ตอนที่แล้วตอนที่ 31 เกสเพนสท์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 33 เที่ยงวันแห่งการฆ่า

ตอนที่ 32  ค่ำคืนแห่งการล่า


ตอนที่ 32  ค่ำคืนแห่งการล่า

เขาคงต้องทดลองหัวใจของเกสเพนสท์ดูว่ามันสามารถใช้ทำอะไรได้แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลา เพราะพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้วซึ่งนั่นหมายความว่าได้เวลาที่พวกมันจะออกล่า

หลังจากเก็บหัวใจ และแอบเอาลูกบาศก์วิญญาณออกมาย่อยสลายศพของเกสเพนสท์ตาขาวทั้งหมด โดยที่ทั้ง 4 คนไม่เห็นเพราะ เขาก็สั่งให้ทั้ง 4 คนออกไปช่วยกันเก็บฟืนและก่อกองไฟล้อมรอบที่พัก ส่วนตัวเขาก็หยิบเหรียญทองคำจากนั้นก็วางไว้บนดาบสั้นธาตุไฟ เขาใส่ผลึกพลังงาน จากนั้นเปิดใช้งานวงจรที่อยู่บนตัวดำขึ้นมาเพื่อที่จะหลอมเหรียญทองคำให้เป็นเส้นใย ความร้อนที่แผ่ออกมาจากธาตุไฟน้ำมันสูงถึง  1,200 องศาเซลเซียสเลยทีเดียวซึ่งมันสามารถหลอมทองคำได้สบายอยู่แล้วเพราะจุดหลอมเหลวของทองคำอยู่ที่  1,064 องศาเซลเซียส

ถ้าเป็นคนปกตินั้นการหลอมให้เป็นเส้นใยนั้นถือว่ายากมากแต่สำหรับเขาที่เป็นจอมอาคมนั้นง่ายมากเพียงแค่ใช้จิตสัมผัสทิศทางการไหลของทองคำ

หลังจากนั้นเขาก็นำปลายดาบลากเส้นลงบนดินล้อมรอบค่ายจนเป็นวงกลม โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 100 เมตร

หลังจากนั้นเขาก็ใส่ผลึกพลังงานลงไป 1 ก้อนลงไปที่วงจรอาคมที่เขาวาด ทันใดนั้นพลังงานก็วิ่งแล้วหมุนวนกลับไปกลับมาอยู่ในวงจรอาคมล้อมรอบค่ายเป็นวงกลมไว้

นี่เป็นวงจรอาคมที่ใช้ในการตรวจจับอย่างง่าย ซึ่งภายในวงจรนี้มีรูนอยู่แค่ตัวเดียวเท่านั้น คือ รูนที่หมุนพลังงาน ถ้ามีใครก้าวผ่านเส้นวงกลมที่เขาวาดไว้พลังงานที่อยู่ในวงจรก็จะถูกตัดทันที ทำให้คนรู้ว่ามีคนบุกรุกเข้ามา และสามารถจับตำแหน่งของมันได้อย่างง่ายดาย

หลังจากสักพักความมืดก็มาเยือน ในป่ามันรู้สึกวังเวงมาก เสียงที่ลมพัดผ่านของต้นไม้เรากับปีศาจกรีดร้องอยู่ตลอดเวลา

ทั้ง 4 คนได้จัดเวรยามกันแบ่งออกเป็น 2 รอบ รอบละ 6 ชั่วโมงส่วนที่เหลือก็จะเข้านอน รอบแรกคนที่เฝ้าก็คือ ซิเรีย และ เชร่า ส่วนรอบที่ 2 หลังเที่ยงคืน ก็จะเป็นฮอค และ ชูเรียล

เหตุผลที่ต้องเป็นเช่นนี้เพราะซิเรียและฮอค สังเกตและสะกดรอยได้ดีจึงได้ให้แยกออกมาประกบพี่น้องฝาแฝดที่เป็นนักดาบ

ส่วนตัวเขาเข้าไปในเต็นท์ เรียกลูกบาศก์วิญญาณออกมา เคน ออกมาจากลูกบาศก์วิญญาณจากนั้นก็ขอขอดูหัวใจของเกสเพนสท์ทันที

“ได้เรื่องอะไรหรือไม่ มันใช้ทำอะไร” เขาถามขึ้นทันทีขณะที่มองดูเคนที่สังเกตหัวใจของเกสเพนสท์มาสักพักแล้ว

“นอกจากพลังงานที่อยู่ภายใน ที่เหมือนกับผลึกพลังงานและมีความคล้ายคลึงกับเมล็ดพันธุ์ชีวิตแล้ว สิ่งที่มันจะพิเศษจริง ๆ ก็คงเป็นเศษเสี้ยววิญญาณที่อยู่ภายใน” เคนอธิบายพร้อมกับขมวดคิ้ว

“เศษเสี้ยววิญญาณเจ้าหมายความว่าภายในหัวใจของเกสเพนสท์มีวิญญาณอยู่?”

“ไม่ใช่วิญญาณแต่เป็นวิญญาณที่บิดเบี้ยว ท่านลองดูนี่” เคน ใช้มือกวาดผ่านหัวใจของเกสเพนสท์ มือของเคนกลับทะลุผ่านไปซึ่งมันก็ถือว่าเป็นปกติแล้วเพราะเขาถือว่าเป็นวิญญาณ

        แต่มันกลับมีสิ่งที่ ติดมือของเคนออกมา มันคือใบหน้าของคน ภายในดวงตาที่มีแต่ลูกกะตาขาว จมูกและปากที่มีเลือดไหลออกมาตลอดเวลา

“กรีด….”มันกำลังจะกรีดร้อง แต่ก็ถูกมือของเคนปิดปากไปเสียก่อน

“นี่มัน !!! หรือว่าทางสถาบันจะต้องการศึกษาพวกมัน” 

“ข้าว่าน่าจะเป็นแค่หนึ่งเหตุผล แต่เหตุผลหลักจริง ๆ พวกเขาน่าจะพยายามหาวิธีที่จะสร้างพวกมัน”

“เจ้าหมายความว่า….”

“ใช่ วิธีที่จะสร้างเกสเพนสท์” เคนตอบยิ้ม ๆ

        ดอนคิดตามสิ่งที่เคนพูดทันที ในทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมาจอมอาคมพยายามจะสร้างข้ารับใช้และกองกำลังของตัวเองขึ้นมา

        ไม่มีใครที่อยากจะอยู่ภายใต้ของสหพันธ์ไปตลอดกาล ในขณะเดียวกัน เตรียมที่จะส่งเสริมสร้างกองกำลังของตัวเองเพื่อที่จะรักษาอำนาจของตนไว้

        ด้วยความคิดเหล่านี้มันจึงให้กำเนิดเมล็ดพันธุ์ชีวิต และกลายเป็นระบบพลังของนักรบ ถึงวันนั้นมันก็ยังมีขีดจำกัด เพราะระดับสูงสุดที่เมล็ดพันธุ์ชีวิตจะไปถึงก็คือ อัศวินศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีพลังเท่ากับจอมอาคม ระดับ 2 ผู้ทำลาย เท่านั้น ในการที่จะอัศวินศักดิ์สิทธิ์ หรือแม้แต่มหาอัศวินที่มีพลังเท่ากับจออาคม ระดับ 1 ผู้สร้าง ก็ต้องใช้ทรัพยากรมหาศาลและที่สำคัญไม่ใช่ว่าเป็นคนธรรมดาทุกคนจะลองรับเมล็ดพันธุ์ชีวิตระดับนั้นได้

        แต่จะเป็นอย่างไรถ้าพวกเรารู้วิธีการสร้างกองทัพที่มีพลังเท่ากับจอมอาคมโดยใช้เพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น 

        ซึ่งพวกมันก็ไม่ลังเลที่จะทำทุกวิถีทางพี่จะได้ครอบครองแม้แต่จะสละชีวิตคนธรรมดานับร้อยนับพันล้านก็ตาม เพราะถ้ามีใครทำสำเร็จคนนั้นก็จะได้เป็นเจ้าปกครองที่แท้จริงที่อาจจะขึ้นมาแทนสหพันธ์เลยก็ได้

“นั้นหมายความว่า...” เสียงของเขาเบาลงทันที

“ใช่นายท่าน มันหมายความว่านี่อาจจะเป็นแค่การทดลองส่งใครสักคนของทั้งองค์กร หรือของทั้งสหพันธ์ที่ใช้ชีวิตของคนธรรมดานับพันล้านเป็นหนูทดลอง แต่นี่ก็เป็นแค่หนึ่งในความเป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะข้ารู้สึกว่าพลังนี้คล้ายคลึงกับพวกลัทธิบูชาปีศาจที่อยู่ในความทรงจำของเคเซฟอน ที่มันได้จากการอ่านหนังสือคาถา ระดับ 2 คืนชีพผีดิบ โดยจอมอาคมริชาด เอลโดสัน แต่ความทรงจำส่วนนั้นมันหายไป” เคนอธิบายพร้อมกับหยิบวิญญาณที่บิดเบี้ยวขึ้นมาหลังจากนั้นก็เริ่มกินมัน

เขานึกถึงหนังสือที่เขียนพูดถึง หนังสือคาถาระดับ 2 คืนชีพผีดิบ โดยจอมอาคมริชาด เอลโดสัน เป็นหนังสือที่พบภายในถ้ำคุกเหมืองนรก จากร่างของเคเซฟอน และภายหลังมาเซออสก็เอาไปโดยอ้างว่าแลกเปลี่ยนกับผลึกพลังงานดูท่าแล้วหนังสือเล่มนั้นจะมีความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา

        เขาเงยหน้าขึ้นก็เห็น เคนกำลังกินวิญญาณที่บิดเบี้ยวยังไม่อร่อย

“หืม เจ้ากินวิญญาณที่บิดเบี้ยวมันจะไม่ส่งผลกระทบต่อจิตใจเจ้า?” เขารู้สึกขยะแขยงถ้าให้ต้องกินอะไรแบบนั้นเขาขอตายดีกว่า

“นายท่าน ท่านก็รู้ว่าข้าคือเจตจำนงแห่งความโกรธ หนึ่งในเจ็ดเจตจํานงแห่งอารมณ์ของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล มันไม่เพียงแต่ไม่ส่งผลกระทบแต่ยังจะส่งผลดีกับข้าเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเป็นคนธรรมดาหรือจอมอาคมคนอื่นก็ไม่แน่”

        ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้น ด้านนอกทั้ง 4 คนก็กำลังนั่งรอบกองไฟและกินอาหาร

“เจ้าว่าคืนนี้พวกเราจะตายหรือไม่” ชูเรียลถามออกมา

“เพี๊ยะ!” เชร่าตบไปที่หัวของชูเรียลทัน “เจ้าไปตายคนเดียวเถอะ น้องเวร!”

“ใจเย็นๆ พี่สาว ข้าก็แค่ล้อเล่น” ชูเรียลรีบแก้ตัวจนมือไม้เป็นระวิง

        ตั้งแต่เด็กมาสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดไม่ใช่เกสเพนสท์แน่นอน แต่เป็นพี่สาวฝาแฝดของเขา พ่อของเขาต้องการเพียงแค่ต้องการลูกชายเท่านั้น นั่นจึงทำให้เขาที่เป็นลูกชายเพียงคนเดียวได้รับการดูแลและเอาใจใส่อยู่ตลอด ทำให้พี่สาวของเขาพยายามทำตัวเป็นผู้ชาย ในวัยเด็กทุก ๆ วัน พี่สาวจะฝึกดาบกับเขา และทุกครั้งที่จบลงด้วยการของทุบตีจนสลบ และฟื้นอีกทีตอนเช้าวันต่อมา

        ถึงแบบนั้นเขาก็ยังรักพี่สาวของเขาว่าเพราะเขารู้ว่าที่พี่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อให้เขาทำความปรารถนาของพ่อให้เป็นจริงให้ได้ที่จะให้ใครสักคนในตระกูลได้เป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์

        หลังจากที่ ชูเรียลและฮอคกลับไปพักผ่อนนะ ก็เหลือแค่ซิเรียและเชร่าที่เฝ้าเวรยามอยู่ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว

“เจ้าว่าข้าควรที่จะเข้าไปหาท่านดอนหรือไหม บางทีท่านจะรอข้าอยู่ก็ได้?” ซิเรียพูดขณะที่ช่วยนิ้วก้อยเล่นกับปอยผม

        ถึงแบบนั้นเชร่าก็เอาแต่นั่ง ๆ มองไปรอบข้างโดยไม่สนใจ

“เฮ้ ข้าพูดกับเจ้าอยู่นะ จะคุยกับเพื่อนข้าสักหน่อยไม่ได้หรือ?”

“ข้าไม่ใช่เพื่อนเจ้า!” เชร่าพูดด้วยความเย็นชา

“หึ ข้าก็แค่หยอกล้อน้องของเจ้าเล่นก็แค่นั้นไม่เห็นต้องโกรธเป็นจริงขนาดนี้ หรือว่าคืนนี้ข้าจะไปหาเขาแทนท่านดอนดี?” เธอพูดพร้อมกับหันมายิ้มด้วยท่าทีคุ่นคิดแบบกวนๆใส่เชร่า 

ฉึบ! บริเวณที่ซิเรียนั่งอยู่ถูกฟันด้วยดาบหนักสีดำจนขอนไม้ที่อยู่ด้านล่างขาดครึ่งทันที

“ใจเย็น ๆ ข้าก็แค่ล้อเล่นกับเจ้าก็เท่านั้น เชอะ! ไม่เห็นสนุกเลยเข้าไปหาท่านดอนดีกว่า” ซิเรียที่หลบอยากได้ยังสบาย ก็พูดพร้อมกับกำลังเดินไปหาเต็นท์ของดอน ไปแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าดอนเดินออกมา

“ปลุกอีก 2 คน และเตรียมตัวพวกมันกำลังมา” ดอนพูด้วยสีหน้าที่จริงจัง

        หลังจากที่ทั้ง 4 คนรวมตัวกันแล้ว ทุกคนก็ต้องมองไปทางที่ดอนก็พูดด้วยความเคร่งเครียด “พวกมันมีประมาณ 10 ตัว  3 ตัวมาจากทางด้านหลังค่าย  และอีก 7 ตัวมาจากทางด้านหน้า ระวังตัวให้ดี ข้ารู้สึกว่าพวกมันกำลังวางแผนบางอย่าง”

        ทั้ง 4 คนล้อมรอบเป็นวงกลมหันหน้าออกไปข้างนอกโดยมีดอนอยู่ด้านใน

เชร่าที่ตอนนี้ในมือกำดาบไว้แน่นกล่าว “ทำมันเงียบผิดปกติเป็นอย่างมาก แม้แต่ลมก็ยังไม่มี”

“หึ ถ้าไม่มีลมพัดผ่านแล้วใบไม้มันจะขยับได้ยังไง” ซิเรียแย้งทันที

“เดี่ยว ก่อนใบไม้ขยับ หรือว่า ระวังข้างบน….” ยังไม่ทันที่ฮอคจะได้พูดจบเกสแพนสท์กระโดดลงมาจากข้างบนทันที

“ฟอนดาซิลูอา เมซิรอส(เปลี่ยนผืนดินเป็นหอก เพื่อสังหารศัตรู)

” 

แต่ถึงแบบนั้นมันก็ยังไม่เร็วเท่ากลับดอน หอกดินทะลุศีรษะ มันกระเด็นไปตามทิศทางใดของหอกดิน กระแทกเข้ากับต้นไม้ตายคาที่ทันที

หยดเลือดและสมองระเบิดด้วยหอกดิน กระจายออกใส่ทั้ง 5 คน

“ยี้ เหม็นมาก” ซิเรียรีบเช็ดหน้าทันที

“พวกมันฉลาดมาก” ชูเรียลพูดด้วยความตกใจ

“ระวัง!!! พวกมันกำลังจะเปิดฉากโจมตีจริง ๆ แล้ว” ดอนเตือนเพื่อเรียกสติทุกคน

        ทันใดนั้น ก็มีเกสเพนสท์ตาขาว 3 ตัววิ่งเข้าไปทางด้านหน้าของเชร่า ทันทีที่เธอเห็นแบบนั้นก็เหวี่ยงดาบฟันเกสเพนสท์ตัวที่ใกล้ที่สุด แต่แล้วเธอก็ต้องแปลกใจเมื่อมันใช้กรงเล็บข้างขวากันไปที่ใบดาบและเปลี่ยนทิศทางของดาบเฉี่ยวไปที่ด้านข้างตัวของมัน

        มันกำลังจะใช้กรงเล็บข้างซ้ายแทงไปที่ท้องของเธอ เชร่าที่ตอนนี้ไม่ได้สนใจว่าจะหลบกรงเล็บแม้แต่น้อย กลับกันเธอใช้ดาบฟัน ไปที่เกสเพนสท์ตัวที่ 2 ที่กำลังเข้ามา

        “ทักษะวารี ดาบคลื่นวารี”

         ทันใดนั้นใบดาบของชูเรียลก็สะเทือน เขาอาศัยช่องว่างตอนที่มันกำลังจะโจมตีเข้าไปที่พี่สาวของเขา ดาบของชูเรียลคอของเกสเพนสท์ตัวแรกขาดสะบั้น

“ทักษะวารี ดาบผ่าสายธาร”

พร้อมกับที่เชร่าที่กำลังใช้ดาบหนักตวัด ฟันจากข้างล่างขึ้นมาข้างบน ผ่าร่างของเกสเพนสท์ตัวที่ 2  เป็นแนวตั้งขึ้นมาทันที

ดอนที่เห็นแบบนั้นก็ต้องแปลกใจ ตอนแรกเขาคิดว่าเมล็ดพันธุ์ชีวิตและทักษะดาบของสองพี่น้องคู่นี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับ ธาตุโลหะหรือไม่ก็ธาตุไฟ เมื่อดูจากพลังตอนที่เชร่าโจมตีใส่เกสเพนสท์ที่นอนอยู่ในหลุมเมื่อตอนกลางวัน

แต่กลับกลายเป็นว่ามันเกี่ยวข้องกับธาตุน้ำซะงั้น

ขณะ ที่เกสเพนสท์ตัวที่ 3 กำลังวิ่งเข้ามาในสองพี่น้องเขาก็ได้หอกดิน ยิงใส่ศีรษะมันทันที

ทั้ง 2 ตัวที่วิ่งเข้ามาทางด้านของสองพี่น้องนั้นถือว่าเป็นแค่ระดับ ขาวเท่านั้น

แต่ทางด้านของฮอคและซิเรียนั้น หรือว่าตึงเครียดเป็นอย่างมาก เพราะมันคือเกสเพนสท์ตาแดง 1 ข้าง ถึงจะไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียง เพราะดวงตาของมันนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว 1 ข้าง 

มันคงจะไม่แปลกที่นักรบ ขั้น 2 ที่มีอาวุธพลังงาน จะรับมือกับเกสเพนสท์ตาขาว ที่มีพลังเทียบเท่ากับผู้สัมผัส

แต่นี่กลับกลายเป็น นักรบ ขั้น 2 ทั้งสองคนซึ่งไม่มีอาวุธพลังงานและต้องสู้กับเกสเพนสท์ตาแดงที่มีพลังเท่ากับผู้ใช้พลัง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะ

แต่ทั้งสองคนก็รู้ดีว่าพวกเขาไม่ได้สู้เพื่อเอาชนะ แต่สู้เพื่อถ่วงเวลาเท่านั้น

“ฟอนดาซิลูอา เมซิรอส(เปลี่ยนผืนดินเป็นหอก เพื่อสังหารศัตรู)”

        ทันใดนั้นเขาก็ยิงหอกดินอีกเล่มเข้าใส่ เกสเพนสท์ตาแดง แต่ดูเหมือนว่ามันจะรับรู้ได้ตามสัญชาตญาณและเบียงตัวหลบแต่ถึงกระนั้นหอกมายังเร็วเกินไป ยิงเข้าใส่ไหล่ข้างขวาของมัน

        หอกดินของดอนเป็นฉบับปรับปรุงซึ่งมีพลังโจมตีถึง 8 หน่วยเลยทีเดียว ด้วยแรงกระแทกเกสเพนสท์ ถึงกับหมุนอยู่กลางอากาศ 3 ตลบ จากนั้นก็ร่วงลงพื้นนอนหายใจรวยริน

        ถึงมันจะไม่ตายแต่มันก็ไม่สามารถต่อสู้ได้อีก

        ซิเรียที่เป็นแบบนั้นเธอก็พุ่งเข้าไปหามันทันที และใช้มีดสั้นปักเข้าไปที่ลูกกะตาของมัน แม้มีดสั้นเล่มนั้นจะไม่ใช่อาวุธพลังงานและผิวหนังของมันก็หนามาก แต่ถึงอย่างไรบริเวณดวงตาก็ยังเป็นหนึ่งในจุดอ่อนของสิ่งมีชีวิตอยู่ดี

“ฉึก ๆ”  เธอค้อมไปที่ร่างของเกสเพนสท์แล้วก็กระหน่ำแทงไปที่ดวงตาไม่หยุดจนแน่นิ่งไป

“ระวัง! ซิเรียที่ด้านหลัง!” ฮอคตะโกนเตือน

เธอกำลังจะถอยกลับเข้ามารวมกลุ่ม ด้านหลังของเธอกลับมีเกสเพนสท์ตาแดง วิ่งตามเข้ามาติดๆ ดวงตาทั้งสองข้างของมันเป็นสีแดงจาง ๆ ทั้งสองข้าง และฟันที่แหลมคมราวกับใบมีดโกนดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก

        ขณะที่มันกำลังจะวิ่งถึงตัวของเธอก็มีกำแพงผู้พิทักษ์ กั้นระหว่างเธอกับเกสเพนสท์ แต่ด้วยความที่พลังกายของเกสเพนสท์ ตาแดงมันสูงเกือบ 30 หน่วย ความเร็วที่มันวิ่งเข้ามาทำให้มีพลังโจมตีใส่กำแพงถึง 7 หน่วย ซึ่งกำแพงผู้พิทักษ์ที่ไม่ได้ถูกปรับปรุง รับความเสียหายสูงสุดได้แค่ 4 หน่วยเท่านั้น

        กำแพงก็พังทลายลงทันที แต่ถึงกระนั้นก็สามารถช่วยซิเรียไปได้อย่างหวุดหวิด

        และดูเหมือนเกสเพนสท์ตาแดง มึนงงเล็กน้อยที่มันชนเขาใส่กำแพงเขาจึงฉวยโอกาสตอนนี้ ยิงหอกดินออกไป 3 หอกติด ต่อกันทันที

----------------------------------------------------------

เพิ่มเติม : เกสเพนสท์ มี ระดับ  หัวใจสีขาว,ตาขาว > หัวใจสีแดงจาง,ตาแดงจาง> หัวใจสีแดงเข้ม,ตาแดงเข้ม> หัวใจสีดำ,ตาดำ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด