ตอนที่แล้ว47.แม่เฒ่าหนานมาพบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป49.หาเครื่องมือ

48.ข้าคือหลิ่วเจินจริง ๆ


หลิ่วเจินใช้เวลาเฟ้นหาความทรงจำในหัวเป็นนานสองนาน ก็ไม่พบสิ่งใด เป็นครั้งแรก ที่นางรู้สึกอึดอัดใจอย่างที่สุด นางจำไม่ได้เลยจริง ๆว่าเคยมีปฏิสัมพันธ์กับอีกฝ่ายแต่อย่างใด

“ไม่ ไม่ จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร? ก็แค่ช่วงนี้ข้ายุ่งมากจริง ๆ ก็เลยลืมไปน่ะ” หลิ่วเจินโพล่งออกมา พลางหัวเราะแหะ ๆ

สีหน้าของแม่เฒ่าหนานเองก็ดูไม่มีอะไรผิดสังเกตุ

“ไม่เป็นไร ตอนนี้ข้าควรไปได้แล้ว เจ้าพาข้าไปส่งบ้านได้หรือไม่?” แม่เฒ่าหนานลุกยืนขึ้นอย่างยากลำบาก

หลิ่วเจินวางขนมในมือลงแล้วรีบไปช่วยประคองหญิงชรา

กู้หรูเฟิงผู้ซึ่งเฝ้ามองหลิ่วเจินประคองแม่เฒ่าหนานจากไป ให้รู้สึกแปลกๆในใจ ในวันวิวาห์ของคนทั้งสอง คล้ายว่าไม่เคยเห็นแม่เฒ่าหนานไปปรากฏตัวที่งานเลย ไฉนจู่ ๆ นางถึงเป็นฝ่ายมาเยี่ยมหลิ่วเจินในวันนี้เล่า?

หลิ่วเจินประคองแม่เฒ่าหนานกลับไปถึงบ้านของอีกฝ่าย ตอนที่หญิงสาวกำลังจะจากไป แม่เฒ่าหนานเอ่ยน้ำด้วยเสียงเรียบเรื่อย ไม่รีบร้อน “เจ้าไม่ใช่อาเจิน”

ใจหลิ่วเจินบีบรัดแน่นทันใด

เกิดอะไรขึ้น? ดูเหมือนนางมิได้ทำอะไรผิดสังเกตุไปใช่ไหม?

“แม่เฒ่าหนาน ท่านพูดอะไรของท่านกัน? ข้าคือหลิ่วเจิน!” ฝ่ามือของหลิ่วเจินเริ่มมีเหงื่อซึม ทว่าใบหน้าหญิงสาวยังมิปรากฏคลื่นแห่งความหวาดหวั่น

แม่เฒ่าหนานจับขอบโต๊ะแล้วเอ่ยว่า “ตอนเจ้ายังเด็ก เจ้าไม่ชอบกินขนมนี่เลย ข้าทำให้ขนมนี่ให้พวกเด็กคนอื่น ๆกิน ส่วนเจ้าไม่เคยกิน ทว่าเจ้าชอบให้ข้าทำแป้งทอดฟักทอง มิหนำซ้ำ เจ้าชอบเอะอะโวยวาย มีนิสัยเจ้าอารมณ์และบอกว่าไม่กินแป้งทอดผักชี ต่อมาเจ้าก็อาละวาดตึงตัง  เห็นแบบนี้แล้ว..ข้าเลยตีเจ้าไปทีหนึ่ง พอวันรุ่งขึ้นเจ้าก็มาหาข้าใหม่” แม่เฒ่าหนานจับจ้องหลิ่วเจิน ที่กำลังย้อนนึกถึงเรื่องในอดีต

หลิ่วเจินขมวดคิ้วน้อย ๆ เหตุใดนางถึงไม่เคยรู้ว่ามีเรื่องแบบนี้มาก่อนเล่า?

“จริง ๆรึ? มันนานมากแล้ว ข้าเลยจำไม่ได้แล้วล่ะ” หลิ่วเจินฉีกยิ้ม

แม่เฒ่าหนานรู้สึกว่าหลิ่วเจินดูจะนุ่มนวลเกินไปหน่อย “เจ้าไม่เคยพูดกับผู้คนอย่างนุ่มนวลมากแบบนี้”

ใช่ เมื่อก่อนนี้หลิ่วเจินมีอารมณ์ด้านร้ายทุกรูป ซ้ำยังเกิดโทสะง่ายด้วย จู่ ๆนิสัยหญิงสาวก็เปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหวในฉับพลัน ซึ่งทำให้คนสงสัยขึ้นมาจริง ๆ

“จริง ๆ รึ ภายหลังข้าแต่งงานแล้ว ก็เลยเข้าใจ ว่าไม่ควรโวยวายอย่างไร้เหตุผลและเอาแต่ใจแบบในอดีตอีก”  คำพูดนี้ฟังดูสมเหตุสมผลมาก

ทันใดนั้นแม่เฒ่าหนานก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไร เพราะมันฟังดูมีเหตุผลนัก สตรีหลายคนที่แต่งงานไปแล้ว หลายคนก็มีนิสัยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะโดนชีวิตหลังแต่งเคี่ยวกรำจนเลิกเอาแต่ใจไปเลย

“ที่บ้าน ไม่แย่ใช่ไหม?” แม่เฒ่าหนานพลันเปลี่ยนมาคุยเรื่องชีวิตคู่กับหลิ่วเจินแทน

หลิ่วเจินนิ่งงันไปชั่วครู่ ในหัวพยายามคิดหาวิธีแก้ต่างอย่างรวดเร็วตามเคย? ตอนเริ่มต้น นางเพียงรู้ว่าความสัมพันธ์ของเจ้าของร่างเดิมกับกู้หรูเฟิงตึงเครียดมาก แต่ดูเหมือนจะคลี่คลายลงไปโขหลังนางเข้ามายึดครองร่างนี้แทน

“ก็ไม่แย่  ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทีละนิด ๆ น่ะ”หลิ่วเจินตอบ

แม่เฒ่าหนานพยักหน้า แล้วเดินเข้าตัวบ้านไป ครั้นแล้วก็ออกมาพร้อมกับห่อกระดาษน้ำมันในมืออีก

หลิ่วเจินกำลังคิดว่า นี่เป็นกับดักอีกอันหรือไม่?

แม่เฒ่าหนานคลี่กระดาษห่อน้ำมันตรงหน้านาง “เจ้าไม่ชอบแป้งทอดผักชี แต่เจ้าชอบแป้งทอดฟักทอง ดังนั้นข้าเลยทำมาให้ เจ้าลองชิมดูสิ” มีแป้งทอดฟักทองสี่ถึงห้าชิ้นในนั้น แต่พวกมันเย็นหมดแล้ว

ยามนี้หลิ่วเจินลังเลอยู่เป็นนาน นางควรกินหรือไม่กินดี ขนมนี่ดูคล้ายแป้งทอดผักชี และหากกินเข้าไปแล้ว จะโดนสงสัยหรือไม่

“ไฉนไม่กินเล่า?” แม่เฒ่าหนานเอียงคอเล็กน้อย มองหลิ่วเจินด้วยสีหน้าเอ็นดู

หลิ่วเจินครุ่นคิดอยู่เป็นนาน และในที่สุดก็หยิบขึ้นมากินชิ้นหนึ่ง

สีหน้าของแม่เฒ่าหนานชัดเจนว่าดูไม่ผิดปกติแต่อย่างใด

หลิ่วเจินไม่ใช่คนเลือกกิน ความจริงแล้ว นางกินอะไรก็ได้ แต่ยายตัวแสบที่เป็นเจ้าของร่างเดิมนี้ยากจะบอกได้ว่าเป็นเช่นใด เหนืออื่นใด พวกนางทั้งสองคนแตกต่างกัน จะหนึ่งคนหรือครึ่งคน ไม่มีใครหรอกที่จะเหมือนกันได้ทุกกระเบียดนิ้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด