ตอนที่แล้วThree of us 20 : ไม่ตอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThree of us 22 : ค่อยๆคิด

Three of us 21 : เลิกกัน


Three of us

ตอนที่ 21

เลิกกัน

"วอนอยู่ไหม?"

"มึงจะถามทำไม มันอยู่ๆแล้ว...เดินเข้าไปเลย" เสียงของกอล์ฟที่เดินตามหลังบิ๊กมาว่า ก่อนจะดันหลังเพื่อนเข้ามาในห้อง เฟยที่ยืนเปิดประตูทำหน้างงๆแต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร

"กูถามจริง? นี่มันหอหรือแหล่งมั่วสุม" โต๋ตบหน้าผากด้วยความหงุดหงิดใจ เพราะจากที่ห้องนี้มันพอสำหรับ 3 คน ตอนนี้มี 5 คนแล้วยิ่งแน่นเข้าไปใหญ่จนเหมือนเป็นปลาที่อยู่ในกระป๋อง

"คือกูควรเช่าห้องข้างๆแล้วทุบกำแพงรวมไหม..." เฟยบ่น

ตอนนี้บิ๊กและกอล์ฟวางถุงที่หิ้วเบียร์ขึ้นมาเต็มไปหมด ดีว่าหอนี้มีขนาดห้องที่กว้างกว่าหอพักนักศึกษาแบบปกติจนแทบจะเรียกเป็นห้องคอนโดได้ แล้วเจ้าของหอก็ยังเป็นรุ่นพี่มหาลัยเป็นเลยค่อนข้างมีกฎที่เข้าใจวัยพวกเขาเป็นอย่างดี เป็นหออื่นอย่าหวังที่จะให้คนที่ไม่ใช่ผู้อาศัยหิ้วสุราเข้าออกหอที่มีนักศึกษามหาลัยอาศัยได้ง่ายๆแบบนี้...

"พวกมึงมากันทำไมเนี่ย แล้วมาถามหากูทำไม?" วอนมองพฤติกรรมเพื่อนสองคนงงๆ

ตอนนี้แก๊งพวกเขามันขยายใหญ่ขึ้นแล้ว จากที่โต๋เทียวไปเทียวมาตอนนี้ก็แทบจะรวมร่างพากันขี่คอเดิน ส่วนบิ๊กก็เช่นกัน..แม้จะอยู่กันคนละคณะแต่ก็เจอหน้าบ่อยยิ่งกว่าพ่อแม่เสียอีก

"ก็เห็นในไลฟ์มึงดูน่าจะมีอะไรไม่โอเค ก็เลยซื้อเหล้ามากินด้วยกัน..." กอล์ฟอ้าง

เพราะวอนไม่ได้เล่าให้ใครฟังมากมายว่าประสบปัญหาชีวิต ในไลฟ์ก็คงมีแค่ความแปลกตาและคำพูดแซ็วๆกันไปมากับโต๋แบบกำกวมที่ว่าโสด....ความจริงที่กอล์ฟและบิ๊กมาหาก็เพื่อหาทางบอกเพื่อนเรื่องเต๋

"...เออแต่มึงมาก็ดี กูรู้ว่ามึงต้องการสิ่งนี้วอน..." โต๋บอกก่อนจะจัดการนั่งล้อมวง เฟยกับวอนนั่งกันบนโซฟา ส่วนที่เหลือนั่งพื้นห้อง เริ่มหยิบแก้วและจานมาใส่ของกินกัน

"มึงมีอะไร? ช่วงนี้ีชีวิตมัน sad เหรอวะถึงได้มาขลุกกับเฟยได้ มึงไม่หามันงี้นานแล้วนะ..." กอล์ฟเกริ่นเข้าเรื่อง

"ก็ไม่เชิง แค่รู้สึกอกหัก" ทันทีที่วอนตอบบิ๊กก็กระแอมทันที หันมองกันกับกอล์ฟว่าชักจะตรงกับที่เขาพบมา...

"กับคนไหนวะ หรือทั้งคู่? มึงโสดแล้วเหรอ?" กอล์ฟถามจี้เข้าไปอีก

"ไม่เชิง...คือยังไม่รู้อะ สงสัยกูงี่เง่า กินเยอะ ขี้หงุดหงิด ...ไม่น่ารักเข้าอกเข้าใจเหมือนคนเก่าเขา" วอนประชดออกมาก่อนจะนอนลงบนตักเฟยที่พิงโซฟาอยู่

"อ๋ออออ..." บิ๊กและกอล์ฟส่งเสียงออกมาพร้อมกัน

"สารภาพมากอล์ฟ นี่ไม่ใช่นิสัยปกติมึง..." เฟยง้างปากเพื่อนที่พยายามทำตัวปกติ ทั้งที่ไม่ปกติเลย ไอ้อาการที่ควรจะทำเหมือนเคยคือพอได้ยินแล้วมันจะต้องถามออกมาเลยตามประสาคนขี้เสือก ไม่ใช่การเลือกจะอ๋อยาวๆราวกับรับรู้อยู่แล้ว...

"....อะไรมึงเฟย กูไม่มีอะไรจะสารภาพ"

"งั้นทำไมมึงไม่ตกใจเลยที่วอนมันเล่า?" โต๋ช่วยจี้กอล์ฟอีกแรง

"เออจริง แล้วปกติรีแอคมึงเล่นใหญ่มาก มึงมีอะไร?" วอนถามด้วยคน

"มันก็แค่เดาออกเปล่า พวกเรามานี่ก็เพราะรู้สึกว่าวอนมันมีอะไรนี่แหละ...เป็นห่วง" บิ๊กช่วยกอล์ฟที่อ้ำๆอึ้งๆ

"บิ๊ก รู้ตัวไหมว่าโคตรมีพิรุธ..." วอนหรี่ตามอง

"เออๆๆ กูยอมล่ะ อ่ะนี่ ...มึงเอาไปดู" กอล์ฟยอมเปิดปากในที่สุด เขากดปลดล๊อคหน้าจอเข้าไปในภาพที่ถ่ายไว้แล้วโยนมือถือไปให้วอน

....วรภพเปิดดูมันทันที พร้อมเฟยและโต๋ที่เยี่ยมหน้ามามองด้วยกัน เห็นภาพเต๋และคริสที่คอร์ทแบตท่าทางสนิทสนมกันแล้วสองคนหลังก็ลอบมองหน้ากันเงียบๆ

...ส่วนวอนใจกระตุกวูบ

....ทั้งที่ตัวเองก็เห็น Preview มาด้วยตาแล้ว

แต่เจอแบบนี้เหมือนยิ่งยืนยันว่าความลังเลที่เต๋จะกลับไปหาเธอคนนั้นอาจจะจริง แล้วดูสิ...เขาทิ้งอีกคนวิ่งไปขึ้นแท็กซี่เต๋ก็ยังมีท่าทียังจะสานสัมพันธ์ต่อแบบไม่คิดจะสนใจกันเลย....

"...เออก็นี่แหละที่ทำให้กูมาหา เห็นมึงมาขลุกกับเฟยก็เดาแล้วว่าอาจจะมีอะไร แต่ไม่เฟิร์มไงไม่อยากมาบอกแล้วทำผิดใจกัน แต่ฟังมึงเล่าประกอบที่เห็นมาก็เออ...นั่นแหละ เลยเอารูปให้ดู..." กอล์ฟอธิบายพร้อมกับมองหน้าเพื่อนที่ยังวนดูรูปซ้ำไปซ้ำมา

"แต่มันก็อาจจะไม่ได้มีอะไรนะ เขาก็แค่เหมือนไปเจอแล้วไปเล่นกีฬากัน..." บิ๊กช่วยปลอบวอน

"มึงเลิกดูได้ละ" โต๋แย่งมือถือในมือวอนก่อนจะส่งกลับคืนเจ้าของ

วรภพหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาดูบ้าง ดูสายที่ไม่ได้รับจากเต๋หลังจากแยกกันมีเพียงแค่ 3 สายเท่านั้น

Rrrrrrrrrrrrrrrr

แล้วตอนนี้โทรศัพท์มันสั่นคามือเขาเลยด้วยซ้ำ ชื่อที่แสดงก็คือคนที่เป็นประเด็นให้ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่นี่....

"ตายยากสัส" บิ๊กเอ่ยออกมาหลังจากชะโงกหน้ามาดูชื่อ

"ไม่อยากรับก็ไม่ต้องรับ ไม่ต้องสนใจ" เฟยแย่งมันมาแล้วกดปิดก่อนจะโยนไปวางไว้อีกมุมหนึ่ง

"อ่ะๆ อย่าไปคิด...มาแฮปปี้กันดีกว่า ซักหน่อยนะ เดี๋ยวอีกหน่อยก็ไม่ได้เจอกันหลายเดือนแล้ว" กอล์ฟว่าก่อนจะยกแก้วให้วอนก่อนพากันเฮโล ส่วนโต๋ที่เป็นน้องชายผู้ต้องหานั้นกอดแขนของวอนเอาไว้ราวกับต้องการปลอบโยน

"กูว่าละ..." โต๋บ่นขึ้นมาในตอนที่ทุกคนกำลังอินกับหนังผีที่เฟยเปิด เพราะมือถือของเขาที่ดังขึ้นมาเผยชื่อของพี่ชายตัวดี...

"ให้กูรับไหม?" โต๋ยื่นมันมาถามวอน

"แล้วแต่มึงดิ" วอนตอบ ...เขาไม่มีสิทธิ์จะไปบอกให้ใครทำอะไรตามใจได้นี่ ยิ่งโต๋เป็นน้องชายจะรับสายก็ไม่เกี่ยวกับเขา แม้ความจริงที่กรึ่มๆและทำเป็นนั่งดูหนังไปนี่จะดูไม่รู้เรื่องเลยก็ตามเพราะเอาแต่คิดเรื่องเต๋

"งั้นไม่รับ" โต๋วางมันคว่ำจอลง

"พวกมึงว่ากูทำไงต่อไปดี" วอนถามโพล่งขึ้นมา ทำเอาทุกคนที่เงียบอยู่หันมองเป็นตาเดียว

"ถามตัวเองแล้วคิดว่าไงอะ?" บิ๊กถามกลับ

"ไม่รู้ดิ ถ้าต้องเลิกกูก็เลิกทั้งคู่..."

"ไม่แฟร์เลยว่ะ เฮียนัทไม่ผิดอะไรเลยนะ..." โต๋เถียงแทนพี่ชายอีกคนของเขา

"มึงจะจะไปเข้าใจมันได้ไง มันอยู่กันมา 3 คนแบบนี้จะให้คบกับใครคนนึงต่อมันก็แปลกๆปะวะ..." กอล์ฟที่รู้ใจเพื่อนแย้งแทน

"เลือกอะไรก็ได้ที่จะไม่มาโทษตัวเองหรือผิดหวังกับตัวเองทีหลังอะ..." เฟยโพล่งขึ้นมาท่ามกลางเสียงแห่งความขัดแย้ง

"อือ ชงให้กูใหม่หน่อยดิ มันไม่เมา..." วอนเลื่อนแก้วของตัวเองให้เพื่อน แก้วเก่าเขารู้ว่าเพื่อนตั้งใจจะผสมให้เบาไป

"พอแล้ว" กอล์ฟไม่ยอมทำตามที่ขอ เขาชอบตอนวอนกินแล้วสนุกกับมัน ไม่ใช่กินเอาตายเพื่อย้อมใจแบบนี้...

"ให้กินไปเถอะ อ่ะ" บิ๊กคว้าแก้วไปจัดการเองแล้วยื่นให้

"..." วอนรับมันไปแล้วต้องเบ้หน้า แม้ว่านี่จะเป็นสิ่งที่ต้องการแต่ความขมก็ทำให้สติจมลงไปชั่วครู่...

"กินให้ง่วงเลยนะ จะได้นอน..." บิ๊กว่าพลางยกยิ้ม

"ทำไมน่ารักจังวะ" วอนถามมองเพื่อนใหม่ด้วยใบหน้าประทับใจและนัยตาเยิ้ม

"อย่าแรด" โต๋ดักคอ

"ทำไม หึงกูเหรอ?" วอนทำเสียงอ้อนก่อนจะเอาหัวไปมุดในอกของโต๋

"วอนมึงเริ่มเมาแล้ว อย่าวุ่นวาย" เฟยเอ็ดขึ้นมาเมื่อเพื่อนเริ่มแสดงอาการยุกยิกมือไม้อยู่ไม่สุข เดี๋ยวจะพากันแตกตื่นไปหมด...มันยิ่งชอบทำตัวยั่วเพศไม่รู้ตัวอยู่ด้วย

"อย่าดุดิ กูเสียใจอยู่เนี่ย" วอนว่าก่อนจะล้มกลับไปนอนบนตักเฟยแล้วเอาขาพาดเกี่ยวกับโต๋ที่อยู่ขนาบข้างไปด้วย

"มึงอยากโดน gangbang เหรอวอน  อย่าหาทำนักนะ!" กอล์ฟบ่นเข้าอีกคนเมื่อเพื่อนเริ่มกวนตีนไปเรื่อย

"ทำกูลงเหรอ นี่เพื่อนนะ!" วอนว่าขำๆ

"ทำไมจะไม่ได้อะ ถ้าวอนโอเคกูเชื่อว่าทุกคนพร้อม..." บิ๊กว่ามองหน้าทุกคนในห้องที่ไม่มีใครเถียง

"จริงดิ พวกมึงนี่ก็นะ..." วอนขำออกมา

เขาก็ไม่ติดเหมือนกันถ้าจะต้องมีอะไรกับเพื่อนจริงๆแบบที่ยินยอมตกลงพร้อมใจกัน เพียงแต่ไม่คิดจะทำมันเพราะไม่ต้องการข้ามเส้นของคำว่า 'เพื่อน' ไป  ไม่รู้เลยว่าเพื่อนก็คิดอะไรแบบเดียวกัน เซ็กส์มันก็แค่รูปแบบหนึ่งของการหาความสุข...

"ไม่ใช่ละ...กูว่าบรรยากาศเริ่มสุ่มเสี่ยง กูคนนึงทำไม่ลงอะ นี่เมียพี่กูนะ... แล้วไอ้บิ๊กมึงหันกลับไปเลย" โต๋ดึงสติทุกคนก่อนจะดึงวอนขึ้นมานั่งติดกับเขา

"งั้นเริ่มพิสูจน์จากมึงก่อนเลย" วอนนึกสนุก เขาลุกไปนั่งบนตักโต๋แล้วคล้องคอไว้ ก่อนจะยื่นหน้าไปมองใกล้ๆจนเกือบเลยเถิด...

"กูไม่ตลก ลงไป" โต๋บอกเสียงดุ

"พี่โต๋~ ไม่สนใจวอนจริงๆเหรอ" วอนทำหน้าตาบ๊องแบ๊วแกล้งเพื่อน

"กูเข้าใจเฮียมึงล่ะโต๋" กอล์ฟพึมพำออกมา เริ่มเข้าใจว่าทำไมสองคนนั้นถึงหลงวอนมันนัก

"วอนไปนอนไป" เฟยบอกออกมาในที่สุด ก่อนจะลากวอนให้ลุกขึ้น

"ไม่เอาจะนอนกับพวกมึง...นอนตรงนี้แหละ กูเหงา" น้ำเสียงเศร้าของวรภพดึงสติทุกคนอีกครั้งจากเรื่องทางเพศ

"งั้นนอนเฉยๆ นอนแบบเฉยๆไปเลย ไม่ต้องพูดไม่ต้องทำอะไรส่อ 18+ อีก" เฟยบ่นแล้วลุกหยิบผ้าห่มและหมอนมากมายมากองที่หน้าทีวีห้องโถงแทน...

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังในตอนเกือบตี 2 เจ้าของห้องและโต๋ที่ยังดื่มพร้อมดูฟุตบอลกันอยู่หันมองกันทันที... มันจะมีสักกี่คนที่มาหาเวลานี้กัน

"ใครมาป่านนี้วะ" โต๋บ่นมองเพื่อนที่กองอยู่บนพื้น วอน บิ๊ก และกอล์ฟนอนสภาพแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร ก่อนที่เฟยจะเป็นคนลุกไปเปิดประตู...

แกรก... เจ้าของห้องชะงัก

"วอนอยู่ไหน?" เสียงทุ้มของเต๋ถามทันทีที่ประตูเปิดออก โต๋ที่นั่งอยู่หน้าทีวีได้ยินเสียงรู้ทันทีว่าเป็นพี่ชายเลยรีบวิ่งออกมาดู...

"เฮีย มาทำไม?" เขาถามพี่ชายออกไป

"ทำไมไม่รับสายกู? ดีนะไลฟ์มึงยังไม่ลบ เข้าไปดูถึงรู้ว่าเมียกูอยู่นี่อะ..." เต๋ยืนทำหน้าดุอยู่หน้าห้อง เฟยไม่ยอมแย้มมันออกให้เขาเข้าไปเลยได้แค่คุยกันไปมาผ่านบานประตูแคบๆ

"กลับไปเถอะ ดึกแล้ว"

คำห้วนๆของเฟยบอกออกมา เขาจะไม่ยอมให้เต๋เข้ามาในขณะที่ทำเพื่อนเขาเสียใจ

"กูไม่ได้มาหาพวกมึง กูมาตามวอน..."

"มาตามมันทำไม...มันไม่ได้หายไปไหน มันไม่อยากเจอเฮียด้วย กล้บไปได้แล้วมันนอนอยู่..." โต๋ช่วยเฟยไล่พี่ชายพร้อมกับมองหน้าเจ้าของห้องที่มองพี่เขาเขม็ง...

"ไปตามมา กูจะพามันกลับ" เต๋ว่าด้วยท่าทางขึงขัง

"พูดไม่รู้เรื่องเหรอ เพื่อนผมมันไม่กลับหรอก ถ้ามันอยากคุยมันรับสายไปแล้ว กลับไปได้แล้ว..." เฟยช่วยย้ำอีกรอบทำท่าจะปิดประตู

หมับ

เต๋คว้าเอาไว้ทันแล้วถอนหายใจยาวออกมา

"กูไม่รู้นะว่าพวกมึงรู้อะไรมาบ้าง แต่กูอยากคุยกับวอน"

"คุยอะไรของมึงเฮีย...เวลาทั้งวันไม่มาคุย แล้วยังพาพี่คริสไปยิมอีกจะให้มันคิดยังไง เฮียไปถามตัวเองก่อนเถอะว่าจะเอายังไงเพื่อนกูจะได้ไม่เสียเวลา!" โต๋ที่ทนไม่ไหวโพล่งทั้งหมดออกมา

ปั่ก พรึ่บ!

...แต่เต๋ไม่สนใจเขาผลักประตูเข้าไปหาวอนทันที ก่อนจะเดินไปที่กองๆหนึ่งบนพื้นห้อง สภาพที่เห็นแทบจะทำเอาสติขาดผึง เพราะตอนนี้วอนนั้นนอนอยู่บนไหล่ซุกในอกของบิ๊กโดยมีแขนของกอล์ฟพาดอยู่อีกที

แม้จะไม่มีแอลกอฮอล์วางอยู่จากการเก็บกวาดแล้ว แต่กลิ่นและสภาพก็บอกได้ดีว่าผ่านอะไรมาบ้าง

"วอน!" เต๋เรียกคนที่นอนอยู่ จนทั้งวามคนงัวเงียพากันลืมตาขึ้นแบบงงๆ เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่ยืนอยู่ก็พากันผุดลุกขึ้นนั่ง

"ลุกขึ้น" เต๋คว้ามือของคนที่ทั้งงงทั้งมึนอยู่บนพื้นขึ้นมาจนวอนลุกตามแรง

"เฮ้ย มึงอย่ามาทำแบบนี้ต่อหน้ากูนะ" เฟยกระชากตัวเต๋ออกจากเพื่อนก่อนจะผลักจนเต๋เกือบล้ม

"เฮ้ยมึงใจเย็น....เฮียด้วย กลับไปก่อน!" โต๋ห้ามทัพ ดึงแขนพี่ชายตัวเองไว้กลัวใจว่าอาจจะมีเรื่องรุนแรง

"ไม่! กูจะไปก็ต่อเมื่อเมียกูไปด้วย!" เต๋เสียงดังขึ้นมา

"เฮ้ยพี่...ห้องอื่นเขานอนกันหมดแล้ว มาโวยวานป่านนี้แล้วยังทำแบบนี้เนี่ยนะ..." บิ๊กพูดขึ้น

"มึงหุบปาก! แล้วมาเมามามั่วกันอยู่นี่ มือถือก็ปิดเครื่อง! แล้วยังจะ....ไปคุยกันเดี๋ยวนี้นะวอน!" เต๋ตวาดกร้าว มองสลับไปมาโดยเฉพาะทางบิ๊ก ...คนมันเคยอะไรกันมาจะมานอนอยู่กันแบบนี้จะให้เขาคิดยังไง

"จะคุยอะไร? อยากกลับไปหาเมียเก่านักก็ไปสิจะมาวุ่นวายอะไรที่นี่ เรื่องตัวเองทำไม่เคยผิดเนอะ พอเป็นกูพวกมึงดูสิ...จะโวยวายจะประสาทขึ้นมาให้ได้..." วรภพตอบกลับด้วยใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์

"กูไม่ให้มึงไปไหนทั้งนั้นอะวอนถ้ามึงไม่เต็มใจ" เฟยเสริมขึ้นอีกคน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครแต่จะมาลากเพื่อนเขาไปด้วยอารมณ์รุนแรงแบบนี้ไม่ได้...

"เฮียกลับไปเถอะ ร้อนๆแบบนี้ผมไม่ยอมให้มันไปหรอก..." กอล์ฟบอกกับเต๋อีกคน

"กูจะพาไปคุยกันให้รู้เรื่อง ถ้าพวกมึงไม่เชื่อใจ...ไอ้โต๋ มึงกลับด้วย!" เต๋เสนอออกมา

"วอนมึงเอาไง?" โต๋ถามความยินยอมจากเจ้าตัวก่อน

"ได้...คุยก็ดี จะได้ จบๆกันไป" วอนตอบออกมาทำเอาทุกคนหันไปมองหน้า

"ไม่ต้องห่วงกู...โต๋ไปด้วยแล้วไม่มีอะไรหรอก" วอนบอกมองหน้าเพื่อนอีกสามคนก่อนจะพยักหน้ากับโต๋แล้วเก็บข้าวของ

"มา.." เต๋ที่เห็นว่าเรียบร้อยแล้วกระชากข้อมือน้องเดินตามออกมานอกห้องทันที

"ไม่ต้องจับ!" วอนสะบัดออก เต๋ทำท่าจะเข้ามาหาตัวอีกครั้ง คราวนี้โต๋ผลักทั้งคู่แยกออกจากกัน

"พอ! เฮียเดินไปเฉยๆไม่ต้องแตะตัวมัน วอนมากะกู..." โต๋ดึงเพื่อนมาเดินอีกทาง

"...." เต๋ฟึดฟัดแต่ก็ยอมให้แต่โดยดี

"นี่แค่จะไปขึ้นรถนะ..." คนที่ต้องเป็นคนกลางพึมพำออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย รู้เลยว่าวันนี้ ไม่ง่ายแน่

มาถึงกันที่คอนโดของนทีที่มันเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเต๋ไปแล้วนั้นยิ่งทวีคูณ บรรยากาศมาคุตั้งแต่บนรถที่เงียบสนิทมาตลอดทางและมันค่อนข้างจะมีแต่เลวร้ายลง

"มึงไปนอนห้องเฮีย กูจะคุยกับวอน..." เต๋สั่งน้องชาย

"ไม่! จะอยู่นี่แหละ ให้เฮียคุยกับมันแล้วถ้าหัวร้อนทำอะไรมันขึ้นมาอะ...ไม่เอาหรอก วอนคุยต่อหน้ากูนี่แหละ" โต๋ว่า พร้อมกับกอดอกนั่งลงที่โซฟากลางห้อง

"ก็ตามใจ!" เต๋บอกเหมือนจะยอมก่อนจะดึงแขนวอนแล้วเข้าไปในห้องนทีอย่างไวจนน้องชายไม่ทันคว้าไว้

ปัง ปัง ปัง!!

"เปิดประตูนะเฮีย!!" โต๋วิ่งไปทุบประตูเรียกพี่ชายด้วยเสียงดัง

"จะพูดอะไร ความจริงวิเดียวก็น่าจะคุยจบ..." วอนหันความสนใจจากบานประตูมามองคนพี่ที่ตอนนี้ยืนประจันหน้ากับเขาดูหัวเสีย

"วิเดียวจบอะไรวอน? มาพูดกันให้เข้าใจไง...จะหนีจะปิดเครื่องใส่ทำไม" เต๋บ่นก้าวเข้ามาประชิดตัวน้องแต่วอนผลักออก

"ก็ถ้าเลือกแล้วจะกลับไปหาเขาเราก็แค่เลิกกันไปไง...ทำไมต้องทำให้ยาก ส่งข้อความมาบอกกันก็ได้นะจะได้ไม่เดือดร้อนคนอื่นเขาแบบนี้" วอนเอ่ยหน้าตาย

"ใครจะเลิก...เต๋ไม่เลิก!" เต๋ดึงมือน้องขึ้นมาอีก คราวนี้มัดไว้แน่น

"อย่าเห็นแก่ตัวไปหน่อยเลย จะมีไว้สองคนรึไง อ๋อ...หรือจะเพิ่มพี่คริสเข้ามาอีกคน? อยู่ด้วยกัน 4 คนไปเลยเป็นไง" วอนประชดประชัน

"วอน!!"

"โอ๊ยเจ็บ!!" วอนตวาดกลับเมื่อเต๋บีบมือเขาแน่นด้วยความโมโห

เสียงโต๋หน้าห้องโวยวายมาอีกครั้ง ตะโกนถามเข้ามาว่าวอนเป็นอะไรและเฮียเขาทำอะไรเพื่อนสนิทตน

"พี่กับคริสไม่ได้อะไรกัน ตั้งแต่กลางวันแล้วนะที่เราพาลไปเรื่อยแล้วหนีไปอะ...มือถือก็ไม่รับสาย!"

"ก็ถ้าแค่ตอบคำถามมาว่าจะไม่กลับไปหาเขามันก็จบไปแล้วไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก คำถามง่ายๆเธอยังตอบให้ไม่ได้เลย!!" วอนเขย่าตัวคนพี่ออกมาพร้อมน้ำตา

...ที่ฮึบมาทั้งวัน

...ที่เข้มแข็งมาตลอดตอนนี้น้ำตามันออกมาจากไหนไม่รู้

"วอน.." เต๋ตกใจที่เห็นน้องร้องไห้พยายามคว้าน้องมากอดไว้แม้อีกคนจะดิ้นขลุกขลักในอกไม่ยอม แต่ก็โดนรวบตัวไว้ในที่สุด...

"เต๋ขอโทษ... เต๋ไม่อยากโกหก มันก็มีคิดถึงแล้วมันก็มี- ....วอนอย่าเพิ่ง ฟังเต๋ก่อน" เต๋รัดน้องไว้แน่น เมื่ออธิบายไปแล้ววอนจะสะบัดตัวออกอีกรอบ

"..."

"เต๋ก็ยอมรับว่ามันมีเสี้ยวความรู้สึกดีให้เขาจริงๆ แต่เต๋มั่นใจแล้วกับคริสเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ แค่มิตรภาพ.." เต๋กระซิบพร้อมลูบหัวปลอบน้องไปพลาง

"ต้องพิสูจน์ก่อนใช่ไหม? ลังเลก่อนใช่ไหม...ต้องพิสูจน์กันมาท่าไหนถึงได้รู้ใจตัวเองอะ..." วอนถามไปก็จิกหลังของเต๋ไป เป็นการกอดแล้วรั้งกันไว้ที่อึดอัดที่สุด

"....ขอโทษ เต๋แค่สับสน แล้วที่ยิมเขาแค่โทรมาอยากให้เต๋พาไปดูที่ตึก เต๋ไปคุยกับเขา...ไปกินข้าวมา แล้วเต๋ก็รู้ตัวเองแล้วนะ...เต๋อยู่กับเขาคิดถึงแต่คนดีตลอด ตอนนี้เต๋รู้แล้วว่าไม่ได้รักเขาแล้ว" คนพี่สารภาพออกมาทั้งหมด

"ไปมีอะไรกันมารึเปล่า?" วอนถามตรง เพราะเวลากว่าที่เต๋จะมายืนเคลียร์กันตรงนี้ได้มันหลายชั่วโมงมากจากที่แยกกัน มันทำอะไรได้เยอะแยะมากมาย.... ยิ่งเป็นคนรักเก่าเดาว่าคงไม่ต้องสร้างซีนเยอะ...

"...ไม่เลยเต๋สาบาน เสร็จจากยิมกินข้าว ไปนั่งกันที่ผับ เราจูบกัน เขาให้ทบทวนเรื่องกลับไปคืนดี แต่เต๋คิดถึงแต่คนดีตลอด.....ไม่งั้นเต๋จะมาอยู่ตรงนี้เหรอ" เต๋ยิ่งกอดวอนให้แน่นขึ้น และน้องก็ทั้งกอดทั้งจิกฝังเล็บไปบนตัวเขาเหมือนไม่รู้ตัว

"ถ้าเป็นวอนที่ทำแบบนั้นบ้างล่ะ? ถ้าตรงนั้นเป็นวอนบ้างมันจะเป็นยังไง!! ไม่นึกถึงความรู้สึกกันเลยรึไง..."

"คนดีเต๋ผิดไปแล้ว เต๋ขอโทษ... ขอโทษนะครับ ต่อไปนี้เต๋ไม่ลังเลแล้ว พอรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ตอนที่โทรหาคนดีไม่รับแล้วปิดเครื่อง ตอนที่ไม่รู้ว่าคนดีไปไหนเต๋แทบบ้าเลยรู้ไหม..."

"ช้าไปไหม... มันเกือบจะสายไปแล้วรู้หรือเปล่า หรือจริงๆแล้วเราควรหยุดความสัมพันธ์บ้าๆนี่.." สิ้นคำของวอนเต๋ก็ผละออกมาจับที่สองแขนน้องแล้วมองหน้านิ่ง...

"ไม่นะวอน ไม่เลิกนะวอน... เต๋ไม่เลิกนะ เต๋ขอโทษ ไม่เอานะ..." เต๋บอกระล่ำระลัก

"อยากพิสูจน์ตัวเองให้พอเต๋ก็ไปเลย... มั่นใจเมื่อไหร่เราค่อยมาคุยกัน เพราะแค่ได้รู้ว่าเต๋อยากกลับไปหาเขาแค่เสี้ยวเดียววอนก็ไม่โอเคแล้ว...แม่งโคตรเจ็บ"

"หมายความว่าไง.."

"เรากอดกันแน่นไปหรือเปล่า บางทีเต๋อาจจะต้องการเวลาคิด..."

"..."

"ตอนนี้เราก็แค่...เลิกกัน" วอนบอกด้วยใบหน้านิ่ง ทำเอาใจของเต๋หล่นไปกองกับพื้น

ยิ่งภาพตอนนี้ที่น้องกำลังจะไปคว้าประตูเพื่อเปิดออกไปใจยิ่งแตกสลาย

02.11.2020

ตอนที่แล้วThree of us 20 : ไม่ตอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThree of us 22 : ค่อยๆคิด
แบ่งปัน
สวัสดีค่า สำหรับใครที่เข้ามาอ่านงานเรา ไม่ต้องคอมเม้นท์เราก็ได้ เข้ามาติดตามกันก็ชื่นใจแล้ว จะพยายามอัพเดทผลงานเรื่อยๆเลยนะ ติชมอยากให้เปลี่ยนแปลงตรงไหนบอกได้เลยพร้อมพัฒนาแก้ไขให้ทุกคน เราตั้งใจเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็น ศศิศิลป์ ศศิ ที่แปลว่าดวงจันทร์ และศิลป์ ที่หมายถึงศิลปะ เพราะส่วนตัวเราชอบคิดเรื่องที่จะแต่งในตอนกลางคืน เกือบทุกเรื่องจะเขียนจบในเวลาที่ฟ้ามืดแล้ว ศิลปะทางภาษาของเรามักจะทำงานในตอนกลางคืนว่างั้นก็ได้ ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะ ศศิศิลป์
0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด