ตอนที่แล้วตอนที่ 229-230
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 233-234

ตอนที่ 231-232


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 231 : การแข่งขันอันดุเดือด

อาวุธที่หลิวลู่เหม่ยเลือกนั้นคือเปียโนหยกศักดิ์สิทธิ์

ด้วยมือเปล่าบรรเลง คลื่นเสียงที่มองไม่เห็นจึงฉีกกระชากห้วงมิติออกจากกัน!

มู่หรงไห่เถิงไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่า ขณะนี้ถือคันธนูยาวที่สูงราวตัวคน!

พลังงานวิญญาณอันรุนแรงเข้ากดดัน!

ที่ตัวคันธนูหาได้มีลูกศร ทว่ายามเมื่อมู่หรงไห่เถิงง้างสายคันธนูพร้อมปล่อยนิ้วออก มันจะปรากฏคลื่นเสียงมังกรคำรามดังจากคันธนูยาวราวมังกรคำรามร้อง

ร่างจำแลงมังกรทะยานออกประหนึ่งปลายดาบ มันเข้าปะทะกับคลื่นเสียงที่ทะยานเข้ามาก่อนจะเลือนหายไปทั้งคู่

……

สี่สมรภูมิเกิดการศึกที่แตกต่างกันออกไป

คนทั้งแปดต่างเผยพลังออกราวหนึ่งในสิบ

อย่างไรที่นี่ก็เป็นโหมดอารีน่า เรื่องอื่นใดให้กังวลล้วนไม่มี เพียงปล่อยมือและเท้าต่อสู้ไปตามปรารถนาก็พอ!

ส่วนเถ้าแก่ร้านเช่นลั่วฉวน ขณะนี้ไปนอนทอดกายอยู่หน้าทางเข้าร้าน ทว่าจิตใจได้ไปอยู่หอคอยแห่งการทดสอบแล้ว

ลั่วฉวนกำลังใช้สิทธิ์ของเถ้าแก่ร้านรับชมศึกระหว่างคนทั้งแปดด้วยความสนอกสนใจ

ตัวเขามีข้อสงสัย ว่าระบบจะจัดแบ่งศึกระหว่างคนทั้งแปดเช่นไร...

นอกจากนี้แล้วศึกก่อนหน้าของเหล่าไป่และจี้อู๋ฮุยในโหมดอารีน่า ระบบก็สมควรตระหนักได้แล้วว่าในโหมดอารีน่ามีอะไรขาดแคลนไปบ้าง

มันส่งผลให้ขณะนี้ผู้เล่นสามารถใช้งานพลังแห่งโชคของตนเองที่ภายในนั้นได้

คณะของเหว่ยอี้ทั้งสามยามนี้แม้ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแล้วก็ไม่ได้เข้าหอคอยแห่งการทดสอบเหมือนดังทุกครั้ง

แต่ทั้งสามเลือกที่จะยืนด้านหลังผู้อาวุโสของตนเองเพื่อรับชมศึกที่เกิดขึ้น

ศึกระหว่างขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่เก้า สมรภูมิย่อมต้องมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างมหาศาล

หากหย่อนความระวังแม้เพียงนิด นั่นจะเป็นจุดที่นำพาไปสู่ความพ่ายแพ้

ด้วยเหตุนี้คนทั้งแปดจึงทุ่มสมาธิสุดตัวกับการต่อสู้ พวกเขาหาได้กล้าหย่อนความระวังแม้เพียงนิดไม่

คนทั้งสามที่อยู่ภายนอกต่างต้องอุทานออกกันครั้งแล้วครั้งเล่า

ขณะเดียวกัน สายตาพวกเขาก็เผยความปรารถนาอันแรงกล้า

สักวันหนึ่งพวกตนจะต้องมีพลังอำนาจสะท้านฟ้าสะเทือนดินเช่นนั้นครอบครองในมือให้จงได้!

เหยาซือหยานเผยสายตามองทิศทางพลางละความสนใจ

ศึกของขอบเขตทดสอบเต๋า นางหาได้สนใจแต่อย่างใดไม่

ด้วยขอบเขตราชัน ตัวนางนั้นเกินจะเปรียบเทียบกับขอบเขตทดสอบเต๋าไปไกลแล้ว

พิจารณาจากสายตาของเหยาซือหยาน ศึกทั้งสี่นี้หาได้ต่างอะไรจากเด็กเล่นไม่

อย่างไรแล้วนางก็เป็นเสมียนประจำร้านต้นตำรับมานาน เข้าเล่นเครื่องเกมเสมือนจริงมานับครั้งไม่ถ้วน กำลังของนางย่อมไกลห่างเกินกว่าตั้งแต่ครั้งแรกมาเยือนร้านมากแล้ว

“เถ้าแก่ อรุณสวัสดิ์!”

เมื่อเจียงเหวิ่นฉางเดินเข้ามาในตรอก สิ่งแรกที่ทำคือกล่าวทักทายต่อลั่วฉวนที่นอนอาบแดดอยู่หน้าร้าน

“อืม” ลั่วฉวนรับคำโดยไม่เปิดตา สิ่งนี้ถือเป็นการตอบรับแล้ว

ขณะนี้ความสนใจของเขามุ่งเน้นไปยังทั้งสี่สมรภูมิ ภายในใจเขาสามารถแบ่งแยกงานกันได้ ดังนั้นจึงมีเวลาที่จะตอบรับคำของเจียงเฉิงจวิน

ต้องกล่าวว่าพลังจิตของลั่วฉวนขณะนี้ควบคุมได้ถึงระดับอันน่าสะพรึงกลัว!

สิ่งนี้คือพรสวรรค์อันชวนสะพรึง อีกทั้งยังเกิดขึ้นจากความพยายามส่วนตนด้วย!

อย่างไรแล้วพรสวรรค์แม้เลิศล้ำเพียงใด แต่หากไม่อาจนำมาใช้งานให้ดีได้ เช่นนั้นก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ

ลั่วฉวนผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยจากดาวเคราะห์ฟ้าครามในชีวิตก่อนหน้าทราบความจริงเรื่องนี้ดี

พบเห็นเถ้าแก่ไม่คิดพูดกล่าวมากความ เจียงเฉิงจวินก็ไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด

เขายิ้มตอบก่อนจะเดินเข้าร้านไป

“หือ? ไฉนวันนี้มีคนมากมายนัก?” ทันทีที่เข้ามาในร้าน เจียงเฉิงจวินต้องประหลาดใจกับภาพที่พบเห็น

ดังทราบว่าขณะนี้ยังเป็นช่วงเช้าตรู่ กล่าวได้ว่าร้านต้นตำรับเพิ่งเปิดทำการไม่นานนักด้วยซ้ำ

ตอนที่ 232 : เรื่องชวนประหลาดใจของเจียงเฉิงจวิน

ตามปกติในช่วงเวลาที่ร้านเพิ่งเปิด ลูกค้าจะมีไม่มากเท่าใดนัก

แต่แล้วขณะนี้เล่า?

ด้วยคนทั้งแปดนั่งเล่น เครื่องเกมเสมือนจริงขณะนี้จึงเหลือที่เล่นเพียงครึ่ง!

อีกทั้งยังมีผู้ชมอีกสามคนคอยดูอยู่!

เมื่อเจียงเฉิงจวินได้พบเห็นผู้ซึ่งเล่นหอคอยแห่งการทดสอบอยู่ ใบหน้านั้นต้องเผยอาการหวาดกลัวออก

ไม่ใช่คนเหล่านี้คือยอดฝีมือสูงสุดขาประจำร้านต้นตำรับกันหรอกหรือ?

แม้ว่าจะมีหลายคนที่ไม่คุ้นหน้า กระนั้นหากเล่นร่วมกับคนกลุ่มเดียวกันนี้ย่อมไม่ใช่มีกำลังเล็กจ้อยเป็นแน่!

เจียงเฉิงจวินเดินมาทางโต๊ะรรับรองก่อนจะก้มศีรษะลงเล็กน้อย “พี่ซือหยาน กลุ่มคนตรงนั้นทำอะไรกันหรือ?”

“แข่งขันกันในโหมดอารีน่า”​ เหยาซือหยานตอบคำอย่างเรียบเฉย

“แข่งขัน?” เจียงเฉิงจวินงุนงง

“วันนี้มีไวน์หยกเข้ามาเติมสินค้า” เหยาซือหยานกล่าวต่อ

วันนี้มีไวน์หยก?

คราแรกเจียงเฉิงจวินงุนงงไปวูบ แต่แล้วไม่ช้าสายตาก็พลันต้องเบิกกว้างออก

ด้วยเพราะมัวแต่เล่นหอคอยแห่งการทดสอบทุกวี่วัน มันทำเจียงเฉิงจวินลืมเลือนเรื่องระยะเวลาของไวน์หยกไป

แต่อย่างน้อยตัวเขาก็ไม่ได้ต้องการสินค้าดังกล่าว

เพราะเขายังหนุ่ม ดังนั้นจึงยังไม่ประสบกับปัญหาขาดแคลนพลังชีวิต

อีกประการหนึ่งที่เจียงเฉิงจวินทราบดี คือแม้ตัวเขาคือบุตรแห่งขุนนางซ้าย แต่ราคาหนึ่งแสนผลึกวิญญาณของไวน์หยกนั้นต่อให้เขาขายตนเองออกก็ยังไม่พอซื้อ!

“คนเหล่านี้มาที่ร้านวันนี้เพราะแย่งชิงไวน์หยกงั้นหรือนี่?” เจียงเฉิงจวินชี้ไปยังกลุ่มคนที่อยู่ไม่ไกลห่างพร้อมถามออกอย่างไม่ค่อยแน่ใจ

เหยาซือหยานพยักหน้ารับ “ถูกต้องแล้ว”

“ไวน์หยกมีเพียงหนึ่งขวด อย่างนั้นจะตัดสินกันอย่างไร?” เจียงเฉิงจวินกล่าวถาม

“เรื่องเป็นเช่นนี้...” เหยาซือหยานจึงเริ่มบอกเล่าถึงเรื่องการตัดสินระหว่างกลุ่มคน

เจียงเฉิงจวินจึงนิ่งงันไป

เขาต้องกระแอมไอเสียงเบาออก “พี่ซือหยาน ข้าขอถามว่าพวกเขาจะสู้กันจนเหลือคนสุดท้ายอย่างไร? เป็นการแพ้คัดออกงั้นหรือ? เรื่องนี้ออกจะไม่ยุติธรรมไปบ้าง...”

ระหว่างพูดคุย เจียงเฉิงจวินก็ลูบสัมผัสคางตนเองไปพลางครุ่นคิด

ผู้คนทราบดีว่าเจียงเฉิงจวินนั้นคือรุ่นเยาว์ที่ฉลาดเป็นกรดที่สุดในนครจิ่วเหยา

แต่แม้เขาคิดถึงแผนผังการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นภายในใจ เขาก็ยังรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกต้อง

แต่ให้ผู้ชนะในท้ายที่สุดถูกตัดสินออกมาได้ แต่ก็ต้องมีคนไม่ยอมรับเป็นแน่

แม้ว่าในร้านของเถ้าแก่จะไม่มีใครกล้าก่อการ ทว่าออกพ้นจากร้านไปแล้วนั้นก็ไม่แน่...

เหยาซือหยานอดไม่ได้ที่จะเกิดนึกสนุกยามได้เห็นเจียงเฉิงจวินขมวดคิ้วพร้อมเผยสีหน้าครุ่นคิด

ขณะนี้ความนับถือต่อลั่วฉวนของนางก็ลึกล้ำยิ่งขึ้นไปอีก

“วิธีการที่ใช้คือระบบนับแต้ม เถ้าแก่เป็นผู้เสนอ”

คำกล่าวของเหยาซือหยานเป็นผลให้เจียงเฉิงจวินดึงสติกลับคืนมาได้

ระบบนับแต้ม?

ด้วยเป็นคำที่ไม่คุ้นเคย เจียงเฉิงจวินจึงกล่าวถามต่อ “พี่ซือหยาน อะไรคือระบบนับแต้ม?”

เหยาซือหยานเผยยิ้มพร้อมทบทวนกติกาที่ลั่วฉวนพูดกล่าวเอาไว้ให้เจียงเฉิงจวินได้ทราบ

ขณะเจียงเฉิงจวินรับฟังไป ดวงตาของเขาก็คล้ายจะทอประกายแสงขึ้นทีละน้อย

“มีวิธีการเช่นนี้อยู่ด้วย? ปราดเปรื่อง! นี่เถ้าแก่คิดได้ยังไงกัน...”

หลังได้รับฟังคำนี้ ใจเหยาซือหยานต้องเกิดความยินดีขึ้น

นี่จึงเป็นเถ้าแก่ อีกฝ่ายคือผู้ที่มักสร้างเรื่องราวให้น่าทึ่งเสมอ!

ขณะเดียวกันนางก็หันมองไปทางลั่วฉวนที่อยู่หน้าประตูร้าน

ลั่วฉวนไม่ได้ตระหนักถึง เหยาซือหวานต้องลอบถอนหายใจ

หลังประหลาดใจไปครู่ เจียงเฉิงจวินจึงเดินไปทางเหว่ยอี้และคณะ

ช่วงหลายวันมานี้เพราะพบเจอกันที่ร้านบ่อยเจียงเฉิงจวินจึงค่อนข้างคุ้นเคยกับคนทั้งสามดี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด