ตอนที่แล้วตอนที่ 4 กระสุนนัดแรกฆ่าเพื่อน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 ดูดซับความสามารถ

ตอนที่ 5 มีถึงสองคริสตัลวิวัฒนาการ


ตอนที่ 5 มีถึงสองคริสตัลวิวัฒนาการ (รีไรท์)

“สเตล่า...ทำไม! ทำไม!” ไนเรลผวาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เขาฝันถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต มันคือฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขาในทุกคืน

แต่เมื่อมองไปรอบ ๆ ไนเรลบอกตัวเองว่านั้นเป็นแค่ความฝันเท่านั้น

เขาไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปเมื่อไหร่ แสงของอาทิตย์ส่องเข้ามาหมายความว่ามันเป็นเวลาเช้า ตอนนี้ฝนหยุดตกแล้ว เสียงของทีวีที่อยู่ในห้องยังดังต่อเนื่องทั้ง 4 คนนั่งดูอย่างเคร่งเครียด ที่โต๊ะมีโทรศัพท์วางอยู่ดูเหมือนพวกเขาพยายามที่จะโทรหาครอบครัวโดยเฉพาะดาลิธที่ดูจะกังวลเป็นอย่างมาก

ไนเรลมองลงไปที่ตักนิเรียยังคงหลับอยู่แต่ที่หน้าผากของเธอมีบางอย่างที่แตกต่างออกไป มีคริสตัลสีขาว ทรงข้าวหลามตัด ขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียวติดอยู่ นี่คือสิ่งที่ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับตอนวิวัฒนาการ เป็นมนุษย์ชั้นสูง รูปทรงของคริสตัลจะต่างกันออกไปตามประเภทของพลัง

พลังประเภทที่สามารถควบคุมธาตุ จะมีรูปทรงวงกลม

พลังประเภทกลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ก็จะมีลักษณ์คริสตัลสามเหลี่ยม

พลังประเภทพลังจิตใจ ซึ่งเป็นพลังที่ถูกจัดว่าเป็นพวกมีความเสี่ยงสูงต้องถูกเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด จะมีคริสตัลเป็นรูปหยดน้ำ

พลังประเภทสนับสนุน ซึ่งเป็นพลังประเภทเสริมความสามารถต่าง ๆ ให้กับร่างกาย จะมีคริสตัลลักษณะสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ซึ่งพลังของนิเรียก็จัดอยู่ในประเภทนี้เช่นกัน

และสุดท้ายนั้น พลังประเภทลึกลับจะมีคริสตัลลักษณะเป็นวงรีและตัวเขาก็มีพลังที่จัดอยู่ในประเภทนี้

ไนเรลเลื่อนมือไปจับที่หน้าผากเหนือระหว่างคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย มันมีคริสตัลอยู่ เขารู้สึกโล่งใจตอนแรกเขานึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการวิวัฒนาการของเขาหรือไม่ แต่ดูแล้วมันไม่มีปัญหาอะไร

นิเรียที่ตอนนี้ตื่นขึ้นมาเธอขยี้ตาเล็กน้อยราวกับว่าตาของเธอมีปัญหาแต่แล้วเมื่อเธอมองไปที่ไนเรลก็ถามด้วยความแปลกใจ

“พี่ตื่นแล้วเหรอ มีอะไรติดอยู่ที่หน้าผากนะ?” เธอเอามือปิดปากขณะที่หาวออกมา

“ของน้องก็มี” ไนเรลชี้ไปที่หน้าผากของนิเรีย

เธอจึงใช้มือจับที่หน้าผากของเธอแล้วก็ต้องตกใจ เธอจำได้ว่าก่อนนอนไม่ได้เอาอะไรมาติดไว้

‘หรือว่าพี่จะเป็นคนทำ?’ นิเรียคิดในใจจากนั้นก็หันไปมองไนเรลแล้วถาม “พี่เป็นคนทำใช่ไหม? ทำไมมันแกะไม่ออก?”

“ใช่ซะที่ไหนละ! ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละเดี๋ยวพี่อธิบายให้ฟัง”

หลังจากนั้นเขาก็อธิบายเรื่องของการวิวัฒนาการ การกลายเป็นมนุษย์ชั้นสูงให้กับเธอฟัง

นิเรียฟังไปก็อ้าปากค้างไป ไม่ใช่เพียงแค่เธอแต่ทั้ง4 คนที่ไม่รู้ว่ามานั่งฟังตั้งแต่ตอนไหน ก็อ้าปากค้างเช่นกันแต่ที่มากไปกว่านั้นก็คือความอิจฉา การที่มีพลังพิเศษนั้นมันเหมือนกับฝันของทุกคนเลยไม่ใช่เหรอโดยเฉพาะในเวลาแบบนี้ พลังคือทุกสิ่ง

คารอนรีบถามทันที “ลูกพี่ไนเรล ทำอย่างไรถึงจะได้พลังแบบนั้นมา”

ไม่รู้ว่าคารอนเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกเขาตั้งแต่ตอนไหน จากพี่ เป็นลูกพี่แทน

ไนเรลหันไปมองทั้ง4 คนที่ตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ “ขึ้นอยู่กับโชคและวาสนา”

ทั้ง4 คนได้ฟังก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมา อย่าคิดว่าบางทีตนอาจจะเป็นคนที่โชคดีงั้นก็ได้

แต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่ไนเรลพูดต่อมาก็ต้องรู้สึกหมดหวังเพราะมันขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน และคนที่จะกลายเป็นมนุษย์ชั้นสูงมีแค่ 1 ใน 1,000 เท่านั้น โดยเฉพาะช่วงแรกที่เกิดเองตามธรรมชาติมีแค่ 1 ใน 10,000 หรืออาจจะ 100,000 เลยก็ได้

และหลังจากผ่านไปสักพักก็จะมีมนุษย์ชั้นสูงเกิดขึ้นตามมา เนื่องจากสภาพแวดล้อมและการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงมนุษย์ค้นพบบางสิ่งที่ช่วยในการวิวัฒนาการเป็นมนุษย์ชั้นสูง จะถึงแบบนั้นอัตราส่วนระหว่างมนุษย์ชั้นสูงก็ยังมีน้อยกว่าคนธรรมดาอยู่มาก

ตอนนี้ตัวเขาและนิเรียเป็นมนุษย์ชั้นสูง ระดับ ขาว ถ้าดูจากสีของคริสตัลที่อยู่บนหน้าผาก

ซึ่งจะมีระดับพลังที่ภายหลังได้ถูกแบ่งและใช้กันอย่างกว้างขวางตามระดับการปลดปล่อยพลังงานต่อเซลล์ที่เซลล์สร้างขึ้นได้ คือ ขาว เทา น้ำตาล เขียว น้ำเงิน และม่วง ที่เป็นระดับพลังที่มนุษย์เคยไปถึง ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นเเทบจะเรียกได้ว่าเป็นตัวตนที่สามารถบินและกลายเป็นสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ไปแล้ว

ไนเรลมองไปที่นาฬิกาตอนนี้มันก็ 6:00 กว่าแล้ว

ทันใดนั้นเขาก็ถามเรื่องที่ให้ทั้ง4 คนไปทำเมื่อวาน “พวกนายจัดการซอมบี้ที่หน้าประตูหรือยัง?”

“เรียบร้อยแล้วครับ พี่ไนเรลแต่พวกมันดูเหมือนจะมาเพิ่มอีก” ดามินกล่าว แต่แล้วก็มีเสียงบางอย่างระเบิดขึ้น

ตูม! ตูม! ตูม!

“เกิดอะไรขึ้น?” ทุกคนถามออกมาเป็นเสียงเดียวกัน

ไนเรลไม่รอช้ารีบออกมาข้างนอกและมองไปทิศทางที่มีกลุ่มควันเมฆดอกเห็ดขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

ระเบิดยังคงเกิดขึ้นอีกหลาย ๆ จุด มันส่งคลื่นแรงสั่นสะเทือนมาตามผิวดิน จนสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน

“นั้นมันทางเมืองหลวงไม่ใช่เหรอ?”

“ดูทางนั้นเครื่องบินทิ้งระเบิด”

เสียงสัญญาณเตือนภัย และไซเรนดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไปทุกพื้นที่พร้อมกับเสียงประกาศที่ดังใกล้เข้ามา

“โปรดอยู่แต่ในบ้าน! หลีกให้ห่างจากผู้ติดเชื้อ! อย่าได้ตื่นตระหนก! ตอนนี้ทางรัฐบาลกำลังควบคุมสถานการณ์!”

“โปรดอยู่แต่ในบ้าน! หลีกให้ห่างจากผู้ติดเชื้อ! อย่าได้ตื่นตระหนก! ตอนนี้ทางรัฐบาลกำลังควบคุมสถานการณ์!”

ปัง! ปัง! ปัง! อ๊าก ๆ!

มันเป็นเสียงปืนและเสียงกรีดร้องของคนในหมู่บ้านนี้ดังมาอย่างต่อเนื่อง บ้านของพวกเขาอยู่บนเนินเขาที่ใกล้กับถนนหลัก ดังนั้นจึงสามารถเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนถนนได้อยู่ราง ๆ

บนถนนเต็มไปด้วยกำลังทหารทั้งรถถังและรถหุ้มเกาะที่ตอนนี้ รถได้ออกมาจากในตัวเมืองกันอย่างหนาแน่น เพื่อที่จะเปิดทางเข้าไปในตัวเมืองหลวงให้ได้ แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมีซอมบี้จำนวนมากอาละวาด คลุ้มคลั่งไล่กินผู้คนอย่างต่อเนื่อง

เสียงของเฮลิคอปเตอร์บินเข้าออกอย่างต่อเนื่อง

‘สถานการณ์ตอนนี้ดูจะแล้วร้ายยิ่งกว่าที่คิด’ ไนเรลมองไปตอนนี้มีซอมบี้จำนวนมากออกมาจากทางเมืองอย่างต่อเนื่องเพราะพวกมันได้ยินเสียงปืนที่ดังมาจากกองกำลังทหาร

นั้นทำให้มีซอมบี้บางตัวหลุดหลงฝูงแล้วเข้ามาในหมูบ้านและ หน้าบ้านของไนเรลอย่างต่อเนื่อง

“นิเรีย น้องไปหยิบปืนที่พี่ให้ไว้มา” ไนเรลกล่าวก็หันไปบอกกับคนอื่น ๆ “ส่วนพวกนายถ้าอยากอยู่ที่นี่ก็ไปหาของที่พอจะเป็นอาวุธมาแล้วมารวมตัวกันตรงนี้ หาอะไรป้องกันแบนมาด้วย”

ทุกคนแยกย้ายกันไปทันที เขาก็ไปหยิบดาบออกมาเช่นกันและคาดไว้ที่ข้างเอวด้านซ้าย ส่วนข้างขวามีปืนลูกโม่อยู่

ไนเรลกลัวว่ามันยังไม่พ่อเขาจึงไปเอาหนังสือเล่มหนามา 4 เล่มและใช้เทปพันติดกับที่แขนและขาจนพวกมันดูคล้ายกับเกาะหนังสือดี ๆ นี่เอง “แค่นี้น่าจะพอแล้ว”

คนอื่นที่เห็นเขาทำแบบนี้ก็ทำตามทันที

มนุษย์ชั้นสูงแล้วพวกเขามีภูมิต้านทานและการฟื้นตัวที่สูงกว่าคนปกติ เชื้อที่ได้รับจากซอมบี้ ระดับ 1 ไม่สามารถที่จะตามทำอะไรได้

แต่คนธรรมดาไม่สามารถต้านเชื้อซอมบี้ ระดับ 1 พวกนี้ได้เลยแม้แต่น้อย เพียงแค่รอยข่วน รอยกัดเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้ตายและกลายร่างเป็นซอมบี้ได้แล้ว

แต่ที่ไนเรลเอาหนังสือมาติดกับแขนแบบนี้ ก็เพราะว่าถึงแม้จะโดนกัดแล้วไม่ถึงกับตายแต่มันยังเจ็บและการเป็นแผลในตอนที่โลกเป็นแบบนี้ถือว่าอันตรายมาก เช่นแผลอักเสพ ป่วย หรือแม้แต่ติดเชื้อในกระแสเลือด

และการเสียเลือด มีแผลจำนวนมาก ระหว่างต่อสู้ก็ทำให้ความสามารถในการต่อสู้ลดลงเช่นกัน

เขาพยายามใส่ใจในสิ่งเหล่านี้เพราะมันสามารถช่วยให้เขามีชีวิตรอดมาได้นักต่อนักแล้ว

ในอดีตเคยมีมนุษย์ชั้นสูง ระดับเทา ตายโดยความโง่เขลาเพราะออกไปต่อสู้โดยไม่ใส่อุปกรณ์ป้องกันอะไรเลย ผลสุดท้ายเขาเสียเลือดมากจนตายด้วยแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามร่างกาย

ไนเรลไม่ยอมมาตายเพราะเรื่องพวกนี้อย่างแน่นอน

หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้ว ทั้ง6 คนก็มายืนอยู่ที่หน้าประตูมองไปที่ซอมบี้จำนวนเกือบ 40 ตัวที่ตอนนี้กระแทกกรงเหล็กอย่างต่อเนื่อง

“น้องจำที่พี่บอกได้ใช่ไหม เกี่ยวกับพลังของน้อง”

“อืม” นิเรียพยักหน้าตอบและคิดถึงสิ่งที่ไนเรลพูด

พลังของเธอนั้นคือ [ดวงตาเทพ ระดับ s] มันทำให้เธอมองเห็นได้ไกล เเม่นยำแม้ในกลางคืน และการรับรู้ที่รวดเร็ว

“น้องแค่เริ่มกระตุ้นพลัง มันก็เหมือนกับควบคุมการหายใจและการขยับแขนขา ซึ่งคือความรู้สึกเดียวกัน”

นิเรียทำตามที่ไนเรลอธิบาย อย่างช้า ๆ

ทันใดนั้นม่านตาเริ่มเปิดกว้าง ดวงตาของเธอก็เริ่มขยับอย่างรวดเร็ว จนแทบจะกลายเป็นว่าในลูกกระตาของเธอมีดวงตาหลายดวง

“เป็นอย่างไร?” ไนเรลถามน้องสาวของเขา

ดาลิธ ไมน่า คารอน และ ดามินที่ยืนอยู่ด้านข้างก็รู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นคนที่มีพลังเหนือธรรมชาติแบบยอดมนุษย์ในการ์ตูน

แต่ตอนนี้พลังเหนือธรรมชาติในการ์ตูนหรือนิยายมันจะไม่ใช่แค่ความเพ้อฝันอีกต่อไปแล้วในโลกใบนี้

นิเรียอธิบายด้วยความตื่นเต้น “หนูรู้สึกว่าไปยืนต่อหน้ามันและพวกมันก็เคลื่อนไหวช้ามาก”

“ดี! แต่อย่าหลงใหลในความรู้สึกนั้น ถึงแม้จะมองพวกซอมบี้มันจะเคลื่อนที่ช้าแต่ความจริงแล้วการรับรู้ของน้องสูงเกินไปแต่ร่างกายยังตอบสนองไม่ทัน ให้ใช้ปืนเป็นหลักในการฆ่าพวกมัน เข้าใจนะ” ไนเรลอธิบายอย่างละเอียดและมองไปที่นิเรีย

“หนูเข้าใจแล้ว”

“ดีมาก เรามาเริ่มฝึกกันเถอะ”

“เริ่มฝึกอะไร?” คารอนที่ถือมีดสั่นของไนเรลอยู่ถามด้วยความสงสัย

แต่ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบ ไนเรลก็เปิดประตูบ้านที่ให้ซอมบี้เข้ามา เพื่อฝึกให้พวกเขารับมือและเชิญหน้ากับซอมบี้ได้โดยที่ไม่กลัวพวกมันจนทำอะไรไม่ถูก

“เดี่ยว ลูกพี่ไนเรลจะทำอะไรนะ?” คารอนถามด้วยความตกใจ

ซอมบี้วิ่งเข้ามาหาทั้งกลุ่มทันทีด้วยความกระหาย ปากที่กว้างจนถึงหูพร้อมกับเสียงคำรามเสมอว่าพวกมันดีใจที่เข้าไม่ได้ รีบวิ่งตรงไปหาอาหารสดที่อยู่ด้านหน้าทันที

ปัง!

นิเรียยิงไปที่ซอมบี้ตัวแรกทันที แต่ดูเหมือนเธอจะ ยิงพลาดไปเล็กน้อยไปโดนไหลของมันแทน ด้วยปืนลูกโม่ทังสแตนที่ยิงออกไป แรงของลูกปืนทำให้ร่างมันหนุนล้มลง ไหลของซอมบี้ถึงกับแหลกทันที

มันลุกขึ้นมาทั้งที่แขนห้อยเกือบหลุดขาดออกจากไหล เลือกสีดำเหม็นคาวไหลออกมา

ปัง! ปัง!

ยิงไปอีก 2 นัดก็เข้าที่หัวของซอมบี้จนสมองกระจายกระสุนทะลุไปโดนหัวซอมบี้ที่ด้านหลัง ทำให้มันล้มลงไปทันที

‘ตอนนี้มีซอมบี้เข้ามาประมาณ 10 ตัวแล้ว ซึ่งน่าจะพอให้พวกนี้ฝึกกันแล้ว’

ไนเรลจึงปิดประตู แต่มันก็ไม่ได้ง่ายแบบนั้น เมื่อพวกมันพยายามดันกันเข้ามา เขาจึงใช้ดาบแทงเข้าไปที่เบ้าตาของซอมบี้ด้วยความที่ดาบมันยาวจึงทะลุออกจากหัวไปโดนซอมบี้อีกตัว

จากนั้นเขาก็ใช้เท้าถีบไปที่ซอมบี้จนกระเด็นออกไป จึงสามารถปิดประตูได้ แต่ดูเหมือนว่าซอมบี้ตัวที่ 10 ที่พึ่งเข้ามาจะหันกลับมาและพุ่งเข้ามากัดเขา

ไนเรลรีบยกเเขนขึ้นกันทันที ซอมบี้เข้าไปกัดที่หลังสือที่ถูกพันอยู่บนแขนไม่ปล่อย พวกมันไม่มีสติปัญญาที่สูงนักจึงคิดว่าที่กัดคือแขนของเขา

ไนเรลค่อย ๆ ใช้มืออีกข้างหยิบปืนลูกโม่ออกมา จากนั้นก็จอไปที่หัวซอมบี้และเหนี่ยวไกปืน

ปัง!

ซอมบี้หงายล้มลงไปตายคาที่ ตอนนี้ซอมบี้ตัวอื่น ๆ กำลังเข้าไปหาคนอื่น ๆ โดยเฉพาะพวกผู้หญิงที่ตอนนี้หลบอยู่หลัง นิเรีย

ขณะที่ คารอนและดามินกำลังใช้วิธีเดียวกับไนเรลคือให้พวกมันกัดไปที่หนังสือจากนั้นก็ใช้มีดสั้นทังสแตนแทงไปที่ดวงตา

ซอมบี้ ระดับ 1 พวกนี้มันมีพลังกำลังที่มากกว่ามนุษย์ไม่มากนัก

“ย้า...”

ทั้งสองคนจึงพอที่จะสู้มันได้

แต่ดูเหมือนทางนิเรียจะแย่พอสมควร มือเธอเริ่มสั่นเล็กน้อย เธอพึงจะอายุ 14 เท่านั้น แต่ต้องมายิงปืนลูกโม่ทังสแตนที่มีแรงถีบสูงก็ไม่แปลกที่จะมีอาการแบบนั้น

“ย้าาา!!!” ตอนนี้เหลือซอมบี้อีก 3 ตัวเขาจึงเดินไปที่ข้างหลังมันจากนั้นก็เหวี่ยงดาบยาวทังสแตน ตัดหัวมันอย่างชำนาญ

เขาเชื่อว่าแม้แต่หลับตาก็ยังสามารถตัดหัวซอมบี้ ระดับ 1 ทั้งสามได้ เพราะเข้าสู้กับพวกมันมาเป็นเกือบ 20 กว่าปีแล้ว ถึงแม้ระดับพลังจะไม่เท่าเดิมก็ตาม แต่เทคนิคและวิธีการสู้เขายังจะมันได้อยู่โดยไม่มีทางลืมมันลงไปได้อย่างแน่นอน

หลังจากฆ่าซอมบี้ทั้ง10 ตัวแล้ว เขาก็ให้ทั้งกลุ่มพักสักเล็กน้อยและเตรียมที่จะให้สู้กับซอมบี้อีก 10 ตัว

เขาเดินไปเผื่อที่จะยกร่างซอมบี้ที่ขว้างทางประตูออก

แต่ก็รู้สึกบางอย่างขึ้นมา มันเป็นความรู้สึกหิว เขาเริ่มที่จะหิวมาก ๆ ไนเรลมองไปตามสัญชาตญาณไปที่ซากของซอมบี้ที่โดนปืนยังจนหัวมีรูขนาดใหญ่

“อึก...น่าอร่อย” เขาถึงกับกลืนน้ำลายทันที และเอื้อมมือไปจับที่แขนของซากซอมบี้และกำลังจะกัดลงไป

“พี่ไนเรล! ทำอะไรนะ?” ดาลิธที่เป็นคนช่วยไนเรลกำลังจะยกซากซอมบี้ไปแอบก็ตกใจกลัวมองไปที่ไนเรลที่กำลังจะกินเนื้อซอมบี้ถึงอย่างไร พวกมันก็เคยเป็นมนุษย์มาก่อน

‘ไนเรลกำลังกินเนื้อมนุษย์’ ดาลิธถึงกลับหน้าซีดถอยหลังและอาเจียนออกมาทันที คนอื่น ๆ ก็มองไปที่เขาเช่นกันด้วยความตกใจ

ไนเรลรู้สึกตัวแล้วถึงกับแปลกใจ ‘เราเป็นอะไร ถึงได้คิดจะกินเนื้อซอมบี้’

ไนเรลรีบตั้งสติมองไปที่พวกซอมบี้และคนรอบข้าง แบบงง ๆ เขาพยายามหาที่มาของความรู้สึกแล้วก็เจอมัน มันมาจากที่หน้าอกของเขา

ไนเรลรีบวิ่งไปที่ประตูบ้านที่เป็นกระตกทันที เขาถอดเสื้อของตัวเองออกด้วยความรีบร้อนแล้วก็ต้องตกใจ

ที่หน้าอกของเขามีคริสตัลขนาดใหญ่เท่ากำปั้นอยู่มันเป็นสีขาวรูปทรงที่แปลกมากเป็นเหมือนกับ...เหมือนกับเมล็ดพันธุ์แห่งวิวัฒนาการ รอบข้างมีรอยสีทองคล้ายรอยสักของกิ่งไม้ที่ไร้ซึ่งใบแผ่ขยายออกมารอบหน้าอกของเขา

“ไม่ผิดแน่มันคือคริสตัลแบบเดี่ยวกับที่อยู่บนหน้าผากเรา และความรู้สึกอยากกินก็มาจากมัน” ไนเรลมองไปที่เงาในกระจกด้วยความงง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด