคประตู ฟ่านเสียน หาผ้าหนาๆ มาปิดตามบานหน้าต่าง เพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกมองเห็นแสงสว่างจากภายในห้อง

บ้านหลังเล็กๆ บนดาดฟ้านี้ค่อนข้างสะดวกสบาย มันได้รับการออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว มีห้องครัวเล็กๆ และห้องน้ำ และที่สำคัญคือระบบน้ำประปายังสามารถใช้งานได้ แทงค์เก็บน้ำของบ้านหลังนี้แยกจากอาคารหลักทำให้พวกเขามีน้ำใช้

" ดีจังเลย! คราวนี้เราจะได้อาบน้ำสักที! หลังจากเดินมาทั้งวันฉันรู้สึกอึดอัด และเหนียวไปทั้งตัว " ขงเชี่ยเอ๋อ ดูจะดีใจเป็นพิเศษ เธอลองหมุนก๊อกน้ำในอ่างอาบน้ำแล้วพบว่าน้ำประปายังใช้ได้ หญิงสาวรีบถอดเสื้อผ้าออกแล้วลงไปแช่ตัวในอ่างอาบน้ำทันที

" ครืดดด! " เสียงประตูห้องน้ำแบบบานเลื่อนถูกเปิดออก

" พวกเราน่าจะอาบด้วยกันนะ เพราะน้ำประปาอาจมีไม่มากพอสำหรับอาบสองคน " ฟ่านเสียน เดินถอดเสื้อเข้ามาในห้องน้ำ พร้อมกับยิ้มอย่างมีเลิศนัย

" อุ๊ยย! " ขงเชี่ยเอ๋อ ตกใจเมื่อเห็นชายหนุ่มเปิดประตูเข้ามา เธอรีบเอามือปิดหน้าอกอันใหญ่โตของเธอเอาไว้ด้วยความเขินอาย ถึงแม้ก่อนหน้านี้ พวกเขาจะเคยจูบกันในร้านอาหาร แต่เธอไม่เคยชินที่ต้องเปลือยกายต่อหน้าชายหนุ่ม

ชายหนุ่มนั่งลงด้านหลังของเธอ ก่อนจะลูบไล้ไปตามร่างกายของหญิงสาวแล้วใช้มือข้างหนึ่งบีบเค้นหน้าอกของเธอ หญิงสาวถึงกับขบเม้มริมฝีปากด้วยความเสียวซ่าน ชายหนุ่มรวบตัวหญิงสาวเข้ามากอดพร้อมกับจูบไปที่ริมฝีปากของเธออย่างดูดดื่ม

เสียงคราญครางของทั้งสองถูกกลบด้วยเสียงของสายฝนด้านนอกที่กำลังพัดโหมกระหน่ำ ไฟสวาทของทั้งสองไม่มีท่าทีที่จะสงบลงโดยง่าย หลังจากออกมาจากห้องน้ำ พวกเขาทั้งสองเริ่มบทรักอันเร่าร้อนกันอีกครั้งบนเตียงนอน เสียงแห่งความสุขของทั้งสองดังสอดประสานท่ามกลางเสียงฟ้าร้อง และสายฝนที่ตกลงมา

สายฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายวัน เช้าวันที่ 8 หลังจากหินอุกกาบาตพุ่งชนโลก เหตุการณ์ครั้งนั้นถูกเรียกว่า " เหตุการณ์วันสิ้นโลก " เช้าในวันถัดมาฝนก็หยุดตกไปซะเฉยๆ เหมือนกับมีคนเดินไปปิดวาล์วน้ำฝักบัว แสงของดวงอาทิตย์ทะลุก้อนเมฆลงมาเป็นลำแสง ราวกับแสงที่ส่องลงมาจากสรวงสวรรค์ ฟ่านเสียน ยังคงนอนหลับ และกอด ขงเชี่ยเอ๋อ เอาไว้ในอ้อมอก ด้วยความใกล้ชิดที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคนพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทั้งสองก็ไม่จำเป็นต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่มีต่อกันเอาไว้อีกต่อไป

มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นหลังฝนตก ตะไคร่น้ำ และต้นหญ้าเติบโตได้เร็วกว่าปกติ ต้นไม้จากที่เคยสูงแค่ 3 เมตร ตอนนี้มันกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สูงนับ 10 เมตร ราวกับว่าตอนนี้เมืองทั้งเมืองถูกแต่งแต้มไปด้วยสีเขียว

ฟ่านเสียน เดินออกมาสูดอากาศข้างนอกแล้วมองออกไปจากบนยอดตึก เขาเห็นทั้งเมืองเปลี่ยนกลายเป็นสีเขียว สิ่งนี้สร้างความประหลาดใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก และถนนบางแห่งมีน้ำท่วมขังจากปริมาณน้ำฝนที่ตกติดต่อกันมาหลายวัน ดูเหมือนการเดินทางเพื่อออกตามหาพ่อกับแม่ของเขาครั้งนี้ จะไม่ง่ายเหมือนอย่างที่คาดเอาไว้ในตอนแรก

" พี่ฟ่าน! กำลังมองดูอะไรอยู่เหรอคะ " หญิงสาวเดินเข้ามาสวมกอดเขาจากด้านหลังโดยไม่ได้ใส่เสื้อผ้า หญิงสาวมีเพียงผ้าห่มคลุมเอาไว้เท่านั้น

" เชี่ยเอ๋อ มาดูนี่สิ ตอนนี้ทั้งเมืองได้เปลี่ยนกลายเป็นป่าไปแล้ว " ฟ่านเสียน หันไปมองหญิงสาว

" พี่อย่ามาพูดเล่นน่า เมืองที่ไหนจะกลายเป็นป่าแค่เพียงไม่กี่วัน! " ขงเชี่ยเอ๋อ เงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่ม พร้อมกับขมวดคิ้วอย่างสงสัย

ฟ่านเสียน ก้มตัวลงให้ ขงเชี่ยเอ๋อ ขึ้นขี่หลัง เพราะกำแพงตรงชั้นดาดฟ้า พอดีกับส่วนสูงของเธอทำให้มองไม่เห็นวิวด้านล่างที่เปลี่ยนกลายเป็นสีเขียว

" โอ้โหหห . . ! ทำไมมีแต่ต้นไม้สีเขียวขึ้นเต็มไปหมด "  หญิงสาว มองเห็นทั้งเมืองเปลี่ยนกลายเป็นสีเขียว เธอตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ

" ฝุ่นละอองจากหินอุกกาบาตคงทำให้ต้นไม้พวกนี้โตเร็วกว่าปกติ " ฟ่านเสียน บอกกับเธอ แววตาของเขาเป็นประกายแวบอยู่หนึ่งเมื่อเขาเพ็งสายตามองไปที่ต้นไม้เหล่านั้น หลังจากก้อนเมฆฝนเคลื่อนตัวผ่านไป ท้องฟ้าก็กลับมาสดใสเหมือนดั่งเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้ท้องฟ้าดูมืดสลัวเพราะถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นละอองจากหินอุกกาบาต

สภาพแวดล้อมภายในเมืองดูแปลกตาไปจากเดิมมาก ถนนบริเวณตรงทางเดินเต็มไปด้วยต้นหญ้า มีเถาวัลย์สีเขียวเติบโตเลี้อยปกคลุมไปตามอาคารต่างๆ ก้อนเมฆที่ปนเปื้อนไปด้วยฝุ่นละอองจากหินอุกกาบาตได้เคลื่อนตัวกระจายไปทั่วโลก พืชและสัตว์เจริญเติบโตได้เร็วมากยิ่งขึ้น เมื่อดูดซับสิ่งปนเปื้อนเหล่านั้นมันเข้าไป พวกมันแข็งแกร่งขึ้นและวิวัฒนาการตัวเองขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ

ฟ่านเสียน และขงเชี่ยเอ๋อ พักอยู่ในบ้านหลังเล็กบนดาดฟ้าต่ออีกหนึ่งวัน เพื่อรอให้น้ำในเมืองที่ท่วมขังลดระดับลงก่อน เขาไม่รีบร้อนที่จะออกเดินทางตอนนี้ การเดินทางบนพื้นแฉะๆ หรือต้องเดินลุยน้ำไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก แม้ว่าบ้านหลังเล็กบนดาดฟ้าจะค่อนข้างสะดวก แต่ไม่เหมาะใช้เป็นที่พักอาศัยระยะยาว

" แอร่รร! "

" ฮร่าาาา! "

เช้าวันต่อมา ทั้งสองออกเดินทางไปตามถนน ในระหว่างทางนั้นพวกเขาถูกซอมบี้มากกว่า 10 ตัว ปิดล้อมเอาไว้ พวกเขาเดินผ่านมันไปโดยไม่ทันสังเกตว่าซอมบี้ที่นอนอยู่เพราะต้นหญ้าที่รกทึบ  ซอมบี้ตัวหนึ่งพอมันเห็นพวกเขาก็ส่งเสียงร้องคำรามเสียงดัง เพื่อปลุกซอมบี้ตัวอื่นๆ ให้ออกมาปิดล้อมเส้นทางการหลบหนีของพวกเขาเอาไว้

" เชี่ยเอ๋อ! จัดการตัวที่หลุดเข้ามาใกล้ ส่วนตัวอื่นๆ ผมจะจัดการเอง " ฟ่านเสียน พูดกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียจริงจัง

" เฟี้ยววว!  เฟี้ยววว! ฟุ่บบบ! "

" ปึกก! ปึกกก! ปึกก! "

ฟ่านเสียน ยิงลูกธนูออกไปอย่างต่อเนื่อง ลูกธนูแต่ละลูกแทงทะลุหัวซอมบี้ทันที สกิล [Deadshot ] ทำให้การยิงของเขาแม่นยำมากขึ้น ใช้เวลาไม่นานเขาก็สามารถจัดการซอมบี้ทั้งหมดลงได้ มีสองสามตัวหลุดเข้ามาใกล้ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับทั้งสองพวกเขาต่อสู้กันเป็นทีมเข้าขากันได้เป็นอย่างดี

" แปะ! แปะ! แปะ! แปะ! "

ชายคนหนึ่งแต่งกายในชุดของทหาร เดินโผล่ออกมาจากมุมตึก พร้อมกับตบมือเสียงดัง

" การต่อสู้ของพวกเธอสองคนน่าประทับใจมาก! "

ฟ่านเสียน ตื่นตระหนก เขาไม่คาดว่าจะได้พบชายแปลกหน้าในเวลานี้ เขารั้งสายธนู และเล็งไปที่ผู้ชายคนนั้นทันที ก่อนจะบอก ขงเชี่ยเอ๋อ ให้เตรียมป้องกันตัวเอง เขากวาดสายตามองไปรอบๆ เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเขาเพียงแค่คนเดียว

" ต้องการอะไร! ก็พูดมา " ฟ่านเสียน ตะโกนกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาไม่สามารถเชื่อใจคนแปลกหน้าได้

" ฉันชื่อ หานตงจวิน! เป็นหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ หน่วยพยัคฆ์ขาว! นายช่วยลดอาวุธลองก่อนได้มั้ย ลูกน้องฉันค่อนข้างขี้หงุดหงิดง่าย " หานตงจวิน กล่าวพร้อมกับชี้นิ้วบอกให้เขาสังเกตที่หน้าอก

จุดสีแดงจาก Laser scope ปรากฏอยู่บนหน้าอกเสื้อด้านซ้าย ฟ่านเสียน พ่นลมหายใจแรงออกทางจมูก และชักสีหน้าด้วยความรู้สึกไม่พอใจ อีกฝ่ายมีมือปืนสไนเปอร์คอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง ฟ่านเสียน ผ่อนแรงจากสายธนูลงแล้วค่อยๆ ลดธนูของเขาลงด้วยความจำยอม

" อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ! ฉันแค่ต้องการคุยไม่ได้จะมาปล้นนายซะหน่อย " หานตงจวิน กล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม และหันกลับไปส่งสัญญาณมือบอกกับลูกน้องของเขา จากนั้นก็มีผู้ชายอีกสองคนเดินออกมาจากที่ซ่อน

ชายแปลกหน้าเดินเข้ามาใกล้ ฟ่านเสียน ก็มองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจนขึ้น เขามีใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โหนกแก้มสูง และมีหน้าผากกว้าง เขาไว้หนวดคราและมีผ้าปิดตาสีดำที่ดวงตาข้างซ้ายมองแล้วน่าเกรงขาม

" ฉันชอบวิธีการต่อสู้ของพวกนาย หลังจากเห็นวิธีการรับมือกับซอมบี้เหล่านั้น! พวกเราตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่สะพานฝั่งทิศตะวันตก และใช้มันเป็นค่ายผู้ลี้ภัยชั่วคราวสำหรับผู้รอดชีวิต ที่นั่นมีสิ่งอำนวยความสะดวก และเป็นสถานที่ปลอดภัย แต่พวกเรายังขาดกำลังคนอีกมาก นายอยากมากับพวกเรามั้ย! " หานตงจวิน กล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม

" ผมคลาดกับพ่อและแม่ ตอนอพยพไปยังศูนย์หลบภัย คุณสามารถตามหาพวกเขาได้หรือเปล่าว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน " ฟ่านเสียน ถามเขาโดยไม่อ้อมค้อม

" เรื่องนั่นใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ฉันรับปากนายได้ว่าจะช่วยตามหาพวกเขา แต่เนื่องจากระบบสื่อสารของพวกเราใช้การไม่ได้ ฉันเองก็มีภารกิจที่ต้องไปซ่อมอุปกรณ์สื่อสารพอดี ถ้ามีพวกนายไปด้วยจะช่วยเราได้มากเลย นายยินดีจะร่วมเดินทางไปกับพวกเราหรือเปล่า " หานตงจวิน กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด

" ก็ได้ ผมจะช่วยเหลืองานของคุณเพื่อเป็นการตอบแทน! " ฟ่านเสียน รู้สึกดีใจมาก เพราะมันความหวังเดียวในตอนนี้ที่เขาจะสามารถตามหาพ่อกับแม่ของเขาได้

" โอเค! ถ้าเช่นนั้นพวกเราออกเดินทางกันต่อ " หานตงจวิน โบกมือส่งสัญญาณให้ลูกน้องของเขาเคลื่อนตัว จากนั้นก็มีทหารอีกคนซึ่งเป็นพลแม่นปืนสไนเปอร์เดินออกมาจากที่ซ่อน ภารกิจของ หน่วยพยัคฆ์ขาว ครั้งนี้มีทั้งหมด 4 คน ทั้งหน่วยมีผู้หญิงหนึ่งคนเธอชื่อ เสี่ยวถัง เธอเป็นคนที่เล็งสไนเปอร์มาที่ ฟ่านเสียน ส่วนอีก 2 คนเป็นผู้ชายชื่อ เหวินเซียะ และเหลียวกง พวกเขาทั้ง 4 คน ต่างมีเลเวล 6 เท่ากับ ฟ่านเสียน

พวกเขาทั้งหมดมุ่งหน้าไปที่ตึก Channel TV News ตลอดเส้นทางพวกเขาสามารถจัดการกับซอมบี้ได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ทั้ง 4 คน จะมีอาวุธปืน แต่พวกเขาก็ใช้อาวุธจากระบบฆ่าซอมบี้เหล่านี้เพื่อประหยัดกระสุน และที่สำคัญคือ หากไม่ฆ่าซอมบี้ด้วยอาวุธของระบบก็จะไม่ได้รับค่า EXP เหวินเซียะ และเหลียวกง ใช้ดายยาวเป็นอาวุธ เสี่ยวถัง เคลื่อนไหวได้รวดเร็วและมีมีดสั้นเป็นอาวุธ ค่าสถานะของเธอคงเน้นไปที่ค่า AGI  เหมือนกับ ฟ่านเสียน และอาวุธที่ หานตงจวิน ใช้คือดาบใหญ่

ตึก Channel TV News เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งเดียวในเมืองที่เสาส่งสัญญาณยังไม่ถูกทำลาย มันเป็นอาคารสูง 49 ชั้น การจะขึ้นไปให้ถึงชั้นบนสุดได้พวกเขาคงต้องขึ้นไปทางบันไดหนีไฟ เนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้าทำให้ลิฟท์ภายในอาคารไม่สามารถใช้งานได้

" บ้าเอ๊ยย! ไอ้หินอุกกาบาตเฮงซวย! " เหลียวกง สบถออกด้วยความเซ็ง หลังจากเดินขึ้นบันไดมาได้ 30 กว่าชั้น ก็พบว่าบันไดของชั้นถัดไปถูกทำลายเพราะโดนหินอุกกาบาตพุ่งชน ทำให้มีเศษหินและเศษปูนพังถล่มลงมาปิดกั้นทางขึ้นเอาไว้

" เหวินเซียะ!  เหลียวกง! ไปที่ลิฟท์พวกเราจะปีนขึ้นไปจากทางนั้น! เปิดวิทยุสื่อสารเอาไว้ด้วย " หานตงจวิน ออกคำสั่งให้พวกเขาปีนขึ้นไปทางช่องลิฟท์โดยสารแล้วหย่อนเชือกลงมาเพื่อขนอุปกรณ์ขึ้นไป

" ครับผู้กอง! " เหวินเซียะ และเหลียวกง รับคำสั่งแล้ว ทั้งสองก็ตรวจสอบเช็คอาวุธปืน ก่อนจะเปิดประตูหนีไฟเข้าไป

อาคารชั้นที่พวกเขาอยู่เป็นออฟฟิศของบริษัทหนึ่งในอีกหลายบริษัทที่เช่าห้องสำนักงานบนตึก Channel TV News ซึ่งตอนนี้ทั้งตึกปกคลุมไปด้วยความมืดเพราะไม่มีไฟฟ้า แว่นตา Night Vision ถูกเปิดใช้งานทันที เมื่อทั้งสองเข้าในอาคาร การเคลื่อนไหวของพวกเขาคล่องแคล่วเป็นตามที่เคยฝึกซ้อม มือทั้งสองกระชับปืนเอาไว้ในมือแน่น สายตาคอยสอดส่องผ่านลำกล้องมองหาสิ่งผิดปกติ หรือซอมบี้ พวกเขาไม่อาจประมาทภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เพราะในตึกอาจมีซอมบี้หลงเหลือตกค้างอยู่บนชั้นนี้

เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ พวกเขาก็วิทยุรายงานกลับมาว่าได้เคลียร์ทางขึ้นเรียบร้อยแล้ว

หานตงจวิน หักแท่งเรืองแสง Light Stick แล้วเดินนำทาง ฟ่านเสียน และขงเชี่ยเอ๋อ โดยมี เสี่ยวถัง เดินรั้งท้าย พวกเขาปีนเชือกขึ้นมาทีละคน เมื่อ หานตงจวิน ปีนขึ้นมาถึงก็พบ เหลียวกง รออยู่หน้าลิฟท์คนเดียว

" เหวินเซียะ! ไปไหน! พวกนายไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ? " หานตงจวิน ถาม เหลียวกง ด้วยความสงสัย

" เมื่อครู่ เหวินเซียะ! เจอบางอย่างอยู่ในห้องถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ มันขวางประตูที่พวกเราจะขึ้นไปบนดาดฟ้าเอาไว้ครับ ตอนนี้ เหวินเซียะ คอยสังเกตการณ์มันอยู่ ผมเลยมาคอยอยู่ตรงนี้เพื่อแจ้งให้ผู้กองทราบครับ " เหลียวกง รีบรายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหวให้กับผู้กองทราบทันที

" บางอย่างเหรอ! มันคืออะไร " หานตงจวิน ขมวดคิ้วบนใบหน้า

" มันเป็นซอมบี้ที่พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อนครับ ร่างกายของมันใหญ่โตกว่าซอมบี้ธรรมดา และท่าทางของมันดูแข็งแกร่ง และเป็นอันตรายมากด้วยครับ " เหลียวกง อธิบายรายละเอียด

พวกเขาทั้ง 5 คน เดินไปตามทางเดินที่เปื้อนไปด้วยคราบเลือด มีเศษเนื้อกระจายอยู่เต็มไปหมด กลิ่นคาวเลือดที่รุนแรงทำให้สีหน้าของ ขงเชี่ยเอ๋อ เปลี่ยนกลายเป็นขาวซีด กลิ่นคาวเลือดทำให้เธอรู้สึกเวียนหัวจนแทบจะอาเจียนออกมา มันเป็นภาพที่น่าสยดสยองมาก มีบางสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นที่นี่ ขงเชี่ยเอ๋อ กอดแขนของ ฟ่านเสียน เอาไว้แน่น ตัวของเธอสั่นเทาเพราะความกลัว

" เข้มแข็งไว้! พวกเราจะไม่เป็นอะไร ผมจะปกป้องคุณเอง " ฟ่านเสียน พยายามพูดปลอบเธอ

เหวินเซียะ มองเข้าไปในห้องถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ผ่านกระจกบานเล็กๆ ตรงประตู เขาจับตามองการเคลื่อนไหวของมันมาได้สักพักหนึ่งแล้ว มันคือ Elite Zombie ร่างของมันเรืองแสงเป็นสีเขียว รูปร่างภายนอกของมันมีหุ่นคล้ายๆ กับนักมวยปล้ำซูโม่ตัวขนาดใหญ่สูง 3 เมตร แต่มีกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ที่แข็งแรง ทันทีที่เห็น ผู้กองหานตงจวิน มาถึงเขาใช้นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปาก เพื่อส่งสัญญาณให้ทุกคนเดินให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้

" สถานการณ์เป็นไงบ้าง! " หานตงจวิน กระซิบถามเบาๆ

" มันไม่ยอมขยับไปไหนเลยตั้งแต่ผมมาถึง เหมือนมันกำลังจำศีล พวกเราจะทำยังไงดีครับ " เหวินเซียะ ตอบด้วยน้ำเสียงต่ำ

หานตงจวิน ขมวดคิ้วบนใบหน้า พยายามใช้ความคิดอย่างมากเพื่อวางแผนรับมือกับ Elite Zombie ตัวนี้ มองจากภายนอกแล้วมันดูแข็งแกร่งมาก แผนของเขามีโอกาสน้อยมากที่จะสำเร็จ แต่ดูเหมือนเขาไม่มีทางเลือก

" เหลียวกง นายมากับฉันพวกเราจะล่อซอมบี้เพื่อถ่วงเวลาเอาไว้ เสี่ยวถัง เมื่อเธอขึ้นไปแล้วให้เตรียมปืนสไนเปอร์เอาไว้ ส่วน เหวินเซียะ นายกับ ฟ่านเสียน และขงเชี่ยเอ๋อ ขนอุปกรณ์ไปติดตั้งให้เร็วที่สุด ฉันไม่แน่ใจว่าจะถ่วงเวลาเอาไว้นานแค่ไหน ถ้าเหตุการไม่สู้ดีฉันจะใช้พื้นที่บนดาดฟ้าของตึกเป็นที่เปิดศึกกับมัน หากพวกเราโชคไม่ดี เหวินเซียะ นายพาคนอื่นๆ หนีออกไปจากที่นี่ไม่ต้องกลับมาช่วยฉัน " หานตงจวิน พูดอธิบายแผนคร่าวๆ ให้ทุกคนฟัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด