ตอนที่แล้วบทที่ 71 เปลี่ยนมือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 73 ความแข็งแกร่งที่แท้จริง!

บทที่ 72 ได้เวลาเอาคืน!!!


บทที่ 72 ได้เวลาเอาคืน!!!

เซียวหยูซวนนั่งลงอย่างโกรธๆ โดยไม่ได้โต้เถียง เธอคิดในใจว่า เหอตงคงจะรู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ ในเกมนี้เหอตงควรที่จะแพ้และคืนเงินทั้งหมดที่เขาได้รับให้กับจางเล่ยไป การทำแบบนี้จะส่งผลดีกับทั้งสองฝ่าย

และที่สำคัญสองคนนี้ยังเป็นแค่นักเรียน จำนวนเงินที่มากกว่าหนึ่งพันหยวนนี้ไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆอย่างแน่นอน!

แต่ถ้าหากว่าเหอตงไม่คิดที่จะจ่ายเงินคืน เซียวหยูซวนก็ตัดสินใจที่จะเป็นคนจ่ายเงินหนึ่งพันหยวนคืนให้แก่พวกเขาเอง ส่วนเธอจะต้องทำสงครามเย็นกับเหอตงไปสักพักจนกว่าเขาจะสำนึกผิดในเรื่องนี้

เซียวหยูซวนไม่ใช่คนที่เห็นแก่เงิน แล้วนับประสาอะไรกับเงินของลูกศิษย์ตัวเอง ถ้าเขายังจะชนะเกมนี้แล้วเอาเงินของเด็กนักเรียนของเธออีก มันก็เรียกได้ว่าเกินไปจริงๆ

ในเวลานี้ผู้คนที่มุงดูอยู่โดยรอบ กำลังกระซิบและเริ่มคุยกันอีกครั้ง

“มีเด็กใจกล้าไม่กลัวตายมาอีกคนหนึ่งแล้ว เขาก็เห็นว่าเพื่อนของเขาเพิ่งจะเสียเงินไปกว่าหนึ่งพันหยวน สำหรับหลายเกมที่ผ่านมา แล้วเด็กคนนี้มันเก่งมาจากไหน ถึงขนาดกล้าลงเงินเดิมพันถึงเกมละหนึ่งพันหยวน ให้ตายเถอะ! เด็กสมัยนี้นี่มันรวยกันจังวะ ใช้เงินกันแบบไม่คิดเลยแฮะ!!”

“นั่นดิ ฝีมือของผู้ชายคนนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นมืออาชีพเลยนะนั่น เห็นๆกันอยู่ว่าเพื่อนของเขาก็แพ้ติดๆกันเป็นสิบเกม ยังจะกล้ามาวัดฝีมือกับคนระดับนี้ เด็กคนนี้คือถ้าไม่เก่งจริงๆ ก็คงเป็นแค่เด็กโง่ๆ คนนึงที่อยากจะผลาญเงินเล่นซะมากกว่า สิ้นคิดชะมัด!”

“จะว่าไปแล้ว เด็กพวกนี้อยากจะเล่นหรืออยากจะลงเงินเดิมพันเท่าไหร่ มันก็เป็นสิทธิ์ของพวกเขาล่ะนะ แต่ก็อย่างที่พวกคุณว่า พ่อแม่เขาอาจจะรวยมาก ถึงกล้าใช้เงินกันขนาดนี้!”

………………..

การถกเถียงกันอย่างดุเดือดจากผู้คนที่กำลังมุงดูอยู่โดยรอบ ทำให้เหอตงรู้สึกกังวลเล็กน้อย อย่างไรก็ตามตัวเขาเองไม่ได้กังวลในสิ่งที่คนอื่นบอกว่าจี้เฟิงอาจจะเก่ง แต่เพราะเขากลัวว่า เมื่อจี้เฟิงได้ยินที่คนพวกนั้นคุยกันแล้วเกิดคิดได้ อยากจะเปลี่ยนใจ ไม่กล้าลงเงินพนันเกมละหนึ่งพันหยวนขึ้นมา มันจะส่งผลให้เขาได้รับเงินน้อยลงเป็นอย่างมาก

เขาจึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกไป “ทุกๆ ท่าน หากการเงียบคือมารยาทที่ดีในการดูแข่งขันหมากรุก การดูการแข่งขันอื่นๆที่ผู้เล่นต้องใช้สมาธิก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะ พลู สนุกเกอร์หรือบิลเลียดอย่างในตอนนี้  มันอาจจำให้ผู้เล่นเกิดความกดดัน เพราะฉะนั้นทำไมพวกคุณไม่ดูกันอย่างเงียบๆล่ะ โอเค๊?”

ทันทีที่เหอตงพูดจบ ผู้คนโดยรอบก็หยุดเสียงทุกอย่างลงทันที พวกเขาอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าอึดอัด เพราะคนส่วนใหญ่ที่นี่ก็ล้วนเป็นคนที่ชอบเล่นบิลเลียดหรือพูลกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อโดนคนที่พวกเขาคิดว่าอาจเป็นถึงมืออาชีพในเกมกีฬานี้ว่ากล่าวตักเตือน จึงอดไม่ได้ที่จะให้ความเคารพและเกรงใจโดยอัตโนมัติ เพราะการเคารพกันตามลำดับขั้นฝีมือก็ถือว่าเป็นมารยาทอย่างหนึ่งของผู้เล่นที่ดี

“จี้เฟิงถ้าเธอกลัวหรือกดดัน เราก็เล่นกันสนุกๆ โดยไม่ต้องวางเงินเดิมพันมากถึงหนึ่งพันหยวนก็ได้นะ แล้วแต่เธอเลย!”  เหอตงเสนออย่างมีน้ำใจ

จี้เฟิงไม่ได้ตอบอะไรออกไป เขาทำเพียงแค่ยิ้มและเดินไปหยิบไม้คิวขึ้นมา  สำหรับคนแบบเหอตง จี้เฟิงรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปเสวนาด้วยให้มากความ  สิ่งที่เขาต้องทำเพียงอย่างเดียวในตอนนี้คือแสดงความสามารถการเล่นบิลเลียดที่แท้จริงของเขาให้ผู้ชายคนนี้ได้เห็นเป็นบุญตา!

“หึหึ” เมื่อเห็นท่าทางของจี้เฟิงแล้วเหอตงก็แอบหัวเราะเยาะอยู่ในใจ “สงสัยไอ้เด็กจี้เฟิงนี่มันจะโง่จริงๆแฮะ ทั้งๆที่ก็เห็นว่าฉันเพิ่งแสดงทักษะการเล่นบิลเลียดที่สุดยอดตบเพื่อนมันจนต้องหนีไปเข้าห้องน้ำ ฉันล่ะอยากรู้จริงๆว่าไอ้เด็กคนนี้มันแค่มีความกล้าหรือก็แค่เด็กที่มีความมั่นใจแบบโง่ๆเท่านั้น! หวานหมูจริงๆ! เงินของฉัน~!”

จางเล่ยมองไปที่จี้เฟิงอย่างเป็นกังวล เขารู้ว่าเพื่อนของเขานั้นเป็นคนจิตใจอ่อนไหวกว่าเขาเล็กน้อย แล้วถ้าเกิดเขาแพ้จนโดนหัวเราะเยาะขึ้นมา เขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าจี้เฟิงจะสามารถทนความอับอายได้ไหม

“ใครจะเริ่มก่อนดี?”  จี้เฟิงถามด้วยรอยยิ้ม

“ฉันเริ่มก่อนเลยแล้วกัน!”  เหอตงยิ้มตอบ

เมื่อพูดจบเขาก็เดินมาที่ท้ายโต๊ะ เล็งไปที่ลูกคิวบอล “ป๊อก!”  การแทงด้วยท่วงท่าที่สวยงาม ลูกคิวบอลกลิ้งไปกระแทกกลุ่มลูกบอลอื่นๆอย่างสวยงาม

“ป๊อก! ป๊อก! ป๊อก!” เหอตงยิงลูกถัดไปอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนจะไม่ปล่อยโอกาสให้จี้เฟิงได้มีสิทธิ์ชนะเลย เขาทำลูกลายลงหลุมได้อีกสามลูก จนถึงตอนนี้เหอตงทำแต้มไปแล้วห้าแต้ม เหลืออีกเพียงสองแต้มของเขาเท่านั้นในเกมนี้ และก็จะเหลืออีกเจ็ดลูกของฝ่ายจี้เฟิงเท่านั้นที่เขายังไม่ได้มีโอกาสในการทำแต้มเลยแม้แต่แต้มเดียว

และในตอนนี้มีลูกดำหมายเลข 8 ซึ่งถือว่าเป็นบอลของทั้งสองฝ่าย อยู่ตรงหน้าลูกลายของฝ่ายเหอตง ตามกฎแล้วหากเขาแทงลูกดำลงหลุมก่อนที่จะเก็บแต้มได้ทั้งหมด เขาจะถูกปรับแพ้ทันที

“ป๊อก!”

เหอตงเลือกที่จะป้องกัน เขาแทงลูกคิวไปอีกด้านหนึ่งและมันกลิ้งไปหยุดที่ด้านข้างของโต๊ะอย่างแนบชิด ซึ่งแน่นอนว่านั่นทำให้จี้เฟิงไม่สามารถเล่นต่อได้โดยง่าย

หลังจากที่เขาคิดอยู่พักหนึ่งสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจใช้วิธีนี้ เพราะต่อให้จี้เฟิงจะไม่ได้มีทักษะในการเล่นที่ดีมาก แต่เขาก็เลือกที่จะเอาความแน่นอนไว้ก่อน แถมถ้าเขายิ่งชนะเร็วขึ้นเท่าไหร่ จำนวนเกมก็มากขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่ารวมถึงเงินเดิมพันเกมละหนึ่งพันหยวนของเขาด้วย เมื่อนึกถึงเงินหนึ่งพันหยวนเขาก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันที

เหล่าผู้คนที่ดูอยู่ก็พูดขึ้นด้วยเสียงอันแผ่วเบาทันที “ลูกคิวไปตกอยู่ในลักษณะนี้ ผมเกรงว่าแม้แต่ผู้เล่นมืออาชีพก็คงยากที่จะชนะคุณว่าไหม? เด็กนักเรียนคนนี้ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเอาซะเลย!”

จางเล่ยเริ่มรู้สึกเครียด เขาก็คิดไม่ต่างจากคนอื่นๆ ที่ดูการแข่งขันอยู่สักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยจี้เฟิงก็ไม่ควรพ่ายแพ้อย่างหมดรูป เขาอดยิ้มอย่างขมขื่นไม่ได้ เมื่อนึกถึงเกมมูลค่า 1,000 หยวน ไม่ใช่ว่าเขาจะเสียดายเงินหรือแพ้ไม่ได้ เพราะต่อให้จี้เฟิงพูดว่าเกมละ 10,000 หยวน ก็คงไม่ต่างกัน เพราะสิ่งสำคัญในตอนนี้คือ เขาไม่ได้มีเงินติดตัวมามากขนาดนั้น!

จี้เฟิงที่ตอนนี้กำลังยิ้มอยู่หน้าโต๊ะบิลเลียด เขาทำหน้าเหมือนกับไม่ได้มีเรื่องอะไรให้ต้องกังวลใจ

เขาหยิบไม้คิวขึ้นมาและไปยืนอยู่ที่ด้านหลังของลูกคิว เขาก้มตัวหมอบ วางมือและเล็ง การเคลื่อนไหวทั้งสามนี้ในคราวเดียวทำให้ทุกคนถึงกับตาลุกวาว

“เหอะ! อาศัยแค่ทำท่าเท่ๆ แต่ฝีมือไม่มีมันก็เท่านั้นแหละ ผลสุดท้ายนายก็ต้องแพ้ฉันอยู่ดี!” เหอตงแอบยิ้มอย่างเย้ยหยันในขณะที่เขาเห็นท่าทางการเคลื่อนไหวของจี้เฟิง

แต่แล้วการแสดงของจี้เฟิงก็ทำให้ทุกคนถึงกับตะลึง

เมื่อเห็นว่าไม้คิวที่อยู่ในมือของจี้เฟิงราวกับมันมีชีวิตขึ้นมา มันสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“ป๊อก!”

ด้วยการเคลื่อนไหวเบาๆ ของไม้คิวที่อยู่ในมือจี้เฟิง ลูกคิวกลิ้งไปด้วยความเร็วคงที่และกระแทกลูกเกลี้ยงทันที หลังจากนั้นบอลลูกนั้นก็ตกลงไปในหลุมราวกับมันถูกผลักลงไป

“โชคดีชะมัด!”

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่เป็นเพียงแค่โชคดีของจี้เฟิงเท่านั้น เพราะมันไม่มีคำอธิบายใดๆ เกี่ยวกับท่าที่คล่องแคล่วกระชับและความเร็วที่สม่ำเสมอของลูกบอลแบบนี้ ยกเว้นมันเป็นเพียงแค่เรื่องของความโชคดีเท่านั้น  และการที่จะทำให้ลูกคิวบอลได้ผลดีที่สุดในช่วงเริ่มต้นต้องออกแรงให้มากที่สุดให้ได้ในระยะเวลาอันสั้น

อย่างไรก็ตามลูกคิวที่ถูกแทงโดยจี้เฟิงนั้นกลิ้งไปข้างหน้าด้วยความเร็วคงที่โดยกระทบกับลูกเกลี้ยงของเขาจนลงหลุมไปได้อย่างพอดีโดยไม่กระทบลูกอื่นๆ เลยได้อย่างไร?

ทุกคนต่างมองไปที่จี้เฟิงด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ

เหอตงกำลังงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้านี้ เขาดูแปลกใจมากจึงอดไม่ได้ที่จะขยี้ตาแล้วเผลอพูดโดยไม่รู้ตัวว่า “มันเป็นไปได้ยังไง!”

จี้เฟิงดูเหมือนจะไม่ได้ตกใจกับความเหลือเชื่อที่คนอื่นแสดงออกมา เขายิ้มและเดินไปหาลูกคิวบอลพร้อมไม้คิว

ในกรณีคนอย่างเหอตง ที่ใช้วิธีการเห็นแก่ตัว รวมถึงเป็นคนที่มีความโลภอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันทำให้จี้เฟิงรู้สึกโกรธจนถึงขีดสุด!

ดังนั้นจี้เฟิงจึงต้องการที่จะสอนบทเรียนให้แก่เหอตงด้วยตัวของเขาเอง!

แม้ว่าเขาจะไม่เคยเล่นในห้องบิลเลียดของจริงมาก่อน แต่ด้วยการฝึกฝนของระบบการฝึกอบรมสุดยอดสายลับของจี้เฟิง มันก็เป็นระดับที่สูงเกินกว่าที่คนอย่างเหอตงจะสามารถทำความเข้าใจได้ ถ้าหากจี้เฟิงต้องการจะจัดการกับเหอตงมันก็เป็นเรื่องที่ง่ายเพียงแค่พลิกฝ่ามือ!

...จบบทที่ 72~❤️

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด