ตอนที่แล้วตอนที่ 1 เริ่มใหม่อีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3  ซอมบี้

ตอนที่ 2 มันคือสัญญาณแห่งการเริ่มต้นได้มาถึงแล้ว


ตอนที่ 2 มันคือสัญญาณแห่งการเริ่มต้นได้มาถึงแล้ว(รีไรท์)

เมื่อมาถึงธนาคาร ไนเรลก็เบิกเงินที่มีอยู่ในบัญชีทั้งหมด 10,000 เหรียญ นี่คือเงินเก็บของเขาที่ได้จากการทำงานพิเศษในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยและบางส่วนก็มาจากเงินที่พ่อแม่ของเขาส่งมาให้

หลังจากนั้นเขาก็นั่งรถไฟและลงที่สถานีแห่งหนึ่ง ต่อด้วยรถแท็กซี่ไปที่บริษัทจัดหาบ้านเช่า ไนเรลใช้เงินทั้งหมด 10,000 เหรียญในการเช่าบ้านที่อยู่ในความทรงจำ

บ้านหลังนี้อยู่ที่เนินเขาเขตชานเมือง เป็นบ้าน 2 ชั้น มีห้องใต้ดินและหลุมหลบภัยขนาดใหญ่ รอบบ้านล้อมรอบไปด้วยกำแพงเหล็กสูง 3 เมตร

เขามีเหตุผลที่เลือกบ้านหลังนี้ เพราะหลังจากนี้อีก 1 เดือนให้หลัง เหตุการณ์ทุกอย่างจะเริ่มต้นขึ้น ฝนจะเริ่มตกหนัก ผู้คนจะเริ่มป่วยเเละคลุ้มคลั่ง

ไนเรลคิดว่าในตอนเย็นของวันนี้ ก็คงจะมีข่าวที่ว่าขาดการติดต่อกับประเทศมิสทราลที่อยู่ทางตอนเหนือ ออกมาให้เห็นอย่างแน่นอน ถ้าความทรงจำของเขาไม่ผิดพลาดละก็นะ

บ้านหลังนี้จะถูกปล่อยให้เช่าโดยเจ้าของบ้าน แต่กลับไม่มีคนเช่าไป ภายหลังเขาได้พาน้องสาวของเขาหนีมาที่นี่ แต่บ้านหลังนี้ถูกยึดครองไปแล้วโดยกลุ่มอื่น

บ้านหลังนี้มันสามารถป้องกันพวกซอมบี้ในช่วงเริ่มต้นของเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี อีกครั้งมันก็ยังอยู่ในเส้นทางที่สามารถหนีออกจากเมืองได้อย่างง่ายดาย

ตอนแรกไนเรลต้องการที่จะย้ายออกไปอยู่ด้านนอกเลย แต่ก็คิดว่าพวกเขายังคงไม่มีพลังมากพอ

เพราะในช่วงเริ่มแรกซอมบี้ยังไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือสัตว์ป่าที่กลายพันธุ์เกินกว่าจะควบคุม พวกมันจะกินทุกอย่างเท่าที่หาได้

นั้นรวมถึงเขาแล้วน้องสาวด้วย

“เซ็นเอกสารช่องนี้ด้วยค่ะ” พนักงานสาวยื่นเอกสารให้เขาเซ็น

ไนเรลเซ็นเอกสารทั้งหมดทันที

หลังจากที่ทำสัญญาเช่าบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว พนักงานก็ส่งกุญแจบ้านให้กับเขา “เอกสารเรียบร้อยแล้วค่ะ หลังจากนี้อีกสองเดือนให้นำกุญแจมาส่งคืนที่สำนักงานนะคะ และทางเราจะเข้าไปตรวจสอบว่าของในบ้านมีอะไรเสียหาย ชำรุดหรือไม่ ถ้ามีทางเราจะหักจากเงินประกันค่ะ ขอให้ลูกค้ามีความสุขกับบ้านที่เช่านะคะ”

“ครับ” ไนเรลตอบกลับอย่างสุภาพแต่เข้าไม่ได้สนใจเรื่องคืนบ้าน เพราะอีก 1 เดือนนับจากนี้ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป จะไม่มีใครมาสนใจตามทวงบ้านเช่าพวกนี้อีกแล้ว

ไนเรลก็กลับไปที่บ้านและเปิดคอมเข้าไปในเว็บไซต์ซื้อขายอาวุธในทันที

เขาไม่แน่ใจว่าตอนนี้เว็บไซต์มีแล้วหรือยัง เพราะจากความทรงจำของเขา หลังจากเกิดเหตุการณ์ซอมบี้บุก เว็บไซต์แห่งนี้ก็ปรากฏออกมา มันซื้อขายเกี่ยวกับอาวุธสงครามโดยเฉพาะ

“เจอแล้ว” ไนเรลไม่รอช้ารีบกดเข้าไปในเว็บไซต์ซื้อขายอาวุธทันที

อาวุธที่ขายในนี้ถือว่าเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย ถ้าถูกตำรวจพบเจอเข้าคงถูกจับแน่นอน แต่ใครมันจะไปสนใจในเมื่ออีกไม่นานกฎหมายก็จะไร้ค่า

ไนเรลพิมพ์ไปในช่องค้นหาของเว็บไซต์ทันที “อาวุธโลหะทังสแตน”

เมื่อกดค้นหาก็มีลิสต์รายการแสดงขึ้นมา มันมีของหลายอย่างแต่ที่เขาสนใจก็คือ ของ สามสิ่ง

[ดาบยาวทังสแตน ราคา 75,000 เหรียญ]

[มีดพกทังสแตน ราคา 10,000 เหรียญ]

[ปืนลูกโม่ทังสแตน โมเดล 500 ขนาด 500 แม็กนั่ม ราคา 15,00 เหรียญ]

ไนเรลต้องการพวกมันทั้งหมด แต่ตอนนี้ไม่มีเงินเหลืออีก

“เราต้องการเงินอีก 160,000 เหรียญจากที่ไหนดีนะ เฮ้อ” ไนเรลถอนหายใจพร้อมกับคิดวิธีหาเงิน

เขาต้องการดาบยาวทังสแตน 1 เล่ม มีดพกอีก 2 ปืนลูกโม่อีก 3 กระบอกและกระสุนอีก 400 นัด ซึ่งอาวุธพวกนี้มีราคาแพงมากเพราะว่ามันถูกสร้างขึ้นมาจากโลหะทังสเเตน

ทังสแตนเป็นแร่โลหะสีขาวเทาที่แข็งแรงที่สุดในโลก เป็นโลหะที่มีน้ำหนักมาก มีความหนาและคงทน แต่ในขณะเดียวกันมันก็หายากเป็นอย่างมาก

ขณะที่ไนเรลแหงนหน้ามองเพดานก็คิดบางอย่างขึ้นได้ทำไมเขาถึงไม่ขายบ้านเพราะในเมื่ออีกไม่กี่เดือนมันก็จะกลายเป็นบ้านที่ไร้ค่าแล้ว

บ้านของเขาและน้องสาวที่อยู่ตอนนี้ถูกซื้อในช่วงที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ มันถือว่าอยู่ในทำเลที่ดีพอสมควร น่าจะขายได้ราคาไม่ต่ำกว่า 250,000 เหรียญแน่นอน

“แต่การที่จะขายบ้านมันน่าจะใช้เวลาอยู่อีกสักพักกว่าจะขายออกงั้นก็เอาไปค้ำประเงินกู้แล้วกัน”

ไนเรลรีบไปที่บริษัทปล่อยเงินกู้ทันที เขาใช้บ้านค้ำประกันจึงทำให้สามารถกู้เงินออกมาได้ 210,000 เหรียญ ถึงแม้ดอกเบี้ยมันจะโหดแต่ ไนเรลก็ไม่สนใจอยู่แล้ว เพราะอีกไม่นานเงินจะไร้ค่า และสิ่งที่มีค่าจริง ๆ ก็คืออาหาร

เมื่อได้เงินมาเขาก็สั่งซื้ออาวุธที่ต้องการในทันที

[ท่านชำระเงินเรียบร้อยแล้ว สินค้าจะจัดส่งภายใน 3 วัน]

“เฮ้อ! ในที่สุดก็สั่งซื้อสำเร็จ” เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าของทุกอย่างจะมีราคาแพงขึ้นมากกว่าเดิม 2-3 เท่าโดยเฉพาะอาวุธ

“น่าจะได้เวลาที่นิเรียกลับมาแล้ว เราจะอธิบายยังไงดีนะ”

ไนเรลกำลังคิดหาวิธีอธิบายเรื่องที่เขาเอาบ้านไปค้ำเงินกู้ แต่คิดอยู่สักพักเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่บอก

“กลับมาแล้วค่ะ”

ทันใดนั้นเสียงของนิเรียก็ดังขึ้นมา นิเรียน้องสาวตัวน้อยของเขาวิ่งเข้ามาในบ้านและเห็นไนเรลนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ก็รีบวิ่งเข้าไปถามทันที “พี่ชายเย็นนี้กินอะไรกันดี? หนูจะได้ไปเตรียมทำให้”

“ไม่ดีกว่า...วันนี้เราจะไปเที่ยวและกินข้าวนอกบ้านกัน”

“เย้ ๆ แต่ว่าเนื่องในโอกาสอะไร?” นิเรียถึงกับดีใจออกมาแต่เธอก็ถามด้วยความสงสัย วันนี้พี่ชายของเธอทำตัวแปลก ๆ ไปเพราะปกติแล้วเมื่อเขากลับมาจากมหาลัยก็จะเล่นแต่เกม กินข้าวแต่ที่บ้านเท่านั้นไม่เคยออกไปไหน

เธอใช้มือเล็ก ๆ ของเธอจับไปที่ปลายคางราวกำลังลูปเคราในจินตนาการของเธอ และเดินเข้าไปหาพี่ชายของเธอและเอามือวางไปบนศีรษะของไนเรลเพื่อดูว่าเขาเป็นไข้หรือไม่ “ก็ไม่มีไข้ แปลกจัง”

“เดี๋ยวเถอะน่า พี่ชายที่หล่อเหล่าคนนี้แค่จะเลี้ยงชาบูน้องสาวของตัวเอง จะต้องมีวันพิเศษด้วยหรือไง” ไนเรลบีบไปที่แก้มทั้งสองข้างของเธอและยืดเข้าออก

“ออ่อย-อู-อ่อน(ปล่อยหนูก่อน)” นิเรียพยายามพูดให้เขาปล่อยมือออกจากแก้มน้อย ๆ ของเธอพูดไม่ชัดมันจึงดูตลกเป็นอย่างมาก

“รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วไปเดี่ยวร้านจะเต็มก่อน” ไนเรลปล่อยมือออกจากหน้าน้องสาวของเขา

“ค่าาา” นิเรียพูดพร้อมกลับวิ่งออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความดีใจ

หลังจากนั้นผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง นิเรียก็แต่งตัวเสร็จ ไนเรลที่ตอนนี้นั่งรอจนหลับไปหลายตื่นแล้วก็ถูกปลุกโดยเธอ

“พี่ชายอย่ามัวแต่นอนอยู่ รีบไปกันเถอะ เดี่ยวร้านเต็มก่อน” นิเรียพยายามปลุกพี่ชายของเธอ

ไนเรลขยี้ตามองไปที่นิเรียด้วยท่าทางงัวเงีย แต่ทันใดนั้นสายตาของเขาก็ตกตะลึงกับความน่ารักของเธอ

“หนูสวยไหม?” นิเรียถาม เธอใช้เวลาเลือกชุดนี้อยู่นานและก็ตัดสินใจแต่งชุดนี้ในวันนี้

ชุดนี้เธอได้รับมาจากรุ่นพี่สาวที่โรงเรียน มันเป็นชุดธีมฤดูใบไม้ร่วง ด้านในเป็นเสื้อไหมพรมสีขาวคอหยัก กางเกงยีนขาสั้นเลยหัวเข่า ด้านนอกเป็นเสื้อฮู้ดแขนยาวสีเหลืองอีกชั้นหนึ่ง

ทุกอย่างลงตัวและเข้ากับทรงผมที่ถูกมัดเป็นลอนทั้งสองข้างอยู่ของนิเรีย ด้านบนมีหมวกเบเร่ต์สีเขียว ใส่รองเท้าบูตหนังสีดำด้านในมีถุงเท้ายาวสูงมีลายดวงดาวติดอยู่

“น่ารักมาก!” ไนเรลพูดออกมาด้วยความเหม่อลอย

“ขอบคุณค่ะ” นิเรียกล่าวด้วยความดีใจเป็นอย่างมาก

หลังจากที่ทั้งสองคนออกจากบ้านมา นิเรียก็เดินกอดแขนของไนเรลอยู่ตลอดเวลา

ทำให้ตาลุงหลายคนมองมาด้วยความอิจฉา ถ้าสายตาฆ่าคนได้ไนเรลคงตายไปหลายรอบแล้ว

“ไอ้หน้าจืดนี่มันเป็นใคร”

“คนที่แต่งตัวทั้งชุดไม่ได้เข้ากันเลยแม้แต่น้อย”

“ดูสิเสื้อยืดสีดำและกางเกงขาสั้นสีขาวรองเท้าแตะ แต่กลับมีสาวน้อยน่ารักเดินควงแขนมาด้วย โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมจริง ๆ เลย”

ไนเรลได้ยินคำพูดแบบนี้มาตลอดทั้งทางเดินไปที่ร้านชาบูเขาก็ได้แต่แก้ตัวไปว่า “นี่คือน้องสาวของผมคร้าบ”

เมื่อแก้ตัวไปแบบนั้น ตอนแรกไนเรลคิดว่าทุกคนจะเลิกนินทาแต่กลับกลายเป็นว่ามีคนพูดว่า “น่าสงสารน้องสาวจังเลยที่ต้องมีพี่ชายแบบนี้”

ไนเรลได้แต่ร้องไห้ในใจ “แล้วแต่พวกเองเลยแล้วกัน”

“ฮือ หือ ฮื้อ ฮะ อือ ฮื้อ” ส่วนนิเรียที่ตอนนี้ไม่ได้สนใจเลยว่าพี่ชายของเธอจะลำบากขนาดไหน เธอฮัมเพลงด้วยความสนุกสนานตลอดทาง

ทั้งสองคนมาถึงร้านชาบูและจัดการกินเมื้อสุดพิเศษนี้ด้วยความสุข และหลังจากกินเสร็จเขาก็พาน้องสาวตัวน้อย ไปเดินเที่ยวต่อด้วยกันอย่างสนุกสนาน

ในระหว่างที่เดินอยู่นั้นไนเรลก็มองไปที่ใบหน้าน้องสาว เขาได้แต่คิด ในช่วงชีวิตที่แล้วของเขา หลังจากเกิดเหตุการณ์ซอมบี้ล้างโลก และสูญเสียน้องสาวกับพ่อแม่ไป เขาก็ได้แต่คิดย้อน ถ้าเขารู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขาจะใช้ชีวิตและเก็บเกี่ยวทุกช่วงเวลากับครอบครัวให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้

ดังนั้นวันนี้ เขาจึงคิดว่าไหนวันสิ้นโลกก็จะใกล้มาถึงแล้ว ทั้งซอมบี้ที่จะบุกมาทั้งที ก็ขอกินชาบูและหมูกระทะกับน้องสาวทุกวันเลยก็แล้วกันเพราะเขาก็ไม่รู้ว่าจะได้ไม่มีโอกาสได้กินอีกวันไหนในอนาคต

“พี่ กลับกันเถอะหนูง่วงแล้ว” นิเรียกำลังขยี้ตาและหาวออกมา

ไนเรลคิดในใจ ‘ถึงยังไงเธอก็ยังเป็นเด็กอยู่นินะ’

ตอนนี้เป็นเวลา 4 ทุ่มแล้ว ไนเรลแบกนิเรียที่หลับไปไว้ที่บนหลังพร้อมกับเดินกลับบ้าน

เขาพยายามที่จะเดินให้ช้าที่สุดเพื่อให้ช่วงเวลานี้ยาวนานที่สุด

แต่ทุกอย่างก็ต้องมีจุดสิ้นสุด เมื่อมีคนชายหญิงกลุ่มหนึ่งเดินผ่านเขาและกำลังพูดถึงเรื่องบางอย่าง มันคือสัญญาณแห่งการเริ่มต้นได้มาถึงแล้ว

“นี่ได้ยินคุณข่าวเกี่ยวกับมิสทราลไหม จู่ ๆ ก็ดูเหมือนจะติดต่อคนที่อยู่ภายในประเทศไม่ได้เลย”

“ได้ยินสิ ข่าวออกจะใหญ่โต ตอนนี้ทางรัฐบาลของเราก็กำลังส่งคนไปดูอยู่”

“ฉันขออย่าได้มีอะไรเกิดขึ้นเลย เพื่อนฉันก็พึ่งเดินทางไปเที่ยวที่มิสทราลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วยังไม่เดินทางกลับเลย ฉันละเป็นห่วงจริง ๆ”

“ใช่เมราด้า หรือเปล่าเห็นอัพรูปลงอยู่”

“ใช่เธอนั้นและ”

ไนเรลรีบเดินกลับไปที่บ้านทันที ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง เขาพานิเรียไปนอนที่ห้อง

เขาก็กลับมาที่ของตัวเองและนั่งลงที่เตียง

สายตาของเขาก็เปลี่ยนกลับมาเย็นชาและน่ากลัวทันทีเหมือนชีวิตที่แล้ว นี่คือสายตาของคนที่เคยฆ่าคนและสิ่งมีชีวิตมาเป็นจำนวนมาก

บรรยากาศภายในห้องเริ่มหนาวเย็น “เราคงจะทำตัวเฉื่อยชาแบบวันนี้ไม่ได้อีกแล้วสินะ”

และนี่ก็คือวันที่ทุกคนจะได้เห็นไนเรลที่ฆ่าคนโดยไม่แม้แต่จะกระพริบตา ผู้ที่ทุกคนเห็นก็ต้องกลัว

แต่ยกเว้นน้องสาวของเขาเท่านั้น ที่ยังคงเห็นไนเรลเป็นพี่ชายที่แสนจะธรรมดาและเป็นคนไม่ได้เรื่องคนเดิมของเธออยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด