ตอนที่แล้วตอนที่ 149 ผลสอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 151 ตั๋วเรียนฟรี

ตอนที่ 150 มาเป็นสักขีพยานร่วมกัน


“เวนไตย ถ้าเจ้าไม่มีอะไรทำก็กลับไปก่อน ที่นี่มีแค่เหนือภพก็พอ”

ยิ่งบุษย์น้ำเพชรเอ่ยเช่นนั้น เหนือภพก็ยิ่งยิ้มหน้าระรื่นล้อเลียนเวนไตยด้วยความจงใจ เวนไตยปฏิบัติตามคำสั่งองค์หญิงอย่างจนใจ แต่เขาก็ไม่ได้จากไปไหนไกล เขาแค่หลบซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ ไม่ให้ผู้เป็นนายเห็นหน้าก็เท่านั้น

“เรามาคุยเรื่องของเราต่อเถอะ เมื่อคืนข้าได้ยินมาว่าเจ้าไปก่อเรื่องที่หอหมื่นบุปผา แล้วยังชิงตัวผู้หญิงไปอีก จริงหรือไม่”

บุษย์น้ำเพชรพูดนิ่ง ๆ ด้วยท่าทางสูงศักดิ์ ยากที่ใครจะดูออกว่าเรื่องที่เหนือภพก่อขึ้นเมื่อคืนนั้นรบกวนจิตใจเธออย่างมาก

“จริงสิ พอดีเมื่อคืนข้ามีปัญหานิดหน่อย แต่เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล มันไม่มีผลเสียต่อบ้านฮันเตอร์ของเจ้าหรอก”

“อืม เรื่องนั้นข้าไม่เป็นกังวล ข้าเชื่อใจท่าน และที่ข้าเรียกท่านมาในวันนี้ ก็เพราะข้าอยากจะคุยกับท่านเกี่ยวกับการสอบ มีความเป็นไปได้ว่ามีการเล่นตุกติกกับข้อสอบท่าน”

“จริงหรือ”

เหนือภพถามย้ำด้วยสีหน้าจริงจัง ส่วนบุษย์น้ำเพชรเพียงพยักหน้าเล็กน้อย แววตาของเธอดูซับซ้อนมากขึ้น

ณ ห้องพักเจ้าหน้าที่ระดับ 2 สำนักงานฮันเตอร์

“เกิดเรื่องแล้วครับ”

เจ้าหน้าที่ระดับ 1 ผู้มีหน้าที่เดินเอกสารคำร้องต่าง ๆ วิ่งเข้ามาในห้องพักของเจ้าหน้าที่ระดับ 2 ด้วยความร้อนรนและตื่นตระหนก เขายื่นเอกสารให้กับเจ้าที่ที่ดูแลเรื่องการจัดเตรียมการสอบและการเลื่อนระดับแรงค์ฮันเตอร์

เจ้าหน้าที่รับเอกสารมาอ่านอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วแน่น

“หมายความว่ายังไง นางบอกว่าการตรวจข้อสอบของเราไม่โปร่งใสยังงั้นเหรอ  ต้องการให้ตรวจข้อสอบของเหนือภพใหม่ นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน เอาเรื่องนี้ไปบอกฝ่ายวิชาการสิ ว่ามันเป็นยังไงกันแน่”

“ครับหัวหน้าแผนก”

เจ้าหน้าที่เดินเอกสารรับเอกสารกลับมา แล้วก็หันหลังวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว

“หัวหน้าลมหนาว เกิดอะไรขึ้น ทำไมดูวุ่นวายแบบนี้”

ไผ่ดำ เจ้าหน้าที่แผนกวิชาการเดินเข้ามาขวางหน้าเจ้าหน้าที่เดินเอกสารเอาไว้ เมื่อเขาได้ยินมาแว่ว ๆ ว่ามีการตรวจข้อสอบผิดพลาด เขาที่เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้จึงรู้สึกสงสัยเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่เดินเอกสารรีบมอบเอกสารให้ไผ่ดำ แล้วเขาก็รีบหลบออกไป

“เจ้ามาพอดีเลย จะอะไรอีกล่ะ เจ้ายังจำเด็กที่ชื่อเหนือภพ เมื่อตอนสอบสัมภาษณ์ได้หรือเปล่า”

ไผ่ดำนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า

“อ่อ เจ้าเด็กขี้โม้คนนั้นนะเหรอ จำได้ มีอะไรหรือครับ”

ลมหนาวได้ทีก็เล่าเรื่องที่เหนือภพเป็นคนขององค์หญิงบุษย์น้ำเพชรให้ไผ่ดำฟัง โดยเฉพาะจุดประสงค์ที่แท้จริงขององค์หญิง ที่ต้องการให้มีการตรวจข้อสอบซ้ำอีกครั้งและดูให้แน่ใจว่าเหนือภพนั้นสอบตกจริงหรือไม่

ไผ่ดำถอนหายใจอย่างไม่พอใจ

“อะไรกัน แม้แต่คนโง่ยังดูออกเลย นี่ไม่ใช่การร้องขอให้ตรวจใหม่ แต่นางต้องการข่มเรา บังคับเราปล่อยคนของนางให้ผ่านต่างหาก  อย่ายอมนะครับ ชื่อเสียงหลายร้อยปีของแผนกวิชาการจะเสียไม่ได้”

“เรื่องนี้ข้าเองก็ยังตัดสินใจไม่ได้ มันเป็นดุลพินิจของเหล่าผู้บริหาร”

“แล้วพวกเขาว่ายังไงครับ”

“ในกรณีแบบนี้ ตามปกติแล้วทางผู้บริหารจะลงมาตัดสินด้วยตัวเอง อีกทั้งนี่ยังให้มีการตรวจข้อสอบซ้ำอีกครั้ง และครั้งนี้จะต้องตรวจสอบท่ามกลางฝูงชนเพื่อเป็นสักขีพยายาน เรื่องนี้เจ้าต้องเป็นธุระจัดการ เร่งมือให้เสร็จก่อนที่จะมีการสอบปฏิบัติภาคบ่ายก็แล้วกัน จะได้ไม่เสียกำหนดการที่วางเอาไว้”

“อ่อ แบบนี้ก็ดีครับถือว่าเป็นการตัดสินที่ฉลาด คำตอบของเจ้าเด็กบ้านั่น ต่อให้ตอบถูกบ้างแต่คะแนนรวมก็ยังถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์อยู่ดี  งั้น ข้าจะไปจัดการสถานที่เดี๋ยวเลย”

หลังจากที่คำร้องขององค์หญิงบุษย์น้ำเพชรไปถึงมือเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ทางสำนักงานฮันเตอร์ก็รีบจัดการสถานที่ให้แล้วเสร็จในเวลาไม่นานนัก อัฒจันทร์ขนาดห้าพันที่นั่งของโรงเรียนเซนต์ฮันเตอร์ที่ล้อมลานประลองหมายเลข 3 เอาไว้ กลายเป็นสถานที่ใช้ในการตรวจข้อสอบของเหนือภพ โดยมีผู้เข้าสอบทั้งที่ผ่านและไม่ผ่าน และคนอื่น ๆ ที่สนใจมาร่วมเป็นสักขีพยาน เหนือภพกับบุษย์น้ำเพชรนั่งรออยู่ตรงใจกลางลานประลอง  ซึ่งมีอาคมขยายภาพทำให้ผู้ชมที่อยู่ไกลออกไปสามารถมองดูพวกเขาได้ชัดเจน บนจอภาพอาคมมายาที่ลอยอยู่กลางอากาศ

ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา เจ้าหน้าที่ระดับ 3 ของสำนักงานฮันเตอร์ก็ถูกส่งมาเป็นกรรมการในการตัดสิน หากว่าเจ้าหน้าที่ระดับ 2 ดูภูมิฐานและน่าเคารพแล้ว เจ้าหน้าที่ระดับ 3 นั้นเหนือกว่าหลายเท่านัก พวกเขาเป็นถึงฮันเตอร์แรงค์ C มากบารมี ที่ยากจะพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน

เหนือภพตาโตเมื่อเห็นว่าข้าง ๆ เจ้าหน้าที่ระดับ 3 คือเหนือฟ้า เขาไม่รู้ว่าน้องสาวเขามาในหน้าที่อะไร แต่อย่างน้อยเธอก็ทำให้เหนือภพรู้สึกมั่นใจว่าเรื่องที่เขาถูกกลั่นแกล้งจะได้รับความเป็นธรรม เหนือภพยิ้มกว้างตอบกลับเหนือฟ้าอย่างสบายใจ

เมื่อองค์ประชุมมาครบ เจ้าหน้าที่ระดับ 3 คนหนึ่งก็ประกาศแจ้งจุดประสงค์อันแน่ชัดให้บรรดาผู้ชมได้เข้าใจ เมื่อการประกาศจบลงเจ้าหน้าที่แต่ละแผนกก็เดินออกมากลางลานประลอง มายืนเคียงข้างเหนือภพและองค์หญิงบุษย์น้ำเพชร

ไผ่ดำ เจ้าหน้าที่แผนกวิชาการชูกระดาษคำตอบของเหนือภพขึ้น เพื่อแสดงให้ทุกคนรับรู้และเป็นพยาน ก่อนกระดาษอันนั้นจะถูกส่งให้กับเหนือภพ

“เจ้าดูสิว่ากระดาษคำตอบแผ่นนี้เป็นของเจ้าหรือเปล่า”

เหนือภพหันมององค์หญิงบุษย์น้ำเพชร เขาไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่พวกนี้จะมาไม้ไหน แต่บุษย์น้ำเพชรนั้นเติบโตมาในพระราชวัง เธอคงเคยชินกับแผนการมากมาย ดังนั้นเธอน่าจะเห็นเส้นสนกลในบางอย่างมากกว่าเขา

องค์หญิงบุษย์น้ำเพชรนิ่วหน้า เธอแสดงสัญญาณด้วยการส่ายหน้าเบา ๆ เป็นนัยว่า ‘อย่ายอมรับ’  เมื่อเหนือภพเห็นแบบนั้นก็ยิ้มกว้าง เขายืดอก แผ่นหลังตรงแน่วอย่างมั่นใจ แล้วก็จ้องไผ่ดำราวกับจะตะโกนบอกไผ่ดำว่า ‘ข้าไม่ได้โง่ที่จะให้เจ้าหลอกง่าย ๆ เจ้าไม่ได้แดกข้าหรอก’

“ใช่ เป็นของข้าเอง พวกเจ้ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

เหนือภพตอบอย่างมั่นใจ ในเมื่อบุษย์น้ำเพชรส่ายหน้า แปลว่าไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นเหนือภพจึงตอบรับเต็มปากเต็มคำ ทว่าคำตอบของเหนือภพกลับทำให้บุษย์น้ำเพชรลอบถอนหายใจแล้วก็กุมขมับ เหนือฟ้าส่ายศีรษะ แล้วก็หลบตาลงช้า ๆ แม้แต่สมุทรที่นั่งชมอยู่บนอัฒจันทร์ยังถึงกับอุทานออกมาว่า

“เอาแล้วไง”

“ถ้าถูกต้องแล้ว งั้นข้าจะเริ่มทำการตรวจข้อสอบทีละข้อ ข้าอยากให้ทุกท่านที่อยู่ที่นี่เป็นพยานว่า ข้า.. ไผ่ดำ เจ้าหน้าที่ระดับ 2 แผนกวิชาการของสำนักงานฮันเตอร์ ขอให้สัตย์สาบานว่า ตัวข้าจะตรวจสอบด้วยความยุติธรรม จะไม่มีการคดโกงอะไร”

ไผ่ดำให้คำสัตย์อย่างหนักแน่นต่อฝูงชน สร้างความน่าเชื่อถือให้เจ้าหน้าที่สำนักงานฮันเตอร์เป็นอย่างมาก บุษย์น้ำเพชรพยักหน้ารับ ก่อนจะยื่นข้อเสนอต่อที่ประชุมทั้งหมด

“หากจะให้ตรวจข้อสอบทั้งร้อยข้อ อาจจะต้องใช้เวลายาวนานเกินไป มันจะส่งผลกระทบต่อกำหนดการสอบภาคปฏิบัติในช่วงบ่าย”

ข้อเสนอของบุษย์น้ำเพชรทำให้เจ้าหน้าที่ระดับ 3 ที่นั่งอยู่ด้านข้างพยักหน้าเบา ๆ

“การตรวจข้อสอบทั้งร้อยข้อนั่นใช้เวลามากเกินไปจริง ๆ องค์หญิงมีความคิดอะไรก็เชิญพูดออกมาเถอะ”

“ใช้การสุ่มตรวจเป็นอย่างไร”

เจ้าหน้าที่ระดับ 3 ครุ่นคิดก่อนถามกลับไปว่า

“แล้วการสุ่มตรวจจะบอกได้อย่างไรว่าทางเราเป็นฝ่ายตรวจผิดพลาด หรือผู้เข้าสอบไร้ความสามารถเอง”

บุษย์น้ำเพชรยิ้มมุมปากเล็กน้อย ในเมื่อเหนือภพเผลอหลุดปากยอมรับว่านั่นเป็นข้อสอบของเขาเอง เธอก็จะต้องช่วยแก้เกมให้ เธอรู้ว่าเหนือภพไม่ค่อยมีความรู้ในตำรามากนัก ดังนั้นการตรวจนับคะแนนใหม่ทั้งหมดย่อมเสี่ยงเกินไป คะแนนของเหนือภพคงไม่ผ่านเกณฑ์ 6 ส่วนจาก 10 ส่วนเป็นแน่ แต่หากสุ่มตรวจเฉพาะบางข้อก็ยังมีโอกาส เหนือภพคงไม่ตอบผิดทุกข้อหรอกมั้ง

“ข้ารู้มาว่าในบรรดาข้อสอบแต่ละปี จะมีข้อสอบพิเศษที่มีคะแนนพิเศษอยู่ 9 ข้อ หากตอบถูกเกินครึ่งใน 9 ข้อนั้นก็จะถือว่าสอบผ่านทันที ข้าเข้าใจถูกไหม”

เจ้าหน้าที่ระดับ 3 พยักหน้ารับคำองค์หญิง

“เป็นความจริงองค์หญิง ข้อสอบพิเศษนั้นมีความยากง่ายปะปนกันไป ซึ่งค่าเฉลี่ยในแต่ละปี ผู้ที่สามารถตอบคำถามพิเศษได้คะแนนเกินครึ่งนั้นมีนับนิ้วได้ หากท่านคิดจะใช้เกณฑ์คำถามพิเศษ  9 ข้อนี้เป็นการตัดสินความถูกผิดก็ย่อมได้”

สิ้นเสียงของเจ้าหน้าที่ระดับ 3 ไผ่ดำก็ค้อมหัวรับคำสั่ง เขาทำการเปิดกระดาษข้อสอบของเหนือภพ เพื่อค้นหาคำถามข้อพิเศษที่แฝงอยู่ในคำถามร้อยข้อของปีนี้ เขาใช้ตราประทับอาคมประทับไว้เป็นสัญลักษณ์ในแต่ละข้อ จากนั้นก็เปิดเผยคำถามและคำตอบต่อหน้าพยานทั้งหลาย

“เราจะเริ่มตรวจคำตอบเฉพาะข้อพิเศษ แต่ละข้อมีคะแนน 100 คะแนน หากเหนือภพได้รับคะแนนเกินกว่า 600 คะแนนก็ถือว่าผ่าน และข้าจะขอยอมรับข้อผิดพลาดที่เกิดจากการตรวจข้อสอบรอบแรกเอง”

ไผ่ดำเน้นเสียงในประโยคสุดท้ายอย่างตั้งใจ เขาตั้งใจให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาบริสุทธิ์ใจ ยอมรับความผิดพลาดได้เสมอ ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่คนอื่นในแผนกของเขาจะเป็นคนตรวจข้อสอบของเหนือภพก็เถอะ แต่เขาก็พร้อมยอมรับในนามเจ้าหน้าที่แผนกวิชาการ ไม่เหมือนเจ้าเหนือภพตัวดีที่ไม่ยอมรับความจริง และเมื่อทุกคนได้รู้ความจริง ๆ เขาก็อยากจะรู้นักว่าเหนือภพจะทำหน้าอย่างไร

เหนือภพยิ้มกว้าง เขายังคงเต็มไปด้วยความมั่นใจ และด้วยท่าทางมั่นใจเกินร้อยของเหนือภพทำให้องค์หญิงบุษย์น้ำเพชรรู้สึกวางใจ แต่เมื่อเธอเห็นคำตอบของเหนือภพผ่านจออาคม เธอก็ถึงกับเสียอาการ นิ่งค้างไปชั่วครู่

“จงเขียนคำตอบของคำถามต่อไปนี้

ข้อ 2. จงเขียนขั้นตอนการจัดการภารกิจที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานมือปราบและกรมการปกครองอย่างละเอียด

ตอบ กระทืบมันให้เละ แล้วลากไปทิ้งไว้หน้าสำนักงานมือปราบ”

เมื่อไผ่ดำได้เห็นคำตอบครั้งแรก เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ขณะที่พยานหลายคนที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์ถึงกับหัวเราะเยาะออกมาเสียงดัง ก่อนจะถูกบอกให้เงียบเสียงลงโดยกรรมการ เพราะถึงอย่างไรเหนือภพก็ถือว่าเป็นคนขององค์หญิงบุษย์น้ำเพชร อีกทั้งน้องสาวของเหนือภพยังเป็นว่าที่เจ้าหน้าที่ระดับ 3 คนที่สองของสำนักงานฮันเตอร์แคว้นอมตะ ถึงเหนือภพจะโง่อย่างไรก็ควรให้เกียรติและไว้หน้าเขาสักนิด

ไผ่ดำอึ้งไปครู่ใหญ่ ก่อนจะเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง

“ข้อนี้เจ้าตอบผิด ขั้นตอนในการจัดการภารกิจที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานมือปราบและกรมการปกครอง มีด้วยการ 4 ขั้นตอน

ข้อ 1 ยืนยันคำสั่ง

ข้อ 2 แจ้งเรื่องขออนุญาตผู้เกี่ยวข้องกับหน่วยงานมือปราบ หรือกรมการปกครองโดยตรง

ข้อ 3 หากคำขอได้รับอนุญาตปฏิบัติตามหน้าที่ หากคำขอถูกปฏิเสธให้ยกเลิกภารกิจ

ข้อ 4 เขียนรายงานหลังจบภารกิจ แล้วส่งมอบให้หน่วยงานมือปราบ กรมการปกครอง และสำนักงานฮันเตอร์”

ไผ่ดำพูดอธิบายด้วยเสียงเรียบเฉย ราวกับอาจารย์ที่กำลังสอนสั่งลูกศิษย์ด้วยความเมตตา เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเจ้านี้มันไร้สติปัญญา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คาดหวังอะไรกับคำตอบข้อนี้มากนัก

พอเหนือภพได้ฟังก็นิ่วหน้า เขาพยักหน้าอย่างยอมจำนน แต่ในใจของเขานั้นยังคงมีความหวัง

‘ข้าก็แค่พลาดไปข้อเดียว คอยดูข้ออื่นของข้าก็แล้วกัน’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด