ตอนที่แล้วCrisis ตอนที่ 12 : ภารกิจแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCrisis ตอนที่ 14 : หมาป่ากลายพันธุ์

Crisis ตอนที่ 13 : การต่อสู้ในป่า


Crisis : WorldDestruction ตอนที่ 13 : การต่อสู้ในป่า

หลังวิกฤตวันสิ้นโลก ผู้รอดชีวิตบนโลกต่างพยายามปรับตัวเอาชีวิตรอด ค่ายผู้ลี้ภัยต่างๆ และศูนย์หลบภัยทั่วโลกพยายามยกระดับตัวเอง เพื่อรักษาอารยธรรมของมนุษย์ให้สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้ ศูนย์หลบภัยหลายแห่งมีฟาร์มปศุสัตว์ หรือโรงเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร แต่ก็ไม่เพียงพอสำหรับความต้องการต่อประชากรทั้งหมด แม้ว่าพวกเขาจะออกไปล่าสัตว์ป่าเพื่อนำเนื้อของพวกมันกลับมาเป็นอาหาร แต่สัตว์ป่าเหล่านี้ไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป พวกวิวัฒนาการตัวเอง และเติบโตได้อย่างรวดเร็วจนกลายเป็นภัยคุกคามสำหรับมนุษย์

ศูนย์หลบภัยหลายบางแห่งไม่ได้โชคดีเหมือนเมืองเจียงหนาน และบางแห่งได้ล่มสลายไปในชั่วข้ามคืน พวกเขาถูกบุกโจมตีโดยฝูงซอมบี้จำนวนนับไม่ถ้วน ระบบการสื่อสารยังไม่สามารถกลับใช้งานได้ตามปกติ เนื่องจากคลื่นรังสีจากการชนกันของดาวหางได้ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้รับความเสียหาย นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมกองทัพถึงไม่ส่งเครื่องบินรบออกมาโจมตีฝูงซอมบี้ และคลื่นรังสีเหล่านี้ยังรบกวนสัญญาณวิทยุอีกด้วย ทำให้การติดต่อขอความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก

เศษหินอุกกาบาตที่ตกกระจายอยู่ทั่วโลกได้ทำปฏิกิริยาบางอย่างกับสิ่งมีชีวิต มันเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของพื้นที่ในบริเวณรอบๆ ให้ต่างออกไปจากเดิม ในแต่ละประเทศเริ่มส่งคนออกไปสำรวจ เพื่อค้นหาทรัพยากร และนำวัตถุดิบต่างๆ กลับพัฒนาเมืองตัวเองให้แข็งแกร่ง ป่าทางทิศใต้ของเมืองเจียงหนานเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับการสำรวจก่อนหน้านี้

หลังจาก ฟ่านเสียน เก็บรวบรวมวัตถุดิบต่างๆ ของกระต่ายกลายพันธุ์จนครบแล้ว ทั้งสองเดินเข้าลึกไปในป่าทิศใต้เพื่อตามล่าหมูป่ากลายพันธุ์ ในระหว่างนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของการต่อสู้ดังอยู่ไม่ไกล ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ฟ่านเสียน และขงเชี่ยเอ๋อ เดินไปตามทิศทางของเสียง พวกเขาก็พบชายชฉกรรจ์ 5 คน กำลังปิดล้อมคนกลุ่มหนึ่งเอาไว้ พวกเขามีด้วยกันทั้งหมด 4 คน ชาย 2 หญิง 2

" เปรี้ยงงง! แคร้งงง! "

" ฉันจะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย! ทิ้งผู้หญิงสองคนนี้เอาไว้ พร้อมกับของมีค่าทั้งหมดแล้วฉันจะปล่อยพวกนายสองคนไป " โจรคนแรก พูดเสร็จก็แสยะยิ้มที่มุมปาก

" พี่หม่า! พวกเราน่าจะทำตามที่พวกมันพูดนะ ยังไงซะผู้หญิงสองคนนี้ก็พึ่งจะเข้าร่วมปาร์ตี้กับพวกเราวันนี้ ชีวิตของพวกเราสำคัญกว่า " ซือกวง พยายามพูดโน้มน้าวอีกฝ่ายด้วยความหวาดกลัว

" นี่นาย! " หญิงสาว รู้สึกโกรธทันที เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นจากปากของชายหนุ่ม

" จะคิดมากไปทำไม ยังไงผู้หญิงสองนี้ก็ไม่ได้เป็นอะไรกับนายสักหน่อย " โจรคนที่สอง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

" เอ้า! รีบๆ ตัดสินใจ ก่อนที่ลูกพี่ของฉันจะเปลี่ยนใจดีกว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา! " โจรคนที่สาม พูดแล้วก็หัวเราะอย่างเย้ยหยัน

" หม่าสง! พวกนายอย่าไปฟังคำพูดของพวกมัน พวกมันไม่มีทางปล่อยพวกนายไปหรอก " หญิงสาวอีกคน พูดเตือนสติชายหนุ่ม

" พี่หม่า! ผมยังไม่อยากตาย เราทำตามที่พวกมันบอกเถอะ " เสียงหัวเราะของพวกโจรทำให้ ซือกวง กลัวจนลนลาน เขาอยากจะหนีออกไปจากที่นี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเท่าได้

" ซือกวง หุบปาก! " หม่าสง รู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก ใบหน้าของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ เพราะเขาต้องตั้งรับการโจมตีพร้อมกันทีเดียวถึงสองคน เขาหันกลับไปตวาดน้องชายของเขาด้วยความโกรธ เขาทนไม่ได้ที่เห็นน้องชายของเขาแสดงความขี้ขลาดออกมาในเวลาแบบนี้

" ฉึบบบบ! "

พวกโจรฉวยโอกาสตอนที่ หม่าสง เสียสมาธิ มันรีบแทงดาบเข้าไปที่ร่างของเขาอย่างรวดเร็ว

" อั่กกก! "

ความเย็นจากดาบที่แทงทะลุลำตัวของ หม่าสง ทำให้ตัวของเขาแข็งค้าง และลมหายใจติดขัด อวัยวะภายในของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาได้แต่โทษตัวเองที่ประมาท หลังจากมันดึงดาบออกมา เลือดก็พุ่งกระจายออกมาบาดแผลราวกับน้ำพุ บนพื้นดินตอนนี้เจิ่งนองไปด้วยสีแดงเข้ม จากนั้น ร่างของเขาก็ค่อยๆ ล้มลงไปบนพื้นแล้วแน่นิ่งไป

" พี่หม่า! " ซือกวง ตะโกนเสียงดังด้วยอาการช็อค เมื่อได้เห็นพี่ชายของเขาตายไปต่อหน้าต่อตา

" ม่ายยยน๊าาา! " หญิงสาวอีกคน กรีดร้องเมื่อเห็นชายหนุ่มถูกฆ่า

" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา! แค่นี้ก็เรียบร้อย จัดการคนที่เหลือซะ "  โจรคนที่ฆ่า หม่าสง บอกให้คนอื่นๆ ลงมือให้มันเสร็จๆ เขาเสียเวลาไปมากพอแล้ว

" หึหึ! หมดเวลาของแกแล้ว ตายซะ! " โจรคนที่สี่ กวัดแกว่งดาบในมือ พร้อมกับค่อยๆ เดิมตรงเข้ามาหา ซือกวง

" อย่า! อย่าฆ่าผมเลย ไหนว่าจะปล่อยผมไปไง อย่าาาา! " ซือกวง ทิ้งอาวุธในมือ แล้วโบกมือทั้งสองไปมาเพื่อห้ามพวกโจรไม่ให้ลงมือ จิตใจของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว จนไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป

" ฉวัะ! " คมดาบถูกฟันเฉียงไปที่ลำตัวของ ซือกวง

" อ๊ากกกก! " เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะสิ้นใจตายไปในที่สุด

" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา! " พวกโจรพากันหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน หลังจากได้ฆ่าชายหนุ่มผู้น่าสมเพชทั้งสองคนได้สำเร็จ

" ที่นี้ก็ถึงตาของพวกเธอแล้วสาวๆ วางอาวุธลงจะได้ไม่เจ็บตัว! "

" ยอมแพ้ซะดีกว่า อย่าให้พวกเราต้องอารมณ์เสีย รับรองได้เลยว่าพวกเราจะดูแลเธอทั้งสองเป็นอย่างดี ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา! "

" ใช่ๆ พวกเราจะดูแลพวกเธอจนถึงเช้าเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา! "

ร่างของหญิงสาวทั้งสองสั่นเทาไปด้วยความกลัว พวกเธอรู้ชะตากรรมชีวิตของตัวเองได้ในทันทีว่า หากพวกเธอถูกพวกมันจับตัวกลับไปพวกมันจะรุมข่มขืนพวกเธอทั้งสอง เมื่อถึงตอนนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากการตกอยู่ในขุมนรก พวกเธอจะกลายเป็นเพียงของเล่นสำหรับพวกมัน และจะถูกกระทำอย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าพวกมันจะพอใจ

" ไม่! อย่าเข้ามา " หญิงสาวตะโกนด้วยไปน้ำเสียงสั่นเครือ

ในระหว่างที่พวกโจรกำลังโอบล้อมหญิงสาวทั้งสองเอาไว้ตรงกลาง เพื่อไม่ให้มีโอกาสหลบหนี ขงเชี่ยเอ๋อ ไม่สามารถทนเห็นหญิงสาวทั้งสองถูกข่มเหงมากไปกว่านี้ เธอเดินออกมาจากพุ่มไม้พร้อมกับถือคฑาเหล็กเอาไว้ในมือแน่น แล้วเดินตรงเข้าไปหากลุ่มโจรเหล่านั้นพร้อมกับตะโกนว่า

" หยุดนะ! ไอ้พวกโจรชั่ว "

กลุ่มโจรเหล่านั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของหญิงสาว พวกมันพากันหันกลับมามองที่ ขงเชี่ยเอ๋อ ทันที หญิงสาวมีความสวยไม่น้อยไปกว่าสองสาวตรงนี้เลย แต่ดูเหมือนรูปร่าง และสัดส่วนของ ขงเชี่ยเอ๋อ ทำให้เธอดูเย้ายวนชวนให้น่าหลงใหลมากกว่า พวกมันจ้องมองเธอโดยไม่กระพริบตา จนหญิงสาวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกมันห่างไปเพียงแค่ 5 เมตรเท่านั้น

" โอ๊ะโอ๊ะ! ดูเหมือนจะมีสาวสวยอีกคนอยากมาร่วมวงกับพวกเราเว้ยย "

" เฮ้ยยๆ ! เดี๋ยวๆ ข้าจองแล้ว คนนี้ข้าเห็นก่อน เธอต้องเป็นของข้า "

" ไม่ได้ๆ เขาก็เห็นเหมือนกัน ทำไมต้องยกให้แกด้วยวะ "

" น้องสาว ทนความหล่อของพวกพี่ไม่ได้เหรอจ๊ะ ถึงกับเดินออกมาหาพวกพี่ด้วยตัวเอง มาๆ พวกพี่ไม่เคยรังเกียจคนสวยๆ อย่างน้อง แค่บอกมาพวกพี่จะจัดให้เต็มๆ แค่น้องร้องขอแบบหวานใจ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา! " โจรคนที่สาม หลังจากพูดเสร็จมันก็หัวเราะชอบใจ ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ขงเชี่ยเอ๋อ ห่างแค่ 1 เมตร

พวกโจรพากันหัวเราะครื้นเครงเมื่อเห็นสาวสวยอีกคนกล้ามายืนท้าทายพวกเราเพียงลำพัง

" ผวัะ! "

ร่างของโจรคนที่สามลอยไปตามแรงฟาดของคฑาเหล็ก ก่อนจะตกลงมากระแทกกับพื้นดิน ร่างของเขาชักกระตุกอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็นิ่งไป สายตาทุกดวงของพวกโจรจ้องมองมาที่ ขงเชี่ยเอ๋อ ด้วยความตกตะลึง พวกมันไม่คิดว่าสาวสวยตัวคนเดียวจะกล้าลงมือกับพวกมันก่อน

" หนอยยย! อีนังนี่วอนซะแล้ว "

โจรสองคนพุ่งเข้าไปโจมตี ขงเชี่ยเอ๋อ ด้วยความโกรธแค้น หญิงสาวกล้าหยามพวกมันโดยไม่เกรงกลัว หากมีคนรู้ว่าพวกมันต้องเสียท่าให้กับผู้หญิงตัวเล็กๆ ตัวคนเดียว พวกมันคงไม่มีหน้าออกไปเที่ยวปล้นใครๆ ได้อีก

" แคร้งงง! "

โจรคนแรกเข้ามาปะทะกับ ขงเชี่ยเอ๋อ มันใช้ดาบยาวฟันที่คฑาเหล็กของเธอเอาไว้ พร้อมกับออกแรงกดดาบลงไปเพื่อจะให้เธอล้ม ขงเชี่ยเอ๋อ จำเป็นต้องใช้สองมือจับคฑาเหล็กแล้วออกแรงต้านเอาไว้ น้ำหนักและแรงกดจากดาบมากเกินกว่าที่เธอจะให้มือเดียวรับน้ำหนัก ซึ่งในจังหวะนี้โจรอีกคนได้ฉวยโอกาสนี้เข้ามาโจมตีทางด้านข้าง

" เฟี้ยวววว! ฉึกกก! "

ลูกธนูพุ่งออกมาจากหลังพุ่มไม้ด้วยความเร็ว ก่อนจะเสียบทะลุหัวของโจรคนนั้นทันที

" ระวัง! มันยังมีพรรคพวกอีกคนแอบอยู่ด้านหลัง! "

พวกโจรพากันตื่นตระหนกเพียงช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาก็สามารถจัดการคนของเขาไปแล้วถึงสองคน ความหวาดกลัวเริ่มเกาะกุมที่หัวใจของพวกมัน คนที่ยิงธนูมีฝีมือไม่ธรรมดาเขาสามารถยิงได้อย่างแม่นยำ หากพวกเขายังฝืนที่จะต่อสู้มีแต่จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะพวกมันทั้ง 5 คน ไม่มีใครสามารถโจมตีระยะไกลได้เลยแม้แต่คนเดียว

โจรคนหนึ่งที่ยืนคุมตัวทั้งสองสาวเอาไว้ไม่สามารถทนแรงกดดันนี้ได้ เขาหวาดกลัวเมื่อต้องเผชิญหน้าที่ศัตรูที่สามารถโจมตีจากระยะไกล อีกทั้งพวกเขายังไม่สามารถจับทิศทางของมือธนูได้ว่า เขาซ่อนอยู่ตรงตำแหน่งไหน เขาเลิกล้มความคิดที่จะสู้อีกต่อไปแล้วพยายามวิ่งหลบหนีโดยทิ้งพวกพ้องของเขาเอาไว้ด้านหลัง

" เฟี้ยวววว! ฉึกกก! "

ลูกธนูพุ่งออกมาจากหลังพุ่มไม้เสียบทะลุหัวของโจรอย่างแม่นยำ แม้ว่าเขาจะวิ่งหนีออกไปไกลแล้วหลายสิบเมตร

ขงเชี่ยเอ๋อ กระโดดถอยหลังออกมาพร้อมกับเปิดใช้สกิล [Force Brake] เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของโจรคนนี้เอาไว้ จากนั้นเธอโจมตีต่อเนื่องด้วยสกิล [Mighty Throw] ทำให้โจรติดสถานะมึนงงไปชั่วขณะ ขงเชี่ยเอ๋อ ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือ เธอพุ่งตัวเข้าไปแล้วฟาดมันด้วยคฑาเหล็กทันที

" ปังงงงงงงงง! "

ร่างของโจรล้มกระแทกกับพื้นไปด้านหลังอย่างรุนแรง ตรงบริเวณหัวของมันมีรอยยุบที่น่ากลัวเพราะแรงฟากจากคฑาเหล็กของ ขงเชี่ยเอ๋อ มันตายในทันทีโดยไม่มีโอกาสได้ตอบโต้

เหลือโจรคนสุดท้ายกำลังยืนสั่นเทาด้วยความกลัว เขาได้เห็นพวกพ้องตายไปทีละคนๆ ความกลัวได้ทำให้เรี่ยวแรงของเขาหดหายไปจนหมด เขาไม่สามารถแม้แต่จะขยับเขยื้อนออกไปจากจุดนี้ หลังจากได้สติเขาทิ้งอาวุธของตัวเอง และพยายามขอร้องให้ไว้ชีวิต

ฟ่านเสียน เดินออกมาจากหลังพุ่มไม้แล้วไปยืนอยู่ข้างๆ ขงเชี่ยเอ๋อ พร้อมกับจ้องมองไปที่โจรคนนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา

" พี่ฟ่าน! เราจะทำยังไงกับเขาดี? " ขงเชี่ยเอ๋อ หันกลับไปถาม ฟ่านเสียน พร้อมกับขมวดคิ้ว

" ไม่ใช่หน้าที่ของเรา! ปล่อยให้พวกเขาเป็นคนตัดสินใจ " ฟ่านเสียน พูดแล้วก็หันหน้าไปมองที่สองสาว

" ฆ่าเขา! " หญิงสาวตอบโดยไม่ลังเล โจรพวกนี้ไม่อาจปล่อยให้มีชีวิตรอดต่อไป เขาอาจจะไปดักปล้น หรือทำร้ายคนอื่นๆ อีกในอนาคต

ฟ่านเสียน ชักมีดสั้นออกมาแล้วเฉือนไปที่คอของมันอย่างรวดเร็ว ก่อนเขาจะกลับมายืนอยู่ตรงตำแหน่งเดิมซึ่งห่างจากโจรคนนั้นออกไป 3 เมตร การเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขาใช้เวลาไม่ถึง 2 วินาที ก็สามารถสังหารโจรคนนั้นได้โดยที่มันไม่ทันได้รู้สึกตัว เลือดไหลทะลักออกมาจากบาดแผลราวกับท่อแตก ดวงตาของมันเบิกโพลงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันพยายามใช้สองมือปิดบาดแผลเอาไว้ จากนั้นร่างๆ ของมันก็ล้มลงกับพื้นและสิ้นใจ

" ขอบคุณพวกคุณทั้งสองมากที่อุตส่าห์ยื่นมือเข้ามาช่วยพวกเราเอาไว้ ฉันชื่อว่า เซียวเหยา ส่วนเพื่อนของฉันชื่อ หยางเพ่ย " เซียวเหยา รีบเดินเข้ามาขอบคุณ ฟ่านเสียน และขงเชี่ยเอ๋อ ที่่ช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้

" ขอบคุณคะ " หยางเพ่ย กล่าวขอบคุณพวกเขาด้วยเช่นกัน

" พวกคุณทั้งสองเป็นผู้มีพระคุณของพวกเรา พวกคุณชื่ออะไรคะ "

" ผมชื่อว่า ฟ่านเสียน ส่วนเธอคนนี้คือแฟนของผม เธอชื่อว่า ขงเชี่ยเอ๋อ "

" ฉัน ขงเชี่ยเอ๋อคะ "

" พวกเรารีบเก็บของจากศพของพวกโจรกันก่อนดีกว่า กลิ่นคาวเลือดของพวกโจรอาจดึงดูดสัตว์ร้ายเข้ามาได้ทุกเมื่อ " ฟ่านเสียน กำลังมองไอเทมที่วางเกลื่อนอยู่บนพื้นในเวลานี้

หลังจากเก็บกวาดสิ่งของต่างๆ จากศพของพวกโจร ฟ่านเสียน ได้แบ่งสิ่งของที่เก็บได้ครึ่งหนึ่งให้กับทั้งสองสาว แต่พวกเธอไม่ยอมรับพร้อมกับกล่าวอีกว่า

" พี่ฟ่าน! สิ่งของทั้งหมดพวกเราไม่ต้องการ ขอเพียงพี่รับปากพวกเราเรื่องหนึ่งก็พอ "

" อืมม . . หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง ผมยินดีทำ "

" ขอพวกเราทั้งสองได้ติดตามพวกพี่ทั้งสองคนก็พอแล้ว พวกเราสองคนโตมาจากสถานสงเคราะห์ด้วยกัน หลังวิกฤตวันสิ้นโลกสถานสงเคราะห์ก็ไม่หลงเหลืออีกต่อไปแล้ว เราทั้งสองไม่มีที่ให้ไปพวกพี่ทั้งสองรับพวกเราไปด้วยนะ น๊าาา " เซียวเหยา พยายามพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

" พี่สาวเห็นใจพวกเราสองคนด้วยเถอะนะคะ พวกเราไม่มีที่ให้ไปแล้วจริงๆ " หยางเพ่ย ก็พยายามเลียนแบบการพูดเหมือนเซียวเหยา

ฟ่านเสียน ยืนอึ้งอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันไปมองหน้า ขงเชี่ยเอ๋อ ด้วยความลำบากใจ แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรออกไป ขงเชี่ยเอ๋อ ก็พูดตัดหน้าเขาทันที

" ได้สิ " ขงเชี่ยเอ๋อ หันไปมองหน้าทั้งสองสาว แล้วพูดออกมาด้วยถ้อยคำที่ชัดเจน

" จริงๆ นะ พี่ไม่ได้พูดหลอกให้พวกเราดีใจนะ " เซียวเหยา พูดเสร็จก็วิ่งเข้ามากอด ขงเชี่ยเอ๋อ

" เย้ๆ " หยางเพ่ย กระโดดเต้นไปมาดีใจ ก่อนจะวิ่งเข้ามากอด ขงเชี่ยเอ๋อ ด้วยอีกคน

" เชี่ยเอ๋อ! เธอพูดอะไรออกไปรู้ตัวหรือเปล่า " ฟ่านเสียน ยังไม่ทันหายตกใจ เขาพยายามเตือนสติ ขงเชี่ยเอ๋อ เพราะคำขอของเด็กสาวทั้งสองไม่ได้อยู่ในความคิดของเขามาก่อน

" ฉันรู้ว่ากำลังพูดอะไร ฉันเข้าใจความรู้สึกของพวกเธอทั้งสองดี ฉันเองก็เคยอยู่ตัวคนเดียวมาก่อนที่จะได้เจอพี่ ในสถานการณ์แบบนี้พี่จะใจร้ายทิ้งพวกเขาได้ลงคอเหรอคะ พี่ให้พวกเธอติดตามไปด้วย ฉันสัญญาว่าจะเป็นคนดูแลพวกเธอเอง " ขงเชี่ยเอ๋อ หันไปพูดกับ ฟ่านเสียน ด้วยรอยยิ้ม

ฟ่านเสียน ถึงกับนั่งเอามือกุมขมับ เขาไม่ทันได้เตรียมใจมาก่อนสำหรับเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เขากับ ขงเชี่ยเอ๋อ ก็ไม่ค่อยได้อยู่กันสองต่อสอง แล้วพอมาตอนนี้เขายังมีสองสาวเข้ามาเพิ่มอีก ชายหนุ่มแทบอยากจะร้องไห้เพราะการตัดสินใจของหญิงสาว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด