ตอนที่แล้วบทที่ 206
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 208

บทที่ 207


สายลมพัดพาเข้ามาในพื้นที่หอบความหนาวเย็นเข้ามาสัมผัสกาย ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ ไม่มีแม้แต่ผู้ใดกล่าวสิ่งใด เพราะด้วยตื่นตกใจที่เจ้าสำนักหลิวปังเป็นพวกปีศาจ ได้ยินเพียงเสียงกัดฟันดังออกมาจากกลุ่มปีศาจด้านหน้า เนี่ยฟงยกยิ้มก้าวเดินออกมาเอ่ยวาจาเสียงดังลั่น

“จะเป็นการรบกวนหรือไม่ที่พวกเจ้าจะบอกกล่าวออกมาว่า พวกเจ้าที่เมืองหลวงมีผู้ใดบ้างนอกจากเจ้าสำนักหลิวปัง”

“เจ้าจะทำสิ่งใดกันไอ้เด็กเวร”

“อย่างเช่นที่พวกเจ้าทราบ มนุษย์เราหาได้อยากอยู่ร่วมกับปีศาจเช่นพวกเจ้าไม่ สิ่งที่ปีศาจเช่นพวกเจ้ากระทำต่อมนุษย์ที่เหลืออยู่ ยากเกินที่จะให้อภัย เช่นเดียวกับมนุษย์ที่ผันตัวเองรับใช้ปีศาจเช่นพวกเจ้าเช่นกัน เพียงเพราะพลังอำนาจพวกเจ้าถึงกับขายวิญญาณให้แก่ปีศาจร้าย ข้าละอายใจนักหากบิดามารดาของพวกเจ้ายังอยู่ตอนนี้คงไม่อยากมีลมหายใจเพราะลูกบัดซบของพวกเขาทำเรื่องงามหน้าเอาไว้”

“ปากดีนักนะไอ้เด็กเวร ในเมื่อพวกมันรับรู้แล้วก็สังหารพวกมันซะ”

สิ้นเสียงกล่าวปราณสีดำพุ่งโพยออกมา ปีศาจหลายตนส่งเสียงกรีดร้องร่างกายขยายใหญ่ขึ้น พลังปราณระดับสีดำขั้นกลางถูกปลดปล่อยออกมากดดัน เสี่ยวจูสะบัดมือขวาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีเขียวปรากฏที่พื้นเพื่อสลายแรงกดดันที่ปล่อยออกมาจากปีศาจ หลายคนเรียกอาวุธออกมาถือพร้อมกับสัตว์อสูร เป็นหยางเวย จงเหรินป้าและหยางเฟยพุ่งทะยานเข้าไปก่อนใครเพื่อน เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เสียงตะโกนสั่งการของเสี่ยวจูดังลั่นออกมาเช่นกัน หญิงสาวจากกลุ่มฟางจวินซีรีบกระจายตัวใช้ค่ายกลเข้าโจมตี

เนี่ยฟงเองยังไม่ทำสิ่งใดเพียงแค่ยืนจ้องมองอยู่ด้านนอกเพื่อรอบางอย่าง ชั่วน้ำเดือดเนี่ยฟงก็แสยะยิ้มสะบัดมือขวากำชับดาบสีดำในมือจ้องมองผู้อาวุโสท่านหนึ่ง ไม่ถึงสองลมหายใจเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานเข้าปะทะ ผู้คนรอบข้างถึงกับตื่นตกใจที่เนี่ยฟงพุ่งเข้าหาผู้อาวุโสท่านหนึ่ง ทันทีที่คมดาบวาดผ่านแขนซ้ายขาดกระเด็นร่วงลงพื้น เลือดสีเขียวพุ่งกระฉูดออกมาพร้อมกับปราณสีดำ หลายคนถีบเท้าถอยหนี

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นข้า”

เนี่ยฟงหาได้กล่าวสิ่งใดตอบกวัดแกว่งดาบในมือฟาดฟัน ผู้อาวุโสด้านหน้าทำได้เพียงถีบเท้าถอยหนี ทันใดนั้นเองผู้อาวุโสด้านหน้าก็เข้าชนบางอย่างจากด้านหลัง เปรี้ยง เป็นเกราะสายฟ้าที่เนี่ยฟงแอบสร้างเอาไว้ เถาวัลย์สีฟ้าพุ่งเข้ารัดตัวอยู่รวดเร็วพร้อมกับประกายสายฟ้าที่พุ่งออกมาเผาทำลายปราณสีดำรอบกาย เนี่ยฟงตวัดดาบในมือผ่านลำคอศีรษะหลุดกระเด็นร่วงลงพื้น หลังจากเก็บแหวนในมือขวาเนี่ยฟงพุ่งทะยานเข้าไปช่วยเหลือหยางเวยทันที เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ปราณดาบสีฟ้าพุ่งเข้าปะทะร่างกายของปีศาจเสียงดังสนั่น

“ไอ้บ้าเนี่ยฟงกว่าจะออกมาได้”

“ใจเย็นๆหยางเวย ข้าเพียงแค่อยากตรวจสอบบางอยู่ เอาละถึงเวลาแล้ว”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้ารอเวลานี้มานานแล้ว”

เนี่ยฟงตะโกนออกมาเสียงดังลั่น

“รบกวนทุกท่านถอยออกไปก่อน”

สิ้นเสียงกล่าวของเนี่ยฟงมีหลายคนถีบเท้าถอยออกมา เนี่ยฟงหาได้สนใจพวกที่ยังไม่ล่าถอยแน่นอนเพราะเสียงด้งจากการปะทะมีหลายคนไม่ได้ยิน ดาบในมือถูกเก็บแผ่นหินในมือนับสิบแผ่นปรากฏขึ้นมาถูกซัดออกไปอย่างรวดเร็ว หยางเวยเร่งโคจรลมปราณระเบิดปราณพิษออกมาตูมควันพิษสีม่วงฟุ้งกระจาย เสียงฝ่ามือซัดลงพื้นดังลั่น เปรี้ยง ไม่ถึงสามลมหายใจก็ปรากฏโดมสีฟ้าขนาดใหญ่ปรากฏออกมาครอบบริเวณการต่อสู้ หยางเวยแสยะยิ้มพุ่งทะยานเข้าสังหารปีศาจด้านหน้าอย่างสนุกมือ คมมีดวาดผ่านเลือดสีเขียวพุ่งกระฉูดพร้อมกับเสียงร้องโหยหวน ประกายสายฟ้าพุ่งลงมาจากโดมเผาทำลายปราณสีดำของปีศาจ ไม่ถึงหนึ่งเค่อหยางเวยสังหารปีศาจจนหมดประดุจเทพแห่งความตาย เลือดสีเขียวสาดกระเซ็นเศษชิ้นส่วนเกลื่อนพื้น

หลายคนยืนนิ่งจ้องมองหยางเวยสังหารปีศาจด้วยความหวาดกลัวและชื่นชม หาได้สนใจว่าตอนนี้พวกตนที่อยู่ในโดมสีฟ้าไร้ซึ่งพลังปราณ หญิงสาวหลายคนในกลุ่มของฟางจวินซีจ้องมองหยางเวยตาเป็นประกาย เสียงซัดฝ่ามือลงพื้นอีกครั้ง เปรี้ยง โดมสีฟ้าค่อยๆสลายหายไปเนี่ยฟงพุ่งทะยานสะบัดมือขวาเก็บแผ่นหิน เป็นเวลาเดียวกันที่หยางเวยสลายควันพิษสีม่วงเดินยกยิ้มเข้ามาในมือทั้งสองมีแหวนอยู่หลายสิบวง เสียงตะโกนโหร้องดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ผู้อาวุโสที่เหลือต่างเดินเข้ามาชื่นชมทั้งสอง แน่นอนเนี่ยฟงและหยางเวยหาได้ตอบรับกลับยกย่องเหล่าผู้คนที่เข้าร่วมการปะทะเมื่อครู่

เจ้าสำนักถันลู่จวิ้นตอนนี้เริ่มรู้สึกตัวบ้างแล้วเนี่ยฟงจึงขอตัวเพื่อไปตรวจสอบอาการบาดเจ็บ หลังจากนั้นเจ้าสำนักถันลู่จวิ้นมีคำสั่งให้ปิดข่าวการปะทะที่เมืองหน้าด่าน เนี่ยฟงบอกกล่าวบางอย่างให้แก่แม่นางเสี่ยวจูหลังจากนั้นได้มอบแผ่นหินหนึ่งร้อยแผ่นสำรับนำไปใช้ คืนนั้นเองปีศาจที่แฝงตัวอยู่ที่เมืองหน้าด่านถูกกวาดล้างทั้งหมดเกือบสามสิบคน รุ่งเช้าหลังจากอาการของเจ้าสำนักเริ่มดีขึ้นจึงมีการเรียกประชุมด่วนในกระโจมใหญ่ เจ้าสำนักแต่งตั้งให้เนี่ยฟงเป็นหัวหน้าดูแลที่นี่แน่นอนว่าเจ้าตัวปฏิเสธส่งมอบให้แก่ตำแหน่งให้แก่จงเหรินป้าและฟางจวินซี อ้างทำงานอยู่รอบนอกสะดวกกว่า ส่วนเสี่ยวจูเองถูกมอบตำแหน่งเป็นหมอใหญ่ประจำที่นี่แทน

ช่วงบ่ายวันนั้นเองจงเหรินป้าและฟางจวินซีก็นำกำลังคนเกือบทั้งหมดออกไปด้านนอกไล่ล่าสังหารปีศาจร้ายรวมไปถึงผู้อาวุโสสี่คน ก่อนออกไปเนี่ยฟงแจกจ่ายแผ่นหินอีกร้อยแผ่นพร้อมกับวิธีใช้งาน หลายคนตื่นตกใจไม่น้อยกับความสามารถของมัน ทันทีที่คนส่วนใหญ่ออกไปด้านนอก เนี่ยฟงและหยางเวยทั้งสองกระทำบางอย่างรอบๆเมือง โดยการแอบซ่อนแผ่นหินจำนวนมากโดยรอบ รวมไปถึงวงอักขระศักดิ์สิทธิ์จำนวนหลายสิบชุดด้วยกัน หยางเวยแผ่ลมปราณตรวจสอบโดยรอบเพื่อป้องกันอันตราย หลังจากจัดการเสร็จสิ้นพระอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้า เมื่อกลับเข้าเมืองมาก็พบว่ากลุ่มคนที่ออกไปได้กลับเข้ามาแล้ว

จงเหรินป้าและฟางจวินซีสองห้วหน้ากลุ่มที่ออกไปด้านนอกรีบเอ่ยวาจาขอบคุณเนี่ยฟงยกใหญ่สำหรับแผ่นหิน เพราะการออกไปล่าสังหารครั้งนี้หาได้มีผู้ใดตกตายไปแม้แต่คนเดียว มีเพียงอาการบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น เย็นวันนั้นเองจึงมีการฉลองเกิดขึ้น ผู้อาวุโสหลายคนลงทุนออกไปล่าสัตว์อสูรหมูป่าตัวใหญ่ถึงสองตัวสำหรับนำมาย่างทำอาหาร สุราหลายสิบไหถูกนำออกมาแจกจ่าย ไม่นานงานเลี้ยงก็เริ่มต้นขึ้นที่ด้านหน้ากระโจมใหญ่ กองไฟขนาดใหญ่ถูกจุดขึ้นสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ผู้คนทั้งหมดต่างเข้ามาร่วมงานกันอย่างหนาแน่น นานนับสองชั่วยามหลายคนเริ่มที่จะเมามายกลับที่พักแต่ยังคงมีบางส่วนที่นั่งดื่มกินอยู่

เวลาประมาณยามโฉ่ว ผู้คนต่างหลับนอนแต่มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ยังเข้านอนเช่นคนอื่นๆ แต่กลับสวมชุดสีดำและผ้าปิดปากนั่งแอบอยู่กิ่งไม้ใหญ่เฝ้ารอบางอย่าง ไม่นานสิ่งที่ทั้งสองรอคอยก็เกิดขึ้น มีเงาคนผู้หนึ่งพุ่งออกมาจากกระโจมหลังหนึ่งมุ่งหน้าออกไปด้านหลัง ชายหนุ่มทั้งสองที่แอบคอยอยู่ก็รีบพุ่งติดตามโดยทิ้งระยะห่างพอสมควร ไม่นานก็พบว่าคนผู้นั้นหยุดอยู่บริเวณศาลาแปดเหลี่ยมรกร้างด้านนอก ชั่วน้ำเดือดก็มีคนชุดดำอีกสามคนเดินออกมาจากด้านข้างของศาลาแปดเหลี่ยม

ชายหนุ่มทั้งสองแอบพุ่งเข้าประชิดอย่างช้าๆเพื่อให้ได้ยินเสียงที่ทั้งสี่พูดคุยกัน แต่ทว่าก็ไม่ได้ยินสิ่งใดเพราะแรงลมที่พัดพาลมหนาวเข้ามาตลอดเวลา ในขณะนั้นเองก็เกิดเหตุบางอย่างกับทั้งสี่คน ทั้งสี่เริ่มที่จะพูดคุยกันเสียงดังมากขึ้นและเริ่มที่จะใช้อารมณ์ในการพูดคุย ไม่ถึงห้าลมหายใจทั้งสี่ก็เริ่มสะบัดมือนำอาวุธคู่ใจออกมาถือ ไม่ถึงสามลมหายใจก็มีเสียงกล่าวดังออกมาจากทั้งสี่

“ข้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพวกเจ้าทั้งสองแอบติดตามข้าออกมา”

ชายหนุ่มทั้งสองขมวดคิ้วคิดหลบหนีแต่ทว่าก็ถอยไปชนกับบางอย่างเมื่อหันไปมองพบเห็นเป็นเกราะสายฟ้าสองอันปรากฏออกมาสกัดทางหนีด้านหลังเอาไว้

“พวกเจ้าทั้งสองคนจะบอกกล่าวต่อข้าได้หรือไม่ว่าพวกเจ้าเป็นคนของผู้ใด”

ไร้ซึ่งเสียงตอบกล่าวใดๆจากชายหนุ่มทั้งสองไม่นานก็ได้ยินเสียงสั่งการออกมา

“หยางเวย แม่นางฟางจวินซีจับกุมพวกเขาทั้งสอง”

สิ้นเสียงกล่าวเถาวัลย์สีฟ้าก็พุ่งออกมาจากเกราะสายฟ้ารัดตัวชายชุดดำทั้งสอง

( ยามโฉ่ว ตีหนึ่งถึงตีสองห้าสิบเก้านาที )

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด