ตอนที่แล้วบทที่ 200
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 202

บทที่ 201


สายฝนที่สาดกระหน่ำอยู่ตลอดเวลาเริ่มอ่อนแรงโรยราโปรยปรายลงอย่างช้าๆ แว่วเสียงร้องคำรามของสัตว์อสูรยังคงมีเข้ามาเป็นระยะๆรอบทิศทาง เนี่ยฟงหยุดพักตรวจสอบแผ่นหนังเพื่อเสาะหาจงเหรินป้าบริเวณซากโบราณสถาน ทันใดนั้นก็รู้สึกเห็นอะไรบางอย่างบริเวณหางตาด้านซ้ายเมื่อหันไปมองเห็นประกายแสงสะท้อนออกมาไม่นานก็จางหายไป เนี่ยฟงรีบเดินเข้าไปตรวจสอบแต่ทว่าก็ไม่พบเจอสิ่งใด วาบแรกในความคิดโคจรลมปราณปลดปล่อยประกายสายฟ้าออกจากมือขวา ชั่วน้ำเดือดประกายสายฟ้าก็พุ่งทะยานไปด้านหน้า เสียงถีบเท้าดังแว่วพุ่งทะยานติดตามร่างของเนี่ยฟงก็จางหาย ทิ้งไว้เพียงความเงียบและเสียงสายฝนกระทบใบไม้

ประกายสายฟ้าพุ่งทะยานไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เนี่ยฟงเองเร่งฝีเท้าติดตามอย่างไม่ลดละไม่นานก็ได้ยินเสียงน้ำตกแว่วดังเข้ามา สายน้ำขุ่นพัดสาดเทมาจากน้ำตกเพราะสายฝนที่สาดกระหน่ำ ประกายสายฟ้าพุ่งหายเข้าไปม่านน้ำตก เขายกยิ้มสะบัดมือขวา เกราะสายฟ้าปรากฏออกมาเป็นทางลอยอยู่เหนือพื้นแม่น้ำ ทันทีที่พุ่งทะยานออกไปได้ครึ่งทาง เนี่ยฟงรีบสะบัดมือขวากำชับดาบสีดำในมือ ตวัดขึ้นบนฟ้า ปราณดาบสีฟ้าพุ่งเข้าปะทะกับต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกสายน้ำพัดลงมาจากน้ำตก เปรี้ยง ซากเศษไม้แตกกระจายลงสู่แม่น้ำ เนี่ยฟงพุ่งทะยานไปที่ม่านน้ำตกพร้อมเกราะสายฟ้าที่ปรากฏออกมาป้องกันน้ำจากน้ำตก

หลังม่านน้ำตกมองไม่เห็นสิ่งใดเห็นเพียงผนังหินเต็มพื้นที่เสียงสะบัดมือดังแว่ว ประกายสายฟ้าพุ่งเข้าหาผนังหินชั่วน้ำเดือดก็ปรากฏวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงสว่างออกมาจากผนังหิน เนี่ยฟงยืนจ้องมองอยู่นานนับหนึ่งเค่อจึงลงมือแก้ไขวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงด้านหน้า ประกายสายฟ้าพุ่งจากมือขวาไปที่วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดง อักษรในวงอักขระศักดิ์สิทธิ์จากสีแดงค่อยๆกลายเป็นสีฟ้าทีละตัว เกือบสองเค่อทั้งอย่างก็เสร็จสิ้นวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงกลายเป็นสีฟ้าทั้งหมดไม่นานก็จางหายไป มองเห็นทางเดินขนาดเล็กทอดยาวไปด้านใน

แสงสว่างจากตะเกียงสาดส่องทางเดินด้านหน้าโดยรอบสภาพเปียกชื้น เนี่ยฟงก้าวเดินอย่างระมัดระวังพร้อมกับแผ่ลมปราณตรวจสอบด้านหน้าอยู่ตลอดเวลา ไม่นานก็พบเจอผนังหินกั้นด้านหน้าอีกครั้ง เนี่ยฟงแก้ไขวงอักขระศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งใช้เวลาไปอีกเกือบหนึ่งเค่อในที่สุดก็ปรากฏทางเดินด้านหน้าอีกครั้งกลิ่นเหม็นสาบโชยออกมาฉุนขึ้นจมูก

“ไอ้หนูระวังตัวไว้ ข้าว่าที่นี่ช่างแปลกประหลาดนัก”

“ขอรับ”

สิ้นเสียงตอบรับเนี่ยฟงเรียกเกราะสายฟ้าออกมาที่ด้านหน้าสองวงพร้อมกับก้าวเดินเข้าไปด้านใน เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ปราณดาบและกระบี่จากวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงพุ่งเข้าปะทะเกราะสายฟ้า เนี่ยฟงโคจรลมปราณเพิ่มพลังปราณให้แก่เกราะสายฟ้าเพื่อต้านปราณดาบและปราณกระบี่ที่พุ่งเข้ามาปะทะ ไม่ถึงยี่สิบลงหายใจเนี่ยฟงก็เดินหลุดออกมาจากทางเดิน พบเห็นห้องโถงขนาดกลางไม่เล็กไม่ใหญ่มาก ด้านหน้ามีศาลาแปดเหลี่ยมตั้งอยู่สภาพโดยรอบผุพังจากกาลเวลา สังเกตตรงกลางพบเจอซากโครงกระดูกคนผู้หนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่

เนี่ยฟงขมวดคิ้วทั้งสองขึ้นก้าวเดินสำรวจโดยรอบแต่ก็ไม่พบสิ่งใดเพิ่มเติม จึงใช้ประกายสายฟ้าตรวจสอบอีกครั้งแต่ก็ไม่พบเจอสิ่งใดเช่นกันจึงกลับมาที่ศาลาแปดเหลี่ยมอีกครั้ง เนี่ยฟงตรวจสอบบริเวณซากโครงกระดูกพบเจอบันทึกหนึ่งเล่มตกอยู่ เมื่อเปิดออกมาอ่านพบว่าอักษรที่เขียนด้านในแปลกประหลาดยิ่งนัก

“ไอ้หนูเหตุใดเจ้าไม่ใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์แปลอักษรด้านใน”

“ทำได้ด้วยหรือขอรับท่านลุ่ยกง”

“เจ้าก็ลองดูสิ”

สิ้นเสียงกล่าวของลุ่ยกง ประกายสายฟ้าก่อตัวเป็นอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าพุ่งไปที่บันทึกไม่นานอักษรด้านในก็ถูกแก้ไขเป็นภาษาที่เข้าใจได้เช่นเดียวกับการแปรเปลี่ยนอักษรที่ศิลาจารึก เขาใช้เวลาอ่านข้อความด้านในอยู่นานเกือบชั่วยาม ทันทีที่อ่านข้อความด้านในเสร็จสิ้นก็เดินไปที่ด้านหน้าของซากศพคุกเข่าลงที่ด้านหน้าพร้อมกับโขกศีรษะที่ด้านหน้า

“เกิดสิ่งใดขึ้นไอ้หนู”

เนี่ยฟงเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองที่ใบหน้าของซากศพไม่นานก็เอ่ยวาจาออกมา

“ชายผู้นี้มีนามว่า หลี่เฟิงจุนเป็นคนจากดินแดนแห่งนั้นขอรับ เหตุที่ข้าโขกศีรษะให้แก่เขาก็เพราะว่า ชายผู้นี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับมารดาของข้าไม่มากก็น้อยขอรับ”

“เหตุใดเจ้าถึงคิดเป็นเช่นนั้น”

“จากบันทึกที่ข้าได้อ่าน มีข้อความเขียนว่า ตัวข้าหลี่เฟิงจุนเฝ้ารอน้องสาวหลี่พินอินอุ้มท้องหลานคนสำคัญของตระกูลกลับมาจากตระกูลเนี่ยตระกูลใหญ่ในดินแดนแห่งนี้”

“มีความเป็นไปได้หลายส่วน”

“หากพบเจอท่านปู่อีกครั้งข้าต้องสอบถามเรื่องนี้ให้ชัดเจน”

ก่อนจากเนี่ยฟงโขกศีรษะอีกครั้งหลังจากนั้นก็เดินออกมาตามทางเดิน ไม่ลืมที่จะจัดการใช้วงอักขระศักดิ์สิทธิ์ปิดทางเข้าเอาไว้ ทันทีที่ออกมาจากหลังน้ำตกด้านนอกก็มืดลงเสียแล้วมีเพียงแสงจากดวงจันทร์สาดส่อง ตอนนี้สายฝนได้หยุดลงแล้วมีเพียงความหนาวเย็นที่สายลมพัดมาเข้าปะทะร่างกาย เนี่ยฟงพุ่งทะยานขึ้นไปพักบนกิ่งไม้ทานอาหารแห้งที่นำติดตัวมาหลังจากนั้นก็นั่งโคจรลมปราณรอเวลาจนถึงรุ่งเช้า

ทันทีที่แสงอรุณกระทบใบหน้าแผ่นหนังปรากฏออกมาอีกครั้งหลังจากจ้องมองอยู่นานเพื่อหากลุ่มของจงเหรินป้า จนแน่ใจก็รีบพุ่งทะยานออกไปเกือบสองชั่วยามเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานเข้ามา เป็นหยางเวยที่เอ่ยวาจาเรียกให้หยุดฝีเท้า

“เนี่ยฟง”

เมื่อเนี่ยฟงหยุดฝีเท้าหยางเวยก็กระโดดลงมาจากกิ่งไม้ใหญ่ด้านข้าง

“เจ้าหายไปนานข้าคิดว่าเจ้าจะเป็นอะไรไปเสียแล้ว เกิดสิ่งกัน”

“พอดีข้าพบเจอบางอย่างน่าสนใจหลังจากสังหารเนี่ยเหวิน”

“เอาไว้ให้พบเจอปู่ของข้าเจ้าจะเข้าใจว่าข้าพบเจอสิ่งใด เพียงแต่ว่าตอนนี้ข้าขอตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้งก่อนก็แล้วกัน ว่าแต่ทางจงเหรินป้าเป็นอย่างไรบ้าง”

“ไม่มีสิ่งใดหลังจากพวกนั้นกลับมาก็ออกสังหารสัตว์อสูรบริเวณใกล้เคียงไม่ห่างจุดปลอดภัยที่เจ้าทำไว้ให้”

“หากไม่มีสิ่งใดแล้วเราไปกันเถอะ”

“ไปที่ใดกันเนี่ยฟง”

“สังหารสัตว์อสูรและปล้นชิงสมบัติ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เช่นนั้นคุณชายเนี่ยฟงนำทางเถอะขอรับ”

เนี่ยฟงส่ายศีรษะไปมาไม่นานก็พุ่งทะยานนำหน้าหยางเวยออกไป ทั้งสองไม่มีผู้ใดกล่าวสิ่งใดทันทีที่พบเจอสัตว์อสูรอยู่ด้านหน้า ลงมือสังหารอย่างรวดเร็วหยางเวยเข้าปะทะในระยะประชิด ส่วนเนี่ยฟงอยู่ด้านนอกใช้กระบี่เข้าโจมตีและคอยใช้เกราะสายฟ้าเข้าต้านรับให้หยางเวย เมื่อวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าก่อตัวสำเร็จก็ใช้เถาวัลย์สีฟ้าเข้ารัดสกัดการเคลื่อนไหวเพื่อให้หยางเวยเป็นคนสังหาร หยางเวยเป็นคนเก็บแก่นพลังปราณและก้อนเนื้อสัตว์อสูรสำหรับทำอาหาร สัตว์อสูรจำนวนไม่น้อยที่ทั้งสองเร่งมือสังหาร ผ่านไปอีกสองวันทั้งสองก็กลับมายังถ้ำที่พวกเสี่ยวจูและฟางจวินซีเพื่อส่งมอบเนื้อสัตว์อสูรรวมไปถึงเนื้อสัตว์อสูรบางส่วน เมื่อมีเวลาเหลือทั้งสองก็ช่วยชี้แนะหญิงสาวในกลุ่ม ไม่นานทั้งสองก็กลับออกมาสังหารสัตว์อสูรเหมือนเช่นเคยตามภารกิจที่ได้รับ เพราะตอนนี้ไม่มีผู้ใดไล่ล่าสังหารกันเช่นช่วงเวลาก่อนหน้านี้อีกแล้ว

ภายในห้องรับรองแยกสำหรับทานอาหารในโรงเตี๊ยมมีชื่อในเมืองหลวง ชายชราสวมชุดสีฟ้าหน้าตาหล่อเหลาผมสีดอกเลา รูปร่างสูงโปร่งเดินนำหน้าเข้ามาพร้อมผู้ติดตามอีกสามคนก้าวเดินเข้ามาด้านในห้อง ชายหนุ่มสองคนสวมชุดสีเทาทานอาหารอยู่รีบวางตะเกียบลงพร้อมกับลุกขึ้นคารวะชายชราสวมชุดสีฟ้า

“คารวะท่านหัวหน้า”

“เกิดสิ่งใดขึ้นเหตุใดพวกเจ้าถึงทำหน้าตาเช่นนั้น”

“เรียนตามตรงขอรับคนของเราที่แฝงตัวเข้าไปด้านในตอนนี้ขาดการติดต่อไปแล้วหลายสิบคน คาดว่าคงถูกสังหารไปแล้วขอรับ”

“เจ้าตรวจสอบดีแล้วใช่หรือไม่”

“เรื่องนี้พวกข้าทั้งสองตรวจสอบมาดีแล้วขอรับ อีกอย่างท่านเนี่ยเหวินก็ขาดการติดต่อไปแล้วขอรับ”

“บัดซบมันเกิดสิ่งใดขึ้นที่นั่น เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน พวกเจ้าส่งคนของเราเข้าไปที่นั่น ข้าต้องการสิ่งของบางอย่างด้านในนั้น”

สิ้นเสียงกล่าวของชายชราสวมชุดสีฟ้าพลังปราณสีดำพุ่งพวยออกมาจากร่างกาย ดวงตาเริ่มกลายเป็นสีแดงก่ำ ชายหนุ่มสองคนสวมชุดสีเทาตัวสั่นสะท้านไปด้วยความกลัวรีบคุกเข่าลงที่พื้นกล่าววาจาตอบรับด้วยเสียงสั่นเครือ

“ขอ ขอรับ พวกข้าจะเร่งจัดการให้ท่านอย่างรวดเร็ว”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด