ตอนที่แล้วLSG-บทที่265: เส้นทางผ่านภูเขา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปLSG-267บทที่:เขตเหวินเซียน

LSG-บทที่:266 สู้สัตว์อสูร


Limitless Sword God เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง

ภาค: จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ

แปลไทยโดย: SwordGod

LSG-บทที่:266 สู้สัตว์อสูร

“ตอนนี้เราจะทำยังไงกันต่อ?พี่หวังพวกเราจะไปไหน”หลัวเสี่ยวเหมา หันไปถาม

“หากพวกเราอ้อมภูเขาเหิงซือ ข้าเกรงว่าพวกเราอาจจะไปไม่ทันเวลาในการลงแข่งขันรอบคัดเลือกและสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดจะสูญเปล่า เราไม่อาจเดินอ้อมภูเขาเหิงซือได้”

“หากว่าเราไมเดินอ้อมเขาเหิงซือ พวกเราจะเดินลัดทุ่งหญ้าไปหรือ?พวกเราจัดการกับอากาศพิษได้ แต่ปัญหาคือพวกสัตว์อสูร พวกมันเดินเพ่นพ่านต็มไปหมดและพวกมันมักซุ่มโจมตีมันอันตราย!”ผู้คุ้มกันกล่าวด้วยความกังวล

หวังจงซาน ก้มหน้าลงไม่ตอบ

หากพวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บพวกเขาอาจผ่านทุ่งหญ้าโดยไม่มีปัญหาแต่ตอนนี้เขาเองก็ได้รับบาดเจ็และคำพูดของเขานี่ไม่ใช่แค่พูดหรือ?

“ผ่านทุ่งหญ้า!” ทันใดนั้น ซูหยุน ก็พูดขึ้นมา

“พี่อู๋หยุน”หงหยานจับจ้องมองเขาด้วยเหตุผลบางอย่างนางมักรู้สึกว่าการมีเขาอยู่ไกล้ๆสมาชิกทุกคนจะปลอดภัยขึ้น

“พี่อู๋หยุน พวกเราจะผ่านทุ่งหญ้าจริงหรอ?”หวังจงซาน มีความหลงใหลในดวงตาของเขา

ซูหยุนพยักหน้า“ไปที่ทุ่งหญ้ากัน!ข้ารู้วิธีตัดผ่านทุ่งหญ้าได้อย่างเร็ว และวิธีหลบหลีกสัตว์อสูร หากว่าพวกเจ้าเชื่อข้า ในสองวันพวกเราจะผ่านทุ่งหญ้าไปได้”

“สองวัน”

ทุ่งคนประหลาดใจ

“แม้จะตัดผ่านไปตรงๆ อย่างน้อยต้องใช้เวลาอย่างน้อยกว่าห้าวัน ท่านพูดเกินไปหรือเปล่าพี่หยุน” สมาชิกคนหนึ่งกล่าวด้วยความไม่เชื่อ

“เฮ้..เซิ่นหัว เจ้าหมายความว่าไง?พี่อู๋หยุน ไม่ได้เป็นแค่ผู้ฝึกฝนรุ่นเยาว์ หากเขาบอกว่าผ่านได้ในสองวันก็คือสองวันแน่”หวังจงซานพูดอย่างจริงใจ“ทุกคนจงฟัง นับแต่วันนี้ไปจงฟังคำสั่งของพี่อู๋หยุนใครก็ตามที่ไม่เชื่อฟังนั่นหมายความว่า คนนั้นไม่เชื่อฟังข้าด้วย ข้าจะไม่สนใจคบหากับคนผูนั้นด้วย ข้าจะไม่ให้สิทธิ์ในการเข้าร่วมด้วย ดังนั้นของให้พวกเจ้าทุกคนจงคิดให้ดีๆ”(คนที่มีฝีมือสูงกว่าเขาจะนับเป็นพี่ ไม่เกี่ยวกับอายุ ตอนแรกๆอาจจะเรียกน้องเป็นการให้เกียรติแบบพี่น้อง)

“พวกเราจะฟังพี่อู๋หยุน”ทุกคนตอบรับ

กลุ่มเล็กๆพวกเขาก็ได้รับการจัดระเบียบไหม แล้วเดอนทางต่อ

ซูหยุน นำกลุ่มของพวกเขาก้าวข้ามทุ่งหญ้าสูงกว่า1เมตร

เขามองไปรอบๆแล้วพบบางอย่างแล้วมองขึ้นไปบนฟ้าเหนือขึ้นไปเป็นเวลานาน

คนด้านหลังเฝ้ามองดูด้วยความสงสัย ไม่กล้ารบกวนเขา

ความหนาแน่นของไอปราณเริ่มปกคลุมหนาแน่นขึ้นรอบๆตัวอย่างช้าๆ มันส่งกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้งสามารถลิ้มรสได้ทำให้พวกเขาเริ่มขมวดคิ้ว

“นี่คือภาพลวงตาหรือเปล่า”

“มันเป็นแค่ภาพลวงตาไม่พอจะทำอะไรเราได้”

ซูหยุน เงยหน้าขึ้นชี้สั่งให้ทุกคนหยุด

ทั้งกลุ่มหยุดเคลื่อนไหว

“หากพวกเราเดินเขาไปในอากาศพิษโดยไม่มียาที่แก้พิษนี้โดยเฉพาะ พวกเราจะอยู่ได้ไม่นาน ทุกคนรอข้าอยู่ที่นี่ข้าจะขึ้นไปหาเส้นทางก่อน”ซูหยุน กล่าว

“เส้นทาง?”

“ท่านจะทำอย่างนั้นได้ยังไง”ทุกคนถามด้วยความประหลาดใจ

จากนั้นทุกคนเห็นซูหยุนสะบัดมือแสงกระบี่เย็นยะเยือกบินออกจากฝักข้างเอว รังสีเย็นๆมั่นคง มีคนเห็นว่ามันคือกระบี่หิมะขาว

จากนั้นซูหยุนกระโดดขึ้นไปเหยียบบินหายไปบนฟ้า

“ทรงพลังขนาดนั้น วิชากระบี่ของจักพรรดิงั้นหรือ?”

หงหยาน ที่อยู่บนพื้นและ หลัวเสี่ยวเหมา และคนอื่นๆจ้องมองอย่างอิจฉา

หวังจงซาน มิอาจต้านทานได้ แต่ต้องยกย่อง

“ศิษย์สำนักกระบี่อมตะ?ทำไมข้ารู้สึกว่าเขาเป็นศิษย์ชั้นยอด”

ทันใดนั้น เซิ่นหัว ที่อยู่ด้านล่างกล่าวว่า

“ศิษย์ชั้นยอดหรือ?ทำไมเจ้าคิดอย่างนั้น?”

“โฮ้..พี่หวัง ข้าเคยติดต่อกับศิษย์ของสำนักกระบี่อมตะมาก่อน แม้ว่าพวกเขาจะเป็นศิษย์สำนักเดียวกันแต่พวกเขาแทบจะไม่รู้เกี่ยวกับวิชากระบี่จักพรรดิเลยแล้วคนที่รู้จักวิชากระบี่ระดับจักพรรดิอย่างพี่ชายอู๋หยุนนั้น น้อยยิ่งกว่าน้อยเสียอีก ดังนั้นข้าคิดว่าพี่อู๋หยุนนั้นย่อมไม่ใช่ศิษย์ธรรมดาๆแน่นอน”

“ถูกแล้ว พวกเจ้ารู้ไหมว่า กระบี่ของเขามันแปลกๆ”สมาชิกคนอื่นๆพูดขึ้น

“แปลก?”หวังจงซานตกใจ“มันแปลกยังไง”เขาก็ใช้กระบี่ของเขาไม่ใช่หรือ?”

“เขาใช้กระบี่ของเขาเองมันก็ถูก แต่พวกเจ้าสังเกตอะไรไหม?เขามีฝักกระบี่อยู่ข้างเอว แล้วเขาก็มี่กระบี่อีกสองเล่มอยู่ด้านหลัง แล้วตอนที่เขาสู้กับพวก เป่ยซวนหมิงกับพวก พี่อู๋หยุน ใช้แต่กระบี่ข้างเอวเท่านั้นเขาไม่ได้ใช้กระบี่ที่หลังของเขาเลย!ทำไมเขาถึงไม่ใช้พวกมัน?แล้วทำไมเขามีกระบี่มากมาย เป็นไปได้ไหมว่าเขาควบคุมพวกมันได้หมด?”

“มันจะเป็นไปได้ยังไง?หากว่าเขาไม่เชี่ยวชาญกระบี่สักเล่มเขาจะพกกระบี่มากมายไปทำไม?จะมียอดฝีมืออย่างนี้ได้หรือไม่”หลัวเสี่ยวเหมา ส่ายหัวแล้วหัวเราะ“หากจะควบคุมกระบี่มากมายอย่างนี้ได้ ทั่วทวีปนี้ก็มีแต่ เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง ที่มีชื่อเท่านั้นที่ทำได้ และเขาหายตัวไปได้สองสามปีแล้ว ไม่รู้เขาหายไปไหน”

“ข้ากำลังคิดอย่างโง่เขลา”

ขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงหวีดหวิดดังมาจากท้องฟ้าพวกเขาเห็นซูหยุนทยานลงมาแล้วทยานลงตรงหน้าพวกเขา

“พี่อู๋หยุนกลับมาแล้ว!”หงหยาน อุทาน

ซูหยุน เก็บกระบี่แล้วขึ้นสัตว์อสูรเขาม่วงของตัวเอง

“ข้าสำรวจพื้นที่รอบๆแล้ว ไม่มีสัตว์อสูรที่นี่ ตามข้ามา”

เขาไม่หยุดอยู่นานเมื่อพูดเสร็จเขาก็เริ่มวิ่งไปด้านหน้าพร้อมกับสัตว์อสูรเขาม่วงของตัวเอง

“ตามเขาไปเร็ว!”

หวังจงซาน ตะโกนพร้อมกับกระตุ้นสัตว์อสูรเขาม่วงตามไปทันที

ซูหยุนวิ่งไปทางซ้าย ประมาณค่าเครื่องหอมจากนั้นก็กลั้นลมหายใจแล้วใช้ปราณวิญญาณหุ้มร่างเอาไว้แยกตัวเองออกจากภาพลวงตาจากนั้นก็มุ่งหน้าไป

ก่อนที่พวกเขาจะวิ่งไปไกลหลังจากเข้าสู่ บรรยากาศพิษ พวกเขาก็ออกจากพื้นที่แล้ว ในไม่กี่อึดใจทุกคนก็เข้าใจว่า ซูหยุน กำลังมองหาพื้นที่ภาพมายาที่เบาบางที่สุดเพื่อให้ทุกคนออกมาจากพื้นที่ไปได้

หลังจากผ่านทุ่งพิษมีช่องว่างเล็กๆชัดเจนแต่รอบๆเต็มไปด้วยทุ่งพิษนอกจากนั้นยังมีสัตว์อสูรอยู่ด้านหน้า

น้ำในแม่น้ำใสมาก แต่มีปราณจิตวิญญาณเคลื่อนไหวอยู่ในนั้น ในแม่น้ำมีสัตว์อสูรอยู่ อย่างไม่ต้องสงสัย

ซูหยุน ขี่สัตว์อสูรเขาม่วงไปที่ริมฝั่งแม่น้ำ จากนั้นเขาสูดลมหายใจลึกแล้วพูดว่า“จากตรงนี้ ให้ทุกคนปล่อยสัตว์อสูรของตัวเองไปซ่ะ”

“ท่านต้องการให้พวกเราเดินข้ามแม่น้ำหรือ”

หวังจงซาน เข้าใจทันทีว่า ซูหยุน หมายถึงอะไร

“ถูกต้อง”ซูฆยุน พยักหน้า”แม่น้ำสายนี้ พาไปสู่ทุ่งหญ้าสายนอก เมื่อเราโดดลงในแม่น้ำสายนี้โดยใช้ปราณจิตวิญญาณของเรา ใช้การไหลของสายน้ำ ผลักพวกเราไปด้วยความเร็ว ความเร็วของสายน้ำทำให้พวกเราไปได้เร็วกว่าขี่สัตว์อสูรเขาม่วงอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังสามารถล้างแยกจากทุ่งพิษ ภายในแม่น้ำเราจะไม่ได้รับผลกระทบและจะไม่มีปัญหาใดๆจากนั้น พวกเราจะสามารถออกจากทุ่งนี้ได้ภายในสองวัน

“แต่ว่า พวกเราจะดึงดูดสัตว์อสูรหรือเปล่า?ถ้าเราอยู่ในน้ำพวกเราจะเคลื่อนไหวไม่สะดวก เมื่อเจอพวกมันมาพวกเราจะป้องกันได้ยาก”

“ถ้าเราพบสัตว์อสูรอยากมากพวกเราก็วิ่ง ในน้ำพวกเราไม่สามารถสู้กับพวกมันได้มีทางเดียวคือพวกเราหนี สัตว์อสูรบกไม่ได้น่ากลัวแต่ที่น่ากลัวคือสัตว์อสูรน้ำเราต้องระวัง”

“ในน้ำจะมีสัตว์อสูร?หึ มันจะมีได้ยังไง?”

“ใครบอกเจ้าว่าในน้ำไม่มีสัตว์อสูร”

ซูหยุน เหลือบมองไปที่ฝนตกหนัก“เอาล่ะ ทุกคนลงน้ำกันเถอะ”

“...”

สุดท้ายก็ไม่มีใครปฏิเสธเพราะมันเป็นทางเดียวและซูหยุนยังเป็นผู้นำกระโดดลงไปทีละคนในแม่น้ำไหลทะลักและความเร็วก็เพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาใช้ปราณจิตวิญญาณพุ่งไปข้างหน้า

ซูมมมมมมม

ทันใดนั้น ซูหยุน ที่อยู่ด้านหน้า ดึงกระบี่สลักมังกรวารีออกมาจากฝังตัวกระบี่สีขาวสว่างสุกใสดึงดูดสายตามาก กระบี่แวววาวสดใสพุ่งไปตามกระแสน้ำทำให้คนที่อยู่ด้านหลังต่างมองด้วยความอัศจรรย์และใจสั่น(ขอเปลี่ยนจากดาบเป็นกระบี่)

แต่แล้วพวกเขาก็เห็นซูหยุนกระชับกระบี่แน่นดวงตาของเขาลุกโชนในขณะที่เขาจ้องไปข้างหน้าอย่างตั้งใจในกี่อึดใจเขาก็เหวี่ยงกระบี่ในมือออกไปทันที

ตูมมมมม

ปราณกระบี่ที่อัดแน่นขนาดใหญ่ระเบิดต่อหน้าทันที เหมือนเขากำลังหั่นน้ำ ไม่นานจู่ๆแม่น้ำทั้งสายก็แยกออกจากกันเป็นสองสาย

ทรงพลังมาก!

หลัวเสี่ยวเหมา หงหยาน และคนที่เหลือทั้งหมดรู้สึกว่านหัวใจของพวกเขาจุกแน่นจ้องมองด้วยตาเบิกกว้าง

ปราณกระบี่พุ่งไปโจมตีถูกสัตว์อสูรตัวขนาดมหึมามีหนามรอบตัว หนามของมันถูกตัดขาดออกมาพร้อมกับลำตัวมีเลือดสาดกระเซ็น

“สัตว์อสูรหนามเจาะ เป็นสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ในทะเลหรือในน้ำมันสามารถเติบโตในน้ำอาศัยอยู่ในตมมันจะซ่อนตัวอยู่ในโคลนรอเหยื่อมาไกล้แล้วมันจะใช้หนามของมันแทงเหยื่อทันที ทำให้เหยื่อเป็นอัมพาตแล้วดูดซับ ข้าไม่คิดว่ามันจะอยู่ที่นี่”ซูหยุนแผ่ปราณไปรอบแล้วกล่าว“ทุกคนระวังตัวให้ดี หนามของมันมีพิษ ให้ข้ามมันไปทันที เลือดของมันจะดึงดูดสัตว์อสูรตัวอื่นๆ”

เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนต่างเร่งความเร็วทันที

เมื่อทุกคนต้องทนกลิ่นคาวสัตว์อสูรทุกคนต่างเร่งความเร็วข้ามไปทันที

แต่ยังไม่จบเพียงแค่นั้นซูหยุนนำผู้คนไปข้างหน้า

ตูมมมม

กราระเบิดอันรุนแรงเกิดขึ้นไม่ไกลจากพวกเขา หลังจากนั้นพื้นดินสั่นสะเทือน น้ำในแม่น้ำเริ่มปั่นป่วนน้ำในแม่น้ำซัดกระหน่ำที่ยังเคลื่อนตัวอยู่ก็ตกอยู่ในในความยุ่งเหยิงจากคลื่นที่สั่นไหวทันที

“เกิดอะไรขึ้น?”

เซิ่นหัว เกาะอยู่บนก้อนหินไกล้ๆตะโกนเสียงดังเขาไม่ได้ใช้ปราณวิญญาณของตัวเองทำให้กลืนน้ำไปอึกไหญ่

“ทุกคนอย่าตกใจ!คลื่นสั่นสะเทือนน่าจะมาจากที่ไกลไม่ส่งผลถึงเรา”

ซูหยุน ทรงตัวแล้วตะโกน

เขาโผล่หัวขึ้นมาแล้วตรวจสอบรอบๆก่อนจะมองออกไปไกล ก้อนหินก้อนใหญ่กำลังลอยมาทางเขา

หัวใจเขาเขาตึงเครียดแล้วฟันกระบี่ออกไปทำลายก้อนหินเป็นชิ้นๆ

หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแหลมต่ำและเสียงดัง

“ข้าคือ จ้าวแห่งทุ่งหญ้ากลืนจันทรา!ข้าคือจ้าวแห่งทุ่งหญ้ากลืนจันทรา!แกตาย!”

“แกนั่นแหละที่ต้องตาย มดแมลง!”

เสียงร้องดังก้องเข้ามาเรื่อยๆ หลังจากนั้นซูหยุน สัมผัสได้ถึงพลังที่รุนแรงระเบิดออกมาพร้อมตะโกนมาทางพวกเขา

ซูหยุน ตกใจมองจดจ้องไปด้านหน้ามองเห็นสิ่งมีชีวิตขนาดไหญ่เท่าภูเขาสองลูกต่อสู้กัน

“สัตว์อสูรกำลังสู้กัน”

หยุนเข้าใจในเวลานั้น

แต่ทว่า สัตว์อสูรพูดได้..... พวกมันจะมีพลังบ่มเพาะระดับไหนกัน?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด