ตอนที่แล้วThree of us 12 : หมกหมุ่น (NC)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThree of us 14 : ลาก (NC)

Three of us 13 : ได้เวลาสนุกแล้วสิ


Three of us

ตอนที่ 13

ได้เวลาสนุกแล้วสิ

"โต๋..." วอนเรียกชื่อเพื่อนที่เอาแต่นั่งเงียบตั้งแต่เขาไปเปิดประตูให้

เราทั้งคู่ทำตัวไม่ถูกในสถานการณ์นี้ ด้วยวรภพก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติที่คนเป็นน้องชายมาหาพี่ชายแล้วมีเพื่อนตัวเองมาเปิดประตู

"ได้ข่าวมึงต่อยกับไอ้ดอส เป็นไงบ้างวะ วันนั้นกูก็ลืมถาม"

"สบายๆ หน้าแม่งกวนตีน พูดไม่เข้าหูด้วย"

"เออบิ๊กเล่าให้กูฟังล่ะ กูรู้จักมัน" โต๋เล่า

"อือ พี่มึงโมโหกูใหญ่" วอนเอ่ยแย็บออกมา

"จริงๆกูเอะใจตั้งแต่แรกแล้ว จนวันนั้นกูเห็นมึงออกมาจากETCกับเฮีย ปะติดปะต่อแล้วก็ว่าใช่แน่..." โต๋เอ่ยประโยคแรกออกมาหลังจากเฝ้าคิดวนไปวนมาอยู่สักพัก

"คือ... มึง รู้แล้วโอเคไหมวะ" วอนถามออกไปตรงๆ เขาจิกหมอนอิงบนตักแน่น กัดปากกลั้นใจถามไป

"มันไม่ใช่เรื่องของกูสักหน่อยที่มึงจะเป็นอะไรกับเฮียอะ แต่ที่กูสงสัยคือ..."

ไม่นะโต๋

มึงอย่าถามออกมานะ...

ใจวรภพหล่นลงไปกองกับพื้น

"คือเฮียกูก็ชอบมาขลุกกับเฮียนัทอยู่แล้ว แต่ถ้าเขามีมึงแล้วมาอยู่กันที่นี่ แล้วไหนจะที่มึงหายไปด้วยกันสามคนวันเปิดตึก คือ.." โต๋กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาไม่อยากนึกภาพเลยว่าพี่ชาย สองคนกับเพื่อนทำอะไรกันไปบ้าง

"อือ กูกับเขาเกินเลยกันไปแล้ว" วอนสารภาพออกมา ในเมื่อความจริงยังไงก็คือความจริง ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นอื่นได้

"ทั้งสองคนเลยเหรอวะ?" โต๋ถามออกมาตรงๆ

"มึงรังเกียจกูไหมวะ โกรธไหม?" วอนไม่ได้ตอบออกไป แต่สีหน้าและคำถามที่ถามกลับก็คือคำตอบของมันแล้ว

"ไม่รู้ดิวะ... กูรู้หรอกนะว่าเฮียกูทั้งคู่เป็นยังไง แต่พอมันเป็นเพื่อนกูแล้วมัน..." โต๋ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาวอนด้วยซ้ำ

ถ้าหากเป็นคนอื่นก็คงจะคิดแค่ว่าสองคนนั้นมันจะแบ่งอะไรกันได้ทุกอย่างตั้งแต่เด็กยันโตเลยหรือไง แต่พอคนนั้นเป็นเพื่อนตัวเองแล้วมันไม่รู้จะรู้สึกยังไง...

"กูเข้าใจนะ ขอโทษด้วยนะถ้าทำให้มึงผิดหวังที่มีกูเป็นเพื่อนแล้วก็เรื่องที่กูทำกับพี่มึงอะ" วอนเอ่ยออกมา ทั้งที่เขาไม่จำเป็นต้องขอโทษโต๋เลย แต่มันแคร์เพื่อนมากจนต้องเอ่ยออกไป โดยเฉพาะเพื่อนที่เป็นคนในครอบครัวของอีกสองคนด้วย

"กูแค่ยังช๊อคอะ นี่ขนาดทำใจมาแล้วนะ แต่เออเป็นมึงมันก็... คือถ้าเป็นคนอื่นมันก็จะตกใจน้อยกว่านี้ แต่เป็นมึงมันก็ดีเหมือนกัน" โต๋ทั้งพูดไปทั้งสับสนในตัวเองไป

"ไม่เกลียดกันก็พอแล้วไม่ขอให้เข้าใจหรอก เพราะกูยังไม่เข้าใจตัวเองเลย" วอนขำออกมาแห้งๆ

"เออช่างมัน จัดการกันเอาเองแล้วกัน มันก็พี่กูเหมือนเดิม มึงก็เพื่อนกูไง..." โต๋ว่าก่อนจะเลื่อนตัวมาใกล้เพื่อน ไม่อยากให้วอนรู้สึกว่าอ้างว้างจมกับความสับสนคนเดียว

"ดีใจนะที่ได้ยิน" วอนยกยิ้มกว้าง

"เออ ว่าแต่มึงนี่โชคร้ายตายห่าเลย สองคนนั้นแม่งทั้งน่ารำคาญ เฮียนัทก็ดุเดาใจยาก เฮียกูก็ปากร้ายเอาแต่ใจ ถ้าเป็นกูว่าไปอย่าง..." โต๋ยกมือขึ้นทำท่าทางเก๊กหล่อ

"จะมองหน้ากันไม่ติดเอาน้าโต๋ ว่าแต่... ถ้าแม่กับป้ามึงรู้เรื่องนี้เขาจะโอเคไหมวะ?" นั่นคือสิ่งอยู่ลึกๆในใจของทุกคนที่รู้ความสัมพันธ์นี้

"เดาไม่ออกเลยว่ะ คือถ้ามึงคบกับใครสักคนเขาไม่มีปัญหาหรอก เขารู้ว่าเฮียเป็นยังไง แต่ถ้าสองคนเลยเนี่ย..." โต๋นึกไปถึงพ่อเขาคนที่เป็นตำรวจแล้วก็อดกังวลใจไม่ได้

"...งั้นดิ"

"มึงคุยกันว่าไงอะ มองไปไกลไหม?" โต๋ถามเพียงแค่คิดว่ามันอาจจะฉาบฉวยและสนุกๆกันไปเท่านั้น

"ยังบอกไม่ได้หรอก" คนตอบผลุบตาต่ำอีกรอบ

"เอองั้นช่างมัน ชีวิตนึงอะเนอะใช้ไปเถอะ แก้ๆกันไป คืนนี้ไปกินเหล้ากับกูเปล่า ต้อนรับตำแหน่งใหม่.."

"ไม่น่าจะได้ไปว่ะ วันนี้นะพี่ชายกูกลับมา กูมาอยู่นี่หลายวันแล้วด้วย" วอนยกมือถือขึ้นมาดูทวนกำหนดข้อความที่พี่เขาบอกไว้

"แล้วนี่พรุนหมดแล้วมั้ง โดนล่ามไว้บ้างไหมเนี่ย ได้กินข้าวกินปลาบ้างไหม ไม่สบายด้วยไม่ใช่ไง๊?" โต๋จับตัวเพื่อนพลิกหันไปมา

"เว่อร์ พี่มึงไม่ใช่ฆาตรกรโรคจิตนะสัส กูโอเค เพิ่งหายไข้ กินอิ่มนอนหลับดี..." วอนบอกด้วยรอยยิ้ม

ฟุดฟิด ฟุดฟิด

โต๋ทำจมูกย่นไปมา ก่อนที่จะเลื่อนตัวหาที่มา

"มีอะไรวะ กูอาบน้ำแล้วนะ" วอนจับเสื้อผ้าตัวเองขึ้นมาดมทันที แต่โต๋ก็ยังเลื่อนกายหาเขา ก่อนจะผลักหัวไปที

"อาบน้ำแต่ไม่สระผมอะดิมึง โอ้ยยย เน่าสัส" โต๋บ่นออกมา ความจริงมันไม่ได้เหม็นขั้นนั้นแต่เพราะเขาจมูกไว

"ก็พี่มันไม่ให้กูสระอะ บอกว่าเดี๋ยวกลับมาไข้อีก" วอนโวยวายด้วยความอายหน่อยๆ ใครมันจะดีใจที่โดนทักว่าหัวเหม็นกัน แล้วสองคนนั้นทนไปได้ไง โต๋เพิ่งมายังบ่นขนาดนี้...

"เออๆงั้นลุก กูสระให้เอง" โต๋ขำพรืดก่อนจะดึงแขนเพื่อนให้ลุกตาม...

...เต๋ที่กลับมาจากทำงาน เขาหิ้วของมามากมายเพื่อที่จะได้กินข้าวเที่ยงในช่วงบ่ายนี้กับคนที่เฝ้าคิดถึงตลอดการประชุม แต่มาถึงก็ไม่เจอใครเลย เดินหาไปเรื่อยก็ได้ยินเสียงโวยวายของสองคนดังมาจากห้องน้ำ

"โอ๊ยยย มันร้อน สัส! จะต้มกูเหรอ!" เสียงของวอนที่ทั้งหัวเราะทั้งด่าใครสักคนทำเขาใจเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วค่อยๆสาวเท้าไปหาต้นเสียง...

"นิ่งๆดิกูเปิดผิด วอนมึงเฉยๆดิ้เดี๋ยวแสบตา!!"

ผลั่ก!

เต๋เปิดประตูเข้าไปอย่างแรง กะว่าคงจะระเบิดลงเต็มที่ที่วอนกล้าใครเข้ามาทำอะไรในคอนโดของนทีกับเขา

"ทำอะไรกัน!" เต๋ตวาดออกมา ก่อนจะถอนใจที่เห็นว่าเป็นน้องชายตัวเอง กำลังอยู่ในท่าทางประหลาดกับวอนที่ถอดเสื้อเหลือแค่กางเกง กำลังก้มตัวผมเปียกโชก ทั้งคู่สะดุ้งตัวโยน...

"เชี่ย! โอ๊ยยยยตกใจหมดเฮีย! ตะโกนซะดัง.." น้องชายตัวดีบ่น

"โต๋เร็วๆ แชมพูเข้าตาหมดแล้ว..." วอนใช้มือข้างนึงลูบหน้าก่อนจะใช้อีกข้างคว้าหามือเพื่อนให้ราดน้ำล้างฟองออก

"มึงออกไปโต๋ เดี๋ยวกูทำเอง..." เต๋เมื่อเห็นว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกันในสภาพล่อแหลมก็เกิดหวงคนน้องขึ้นมา แม้ว่าไอ้ที่ช่วยกันสระอยู่จะเป็นน้องชายเขาและเพื่อนวอนก็ตาม

"ไม่ต้อง...ออกไปก่อนเลย เดี๋ยวก็เปียกหมด!" วอนออกคำสั่ง ทำเอาโต๋หรี่ตามองอาการพี่ชาย ที่ไม่เคยมีใครไปสั่งแบบนี้ได้โดยเฉพาะน้องชายอย่างเขายิ่งไม่กล้า...

"บอกแล้วไงว่าไม่ต้องสระ เดี๋ยวก็เป็นไข้..." เต๋ยังคงไม่ยอม พยายามหาผ้าเช็ดตัวไปคลุมให้

"...เต๋ออกไปก่อน แล้วเดี๋ยวผ้ามันเปียกเนี่ย" วอนดึงผ้าที่อีกคนพยายามคลุมตัวออก ก่อนที่เต๋จะฟึดฟัดและยอมออกไปในที่สุด ส่วนโต๋นั้นยังคงอึ้ง

"วอน...นี่มึงพูดกับเฮียแบบนั้นเหรอ" โต๋ถามด้วยไม่อยากเชื่อ มือก็ยังทำหน้าที่ล้างผมให้เพื่อน

"ทำไมวะ?"

"ก็...เออมัน มันไม่ใช่เรื่องปกติของบ้านกูอะ มัน...ยังไงวะ คือไม่ใช่ใครจะไปสั่งไปชี้ได้ ขนาดเจ้แต้วพี่สาวคนโตยังเกรงใจเฮียเลย" วอนได้ฟังแล้วนึกขำ

"ขนาดนั้นเลยเหรอ กูไม่เคยเห็นโหมดนั้นเลยนะ"

"ยิ่งแปลกใหญ่" โต๋ว่าไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้รู้

ทั้งสามคน เต๋ โต๋ และวอนกำลังนั่งกันอยู่ที่โต๊ะกินข้าว ด้วยการที่วรภพโดนบ่นจากเต๋ว่าไม่ควรสระผมและไม่ควรถอดเสื้อออกแบบนั้นกับโต๋ในสภาพล่อแหลม...

"ก็ผู้ชายเหมือนกันไหมจะบ่นอะไรนัก อีกอย่างนี่ก็น้องตัวเองแท้ๆ" วอนยังคงเถียงคอขึ้นเอ็น พร้อมด้วยกินสปาเก็ตตี้ที่อีกคนซื้อมา ส่วนโต๋นั่งมองสองคนด้วยความรู้สึกแปลกใหม่

ไอ้วอนในมุม(แอบๆ)จะอ้อนและน่ารักกว่าเวลาปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ....

"ก็มันไข้เพิ่งหายค่อยสระก็ได้ แล้วเต๋หวงอะ จะน้องแล้วทำไม ยิ่งเป็นผู้ชายนั่นแหละยิ่งหวง..."

....พี่ชายเขานี่แหละ

มันจะมุ้งมิ้งอะไรได้ขนาดนั้นวะ โต๋ฟังแล้วก็อดจะกลั้นหัวเราะไม่ได้

"มึงขำอะไรโต๋ แล้วมาทำไมไม่บอก...ยุ่งไม่เข้าเรื่องนะมึง!" เต๋พาลไปหาน้องชาย

"อะไรอะเฮีย ก็แม่ให้มาดูว่าเฮียไม่กลับบ้านเลยเอาแต่มาอยู่กับเฮียนัท ผ่านมาเลยแวะมาหา..." โต๋พูดความจริงแค่ครึ่ง

...แม่บอกน่ะใช่ แต่แม่แค่ถามว่าช่วงนี้เจอพี่ชายไหม ที่มานี่เพราะสงสัยเรื่องวอนด้วยตั้งแต่วันที่เห็นออกมาจาก ETC ด้วยกัน บวกกับว่าเพื่อนมันอีกสองคนมีพิรุธนั่งถามเรื่องพี่ชายเขาทั้งคืนแล้ววอนเองก็ไม่ไปเรียน ไม่คิดว่าจะเจอจริงๆ...

"แล้วจะไปว่าโต๋ทำไม นี่มันอุตส่าห์ช่วยสระผมด้วยนะ" วอนช่วยเพื่อนทันที

"เข้าข้างมันเหรอวอน?" เต๋ถามเสียงแข็ง

"อือ ทำไมอะ? มีแต่เต๋อะหวงไม่เข้าเรื่องเลย" วอนบอกก่อนจะทำตาเขียวใส่จนคนพี่ยอมเงียบไป

".. ใช่ไหมวอน เฮียพาลแล้วด่ากูอะ กูแค่มาหาพี่ชายแล้วมาเจอเพื่อน กูไม่ได้ทำไรผิดเลยเนอะ" ฝ่ายน้องชายที่เห็นว่าตัวเองเป็นต่อก็ได้ที่เอาหัวมุดเข้ากับไหล่ของวอน

"ปล่อยเลยไอ้โต๋!! มึงกวนตีนนะ..." เต๋ว่าใช้เท้าถีบใต้โต๊ะจนเก้าอี้น้องชายเกือบหงายดีที่วอนจับไว้ทัน

"เต๋! เล่นอะไรไม่รู้เรื่องเลย" วอนว่าแล้วหันมองหน้าเพื่อนอย่างเป็นห่วง ถ้าไม่รับไว้เมื่อกี้มีหวังหัวมันฟาดพื้นจริงๆด้วย เต๋เองไม่ใช่ว่าจะแรงน้อยๆ..

"คนดีเข้าข้างมันอะ!" เต๋โพล่งออกมาทำเอาโต๋พ่นโค้กออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

"แค็กกๆๆๆ โอ้โห อ่ะ แค่กๆๆ" คนที่สำลักรีบหยิบทิชชู่มาเช็ดปากใหญ่ ฝ่ายคนที่ช่วยลูบหลังเพื่อนก็ทั้งหน้าแดงทั้งหาเฟรนฟรายปาใส่คนพี่...

"ขัดเวลาครอบครัวเขาชิบหาย" เต๋บ่นน้องชายที่ตอนนี้น้ำหูน้ำตาไหลไปหมด

"กูชักอยากเห็นเฮียนัทแล้ว เชื่อว่าต้องอภินิหารกว่านี้..." โต๋ที่ตั้งสติจากอาการสำลักขึ้นมาได้บอกกับวอนที่พยายามทำหน้านิ่งๆไปและกินไปเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน

"....ว้าววว พี่ชาย~ ในที่สุดก็หาทางกลับบ้านเจอ ไปไหนมาก็ไม่รู้ทิ้งน้องไว้คนเดียว" วอนทักทายนรสิงห์หลังจากที่เขากลับมาที่บ้านก่อนเวลาเพื่อมารับบทน้องชายที่เฝ้าบ้านตลอดมาตอนพี่ชายไม่อยู่ทุกวัน

"ได้กลับบ้านบ้างเปล่าเถอะทำเป็นพูด" นรสิงห์ที่รู้ทันกรอกตาใส่ เขาวางกระเป๋าที่เก็บไปค้างข้างนอกมาลงบนโซฟา...

"ว่าแต่ไปทำงานจริงเปล่า ไม่ใช่ไปนอนกกใครมานะ"

"พูดมากอะ แล้วกินข้าวมารึยัง?" พี่ชายตอบปัด

"รอกินด้วยกันไงนะ หยุดตั้งอาทิตย์นึงเนี่ยไปไหนกันดี" วอนถามถึงความน่าเบื่อที่กำลังจะครอบงำวันหยุดแน่ๆ

"อยากไปไหนล่ะ นี่ก็ได้หยุดเหมือนกันหลังจากโดนใช้แรงงานเยี่ยงทาส..." นรสิงห์บอกไปก็ทุบไปที่ไหล่ปั๊กๆจนวอนเข้ามาจับมาบีบให้...

"ไปทะเลไหม อยากไปไหมนะ?"

"แต่ที่หยุดนี่เพราะจะสอบไม่ใช่รึไง ไม่อ่านหนังสือ?"

"ก็ไปได้ ไปกัน ไปหาแม่ดีไหม? ไปเซอร์ไพรส์?" เขาคิดไอเดียนี่ออกมาเมื่อกี้นี้เลย

"ไปพรุ่งนี้เลยเหรอ" นรสิงห์ถามเอี้ยวมองหน้าน้อง

"อือ ไปเลย ไม่ได้ไปด้วยกันนานแล้ว" วอนยกยิ้มให้อย่างเอาใจจนพี่ชายตอบตกลง เมื่อได้คำตอบแล้วก็กระโดดออกจากการนวดให้ทันที

"หมดประโยชน์แล้วไม่ทำเลยเหรอ?"

"นั่นอะไม้นวด ใช้เอาสิ" วอนเอื้อมไปหยิบไม้ที่มีลูกคลึงส่งให้ทำเอานะส่งเสียงคำรามกับนิสัยน้องชายออกมาก่อนจะเดินหนีหายไปในห้อง

Warners (3)

Warning : ไปทะเล2-3วันนะ

Nathee : ไปกับใคร วันไหน

Warning : ไปกับนะ พรุ่งนี้

tthe      : อะไรอะ ไม่เห็นจะเคยบอก

Warning : กะทันหัน

tthe       : ไม่ให้ไป

Warning : มาบอกให้รับรู้ ไม่ได้มาขออนุญาต

tthe      : วอน

Nathee : คืนนี้มาเจอกันก่อน ที่ ete

tthe      : เอาปากเก่งๆมาหาเต๋หน่อย

: เดี๋ยวจะเอาฟาดให้ปากแตกเลย

Warning : กลัวจัง

คนที่พิมพ์กวนตอบไปสนุกสนานใหญ่กับหน้าจอ ก่อนจะทักไปชวนเพื่อนๆออกมาเจอกัน

"นะมาพอดีเลย คืนนี้ไป etc กลับดึกๆนะ" วอนเอ่ยกับคนที่หายไปอาบน้ำมา

"ไปด้วย"

"ห้ะ?" ถึงกับต้องถามซ้ำกับสิ่งที่ได้ยิน

"ก็เห็นว่าชอบไปนัก เพื่อนชวนหลายคนล่ะ อยากไปดูบ้างว่ามันอะไร" นรสิงห์ตอบมองอาการของน้องชาย

"อือ งั้นก็ไปสิ กินข้าวเย็นแล้วสักสามทุ่มค่อยไป"

"ไม่ต้องอะ ไปกินข้าวเย็นที่โน่นเลย" คำตอบของพี่ชายคนเดียวทำเอาวอนงงกว่าเดิม

"อ๋อเอาสิ งั้นแต่งตัวไปกันเลย!"

ทำไมใจไม่ดีเลยวะเนี่ย จะมาอยากไปด้วยอะไรวันนี้!!!!

@ ETC

การกินข้าวกับพี่ชายมื้อที่ลุ้นระทึกที่สุดครั้งสุดท้ายคงจะเป็นตอนเด็กที่แม่นั่งถือไม้เตรียมทำโทษที่เราทะเลาะกันแล้วสองคนยังแอบหยิกกันใต้โต๊ะรอดูว่าใครจะร้องก่อนกัน

ทว่าตอนนี้ความรู้สึกคล้ายอย่างงั้นจะกลับมาอีก เพราะวอนกำลังมองหาอีกสองคนไปด้วย ทั้งที่ถ้าเจอก็แค่ทำตัวเฉยๆแต่ยังไม่อยากจะให้นะเจอกับเต๋และนทีเร็วๆนี้เลยแฮะ มานี่ก็กะจะแอบไปหาที่ออฟฟิศให้นะนั่งกินเหล้ากับพวกเพื่อนไปก่อน...

"น่ากินอะ ทำไมสั่งจานนั้นได้ไม่เห็นเจอในเมนู?" นรสิงห์ถามน้องชาย ชี้ไปที่มันบดดูเป็นจานพิเศษที่กินกับเปเปอร์สเต็กอย่างเอร็ดอร่อย

"...มานี่ก็กินแต่จานนี้อะ ตอนเปิดตึกเพื่อนแม่เขาแอบบอกว่ามีเมนูนี้สั่งแยกได้" นั่นก็ใช่ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนคือมันเป็นจานโปรดของนทีที่มากินด้วยกันมันจะขาดไม่ได้เลยต่างหาก นรสิงห์พยักหน้าเข้าใจ...

"สะดวกดีนะที่นี่...มีครบเลย เข้าใจแล้วว่าทำไมชอบมา...วันหลังมาออกกำลังกายที่นี่ด้วยกันไหม"

"ได้ดิ ให้มันว่างเจอน้องบ้างเถอะ ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่ทำงาน" วอนเหน็บพี่ชายที่ขำน้อยๆ

"พี่นทีไม่อยู่เหรอครับ?"เสียงคำถามจากชายหนุ่มโต๊ะข้างๆทำเอาวอนหูผึ่งขึ้นมา ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังหรอกนะ...คนนั้นเขาดันถามผู้จัดการร้านซะดังมากระทบหูเอง

แต่แค่คนชื่อคล้ายละมั้ง...

"ฮัลโหลพี่นัท เค้าอยู่ Rooftop แล้ว" หนุ่มน้อยโต๊ะข้างๆหยิบมือถือขึ้นมากดโทรก่อนพูดคุยกับใครสักคนที่ชื่อสะดุดหูอยู่วอนสักพัก ใจความว่าให้มาเจอกันที่นี่ในเวลานี้

"เป็นอะไร?" นรสิงห์ถามน้องที่ดูวอกแวกเหมือนตั้งใจฟังเรื่องชาวบ้านขึ้นมา

"เปล่า แล้วนี่ไปทำงานอะไร ค้างที่ไหนทำไม ถึงขนาดไม่ได้กลับบ้านหลายวันเลย..." พยายามไม่เอาใจไปผูกกับชื่อนั้นแล้วถามเรื่องส่วนตัวพี่ชายแทน แม้จะอยากเห็นหน้าคนชื่อนทีที่โต๊ะข้างๆว่าขึ้นมา ใจยังคิดแง่บวกสุดๆว่าคงไม่ใช่นทีเดียวกัน...

"ไม่ไกลจากบ้านหรอก แต่มันติดพันก็เลยนอนที่โน่นเลย วางแผนงานทั่วไปเนี่ยแหละ..." วอนหรี่ตามองพี่ชาย ไม่เชื่อคำตอบเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ สองพี่น้องอัพเดทชีวิตกันไปเรื่อยๆ

"พี่นัท/วอน" เสียงเรียกนั้นไม่ได้มาจากวรภพ หากแต่เป็นเสียงจากผู้ชายโต๊ะข้างๆที่เรียกนที ซึ่งแหม่...มันเป็นนทีเดียวกันจริงๆด้วย แต่คนตัวโตกลับเรียกเขาแล้วมองเขาสลับกับหน้านรสิงห์

"รู้จักกันเหรอ พี่นัทนั่งก่อนสิ" หนุ่มหน้าตาหล่อเหลาปนน่ารักนั่นยิ้มทักทายให้วอนบางๆ ก่อนจะชวนเจ้าของตึกให้นั่งลง พี่ชายเขามองหน้าทำนองว่านทีเป็นใครแต่วอนไม่ตอบอะไรไป...

"...ทำไมจู่ๆก็มา" นทีถามผู้ร่วมโต๊ะแต่ตาก็ยังมองมาที่วอนไม่ขาดช่วง

"แค่คิดถึง อยากให้มาเจอกันบ้าง อยากมากินข้าวกัน ตั้งแต่กลับจากออสก็ไม่เจอกันเลย"

เคร้ง

สัส ช้อนหลุดมือเลย ที่แท้ก็แฟนเก่า สองคนนั้นพูดอะไรกันเขาไม่ทันได้สนใจอีกต่อไปเพราะพี่ชายดันแทรกขึ้นมาก่อน

"อิ่มแล้วไหมไปเดินข้างล่างกัน จะได้ไปถามเรื่องทำเมมเบอร์ด้วย..." นะถามน้องชายที่มีอาการยุกยิก

"...อือไปดิ ตรงนี้อากาศไม่ค่อยดีเลย" วอนบอกก่อนที่นรสิงห์จะเรียกเก็บเงินส่วนเขาก็ลุกไปทันที ปล่อยให้นทีที่ยังต้องคุยกับชายหนุ่มคนนั้นร้อนรนอยากจะลุกตามไป

"เดย์...ตอนนี้พี่มีแฟนแล้ว โทษที" นทีดึงมือออกจากมือหนุ่มน้อยที่เกาะกุมแล้วทำท่าจะลุกขึ้น

"แค่จะปฏิเสธกันรึเปล่า ไม่ต้องโกหกกันก็ได้นะ"

"เดย์...ฟังนะ พี่มีแฟนแล้ว ผู้ชายคนเมื่อกี้ที่นั่งโต๊ะข้างๆเนี่ยแฟนพี่ แล้วตอนนี้เดย์จะทำเขาเข้าใจผิด พี่ขอตัวนะ..." ว่าแล้วนทีก็เดินไปบอกผู้จัดการร้านว่าให้จัดการบิลของเดย์ทันที แล้วตัวเองก็วิ่งลงลิฟต์ตามวอนและพี่ชายไป

FGW (3)

Foei     : วอนอยู่ไหน พวกกูรอโต๊ะพี่ไทนะ

Golf      : รีบมาไหม ทางนี้มีคนร้อนรน

Warning : นะทำเมมเบอร์อยู่ เดี๋ยวไป

: ใครร้อนรน?

Golf      : ทำใครไม่สบายใจไว้หรือเปล่าล่ะ

: มานั่งรอมึงอยู่เนี่ย บอกว่ามึงไม่รับสาย

Warning : กูเจอเขากับคนเก่าบนRooftop

Foei      : เวร

Golf      : ทำไงอะ เขานอกใจเหรอวะ ระยำ

Foei     : มึงพิมพ์ทำไม ด่าเขาสิ เขาอยู่ข้างๆอะ

Warning : เขายังไม่ทำหรอก

: แต่กูขอไรอย่างดิ

Foei      : ว่า

Golf      : ขอหลายอย่างก็ได้

Warning : ....

นทีที่มานั่งรอวอนอยู่ที่โต๊ะของเพื่อนน้องมันนานแล้วแต่เจ้าตัวยังไม่มาเริ่มร้อนรนอยากอธิบาย

ยิ่งเห็นอาการเด็กพวกนี้มันยุกยิกกับมือถือแล้วมองที่เขายิ่งรู้ว่ามันต้องรู้อะไรกันแน่ แต่ก็ไม่รู้จะออกปากถามมันยังไงด้วยไม่แน่ใจว่าวอนบอกเพื่อนไปมากน้อยแค่ไหนแล้วถึงเรื่องของเรา...

"...โต๋มึงมาพอดี ตามซิเพื่อนมึงอยู่ไหน" นทีที่เห็นว่าน้องชายตัวเองเดินมาพอดี แถมมันยังรู้เรื่องเขากับวอนและเต๋แล้ว ได้ทีเลยหาพวกช่วย...

"เฮ้ยอะไรอะเฮีย มาถึงก็เล่นบทโมโหร้าย ทะเลาะกับเมียเหรอ?" โต๋ถามทำเอากอล์ฟสำลักขำ

"เออมึงเข้าใจถูกแล้ว เพราะฉะนั้นมึงโทรหาเมียกูให้ทีอย่าให้กูรอนาน" ใจไม่ดีแล้วเนี่ย ไม่รู้ป่านนี้น้องมันจะคิดไปถึงไหน...

โต๋มันมองหน้าเพื่อนอีกสองคนของวอน ที่ตอนนี้นทีมองว่าเด็กพวกนี้กำลังมีอาการกวนตีนเขาชอบกล แต่ก็ยังพยายามไม่คิดไปเอง...

"...มันไม่รับ เฮียนัดมันไว้เหรอ เดี๋ยวมันก็มา" โต๋ว่าก่อนจะวางมือถือลงเพราะวอนไม่มีทีท่าจะรับสาย

"พี่ใจเย็นๆ มันบอกว่าอยู่ชั้นบนกับพี่มัน เดี๋ยวมา..." เด็กคนที่ชื่อเฟยบอกกับเขา ทำเอานทีฉุน

"แล้วมึงไม่บอกกูพรุ่งนี้เลยล่ะ" นทีถามกลับด้วยความพาล

"ไอ้นัท มึงมาฟาดงวงฟาดงาอะไรตรงนี้ อ้าวว่าไงทุกคนพี่เต๋นะ...พี่ไอ้โต๋มัน" เต๋ที่เดินมากับไทแนะนำตัวกับเพื่อนวอนก่อนจะนั่งลงไปข้างกัน

"เฮ้ยว่าไงบิ๊ก" กอล์ฟโบกมือเรียกเพื่อนใหม่ที่วันนี้มาเที่ยวเหมือนกันและเดินผ่านโต๊ะมาพอดี แถมยังมาพร้อมกับดอสและเหม อีกฝ่ายยกมือทักทายกลับก่อนจะนั่งโต๊ะไม่ไกลกันแต่ไม่ใช่โซนวีไอพีตรงนี้

"สนุกแน่คืนนี้" เฟยยกแก้วกระดกจนหมดแล้วเผยรอยยิ้ม

"ความบันเทิงมีมาเสิร์ฟถึงที่ ได้เวลาสนุกแล้วสิ" กอล์ฟว่าส่วนโต๋นั้นกุมขมับรู้ถึงหายนะ....

"มีอะไรกันอะ พี่รู้ด้วยดิ" ไทถามน้องๆที่ไม่มีใครตอบสักคนเอาแต่ยกยิ้มแหยๆให้ นทีก็กำลังกระซิบเล่าเรื่องให้เต๋ฟังทำเอาหน้าเครียดไปทั้งคู่...

27.10.2020

ตอนที่แล้วThree of us 12 : หมกหมุ่น (NC)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThree of us 14 : ลาก (NC)
แบ่งปัน
สวัสดีค่า สำหรับใครที่เข้ามาอ่านงานเรา ไม่ต้องคอมเม้นท์เราก็ได้ เข้ามาติดตามกันก็ชื่นใจแล้ว จะพยายามอัพเดทผลงานเรื่อยๆเลยนะ ติชมอยากให้เปลี่ยนแปลงตรงไหนบอกได้เลยพร้อมพัฒนาแก้ไขให้ทุกคน เราตั้งใจเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็น ศศิศิลป์ ศศิ ที่แปลว่าดวงจันทร์ และศิลป์ ที่หมายถึงศิลปะ เพราะส่วนตัวเราชอบคิดเรื่องที่จะแต่งในตอนกลางคืน เกือบทุกเรื่องจะเขียนจบในเวลาที่ฟ้ามืดแล้ว ศิลปะทางภาษาของเรามักจะทำงานในตอนกลางคืนว่างั้นก็ได้ ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะ ศศิศิลป์
0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด